บทที่ 101 รับผิดชอบการหมั้น
ฉันที่ยังคงเหม่อลอย จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกที่ดังขึ้น
“นายหญิงครับ นายหญิง” ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดหันไปตามเสียงเรียกทันที
“อ้าวพี่กิต ว่ายังไงหรอค่ะ” ฉันหันไปตามเสียงเรียก
“นายหญิงจะเดินไปไหนครับ” พี่กิตกุมมือโค้งเล็กน้อยเอ่ยถามฉัน
“เออ...อ๋อ...เอลิซกำลังจะไปสั่งอาหารให้เฮียนะคะ” ฉันตอบกลับไปพร้อมยิ้มเจื่อนๆ ให้กับเขา
“อ๋อครับ... ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปสั่งให้แทนแล้วกันครับ นายหญิงนั่งรอตรงนี้ก็ได้ครับ” กิตเอ่ยบอกผู้ที่เขานับว่าเป็นนายหญิงของเขาอย่างเต็มใจ ก่อนที่กำลังจะเดินจากไป
“เดี๋ยวค่ะพี่กิต” ฉันเรียกเขาให้หยุดเท้าเอาไว้ก่อน
“ครับนายหญิง...มีอะไรจะสั่งผมเพิ่มเติมหรอครับ” กิตหันมาตามเสียงพร้อมยืนตัวตรงเพื่อเตรียมรับคำสั่ง
“เอ่อ...คะ...คือว่า...” ฉันที่อ้ำอึ้งเพราะความกระดากอายกับสิ่งที่กำลังจะถามพี่กิตออกไป
“มีอะไรอยากจะถามผมหรือเปล่าครับ ถามมาได้เลยครับนายหญิง ไม่ต้องเกรงใจ” พี่กิตเอ่ยบอกเพราะมองออกว่าฉันมีคำถามบางอย่างที่อยากจะถามเขา
“พี่กิตรู้จักคุณเรน่าไหมคะ” ฉันกลั้นใจถามออกไป
“รู้จักครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” พี่กิตยังคงสงสัยในท่าทีของฉัน
“เอ่อ...เอลิซอยากรู้ว่า คุณเรน่าเขาสนิทกับคุณเซฟมากแค่ไหนหรอค่ะ คุณเรน่าเขาบอกว่าเขาเป็นคู่หมั้นของคุณเซฟด้วยค่ะ” ฉันกลั้นใจพูดรัวถามพี่กิตออกไป ในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
“อ๋อ...เท่าที่ผมรู้คือ คุณเรน่ากับนายเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ครับ เพราะทั้งสองตระกูลสนิทกัน ส่วนเรื่องคู่หมั้นอันนี้...เอ่อ...ผมไม่แน่ใจเลยครับ” กิตบอกไปตามความจริงเท่าที่เขารู้ ก่อนที่จะจับสังเกตไปที่ดวงตากลมสวยของผู้ที่เป็นนายหญิงที่เริ่มแดงมีน้ำใสคลอเคลีย
“อย่างนั้นหรอค่ะ” ฉันที่พยายามกักเก็บความคิดมากไว้ตั้งแต่ต้น แต่บัดนี้มันได้พังทลายลงอีกครั้ง
แหมะ! แหมะ! แหมะ!
เม็ดน้ำใสไหลรินออกมารดลงบนหลังมือที่ฉันนั่งกุมเอาไว้ หลังจากที่ฉันก้มหน้าไม่อยากให้ลูกน้องคนสนิทของเขาได้เห็น
“ฮือๆๆๆๆ” น้ำตาเจ้ากรรมหลั่งไหลโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของสมอง ฉันที่แม้จะพยายามเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย
“นะ...นายหญิงครับ” กิตตกใจกับภาพตรงหน้า พร้อมกับกุลีกุจอเข้าไปนั่งย่องๆ ด้านข้างของผู้เป็นนายหญิงทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้น เขาร้อนรนทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกเดียวที่รู้ในตอนนี้คืออยากปลอบประโลมคนตรงหน้า
ด้วยความที่ตัวเขาเองไม่ได้คิดอะไร และรู้สึกกังวลใจที่ได้เห็นนายหญิงของตัวเองร้องไห้ จึงทำให้เขาคิดอาจหาญเอื้อมมือออกไปกุมมือนิ่มคู่นั้น หวังเพียงแค่ปลอบให้คลายเศร้าเท่านั้นเอง
ฉันที่ตอนนี้ในสมองกำลังขบคิดเวียนวนอยู่กับเรื่องราวของคุณเซฟกับเรน่า จึงไม่ได้คิดอะไรกับการที่พี่กิตเข้ามากุมมือฉันเอาไว้ เพราะในใจก็คิดว่าพี่กิตเป็นเสมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น
แต่นั่นมันก็เป็นเพียงความคิดของเราสองคนเท่านั้น เพราะใครจะไปรู้ว่าคนที่ได้มาเห็นภาพนี้เขาไม่ได้คิดเฉกเช่นเดียวกันกับเรา
“ไอ้กิต!! นี่มึงกำลังทำเหี้ยอะไรอยู่” เสียงเกรี้ยวกร้าวดุดัน ที่พยายามกดความขุ่นเคืองเอาไว้ เมื่อเห็นว่าลูกน้องคนสนิทกำลังกอบกุมมือผู้หญิงของเขาอยู่
“นะ...นาย!!” พี่กิตตกใจผงะ รีบผละออกจากการกุมมือของฉันทันที
และก่อนที่กิตจะทันได้ยืนขึ้น...
ผัวะ!! ผัวะๆๆๆ พลั่ก!! พลั่กๆๆๆ
หมัดมือที่กระหน่ำรัวลงใบหน้าเข้มก็ถูกใส่มาไม่ยั้งจนคนโดนตั้งตัวแทบไม่ทัน...
--- เซฟ Talk ---
หลังจากที่คนตรงหน้าของผมใจกว้างให้ผมได้คุยกับเรน่าต่อ แม้ว่าการกระทำของเธอจะดูเหมือนกับไม่คิดอะไรแล้ว แต่ผมก็รู้ดีว่าเธอยังคงไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องของผมกับเรน่า แม้ว่าผมจะย้ำชัดเจนแล้วว่าเรน่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผม และผมไม่มีทางคิดอะไรเกินเลยกับมันอยู่แล้ว และผมก็ได้อธิบายไปหมดแล้วด้วย แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอยังไม่สบายใจและยังไม่เชื่ออยู่ดี
ผมได้แต่มองตามหลังบางที่กำลังเดินจากไปด้วยความเหม่อลอย พร้อมกับลอบหายใจเบาๆ ผมคิดว่าเดี๋ยวขอเคลียร์กับไอ้ตัวที่ยืนตรงหน้านี้ก่อน แล้วค่อยตามไปดูเธอทีหลัง
“มีอะไร!!” ผมถามเรน่าออกไป แต่สายตาไม่ได้มองไปที่เรน่าเลย กลับมองไปที่ร่างบางที่เดินห่างออกไป
“เย็นชาจังเลยนะคะ” เรน่าแค่นเสียงน้อยใจ แววตาสีฟ้าใสมองไปยังใบหน้าคมที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าเธอเลยยามที่คุยกัน
“เข้าเรื่อง ไม่งั้นก็กลับไปสะ” ผมที่ไม่ชอบเวลามีผู้หญิงมาร่ำไรเล่นลิ้นไม่เข้าเรื่องสักที เพราะมันมักจะทำให้ผมหงุดหงิดโดยไม่สนแม้ว่าคนนั้นจะขึ้นชื่อว่าเพื่อน
เรน่ากัดฟันแน่น เพราะความน้อยใจที่พุ่งเพิ่มมากขึ้น เขาที่แม้ว่าจะไม่เคยเอ่ยคำหวานให้แก่กัน แต่ก็ไม่เคยที่จะพูดจาไม่ดีใส่เธอ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว
ดวงตาสวยฉายแววกร้าวมองตามดวงตาคมไปยังร่างบางที่เดินห่างออกไป มือที่กำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปที่ฝ่ามือจนเลือดห้อเพื่อระบายความขุ่นเคืองในใจ ก่อนจะปรับสายตาให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมเพื่อจ้องมองไปยังคนตรงหน้าเพื่อเปิดบทสนทนาอีกครั้ง
“เรื่องที่เซฟเอาผู้หญิงคนนั้นมาไว้ข้างกาย ทั้งพ่อแม่เซฟ แล้วก็พ่อแม่เรน่ารับรู้แล้วนะคะ” เธอบอกถึงจุดประสงค์ที่มาพบเขาในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ใหญ่ทั้งสองคนให้มาสอบถามความจริงกับเขา โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาและการหมั้นหมายของเราสองตระกูล
“แล้ว...” ผมตอบไปอย่างไม่สนใจอะไร เพราะในใจตอนนี้ผมสนอยู่คนเดียวคือผู้หญิงที่เดินห่างออกไป
“กะ...ก็ ท่านให้มาถามว่าเซฟจะเอายังไง” เรน่าเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเหมือนกลัวว่าผมจะตวาดอีก
“เอายังไงอะไร เรน่ามึงพูดมาให้เคลียร์ๆ หน่อยสิ ถ้ายังอ้ำอึ้งอยู่อย่างนี้กูไปล่ะ” ผมละสายตาจากผู้หญิงที่ผมรักหันกลับมามองหน้าเพื่อนที่อยู่ตรงหน้า ไม่เข้าใจเลยว่าวันนี้มันเป็นอะไรของมัน ท่าทางไม่เหมือนกับเรน่าคนเดิมผู้หญิงคนเดียวที่ผมยอมให้เป็นเพื่อน
“กะ..ก็” เรน่ายังอ้ำอึ้งอยู่
“ก็อะไรว่ะ วันนี้มึงเป็นอะไรเนี้ย เร็วๆ เข้ากูจะรีบไปหาเมียกู” ผมเริ่มรำคาญมันเต็มทีล่ะ
“ก็ท่านให้มาถามว่า เซฟจะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังไง แล้วเซฟจะรับผิดชอบการหมั้นของเรายังไง” เรน่าระเบิดคำพูดออกมาใส่ผม พร้อมกับก้มหน้าหลุบสายตาลงทันที
คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อน เป็นเสมือนกับไม้หน้าสามตีแสกเข้ากลางใบหน้า จนทำให้ผมมึนงงไปหมด...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 25
แสดงความคิดเห็น