บทที่ 109 ร่วมมือกัน

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 109 ร่วมมือกัน

หมวดหนังสือ: 

 

ผมคิดถึงสิ่งที่ผมอยากรู้ ก่อนที่จะบอกถึงสิ่งที่ผมต้องการออกไป

 

“คุณตอบคำถามบางอย่างที่ผมอยากรู้มาก่อน แล้วผมจะปล่อยคุณไป” ผมยื่นข้อแลกเปลี่ยนให้กับเธอ

 

“เชอะ...แล้วทำไมฉันต้องมานั่งตอบคำถามของคุณด้วยไม่ทราบ ในเมื่อตอนนี้คุณกำลังลักพาตัวฉันอยู่ ฉันสามารถแจ้งจับคุณได้เลยนะ” เธอยังคงกอดอกเชิดหน้าทำท่าทางหยิ่งทะนงเหมือนเดิม ท่าทางยโสไม่ยอมใครมันยิ่งทำให้ผมอยากจะเอาชนะเธอ

 

“ก็ถ้าไม่ทำ ผมก็ไม่ปล่อย นั่งมันอยู่ในรถนี่แหละ” ผมเอ่ยเสียงเรียบด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนจะเอนตัวเข้ากับเบาะเพื่อผ่อนคลาย

 

“เอ๊ะ!...คุณนี่” เธอหันมาแว๊ดใส่ผมอีกครั้ง

 

ผมเหลือบตามองเธอเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดออกมาโดยที่ตัวผมเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าอะไรดลใจให้พูดแบบนั้นออกไป

 

“หรือว่าจริงๆ แล้ว ที่คุณประวิงเวลาต่อล้อต่อเถียงกับผมอยู่เนี้ย มันเป็นเพราะว่าคุณกำลังหลงเสน่ห์ผมอยู่จนอยากจะอยู่กับผมนานๆ ใช่ไหมครับ” ผมอดไม่ได้ที่จะยั่วอารมณ์เธอ ทั้งที่ผมก็อดแปลกใจในตัวเองไม่ได้ที่ทำไมถึงทำอะไรแบบนี้ลงไป เพราะปกติผมจะไม่ใช่คนที่จะมานั่งกวนใครแบบนี้

 

เธอตาโตเผยอปากค้างด้วยความอึ้งทันทีที่ได้ยินคำที่ออกจากปากของผม พร้อมกับเบ้ปากมองบนใส่ผมด้วยท่าทางเหลือเชื่อสุดๆ

 

“เหอะ...คนอะไรหลงตัวเองชะมัดพูดออกมาได้ ไม่อายฉันก็อายฟ้าอายดินบ้างเถอะ อย่างคุณอ่ะน่ะ หล่อไม่ได้ครึ่งของเซ...ฟ...เลย” เธอที่เถียงผมรัวขึ้นมาทันทีที่ตั้งสติได้ ก่อนที่จะหลุบเสียงหายไปในท้ายประโยคเมื่อเอ่ยถึงใครคนหนึ่ง

 

เหมือนว่าคนคนนั้นจะมีผลต่อความรู้สึกของเธอมาก เพราะดวงตาสีฟ้าของเธอเริ่มสั่นระริกขึ้นมาทันทีที่พูดถึงเขาคนนั้น แม้ว่าเธอจะเม้มปากพยายามไม่แสดงอารมณ์อ่อนไหวออกมา แต่ผมเองก็พอจะดูออกว่าตอนนี้เธอน่ะอ่อนไหวมากแค่ไหน

 

“หึ...ดูท่าจะโดนไอ้เซบาสเธียหักอกมาสินะ” ผมโพล่งออกไปโดยไม่รู้เลยว่า คำพูดที่ออกจากปากผมประโยคนี้ มันเป็นเสมือนกับใบมีดที่กรีดซ้ำลงไปบนแผลสดที่อยู่ในใจของเธอ

 

 เธอที่นิ่งไปในตอนแรก ก่อนจะปล่อยโฮออกมาทันที~~

 

“ฮึก...ฮึก...ฮืออออ” เธอร้องออกมาทันทีเมื่อคำพูดของผมเหมือนจะเข้าไปจี้โดนใจของเธอ และนั้นก็ทำให้ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

 

“เห้ยยย...คุณ” ผมละล่ำละลักเด้งตัวลุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงเธอร้องไห้

 

“ฮืออออออออออ” แต่มันกลับทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

 

“แล้วยังไง เขาหักอกฉันแล้วยังไง ใช่ฉันอกหัก แต่จะให้ทำยังไงก็ฉันรักเขา ฉันรักเขาได้ยินไหม.. ฮืออออ.... มันผิดมากนักหรอที่ฉันรักเขา รู้ไหมฉันรักเขามานานมากแค่ไหนแล้ว แต่ทำไม ทำไมความรักของฉันมันส่งไปไม่ถึงเขาเลย ฮือออ ทำไมเขาไม่เห็นความรักของฉันบ้างเลย...ฮึก..ฮึก...ฮืออออ ทำไมเขาถึงได้มั่นคงต่อรัก......ด้วย...ทำไม...ฮือออ” เธอหลุดพูดระบายความในใจออกมา โดยที่ผมได้แต่อึ้งนั่งทำอะไรไม่ถูกนอกจากยื่นกระดาษทิชชูไปให้

 

“ผมขอโทษแล้วกัน ไม่คิดว่ามันจะไปจี้ถูกจุดคุณสะขนาดนี้” ผมเอ่ยขอโทษไปด้วยความรู้สึกผิดจากใจจริง

 

“ฮืออออออ...ฉันรักเขาตั้งแต่เจอเขาครั้งแรก แต่คุณรู้อะไรไหมมันกลับกลายเป็นว่าฉันมาเจอเขาช้าไป แค่เจอเขาช้าไปเท่านั้นเอง เขาไม่ให้โอกาสฉันเลย...ฮืออออ” เธอยังคงร้องไห้โฮระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมาไม่หยุด

 

ผมที่ทำได้แต่นิ่งเงียบฟัง พลางคิดในใจว่าปากหนอปากไม่น่าส่งหมาออกมาตอนนี้เลย...ซวยแล้วไอ้มาร์คเอ้ยยย

 

เธอร้องไห้ระบายความในใจอยู่นาน ทั้งจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะยามเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นก็พูดออกมาไม่เป็นภาษา แต่เท่าที่ผมพอจะเข้าเคล้าบ้างก็คือ เธอรักไอ้เซบาสเธียมานานแล้วน่าจะตั้งแต่เด็ก แต่ไอ้เซบาสเธียมันให้เธอได้แค่สถานะเพื่อน และดูท่าทางแม้คำว่าเพื่อนในตอนนี้เธอน่าจะเสียมันไปแล้ว

 

เพราะฉะนั้นผมคงจะไม่ถามอะไรเธออีกแล้วเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับไอ้เซบาสเธียมัน แต่ผมมีเป้าหมายใหม่ที่ดีกว่านั้น เพราะถ้าเราสองคนมีเป้าหมายเดียวกัน ก็น่าจะร่วมมือกันเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราต้องการได้

 

ผมรอเธอจนกระทั่งเธอหยุดร้อง ถึงเอ่ยปากบอกในสิ่งที่ผมคิดออกไป...

 

“คุณชอบเซบาสเธีย ส่วนผม...ผมชอบเอลิซ” ผมพูดขณะที่จ้องมองไปที่ดวงตาสีฟ้าสวยของเธอ

 

“ห๊ะ!!!” เธอเบิกตาโตที่ยังคงคละเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตาบางๆ ด้วยความตกใจหลังจากที่ผมพูดจบ

 

“ทั้งๆ ที่คุณก็รู้ว่าเอลิซเป็นคนของเซฟเนี้ยนะ” เธอพูดย้ำเพื่อความแน่ใจ

 

“ใช่...แล้วไง...ในเมื่อเธอยังไม่ได้แต่งงานกับไอ้เซบาสเธีย แถมไอ้เซบาสเธียก็ไม่เคยพาเธอออกงานที่ไหนให้ใครรู้จักเต็มที่ก็มีแค่ข่าวซุบซิบที่มันไม่คิดจะออกมาพูดหรือชี้แจงอะไร..หึ คนอย่างมันก็คงแค่เก็บเธอเอาไว้ในหอคอย ดูท่าแล้วมันไม่ได้อยากจะเปิดตัวเอลิซเลยสักนิด สถานะที่ให้เธอคืออะไร...นางบำเรอหรอใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้เลย คุณคิดอย่างผมไหมล่ะ” ผมพูดในสิ่งที่ผมคิด พร้อมกับโน้มน้าวจิตใจคนตรงหน้าไปด้วย

 

“............” เธอที่เงียบเหมือนกำลังใช้ความคิด

 

“แล้วถ้าผมจะบอกว่า ในเมื่อคุณเองก็อยากได้เซบาสเธีย ผมเองก็อยากได้เอลิซมาครอบครอง แล้วทำไมเราไม่ร่วมมือกันเพื่อให้ได้มาล่ะ” ผมลองหยั่งเชิงหาพรรคพวก

 

“แต่ว่า....คุณคงยังไม่รู้” เธอที่อ้ำอึ้งเหมือนกับว่ามีบางอย่างที่อยากจะบอกผม

 

“แต่ว่าอะไร” ผมพยายามจ้องมองไปที่ใบหน้าเธอเพื่อหาคำตอบ เพราะตอนนี้เธอได้แต่ก้มหน้าหลบตาผมอย่างคนกำลังใช้ความคิด

 

“มะ...ไม่มีอะไร แล้วคุณมีแผนการยังไง” เธอที่เหมือนว่ามีอะไรจะบอกแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้ ก่อนจะถามผมกลับมาเหมือนกับว่าจะเอาด้วยกับผม

 

“ตอนนี้ผมยังไม่มี ขอเวลาไปคิดก่อน งั้นเรามาแลก contact กันเอาไว้ก่อน แล้วยังไงเดี๋ยวผมติดต่อไปอีกที” ผมเสนอความคิดเห็นให้เธอ

 

“แต่ว่าผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร...ผมมาคินทร์ วงศ์เวชรุ่งเรือง หรือเรียกว่ามาร์คก็ได้นะ” ผมแนะนำตัว

 

“ฉันเรน่า...” เธอตอบกลับมาสั้นๆ

 

หลังจากนั้นเธอกับผมก็ผลัดกันแลกเบอร์และช่องทางติดต่อของกันและกัน

 

“แล้วนี่คุณจะไปไหน เดี๋ยวผมไปส่ง หรือจะไปเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลก่อนไหม” ผมเอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วงตามสัญชาตญาณของหมอ

 

“ไม่ต้องหรอก ปล่อยฉันลงตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันหาทางกลับเองได้” เธอเอ่ยบอกผม ด้วยดวงตาที่บวมช้ำจนผมอดที่จะสงสารเธอไม่ได้ เห้อ...ยัยก๋ากั่นที่ผมเห็นในตอนแรกหายไปไหนนะ

 

“ด้วยสภาพแบบนี้อ่ะน่ะ รถก็อยู่ที่ร้านไอ้เซบาสเธียให้ผมพากลับไปเอาไหม ถึงยังไงก็ถือสะว่าเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว เราเป็นพันธมิตรกันแล้วอนาคตเรายังต้องร่วมมือกันอีกในหลายๆ เรื่อง” ผมเอ่ยปากบอกเธอออกไป เพื่อให้เธอไว้ใจและคลายกังวล

 

“งั้นก็พาฉันกลับไปที่คอนโดของฉันก็แล้วกัน ส่วนรถเดี๋ยวฉันให้ลูกน้องไปเอา” เธอตอบกลับมา โดยที่ใบหน้าเสมองออกไปยังข้างนอกรถ

 

ผมมองท่าทางของเธอ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าในตอนนี้ผู้หญิงตรงหน้ากำลังคิดอะไร ได้แต่ทำตามในสิ่งที่เธอร้องขอและปล่อยให้เธอจมอยู่ในห้วงความคิดไป...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.