บทที่ 67 ไอ้ลูกเมียน้อย!!

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 67 ไอ้ลูกเมียน้อย!!

หมวดหนังสือ: 

สายตาเหยียดหยามที่ผมเห็นตั้งแต่เด็ก ถูกส่งมาจากบรรดาพี่น้องต่างแม่ของผม และประโยคดูถูกที่ผมได้ยินจนชินก็ลอยตามมา

 

“นึกว่าใครไอ้ลูกเมียน้อยนี่เอง / คริคริ ไม่รู้จะมาทำไมและเมื่อไรจะพากาฝากอีกตัวไปด้วยก็ไม่รู้” เสียงน้องชายต่างมารดาเอ่ยขึ้น พร้อมกับเสียงของพี่สาวอีกคนเอ่ยสำทับ ท่าทางยียวนกวนประสาทของพวกมันผมชินสะแล้ว มีแต่คำพูดพวกมันที่ทิ่มแทงใจผมนั่นแหละที่ทำยังไงก็ไม่ชิน ผมจึงทำได้แค่กัดปากกำหมัดแน่นอดทนเอาไว้

 

สายตาอาฆาตถูกส่งไปยังคนปากหมาที่ว่าผมแล้วกระทบไปยังแม่ของผม

 

“มองหน้ากูหรอไอ้ลูกเมียน้อย คนอย่างมึงจะทำอะไรกูได้” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดตอบกลับมาเมื่อเห็นแววตาโรจน์ด้วยแรงอาฆาตที่จ้องมองไปยังพวกมัน

 

“พอกันได้แล้ว เมื่อมาแล้วก็รายงานมาสิสิ่งที่ฉันให้ไปทำ ได้เรื่องยังไงบ้าง” คนที่นั่งตรงกลางผู้เป็นประมุขของบ้านและเป็นพ่อของผมเอ่ยถามหาความคืบหน้า

 

“ไม่มีอะไรจะรายงานครับ” ผมตอบกลับไปตามความจริง ด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่มีความหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย

 

ปัง!!

 

เสียงทุบโต๊ะดังลั่นบ้าน แสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากของคนที่ทำได้เป็นอย่างดี

 

“ฉันให้แกไปทำอะไร ห๊ะ!!!ให้ไปนั่งมองผู้หญิงหรือไงกัน” ผู้เป็นพ่อตะวาดลั่น จนทุกคนนิ่งเงียบ

 

แววตาดุดันที่มาจากชายมีอายุตรงหน้า ถูกส่งออกมาด้วยความโกรธ และยิ่งโกรธมากขึ้น นั่นก็เพราะเมื่อถูกสายตาไม่ยอมแพ้ของลูกชายส่งกลับมาอย่างไม่ลดละเช่นกัน

 

“แก!แก!แกมัน” เขาพูดได้แค่นั้นก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่ง หอบเอาอากาศหายใจเข้าไปให้เต็มปอด หวังช่วยลดอุณหภูมิความโกรธที่อยู่ภายในจิตใจ

 

ผมเตรียมตัวหันหลังกลับทันที ไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้แม้แต่วินาทีเดียว แต่ไม่ทันได้ก้าวเท้าเสียงเหี้ยมก็เอ่ยขึ้นมาทันที

 

“ฉันมีงานใหม่ให้แกทำ” เท้าผมหยุดชะงักทันที ลมหายใจถูกถอดถอนออกมาเบาๆ ผมยังคงยืนนิ่งไม่ได้หันหลังกลับไปฟัง

 

“รายละเอียดเดี๋ยวฉันส่งให้แกอีกทีนึง และหวังว่าครั้งนี้แกจะไม่ทำมันพลาดนะ” เมื่อเขาพูดจบ ผมก็ก้าวเท้าออกมาจากห้องโถงทันที

 

ผมเดินออกมาอย่างคนไม่สบอารมณ์ และไม่คิดที่จะหันหลังกลับไปมองแม้แต่นิดเดียว

 

“มาร์คลูก..มาร์ค” เสียงแม่บังเกิดเกล้าของผมเอ่ยเรียก

 

ผมหันไปตามเสียง ก็เห็นแม่ยืนแอบอยู่บริเวณต้นไม้แถวนั้น ผมมองแม่แล้วได้แต่รู้สึกเศร้าใจ เมื่อไรเราสองแม่ลูกจะหลุดพ้นจากตระกูลเฮงซวยนี่สะที

 

ผมมองแม่ผมที่บัดนี้ร่างกายเริ่มโรยราไปตามกาลเวลา ผมสีดอกเลาเริ่มแซมให้เห็นบ้างแล้ว ภาพของแม่ทำให้ผมอดรู้สึกหดหู่ใจไม่ได้ แม่มักจะเลี่ยงไม่ขึ้นไปที่ตึกใหญ่เพราะไม่อยากจะต้องไปทะเลาะกับใคร ที่ของแม่คือเรือนหลังเล็กที่ถัดจากสวนดอกไม้ของบ้านออกไปอีก เราสองแม่ลูกมักจะถูกจำกัดให้อยู่แค่ในบริเวณนั้น จนเมื่อผมเรียนจบและมีงานทำ ผมถึงได้ไปออกซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง

 

ผมเคยชวนแม่ไปอยู่ด้วยกัน แต่แม่บอกว่าไม่อยากออกไปไหน เพราะชินกับการอยู่ที่นี่แล้ว แต่ผมรู้ว่าลึกๆ แม่อยากจะดูแลไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้น แค่แม่ไม่อยากพูดทำร้ายจิตใจของผมก็เท่านั้นเอง อย่างที่โบราณเขาว่าพออยู่ๆ กันไปก็รักกันเอง แม่ผมก็คงเป็นแบบนั้น

 

“แม่มายืนตากแดดอยุ่ตรงนี้ทำไมล่ะครับ ไม่ไปรอผมข้างใน” ผมรีบเดินไปหาแม่พร้อมกับประคองแม่ให้เดินกลับไปยังที่ของเรา

 

“แม่แค่กลัวว่าจะไม่ได้เจอมาร์ค กลัวว่ามาร์คจะทะเลาะกับพ่อแล้วเกิดเรื่อง แล้วอีกอย่างแม่ก็ไม่อยากเข้าไปให้คุณๆ เขาลำคาญใจ” แม่พูดความเป็นกังวลที่อยู่ภายในใจออกมาก่อนจะส่งยิ้มอันอบอุ่นที่ผมเห็นตั้งแต่เด็กมาให้

 

“แม่ครับ แม่ไม่เห็นจำเป็นต้องเรียกพวกมันว่าคุณเลย แม่ก็เป็นเมีย เป็นนายหญิงอีกคนในตระกูลนี้” ผมมักจะรู้สึกไม่พอใจทุกครั้งที่แม่ผมมักจะยอมให้ไอ้พวกตึกใหญ่มันข่มเหง

 

“เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งหงุดหงิดเลย แม่ทำของโปรดมาร์คไว้หลายอย่างเลยนะ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนแม่หน่อยนะลูก” แม่ผมเอ่ยตัดบทสนทนา เพราะไม่อยากให้ผมโมโห ก่อนจะชวนไปกินข้าวด้วยกันกับท่าน

 

ระหว่างที่นั่งกินข้าวด้วยกัน ~~

 

“อร่อยไหมลูก” แม่ถามขึ้นมาเพื่อสร้างบรรยากาศในการทานอาหาร

 

“ครับ” ผมตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มละมุน

 

“แล้วเมื่อไรจะพาแฟนมาหาแม่สักทีล่ะ” ^_^

 

พรวด ~~ แค่ก!แค่ก!

 

ข้าวที่ผมกำลังเคี้ยวอยู่ในปากพุ่งออกมาทันที เมื่อสิ้นประโยคที่แม่ถาม

 

“เอ๊าๆๆ กินน้ำสะก่อน อะไรกัน แม่ถามแค่นี้ถึงกับสำลักข้าวเลยเชียวหรอ ฮ่าๆ” แม่ยื่นน้ำมาให้ พร้อมกับหัวเราะท่าทางของผม

 

ผมมองค้อนแม่ไปทีหนึ่ง...

 

“แค่ก แค่ก แม่เกือบทำผมตายแล้วไหมล่ะ” ผมพูดพลางดื่มน้ำที่แม่ยื่นมาให้

 

“ฮ่าๆๆ ...อาการแบบนี้แสดงว่าลูกแม่มีแฟนแล้วแน่เลย” แม่ทำตัวเป็นนักสืบ เพื่อหาข้อมูลจากผม

 

“ไม่มีหรอกครับ” ผมส่ายหัวเบาๆ

 

“ว้าาา...แล้วเมื่อไรแม่จะได้อุ้มหลานละเนี้ย” ^_^

 

พรวด ~~ แค่ก!แค่ก!

 

ข้าวที่ผมกำลังเคี้ยวอยู่ในปากพุ่งออกอีกรอบ นี่แม่กะจะฆาตกรรมผมหรือไงกันถึงได้ถามคำถามแต่ละอย่าง

 

“เอ๊า เอ๊า มีพิรุธนะเราน่ะ” แม่จ้องจับผิดพร้อมยื่นแก้วน้ำมาให้อีกรอบ

 

คราวนี้ผมไม่ตอบคำถามอะไรแม่แล้ว ได้แต่ส่งสายตาโกรธเคืองน้อยๆ ไปให้ท่านเหตุที่ท่านทำผมสำลักอาหารถึงสองครั้ง แต่ท่านก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไร ได้แต่ส่งยิ้มอันอบอุ่นกลับมาเชิงเป็นการง้อ

 

รอยยิ้มอบอุ่นยังอบอวลอยู่บนใบหน้าสวย แม้อายุจะมากขึ้นแล้วแต่เค้าโครงความสวยยังคงหลงเหลืออยู่มาก ไม่แปลกใจที่จะมีลูกชายหล่อได้ขนาดนี้

 

สายตาของคนเป็นแม่ทอดมองใบหน้าลูกชายเพียงคนเดียวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เป็นดั่งชีวิตของเธอ เป็นพลังใจอย่างเดียวที่ทำให้เธอยังคงอดทนอยู่ทุกวันนี้ ลูกชายที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ตรงหน้า ทำให้ความรู้สึกภายในใจไหลเข้ามามากมายในห้วงความคิด ความรู้สึกหลายอย่างที่อยากจะเอื้อนเอ่ยออกไป ด้วยกลัวว่าวันนึงอาจจะไม่มีโอกาสได้บอก เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงไม่รีรอช้าที่จะพูดออกไป...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.