Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 9 จับ จอม โจร

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc

-A A +A

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 9 จับ จอม โจร

หมวดหนังสือ: 

        ในปี 2019 มีข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับจอมโจรระดับนานาชาติที่หนีการจับกุมได้ทุกครั้ง จนเจ้าหน้าที่จากหน่วยชั้นนำของโลกต่างหมายหัวอาชญากรคนนี้และจัดให้อยู่ในระดับเอส นั่นก็คือ ไมตี้-ธีฟ (Mighty-Thief) จอมโจรปล้นฆ่าไม่เลือกหน้าไม่ปราณีอะไรทั้งนั้น และมีการร่ำลือกันว่าเขาหลบหนีการจับกุมด้วยวิชาอาคมแบบไสยศาสตร์ แต่จริง ๆ แล้วมันคือพลังวิเศษที่เกิดจากการทดลองที่ผิดพลาดของนักวิทยาศาสตร์สติเพี้ยนที่อยากจะทำยาเป็นของตัวเองมากกว่าจะรับยาจากซีมเลสฮิวแมน ชื่อเดิมของไมตี้ธีฟคือ ดอกเตอร์นอร์แมน แอเทรียส (Dr. Norman Atreus)

 

        สำหรับพอเพียง นี่คือหนึ่งในความท้าทายสำคัญของชีวิตนักศึกษาเฟรชี่ (เฟรชแมน) ปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซนต์โคลัมเบีย นอกจากการเรียนแล้ว ภารกิจก็สำคัญไม่แพ้กัน ล่าสุด เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์การป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยนานาชาติ หรือ ไอดีพีเอ็ม (The International Disaster Prevention and Mitigation : IDPM) หน่วยงานป้องกันภัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแล้วด้วย ดังนั้น การจะจับอาชญากรรายนี้ ถ้าจะจับแบบเดิม ๆ เดี๋ยวโลกจะไม่จำ ดังนั้น เขาจะพึ่งเพื่อน ๆ ของเขาให้มาช่วยจัดการด้วยดีกว่า

 

วันเสาร์ที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2019

ร้านอาหารเอ็มพิเรียลเรสเตอรองต์ (Emperial Restaurant) ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์เอ็มพิเรียล (Center Emperial Department Store) บริเวณย่านสถานีสยามของรถไฟฟ้าบีทีเอส

 

        พอเพียงกินชมพู่รอผองเพื่อนมาฟังข่าวที่น่าสนใจและงานที่จะมอบหมายให้เขาทำ (ใช่แล้ว เขาชอบกินชมพู่เป็นประจำนั่นแหละ เขากัดทีละคำ ทีละคำจนเหลือแต่แกนแล้วก็เก็บไปทิ้งใส่ถังขยะ) และเมื่อทีมพอเพียงไรเตอร์และทีมเอ็มซีพีเอมากันครบแล้ว

        “นี่ ๆ ดูข่าวนี่ซะ” พอเพียงพูด แล้วยื่นหนังสือพิมพ์ที่ขึ้นหน้าหนึ่งเรื่องไมตี้ธีฟไปให้ภัททิต้าอ่าน

        “ถ้าบ้านเรามีจอมโจรที่โหดที่สุด มันก็น่าจะเป็นตี๋ใหญ่ แต่นี่มันยิ่งกว่าตี๋ใหญ่อีก” พอเพียงพูด

        “งั้นมีแผนอะไรบ้างล่ะที่จะจับเจ้าหมอนี่?” ภัททิต้าถามหลังจากอ่านข่าวเสร็จแล้ว “ฉันคิดเองไม่ไหวแน่ ๆ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะให้ทำยังไง ถ้าให้จัดการแบบเดียวกับที่ตำรวจทั่วไปทำ ฉันว่าคงไม่เวิร์กแน่”

        “ไม่หรอก แบบนั้นมันโลกไม่จำอยู่แล้ว” พอเพียงพูด “ฉันมีแผนการจับกุมแบบแหวกแนวและโลกจำด้วย”

        “แล้วเธอจะใช้อะไรจัดการล่ะ?” ยินนาถามพอเพียง

        “ฉันมีเอไอสองตัว แฮมิลตันกับเรย์นะ” พอเพียงบอก “ฉันจะให้พวกเขาแฮกอุปกรณ์สื่อสารของเจ้าพวกไมตี้ธีฟ จะได้รู้ว่าพวกไมตี้ธีฟจะไปทำอะไรที่ไหน”

        “แต่ฉันกลัวว่าไอ้หมอนี่จะเก่งกว่าพวกเราหลายเท่านะ” เป้งว่า “นายจะไหวเหรอ?”

        “ไม่ลองไม่รู้” พอเพียงตอบ หน้าตาของเขาดูมุ่งมั่นอย่างมาก “พวกเราจะให้บทเรียนเจ้าจอมโจรนั่นให้รู้ไว้เสียด้วยว่า สุดท้ายผลกรรมก็จะตามเขาทันเอง”

 

วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 เวลา 22:00 น.

 

        รถยนต์พากานี ซอนดา อาร์ (Pagani Zonda R) สีดำลายคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมกับรถฟอร์ด เอ็กซ์พลอเรอร์ (Ford Explorer) ห้าคัน บุกมาเพื่อขโมยรูปปั้นช้างยืนสองขาชูงวง สัญลักษณ์ประจำยี่ห้อบูกัตติยุคคลาสสิก ที่ตีประมูลราคาได้ประมาณ 57,900 ล้านล้านบาท และไมตี้ธีฟหวังจะเอารูปปั้นนี้ไปขายในตลาดมืดให้รวยเละไปเลย ซึ่งเมื่อฝูงรถของไมตี้ธีฟมาถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปากรแล้ว พวกเขาก็ลงจากรถแล้วรีบไปทำลายระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดในพิพิธภัณฑ์นี้ และสั่งให้สมุนคนอื่น ๆ เฝ้าดูต้นทางไม่ให้ตำรวจบุกเข้ามาได้ ส่วนจอมโจรจะบุกเข้าไปเอารูปปั้นด้วยตัวเอง แต่แผนกลับไม่เป็นไปตามที่คาดฝันเอาไว้ เพราะว่า...

        “แกเป็นใคร!!”

        กลุ่มมาเฟียดำเชื้อสายจีนกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นจากข้างหลัง

        “นี่แก??” ไมตี้ธีฟอุทานแล้วหันมาชักปืนเล็งศัตรู “มาได้ยังไงกัน! กล้าท้าทายจอมโจรอันดับหนึ่งของโลกใบนี้อย่างไมตี้ธีฟได้ยังไง!”

        “ฉันคือ เต๋อเวยป้า (De Wei Ba)” หัวหน้ามาเฟียตอบ “ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะเอารูปปั้นนั้นเหมือนกัน!”

        “ฉันไม่ให้แกเอารูปปั้นนี้ไปหรอก!” ไมตี้ธีฟบอก

        “งั้นฉันก็ต้องต่อสู้แล้วล่ะ ใครชนะจะได้รูปปั้นนี้ไป!” เวยป้าตะโกน

        “อะแฮ่ม!! จะไม่มีใครได้รูปปั้นนี้ทั้งคู่หรอกน่า”

        พอเพียง มาสเตอร์ ต้นเสียงที่สามซึ่งเพิ่งกระแอม มือถือปืนพกซามูไรเอดจ์ทองคำที่ตอนนี้ติดไฟฉายใต้กระบอกปืนซะด้วย ทั้งเวยป้าและไมตี้ธีฟ รวมถึงลูกสมุนของพวกเขา ได้หันปืนมาเล็งที่พอเพียง

        “พวกแกทั้งสองคนถูกจับแล้ว” พอเพียงพูด “ฉันมาพร้อมกับกองทัพไอดีพีเอ็มจำนวนหกสิบชีวิต จะมาเพื่อจับเป็นพวกแกให้หมดเลย!”

        ตุบ...

        เสียงของหนัก ๆ กระแทกกับพื้น และในวินาทีนั้นทุกสายตาจ้องมาที่ระเบิดควันที่มีสัญลักษณ์ของโครว์แมนกำลังกลิ้งมาอยู่ระหว่างพอเพียงกับสองอาชญากร จากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นควันสีเทา

        พอเพียงรีบใช้ซูเปอร์วิชั่นมองผ่านหมอกควัน พบว่าโครว์แมนเจ้าเดิมกำลังเข้าไปจัดการลูกสมุนของเวยป้าและไมตี้ธีฟให้หมด ลูกน้องที่ยังไม่โดนโครว์แมนสยบก็ไล่ยิงปืนใส่โครว์แมนแม้จะโดนควันบังตาก็ตาม แต่จริง ๆ  แล้วพวกมันก็ยิงมั่ว ๆ ไปทั่วมากกว่า ดีไม่ดีอาจจะยิงโดนเพื่อนตายไปด้วยก็ได้

        สำหรับเวยป้าและไมตี้ธีฟ รวมถึงพอเพียงด้วย ก็พยายามมองหาโครว์แมน แต่สุดท้ายพอเพียงก็รู้ว่ายอดมนุษย์อีกาก็โผล่มาข้างหลังพอเพียง เขาจึงหันกลับมาหาโครว์แมน จังหวะนั้นโครว์แมนก็ผลักพอเพียงไปทางซ้ายเพื่อไม่ให้โดนลูกหลง (แถมผลักซะแรงด้วย) แล้วก็เข้าไปต่อสู้กับสองวายร้ายทันที แต่ไมตี้ธีฟกับเวยป้าหลบได้ทันแล้วรีบพาลูกสมุนที่ยังเหลือรอดหลบหนีออกไปทันที แต่พอเพียงก็เห็นพอดี เขาจึงหยิบเครื่องรับวิทยุสื่อสารพกพามาพูดว่า “ขอกำลังสนับสนุนด่วน ผู้ก่อเหตุสองคนหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุแล้ว!” พร้อมกับวิ่งออกไปที่รถทันที

        ฝ่ายไมตี้ธีฟได้ขึ้นรถซอนดาและรถเอ็กซ์พลอเรอร์ ในขณะที่พวกเวยป้าขึ้นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น เอสแอลเอส เอเอ็มจี (Mercedes-Benz SLS AMG) สีดำ ส่วนรถลูกน้องคือแลมโบร์กินี่ อูรุส (Lamborghini Urus)

        พอเพียงรีบขึ้นรถชิรอนสปอร์ตรุ่นมาตรฐานแล้วเหยียบคันเร่งเพื่อไล่บี้ศัตรูให้สุดทางเต็มที่ ส่วนโครว์แมนก็พุ่งเข้าไปขึ้นรถโครว์คาร์แล้วออกไล่บี้พวกผู้ร้ายทันที และกลายเป็นการโดนเจอตัวอีกครั้งของโครว์แมน เพราะเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์หลายแห่งมีการไม่ไว้ใจโครว์แมนและพยายามจับกุมอยู่หลายครั้ง แต่คราวนี้จะเป็นยังไง ก็ต้องรอดูต่อไป

 

        หลังจากที่พวกอาชญากรทั้งสองออกจากพิพิธภัณฑ์ศิลปากร พวกเขาก็มุ่งตรงไปยังถนนพระรามที่สอง โดยเริ่มที่ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเซ็นเตอร์ซิตี้หรือซีซีพีดี (Center City Police Department : CCPD) ก็รับลูกด้วยการตั้งระดับการไล่ล่าเริ่มต้นที่ฮีตเลเวล 1 ซึ่งรถที่จะมาไล่ล่าในระดับนี้จะเป็นฟอร์ด คราวน์ วิกตอเรีย โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Ford Crown Victoria Police Interceptor) กับ แวพิด โพลิส ครูเซอร์ (Vapid Police Cruiser) ซึ่งเป็นรถที่ถ้าเทียบกับตัวละครในอาร์พีจีถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่สแตตพื้น ๆ ตายง่าย ๆ ซึ่งฮีตเลเวลนี้อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไรในการจะเอารถแบบสองคันนี้มาไล่บี้กับรถของผู้ร้ายที่สมรรถนะโหด ๆ ร่วมกับรถของพอเพียง เพราะรถตำรวจสองคันดังกล่าวมักจะอ่อนแอที่สุด ถูกชนแรง ๆ ทีเดียวรถก็ปลิวแล้ว

        พอเพียงคิดว่ามันจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เขาจึงติดต่อทีมพอเพียงไรเตอร์และทีมเอ็มซีพีเอให้เข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ด่วน พร้อมกับให้ไฟเขียวในการไล่ล่าแล้ว และในขณะนี้ ฮีตเลเวลก็เพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 2 ในตอนที่กำลังจะเข้าไปยังทางพิเศษเฉลิมมหานครแล้ว แน่นอนว่ามันจะต้องมีรถที่สมรรถนะแรงขึ้นมาไล่บี้แล้ว ทั้ง ดอดจ์ ชาร์เจอร์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Dodge Charger Police Interceptor), ฟอร์ด มัสแตง โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Ford Mustang Police Interceptor), ฟอร์ด ทอรัส โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ ซีดาน (Ford Taurus Police Interceptor Sedan), แวพิด โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Vapid Police Interceptor) และ บราวาโด โพลิส บัฟฟาโล (Bravado Police Buffalo) รถตำรวจทั้งห้าชนิดนี้ได้ถูกส่งมาให้ไล่บี้แรงขึ้นกว่าเดิม และเพื่อน ๆ ของพอเพียงอยู่ถนนสุขสวัสดิ์ กำลังจะเข้าไปสมทบด้วยการขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครเช่นกัน ซึ่งในตอนนั้นรถตำรวจห้าชนิดดังกล่าวกำลังดักรออยู่ด้วย พวกมันแข็งแรงขึ้นมาบ้าง แต่มันก็ยังไม่แรงพอที่จะทนทานแรงกระแทกของรถสมรรถนะโหด ๆ ได้ ดังนั้น เพื่อน ๆ ของพอเพียงจึงต้องช่วยพวกเขาให้ได้ และก็มาเจอกันจริง ๆ ที่จุดขึ้นทางด่วนแถวสุขสวัสดิ์ด้วย และจากนั้นทั้งหมดก็ไล่บี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพอข้ามสะพานพระรามเก้าเสร็จแล้ว ไมตี้ธีฟและเวยป้าก็หักซ้ายไปยังทางพิเศษศรีรัช พวกตำรวจและพวกพอเพียงก็ไล่ตามไปทันที และฮีตเลเวลเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อถึงฮีตเลเวลสาม รถยนต์หนักก็เริ่มออกโรง ทั้งฟอร์ด เอ็กซ์พลอเรอร์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ ยูทิลิตี้ (Ford Exploror Police Interceptor Utility), ฟอร์ด เอ็กซ์พิดิชั่น/แม็กซ์ เอสเอสวี (Ford Expedition/MAX SSV), ฟอร์ด เอฟ-150 โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Ford F-150 Police Interceptor), ฟอร์ด เอฟ-150 เอสเอสวี (Ford F-150 SSV), พอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Porche Cayenne Turbo Police Interceptor), ครีเกอร์ ไพโอเนียร์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Krieger Pioneer Police Interceptor), คาร์สัน อินเฟอร์โน แวน โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Carson Inferno Van Police Interceptor), ฮันเตอร์ เทคดาวน์ 4x4 โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Hunter Takedown 4x4 Police Interceptor) เป็นรถยนต์หนักชุดแรกที่เข้ามาจัดการในระดับนี้ แน่นอนว่ามันแข็งแรง ทนทาน แต่เคลื่อนที่ช้ามาก แต่รถซูเปอร์คาร์ก็จะตรงกันข้าม เคลื่อนที่เร็ว แต่อ่อนแอ อาจไม่เท่าพวกรถธรรมดาเลเวล 2 แต่ก็ยังอ่อนแออยู่ดี

        ส่วนรถยนต์ธรรมดาก็ยังอยู่ แต่ฮีตเลเวล 3 มาเป็นรถมัสเซิลคาร์ ทั้งเชฟโรเล็ต คามาโร่ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Chevrolet Camaro Police Interceptor) และคาร์สัน จีที คอนเซ็ปต์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Carson GT Concept Police Interceptor) ซึ่งจะอึดขึ้นมาในระดับใกล้เคียงกับซูเปอร์คาร์มากขึ้นแล้ว

        พอถึงฮีตเลเวล 4 คราวนี้สปอร์ตคาร์เริ่มทำงานแล้ว ทั้งเชฟโรเล็ต คอร์เว็ตต์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Chevrolet Corvette Police Interceptor), ดอดจ์ ไวเปอร์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Dodge Viper Police Interceptor) สมรรถนะแรงขึ้น และความเร็วก็มากพอที่จะไล่ทันทั้งไมตี้ธีฟและเวยป้ามากขึ้น

        เมื่อยิงยาวจากทางพิเศษศรีรัชไปสู่ทางพิเศษอุดรรัถยา มันก็เริ่มมีโรดบล็อกมาเพื่อปิดกั้นถนนมากขึ้น เริ่มตั้งแต่รถระดับ 1 ไปจนถึงรถระดับ 2, มัสเซิลคาร์ และรถยนต์หนัก เพื่อไม่ให้รถของผู้ร้ายได้หนีไปได้ง่าย ๆ แน่นอน

        ทั้งซีซีพีดีและไอดีพีเอ็มเริ่มจะมีไม้ที่แข็งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อสยบผู้ร้ายที่ยังแข็งข้ออยู่ แม้ลูกน้องจะหายไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่วายที่จอมโจรและมาเฟียจีนไม่ยอมแพ้ แต่กับโครว์แมน เขาไม่หวั่นพวกตำรวจ เพราะเป้าหมายคือต้องหยุดอาชญากรทั้งสองให้ได้

        พอฮีตเลเวล 5 คราวนี้รถซูเปอร์คาร์เริ่มออกโรงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟอร์ด จีที โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Ford GT Police Interceptor), คาร์สัน 500 จีที โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Carson 500 GT Police Interceptor) และวัตสัน 25 วี 16 รีเวนจ์ โพลิส อินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Watson 25 V16 Revenge Police Interceptor) ที่สมรรถนะโหดพอ ๆ กับซอนดาและชิรอนเลย และรถยนต์หนักก็เริ่มจัดหนักขึ้นไปอีก นั่นคือ บรูต โพลิส ไรออต (Brute Police Riot) ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่ารถยนต์หนักระดับ 3 อีก งานนี้ถ้าไม่รอดก็ให้มันรู้ไป แถมยังเอาเฮลิคอปเตอร์ออกมาจัดหนักอีก งานนี้พอเพียงสบายเลย

        แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อสิ้นสุดทางพิเศษอุดรรัถยา ทั้งไมตี้ธีฟและเวยป้าก็เลี้ยวขวาเข้าไปยังถนนกาญจนาภิเษก หรือ ทางหลวงหมายเลขเก้า แล้วก็เลี้ยวซ้ายที่ทางแยกต่างระดับบางปะอินเพื่อยิงยาวต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อสลัดพวกตำรวจและโครว์แมนให้ไปไกล ๆ แต่จะรู้หรือไม่ว่าพวกตำรวจไม่ได้คิดอย่างนั้น เมื่อฐานที่มั่นของทั้งเวยป้าและไมตี้ธีฟอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แล้วทั้งคู่หนีจนมันไกลจากกรุงเทพฯ ไปเยอะมากแล้ว พวกตำรวจก็ต้องพยายามสกัดไม่ให้ทั้งสองกลับมากรุงเทพฯ ให้ได้

        และไป ๆ มา ๆ ทั้งไอดีพีเอ็ม ซีซีพีดี ทีมพระเอก และโครว์แมน ก็ไล่บี้ทั้งโจรทั้งมาเฟีย ลากยาวมาถึงคิวบ์ซิตี้ จังหวัดนครสวรรค์เสียแล้ว ดังนั้น เพื่อไม่ให้การไล่ล่ายืดเยื้อไปมากกว่านี้อีก จึงต้องปิดด้วยโรดบล็อกโพลิสไรออต แบบว่าถ้าเกิดพุ่งมาชนแรง ๆ รถต้องกระจายแน่นอน ปรากฏว่าชะงักได้ทันเวลาพอดี เพราะเอสแอลเอสกับซอนดาหักล้อดริฟท์ไปคนละทางเพื่อหยุดรถให้ทันเวลา และรถทั้งสองห่างจากกำแพงรถหนักประมาณห้าเมตรเห็นจะได้ ส่วนพวกที่ตามมาก็หยุดรถตาม

        ทีมพอเพียงไรเตอร์และเอ็มซีพีเอลงจากรถ พอเพียงบอกทุกคนว่า “ฉันจัดการเอง” จากนั้นก็ชักปืนซามูไรเอดจ์สีทองชี้ขู่ไปที่อาชญากรทั้งสอง ส่วนพวกตำรวจที่อยู่หลังโรดบล็อกกับพวกตำรวจข้างหลังพอเพียงก็เล็งปืนไปที่อาชญากรทั้งสองเช่นกัน

        ไมตี้ธีฟและเวยป้าลงมาจากรถของตัวเอง ไมตี้ธีฟแต่งตัวเป็นจอมโจรชุดดำ ใส่หมวกมีปีกกลมสีดำ หนวดเคราหนา คาบก้นบุหรี่มวนดำ ใส่ชุดคล้ายกับวัลเฮน (แวน เฮลซิ่งแห่งเกมอาร์โอวี) สีดำทั้งตัว ส่วนเต๋อ เวยป้า หน้าตาก็เป็นคนจีนอยู่แล้ว ใส่สูทสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าสีดำ หัวออกจะโล้นเล็กน้อย ทั้งสองค่อย ๆ ชูมือสองข้างของตัวเองขึ้นมาเป็นการยอมแพ้อย่างช้า ๆ เมื่อลงจากรถแล้ว

        “ยอมมอบตัวแล้วสินะ” พอเพียงว่า “ดี...ดีมาก...”

        แกร็ก-แกร็ก-กริ๊ก

        เสียงกระตุกปืนของจอมโจรและมาเฟียจีนดังขึ้น และภาพที่เห็นคือ ทั้งคู่เล็งปืนเดเสิร์ต อีเกิ้ล เล็งไปที่หัวของฝ่ายตรงข้ามกัน

        “หยุดนะ!!” พอเพียงตะโกน มือข้างขวายังถือปืนพกของเขาอยู่ แต่มืออีกข้างล้วงมาหยิบโทรศัพท์มือถือพอเพียงเทค แกรนด์โฟน 8 (PorpiangTech GrandPhone 8) แล้ว

        ความเงียบเข้าครอบงำทุกอย่าง บรรยากาศของที่นี่ตกอยู่ในความตึงเครียดอย่างหนัก แต่จู่ ๆ โครว์แมนก็ขว้างระเบิดควันลูกที่สองข้ามหัวพอเพียงไปตกที่จุดกึ่งกลางระหว่างไมตี้ธีฟกับเวยป้า แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นควันสีเทา

        แม้ตำรวจและไอดีพีเอ็มจะมองอะไรไม่เห็น แต่ทีมพระเอกมีพลังยอดมนุษย์ พวกเขาจึงใช้พลังซูเปอร์วิชั่นเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นในม่านควันนั้นปรากฏว่าโครว์แมนใช้ปีกอีกาทะยานขึ้นฟ้าก่อนจะร่อนลงมาจัดการอาชญากรทั้งสองคนได้อย่างราบคาบ ชนิดที่ว่าไม่ต้องให้พวกเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องเสียเหงื่อไปเปล่า ๆ เลย แต่คนที่เซ็งสุด ๆ กลับเป็นพอเพียง คนที่อยากจะมีผลงานในการปราบปรามผู้ร้ายบ้าง แต่กลับโดนซูเปอร์ฮีโร่แย่งพลังงานไปซะยังงั้น ขณะที่โครว์แมนคิดว่าถ้าไม่ตัดจบให้คงจะเหนื่อยเปล่า ๆ

        ภัททิต้าบอกโครว์แมนทันทีว่า “แอรอน ไม่ต้องเป็นศาลเตี้ยให้กับทุกคดีก็ได้!”

        “เอ้า ไม่ดีใจเหรอ ที่ฉันปราบอาชญากรได้นะ” โครว์แมนว่า

        “นี่ไม่ใช่ดีซีกับมาร์เวลนะพ่อคุณ!” พอเพียงพูด “โลกมันยังไม่พร้อมสำหรับซูเปอร์ฮีโร่นะ!”

        “เอาเถอะ ฉันทำเพื่อความสงบสุขนะ” โครว์แมนพูด

        “ฉันจะจัดการเรื่องไอ้สองตัวนั้นเอง” พอเพียงบอก “ส่วนนาย ไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเรียกพวกตำรวจและไอดีพีเอ็มให้มาจัดการนาย”

        “ได้เลย” โครว์แมนบอก จากนั้นก็ขึ้นโครว์คาร์และขับหายไป

        “แล้วจะเอายังไงต่อล่ะ?” ภัททิต้าว่า

        “ฉันจะไปสอบปากคำวันนี้” พอเพียงพูด “เพราะฉันคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับองค์กรภารดรภาพแห่งวายร้ายก็ได้”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.