Porpiang Writer 2 : Age of Megaversal บทที่ 4 การปรากฏตัวที่โลกความเป็นจริง

Porpiang Writer 2 : Age of Megaversal

-A A +A

Porpiang Writer 2 : Age of Megaversal บทที่ 4 การปรากฏตัวที่โลกความเป็นจริง

หมวดหนังสือ: 

ที่สภาเมกะเวิร์สแห่งมัลติเวอร์เซียส กลุ่มเมกะเวิร์สแห่งมัลติเวอร์เซียส

 

            ฟิกชันเนียส (Fictionious The Megaverse Titan) เมกะเวิร์สไททันกำลังยืนมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจักรวาลเรล์มออฟเทลส์ (Realm of Tales Universe) ซึ่งเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ

            “ท่านพี่ฟิกชันเนียส” ดาร์กเนสซัส (Darknessous The Megaverse Titan) เมกะเวิร์สไททันน้องชายของฟิกชันเนียสพูดเมื่อพบกับพี่ชายแล้ว “วิเธอร์เริ่มเถลิงอำนาจมากขึ้นแล้ว”

            ฟิกชันเนียสกุมขมับ สีหน้ากังวลว่าควรจะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ยังไง

            “ข้าอุตส่าห์เตือนออริเจียสไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง แต่เขาไม่เคยเชื่อข้าสักที” (Origious The Universe Titan) ฟิกชันเนียสตอบ “ข้าก็จนปัญญาที่จะเตือนเขาซ้ำ ๆ ไปแล้ว เพราะว่าการสร้างจักรวาลเพื่อคุมขังน้องชายที่ไม่ถูกกับเขา แล้วสร้างร่างกายจำลองเพื่อปิดผนึกเขา มันเป็นอะไรที่คิดผิดมหันต์ตั้งแต่ต้น”

            “แล้วท่านเตือนเขาไปว่าเช่นไรล่ะ” ดาร์กเนสซัสถาม

            “งั้นเจ้าดูด้วยตาของเจ้าเองก็แล้วกัน” ฟิกชันเนียสตอบ “สิ่งที่เจ้าจะได้เห็นต่อจากนี้คือความทรงจำที่ข้าเตือนออริเจียสเป็นครั้งแรก”

            ว่าแล้ว เมกะเวิร์สไททันคนพี่ก็ได้ฉายความทรงจำของตนเองให้เมกะเวิร์สไททันคนน้องได้รับรู้

 

            ที่สภาเวทมนตร์ ดาลาราน (Dalaran) แห่งดาวอาเซรอธ (Azeroth Planet) หนึ่งในดาวที่เหลือรอดของจักรวาลวอร์คราฟต์ (Warcraft Universe) ฟิกชันเนียสได้ปรากฏตัวในร่างเมกะเวิร์สไททันที่ใหญ่จนทำให้ออริเจียสดูเล็กเท่ามดตะนอยไปเลย (ซึ่งนั่นทำให้เราพอจะเดาได้ว่าไททันพหุจักรวาลจะมีขนาดจริงเท่าไร จะอยู่ระหว่างเมกะเวิร์สไททันที่ใหญ่กว่า และไททันจักรวาลที่เล็กกว่าตน พูดสั้น ๆ ก็คือมีขนาดปานกลางนั่นแหละ)

            “ออริเจียส” ฟิกชันเนียสในความทรงจำเรียกออริเจียสให้ออกมา

            “ท่านคือใคร?” ออริเจียสถามหลังจากออกมาที่ระเบียงปราสาท มาพร้อมกับเหล่าจอมเวทย์ชั้นสูงแห่งดาลาราน

            “ข้าชื่อว่าฟิกชันเนียส” ฟิกชันเนียสในความทรงจำแนะนำตัว “ผู้สร้างฟิกชั่นเมกะเวิร์สและดูแลเมกะเวิร์สอื่น ๆ อีกด้วย”

            “แล้วเหตุใดท่านจึงมาที่นี่ล่ะ” ออริเจียสถาม

            “ข้ามาที่นี่เพื่อที่จะเตือนเจ้า” เมกะเวิร์สไททันตอบ “ข้าได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาจากการสังเกตการณ์โดยตรงของข้าว่าจักรวาลนี้เกิดปัญหาใหญ่ เพราะการคุมขังอินดิเชียส (Indicious The Universe Titan) น้องชายของเจ้านั้น ใคร ๆ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่ามันเป็นวิธีการที่ผิดมหันต์อย่างสูงตั้งแต่ต้น เพราะการสร้างร่างกายจำลองมาเพื่อปิดตายน้องชายให้ได้นั้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดและความล้มเหลวก็ได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง และมันก็เคยเป็นจริงมาแล้ว อย่างที่เจ้ารู้ดีในเรล์มหมายเลขศูนย์ จักรวาลของเจ้าเอง ที่ออริจินส์โคลนซีโร่ (Origins Clone Zero) ไม่สามารถปิดตายอินดิเชียสได้สำเร็จ ปล่อยให้เขาหนีไปได้ และแฝงตัวอยู่ในจักรวาลของเจ้า เพื่อทำการโจมตีจักรวาลของเจ้าจากภายใน ในขณะที่ออริจินส์ซีโร่ก็เสียชีวิตไปแล้วจากการลบโลกของตนเองเพื่อทำลายอินดิเชียส แต่ก็ไม่สำเร็จอยู่ดี ฉะนั้น เจ้าจงทำอะไรสักอย่างเพื่อจัดการน้องชายของเจ้าให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะสายเกินไปตั้งแต่ตอนนี้ซะ”

            “ท่านอย่าได้ห่วงเลย ตราบในที่ข้าได้เฝ้าดูการกระทำของเหล่าโคลนหมายเลขต่าง ๆ ข้าจะไม่ให้น้องชายของข้านั้นหลุดออกมาได้เด็ดขาด” ออริเจียสตอบ

            “ถ้าเจ้าคิดอย่างนั้น เชิญตามสบาย ข้าไม่ขัดข้ออยู่แล้ว แต่ถ้าวันใดที่เจ้าสำนึกขึ้นมาได้ล่ะก็ หยุดความคิดอันโง่เขลาอย่างนั้นของเจ้าแล้วมาปฏิบัติตามที่ข้าพูดไว้เสียเถิดนะ” ฟิกชันเนียสในความทรงจำพูด “ข้าจะเตือนเจ้าซ้ำอีกหกครั้ง และถ้าเจ้ายังไม่เชื่อฟังข้าละก็ ข้าจะไม่เตือนเจ้าซ้ำอีกเป็นครั้งที่แปด”

            จากนั้นภาพความทรงจำก็ได้หายไปในตอนที่ฟิกชันเนียสในความทรงจำออกจากสภาเวทมนตร์

            “แล้วครั้งที่เจ็ดท่านเตือนว่ายังไงบ้าง?” เมกะเวิร์สไททันคนน้องถาม พี่ชายของเขาจึงฉายความทรงจำที่ดาลารานอีกครั้ง

            “ออริเจียส” ฟิกชันเนียสในความทรงจำเรียกออริเจียสให้ออกมา และเมื่อไททันจักรวาลออกมาพบ ก็บอกต่อไปว่า “นี่จะเป็นการเตือนเจ้าครั้งสุดท้ายของข้า” ฟิกชันเนียสพูด “และนับจากนี้ข้าจะไม่เตือนเจ้าซำอีกแล้ว เจ้าจงเชื่อคำเตือนของข้าให้ได้ซะ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเจอกับหายนะครั้งใหญ่!”

            “ท่านไม่ต้องเตือนข้าซ้ำหรอกน่า ข้ารู้แล้ว และข้าจะไม่ให้น้องชายของข้าหลุดออกมาได้แน่นอน” ออริเจียสตอบ แล้วก็ตัดจบความทรงจำนั้นลงทันที

            “แล้วการเตือนของท่านกลายมาเป็นเช่นนี้เชียวหรือ?” ดาร์กเนสซัสถาม

            “การเตือนของข้าไม่อาจช่วยอะไรเลยสักอย่าง” ฟิกชันเนียสตอบ “เพราะหลังจากนั้นอินดิเชียสก็ได้ไปหลอกใช้ออริจินส์โคลน 013 (Origins Clone 013) ด้วยการให้เอ็นเดอร์ดรากอน (Ender Dragon) จากโลกของเขายื่นข้อเสนอว่าจะให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จหากเซ็นสัญญาเลือดกับมัน และเมื่อเซ็นสำเร็จ เอ็นเดอร์ดรากอนก็ได้เอาวิญญาณของออริจินส์ 013 ไป แต่ก่อนตายเขาใช้อุบายในการแยกวิญญาณออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งไปเป็นเบี้ยของเอ็นเดอร์ดรากอนที่ชื่อว่า สตีฟโอ (Steve O The Herobrine) อีกส่วนกลับมาอยู่ร่างเดิม เขาได้พลังวิเศษที่แลกมากับดวงตาข้างขวาของเขา พร้อมกับได้ดวงตาปีศาจเอ็นเดอร์มาแทน ทำให้เขาต้องสวมผ้าปิดตาเพื่อไม่ให้ใครรู้ความจริงเกี่ยวกับดวงตาของเขาก่อนเวลาที่เหมาะสม

            “ส่วนที่เป็นสตีฟโอก็จะถูกอินดิเชียสชักใยบงการอยู่เบื้อหลังตลอดไป แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไปเมื่อฮีโร่บรายน์สตีฟโอได้สร้างตัวทดลองหมายเลขที่ 303 (Experimental #303) หรือ อีวิลโคลน 303 (Evil Clone 303) เพื่อจัดการกับเจ้านายของตัวเอง แต่ก่อนจะทำได้นั้น ฮีโร่บรายน์สตีฟโอต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับอีวิล 303 ด้วยการส่งไปโลกทดลองเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง นั่นทำให้ออริจินส์ 013 ต้องเข้ามาช่วยให้อีวิล 303 พ้นจากการควบคุมของฮีโร่บรายน์สตีฟโอ แล้วรวบรวมเหล่าออริจินส์โคลนและนิวทรัลโคลนทั้งหลายมาพร้อมกับออริจินส์โคลนวัน (Origins Clone One) เพื่อจัดการกับฮีโร่บรายน์สตีฟโอและเหล่าอีวิลโคลนที่เขาสร้างขึ้นมา ในที่สุด สตีฟโอและเหล่าอีวิลโคลนก็ตาย รวมไปถึงเอ็นเดอร์ดรากอนจากโลกหมายเลข 013 ด้วย แต่ก็ต้องเสียสละเหล่านิวทรัลโคลนไปมากจนเหลือแต่นิวทรัลโคลน 303 (Neutral Clone 303) และอีวิลโคลน 303 เพียงอย่างละคนเดียว ส่วนออริจินส์โคลนทั้งหมดยังรอดชีวิตอยู่ แต่ความวุ่นวายยังไม่จบแค่นั้น เพราะฝ่ายวิเธอร์ (Wither) เอ็นติตี้_เอ็กซี (Entity_EXE) และนัลล์ (Null) จากเรล์มหมายเลข 303 ก็พยายามจะที่จะยึดครองจักรวาลเรล์มออฟเทลส์ให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยว่าอินเฟอร์นอสกำลังแทรกแซงสถานการณ์ทั้งหมดโดยไม่ให้ใครรู้ถึงการมีอยู่ของเขาเลยแม้แต่น้อย”

            “แล้วจะเอายังไงต่อดีล่ะ?” ดาร์กเนสซัสถาม “พวกเราทำอะไรจักรวาลเรล์มออฟเทลส์ไม่ได้เลยเหรอ?”

            “ไม่ได้เลย” ฟิกชันเนียสตอบ “เราได้แต่เฝ้าดูจนกว่าจะเกิดวิกฤติหนักขึ้นจริง ๆ”

            “แล้วอินเฟอร์นอสล่ะท่านพี่!” (Infernos The Annihilator) ดาร์กเนสซัสถาม “เราจะปล่อยให้ไอ้ตัวสามานย์นั่นได้เปรียบตลอดไปอย่างนั้นเหรอ ไหนจะไอ้นีโอฮิวแมน หรือเอลดิโน่ โยคารินจากฟิกชั่นวอร์อีก (Neohuman/Eldino Yokarin)”

            “ใครจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปได้ล่ะน้องรัก?” ฟิกชันเนียสถาม “พวกเรามีอาวุธมัลติเวอร์ซัลอยู่แล้ว” (The Multiversal Weapons)

            “แล้วท่านจะแน่ใจได้หรือเปล่าว่ามันจะได้ผล?” เมกะเวิร์สไททันคนน้องถาม

            “ไม่ลองไม่รู้ล่ะ” ฟิกชันเนียสตอบ

 

วันพุธที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2021

บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซ็นเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

 

            วันนี้เป็นวันสำคัญสองอย่าง อย่างแรกคือเป็นอีกหนึ่งวันสงกรานต์วันที่สองจะว่ายเวียนมาทุกปี ส่วนอย่างที่สองคือ เป็นวันปล่อยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของอัลบั้มฟรอมฟิกชั่นทูเรียลลิตี้ อัลบั้มแรกของพอเพียงไรเตอร์มิวสิก และเพียงแค่วันแรกก็สามารถทำยอดขายไปได้เกือบถึงหลักล้านแล้วด้วย

            พอเพียงเดินไปดูโรงรถของเขา ที่ที่มันยังคงเป็นคลังรถบูกัตติอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นบูกัตติ เวย์รอน 16.4 คลาสสิก (Bugatti Veyron 16.4 Classic) บูกัตติ เวย์รอน 16.4 แกรนด์สปอร์ต (Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport) บูกัตติ เวย์รอน 16.4 ซูเปอร์สปอร์ต (Bugatti Veyron 16.4 Super Sport) บูกัตติ เวย์รอน 16.4 แกรนด์สปอร์ต วิเทสส์ (Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse) ทั้งรุ่นธรรมดาที่มีสีเทาเงาเบอร์เจ็ดล้วน ๆ กับรุ่นพิเศษที่แตกต่างกันออกไปตามชื่อรุ่น

            รวมไปถึง บูกัตติ ชิรอน คลาสสิก (Bugatti Chiron Classic) บูกัตติ ชิรอน สปอร์ต (Bugatti Chiron Sport) บูกัตติ ชิรอน เพียร์ สปอร์ต (Bugatti Chiron Pur Sport) และบูกัตติ ชิรอน ซูเปอร์สปอร์ต 300 พลัส (Bugatti Chiron Super Sport 300+) และรถชิรอนรุ่นพิเศษต่าง ๆ เช่น บูกัตติ ชิรอน 110 (ซอง-ดิซ) อ็อง บูกัตติ (Bugatti Chiron 110 (Cent-Dix) Ans Bugatti) บูกัตติ ชิรอน นัวร์ (Bugatti Chiron Noire) บูกัตติ ชิรอน โกลด์ อีลิต ปารีส (Bugatti Chiron Gold Elite Paris) และบูกัตติ ชิรอน พอเพียง มาสเตอร์ ซิกเนเจอร์ (Bugatti Chiron Porpiang Master Signature) รวมถึงรถบูกัตติรุ่นพิเศษต่าง ๆ ที่ยังคงอยู่ในโรงรถเหมือนเดิม เพิ่มเติมก็คือเริ่มมีรถชิรอนสีทองมากขึ้นแล้ว เขาจึงจัดรถชิรอนสีทองให้อยู่ในหมวดชิรอนโกลด์ลักซัวรี่ (Bugatti Chiron Gold Luxury) โดยตัวถังของมันชุบทองคำแท้ 24 กะรัต และภายในถูกตกแต่งด้วยสีทองด้วย ซึ่งชื่อแต่ละรุ่นนั้นก็มาจากบริษัทที่ทำโทรศัพท์มือถือชุบสีทองคำแทบทั้งสิ้น แม้จะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการทำสีรถสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่มันก็ทำให้ราคาของรถคันนี้พุ่งสูงขึ้นสุด ๆ ฉุดไม่อยู่เสียด้วย

            และในเมื่อพอเพียงคิดว่าจะเล่นให้มันหรูแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะเลือกรถบูกัตติ ชิรอน ทรูลี่ เอ็กซ์ไควซิต โกลด์ (Bugatti Chiron Truly Exquisite Gold) ที่รถยนต์คันนี้เป็นสีทองคำแท้ 24 กะรัตและมีโลโก้ทรูลี่เอ็กซ์ไควซิตสลักไว้ที่ใต้ปีกหลัง ฝาเติมน้ำมันและฝาชาร์จแบตเตอรี่ แผงคอนโซลกลาง ธรณีประตู และหมอนพิงศีรษะด้วย นอกจากนี้ยังมีรถอีกสองรุ่นคือ บูกัตติ ชิรอน ทรูลี่ เอ็กซ์ไควซิต ซิลเวอร์ (Bugatti Chiron Truly Exquisite Silver) รถชิรอนสีเงิน และบูกัตติ ชิรอน ทรูลี่ เอ็กซ์ไควซิต โรสโกลด์ (Bugatti Chiron Truly Exquisite Rose Gold) รถชิรอนสีทองกุหลาบ

            พอเพียงขับรถชิรอนทรูลี่เอ็กซ์ไควซิตสีทองคำขับไปทั่วเมือง เขากังวลเหลือเกินว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นอาจจะนำไปสู่มหาสงครามได้ ตอนนี้เขาไม่รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น อาจจะทำให้เขาต้องรับมือกับทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหันก็ได้ และฝนที่ตกลงมาเข้ากับบรรยากาศได้ดีเสียจริง ๆ แต่ในขณะที่เขากำลังขับรถด้วยสีหน้าที่กังวลอยู่นั้นเอง ปรากฏว่าเขาได้พบอะไรบางอย่างอยู่ในซอกตึก พอเพียงจึงจอดแล้วลงจากรถ

            เขากางร่มแล้วเดินเข้าไปในซอกตึก เขาพบกับชายหนุ่มที่เขาได้เคยเจอเมื่อเดือนสิงหาคม 2020 แต่คราวนี้พาเพื่อนมาด้วย...

            มิโดริยะ “เดกุ” อิซึคุ ที่มาในชุดฮีโร่สีเขียวของเขา กำลังประคองร่างของชายอีกคนหนึ่งอยู่

            “อิซึคุ!” พอเพียงร้อง “นั่นใครกันน่ะ?”

            “อ๋อ เขาชื่อว่ายัง ลีพุงน่ะครับ” อิซึคุตอบ (Young LeePung)

            “อะไรนะ?? ยังเหรอ?” พอเพียงอุทาน “แล้วเขาไปทำอะไรมาเธอถึงพามาที่นี่ล่ะ?”

            “เรื่องมันยาวน่ะครับพี่ ผมว่าพี่รีบพาพวกเรากลับบ้านดีกว่านะครับ” อิซึคุตอบ

            “แล้วนั่นใครอีกล่ะเนี่ย?” พอเพียงถามอิซึคุเมื่อได้เห็นชายอีกคนหนึ่งที่ตามอิซึคุมาด้วย เขามีหน้าตาเหมือนกับยังแต่มีดวงตาสีขาวที่ข้างซ้าย

            “ลูซิเฟอร์ ลีพุง (Lucifer LeePung)” ชายคนนั้นแนะนำตัว “ลูกชายคนโตของไก่เจี๊ยบ (Jeab The Chicken) กับแอตลาสเดอะไททันครับ (Atlas The Titan)”

            “โอเค ได้ พี่จะพาพวกเธอกลับบ้านไปนะ” พอเพียงพูด “ว่าแต่จะนั่งยังไงกันล่ะเนี่ย”

 

บ้านเลขที่ 303/18 ซอยไฮเอคโค่ 86 หมู่บ้านเดอะแรบบิท เมืองเซนเตอร์ซิตี้ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

 

            ทันทีที่พอเพียงเข้าไปในโรงรถ ระบบทำความสะอาดรถยนต์ก็เริ่มทำงาน เมื่อระบบตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่าตัวถังไม่ได้ไปเปื้อนโคลนหรือสิ่งปฏิกูลอะไรมา ระบบก็จะได้ทำการพ่นน้ำ และเป่าแห้งรอบคัน ก่อนที่จะให้เข้าไปได้ทันที รถของพอเพียงได้จอดอยู่ในกลุ่มของรถชิรอนสีทองคำ จากนั้นจึงลงจากรถแล้วพาอิซึคุ, ลูซิเฟอร์ และยังขึ้นไปที่ห้องนอนทันที

            “ยัง ทำใจดี ๆ ไว้ อย่าเป็นอะไรนะยัง ฉันจะรีบรักษานายให้เร็วที่สุด” พอเพียงพูดกับยัง และหันไปถามอิซึคุว่า “เขาไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้?”

            “พอดีว่าเจ้าเอ็นติตี้_เอ็กซีมันมาพบกับผม ยัง และลูซิเฟอร์ตอนที่กำลังคุยกับเอลฟ์ที่ชื่อเซบาสเตียนอยู่พอดี (Sebastian The Elf) มันเข้ามาทำร้ายยังกับลูซิเฟอร์ ผมก็เลยรีบหนีออกมาที่นี่แหละครับ” อิซึคุตอบ

            “อะไรคือเอ็นติตี้_เอ็กซี หน้าตามันเป็นยังไงเหรอ?” พอเพียงถาม

            “ก็ตัวสีดำ ๆ สวมเสื้อคลุมสีขาว ตาสีแดงน่ะครับ” อิซึคุตอบ

            “เดี๋ยวนะ ถ้าลักษณะของมันเป็นแบบนี้ พี่นึกถึงแต่เอ็นติตี้ 303 (Entity_303) อย่างเดียว อย่าบอกนะว่าที่มันชื่อเอ็นติตี้_เอ็กซีเพื่อไม่ให้ซ้ำกับโลกหมายเลข 303 น่ะ” พอเพียงถาม

            “ใช่ครับ” อิซึคุตอบ “อาจจะเป็นเพราะอย่างนี้เลย”

            “แล้วมันทำอะไรพวกเขาทั้งสอง?” พอเพียงถาม

            “เขาก็ทำแบบนี้น่ะครับ” อิซึคุตอบแล้วชกท้องตัวเองแรง ๆ ให้พี่ชายของเขาเห็น

            “เอ็นติตี้_เอ็กซีชกท้องยังและลูซิเฟอร์? แล้วทำให้ยังหมดสติอย่างนี้เลยเหรอ?” พอเพียงถาม

            “ใช่ครับ” อิซึคุตอบ “ผมว่าเวทมนตร์บางอย่างที่เอ็นติตี้_เอ็กซีทำกับยังและลูซิเฟอร์น่าจะทำให้ขุมพลังบางอย่างในตัวของทั้งคู่ได้ไปรวมกันอยู่ในท้องของพวกเขาและออกมาทางท้องของพวกเขาด้วยนะ”

            “ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงล่ะก็...” พอเพียงบอก จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือพอเพียงเทค แกรนด์โฟน 10 ขึ้นมาโทรหาคนแรกที่พอจะช่วยเขาได้ทันที นั่นคือลุงลีของเขานั่นเอง

            “ฮัลโหล มีอะไรเหรอ?” ลีถาม

            “ลุงลีครับ ผมมีเรื่องด่วนจะบอก” พอเพียงพูด “ผมเจอกับคนที่หมดสติในซอกตึก เขาชื่อว่า ยัง ลีพุงครับ แล้วก็อีกคนหนึ่งที่ยังพอมีสติอยู่บ้างคือลูซิเฟอร์ ลีพุง ตอนนี้ผมเอาพวกเขามาไว้รักษาตัวที่บ้านของผมด้วยครับ”

            “ว่าไงนะ!! บ้าน่า!! พวกเขามาทำอะไรที่นี่?” ลีถาม

            “ไม่รู้สิครับ” พอเพียงตอบ “แต่พวกเขาโดนทำร้ายเลยหนีมาที่นี่น่ะครับลุง”

            “งั้นแสดงว่ามันชักจะผิดปกติแล้วล่ะ” ลีพูด “เพราะว่าตามเนื้อเรื่องที่ฉันเขียนมาเนี่ยลูซิเฟอร์ไม่มีอยู่จริงในเรื่องเลย และยังต้องได้รับพลังจากเอ็นเดอร์ดรากอนแล้วถูกวิเธอร์กินร่างไม่ใช่เหรอ?”

            “ผมว่ามันไม่ใช่นะครับ” พอเพียงตอบ “ยังคนนี้กับลูซิเฟอร์ที่มากับเขาด้วยน่าจะอิงมาจากนิยายแฟนฟิกขายดีของผมมั้ง เพราะพวกเขาก็มาที่นี่แล้ว”

            “งั้นรีบรักษาพวกเขาดีกว่านะ” ลีพูด “เดี๋ยวฉันจะรีบไปหาเธอเดี๋ยวนี้แหละ”

            “ครับ” พอเพียงพูด แล้วเขาก็วางสายลง แล้วหันไปบอกเล็กซ์ น้องชายที่เพิ่งเข้ามาว่า “เล็กซ์! ไปตามพวกลุงแฮร์รี่ขึ้นมาเร็ว!”

            “ครับพี่!” เล็กซ์ทำท่าวันทยาหัตถ์แล้ววิ่งลงไปข้างล่างทันที

            “ใครเหรอครับ?” ลูซิเฟอร์ถามและชี้ไปที่เล็กซ์ที่กำลังจะออกจากห้อง

            “นั่นอเล็กซานเดอร์ เอสเธนส์” พอเพียงตอบ “ฉันเรียกเขาว่าเล็กซ์ เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง”

            “ลุงแฮร์รี่เหรอครับ?” อิซึคุถาม

            “แฮร์รี่ พอตเตอร์น่ะ” พอเพียงตอบ “เขากำลังหนีจากพวกโวลเดอมอร์ที่เพิ่งมาบุกบ้านพี่เมื่อวันเกิดของพี่น่ะ”

            “อย่างนั้นเองเหรอครับ?” อิซึคุพูด และจากนั้นเล็กซ์ก็กลับมาพร้อมกับแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่พอดี

            “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” แฮร์รี่ถาม “อ้าว พวกเด็ก ๆ พวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย?”

            “สวัสดีครับ ผมชื่อ มิโดริยะ อิซึคุ ครับ” อิซึคุแนะนำตัว

            หลังจากที่ทั้งหมดทำความรู้จักกันอยู่พักหนึ่ง พอเพียงก็เริ่มประเด็นทันที

            “เอาล่ะ สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ตอนนี้ยัง ลูซิเฟอร์ และอิซึคุได้ออกมาจากดินแดนที่ถูกลืมมายังที่แห่งนี้ ที่ที่ความตึงเครียดกำลังจะเกิดขึ้น และผมไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้ว่าจะมีศัตรูตัวไหนออกมาจัดการได้อีก แต่ไอ้การกระทำของเจ้าปีศาจเอ็นติตี้_เอ็กซีที่ทำกับยังและลูซิเฟอร์ มันแปลก ๆ นะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรรักษาเขาได้หรือเปล่า”

            “มันทำอะไรพวกเขา?” รอนถาม

            “มันต่อยท้องผมกับยัง” ลูซิเฟอร์ตอบ

            “พลังของเอ็นติตี้_เอ็กซีทำให้ขุมพลังของฮีโร่บรายน์สตีฟโอที่อยู่ในร่างกายของยังและลูซิเฟอร์ไปกระจุกกันอยู่ในท้องของพวกเขา” พอเพียงพูด “ถ้าอย่างนั้น...ลูซิเฟอร์  ดึงเสื้อเธอขึ้นมาดูซิ ดึงเสื้อของยังขึ้นมาด้วย”

            ลูซิเฟอร์ทำตาม และทุกคนก็เห็นว่ามีพลังงานบางอย่างกำลังดันออกมาจากท้องของยังและลูซิเฟอร์ด้วย

            “ต้องเป็นพลังงานของฮีโร่บรายน์สตีฟโอแน่ ๆ เลย” พอเพียงพูด “ว่าแต่ มีทางไหนที่พอจะช่วยแก้ไขได้บ้าง?”

            “ต้องใช้สารอะไรสักอย่างนะ” แฮร์รี่บอก “มันเป็นน้ำยาที่เราพอจะค้นพบได้ว่าสามารถลบล้างพลังชั่วร้ายออกไปได้ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันชื่อว่าอะไร”

            “น้ำยาขับขุมพลังชั่วร้ายอย่างนั้นเหรอ?” พอเพียงพูด “ถ้าน้ำยานั่นมีอยู่จริง ได้โปรด บอกมาเถอะครับว่ามันทำยังไง”

            “ตอนนี้เราต้องรอก่อน” แฮร์รี่ตอบ “เพราะว่าตอนนี้เราไปไหนไม่ได้เลย”

            “งั้นรีบเลย” พอเพียงพูด “ถ้าน้ำยานั่นสามารถล้างพิษของความมืดได้ งั้นรีบจัดการอย่างเร่งด่วนเลยครับ รีบไปเอามันมาให้ได้ ก่อนที่มันจะแย่ไปมากกว่านี้ ส่วนผมน่ะ ผมจะเปิดประตูมิติไปยังโลกของลุง เพื่อไปเอาน้ำยานั่นให้ได้โดยไม่ถูกพวกผู้เสพความตายจับได้ซะก่อน ด่วนเลยครับ”

            “แล้วฮอร์ครักซ์ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

            “ก็ต้องไปเอามันมา แล้วทำลายมันทิ้งเลยครับ” พอเพียงตอบ “เพราะว่าผมอ้างอิงจากข้อมูลของคุณ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ว่าต้องทำให้ภาชนะของฮอร์ครักซ์เสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีกต่อไปเท่านั้น ว่าแต่ มีใครเตรียมอุปกรณ์การทำลายฮอร์ครักซ์มาบ้าง?”

            “อุปกรณ์ทำลายฮอร์ครักซ์เหรอ?” รอนถาม

            “เท่าที่ผมอ่านหนังสือมา อุปกรณ์ที่ทำลายฮอร์ครักซ์ได้ที่มีบทบาทมากที่สุดก็มีทั้ง เขี้ยวของบาซิลิสก์ (Basilisk’s fang) กับดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์” พอเพียงตอบ “นอกนั้นก็จะเป็นเวทมนตร์คาถาทำลายล้างล้วน ๆ ทั้งคาถาเพลิงปีศาจและคำสาปพิฆาต ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้จะหาได้จากที่ไหน”

            “แล้วเธอมีบ้างไหมล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

            “ถ้าถามผมน่ะเหรอ ผมก็มีเหมือนกัน เยอะกว่าอีกด้วย” พอเพียงตอบ จากนั้นเขาก็โชว์ถุงมือเอนกประสงค์ให้พวกสามแกนนำกองทัพดัมเบิลดอร์ดู “เอาแค่ถุงมือนี้ก็สามารถทำลายฮอร์ครักซ์ได้แล้ว”

            “ใบมีดใต้แขนเนี่ยนะ?” รอนถาม

            “ผมไม่ได้พูดถึงฮิดเด็นเบลดสักหน่อย” พอเพียงแย้งรอน “ผมหมายถึงสิ่งที่ติดอยู่บนฝ่ามือต่างหาก ดูเผิน ๆ มันอาจจะคล้ายกับเครื่องยิงลำแสงของไอออนแมนจากมาร์เวล แต่อันนี้จะเป็นการยิงพลังงานอาร์เจ็นต์ แบบเดียวกับที่มีอยู่ในปืนไอคอนิกของแฟรนไชส์เกมดูม : บีเอฟจี-9000 (BFG-9000) ซึ่งความแรงของมันนี่ผมว่าไม่ต้องพูดถึงแล้วกัน ขนาดพวกปีศาจตัวเล็ก ๆ ยังกระจุยเป็นวงกว้าง แล้วนับประสาอะไรกับฮอร์ครักซ์ที่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุก็ตาม เจอลูกไฟนี้เข้าไป เละไม่เหลือซากแน่ครับ”

            “อืม...” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ “เกมดูมภาคแรกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1993 งั้นแสดงว่าพวกมักเกิ้ลเกมเมอร์ก็พอจะรู้จักเกมนี้อยู่บ้างสินะ”

            “ใช่ครับ” พอเพียงตอบ “เอาล่ะ เท่ากับว่าตอนนี้เรามีงานหนักสองงาน คือ ต้องหายาที่สามารถล้างขุมพลังที่ชั่วร้ายออกไป กับ รวบรวมฮอร์ครักซ์ที่ยังเหลืออยู่ให้มารวมกันที่นี่แล้วทำลายมันทิ้งให้หมด อืม เยี่ยม ข้างนอกนั่นก็มีพวกผู้เสพความตายด้วย แล้วผมไม่รู้ว่าพวกสมาพันธ์วิลเลินจะบุกมาเมื่อไหร่อีก! พับผ่าสิ!”

            แต่ในความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของพอเพียงทันที

            “เออใช่!! ทำไมพวกลุง ๆ ป้า ๆ ถึงไม่ไปเรียกพวกกองทัพดัมเบิลดอร์ที่เหลืออยู่ให้มารวมตัวกันที่นี่ โดยไม่ถูกพวกผู้เสพความตายจับได้บ้างล่ะครับ?” พอเพียงร้องและตบเข่าฉาดหนึ่งที

            “อะไรคือกองทัพดัมเบิลดอร์เหรอครับพี่เพ้นท์?” อิซึคุถาม

            “มันคือกลุ่มคนที่พวกเราจัดตั้งขึ้นมา เพื่อสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดน่ะ” แฮร์รี่ตอบ

            “ลุงแฮร์รี่อธิบายได้ดีครับ” พอเพียงพูด “สิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนี้ก็คือ ต้องรวมพลกองทัพดัมเบิลดอร์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมรู้ว่าสมาชิกที่เหลืออยู่ ณ ขณะนี้ จะต้องมีสักคนที่เอาน้ำยาล้างขุมพลังศาสตร์มืดนี้มาให้พวกเราใช้งานแน่นอน”

            “งั้นเราจะเอายังไงดีล่ะครับ?” ลูซิเฟอร์ถาม

            “ลูซิเฟอร์ ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการให้เอง” พอเพียงตอบ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปที่โรงรถทันที

 

            ที่โรงรถ พอเพียงได้ขอให้เอไอแฮมิลตันและเรย์นะค้นหาตำแหน่งของพวกสมาชิกกองทัพดัมเบิลดอร์ที่ยังเหลืออยู่ โดยเขาระบุชื่อของแต่ละคนไว้ เพื่อที่หวังว่าจะยังคงซ่อนน้ำยาเหล่านี้ไว้อยู่ และในที่สุด เขาก็พบแล้ว สมาชิกกองทัพดัมเบิลดอร์ที่ยังเหลืออยู่ แต่ใครบ้างล่ะ ที่อยู่ใกล้ละแวกบ้านของเขามากที่สุด?

 

            ในที่สุด ในละแวกเมืองเซ็นเตอร์ซิตี้นั้นก็ยังมีสมาชิกกองทัพดัมเบิลดอร์เหลืออยู่ไม่ถึงสิบคน หลัก ๆ เลยก็มี จินนี่ วีสลีย์ (Jinny Weasley) เนวิลล์ ลองบัตท่อม (Neville Longbuttom) ลูน่า เลิฟกู๊ด (Luna Lovegood) เฟร็ดกับจอร์จ วีสลีย์ (Fred and George Weasley) นอกนั้นอยู่นอกเมืองเซ็นเตอร์ซิตี้กันหมดเลย

            “ได้การล่ะ เตรียมไปนำตัวพวกเขามาให้ได้เลย” พอเพียงพูด “แต่ก่อนอื่น ผู้เสพความตายยังแอบกบดานอยู่ในเมืองนี้รึเปล่า ถ้ามันยังอยู่ เดี๋ยวจะส่งพวกไอดีพีเอ็มไปเก็บให้เรียบเลย”

            แต่จากการตรวจสอบจากดาวเทียมค้นละเอียด เขากลับไม่พบผู้เสพความตายอยู่ในเขตเมืองเซ็นเตอร์ซิตี้เลย ก็เข้าแผนพอเพียงล่ะ

            “เอาล่ะนะ รีบพาตัวพวกเขาไปให้เร็วที่สุดเลยจะดีกว่า” พอเพียงพูด

            “แล้วคุณจะไปยังไงเหรอคะ?” เรย์นะถาม

            “ผมจะไปรับตัวเขาในฐานะประธานสูงสุดแห่งไอดีพีเอ็ม” พอเพียงตอบ “ผมจะโทรหาสมาชิกเพื่อให้ภารกิจพวกเขาไปครับ”

            “งั้นนายก็ทำเลย” แฮมิลตันบอก “เร็ว ๆ ด้วยล่ะ”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.