ตอนที่ 899 ลูกแก้วจากคางคก

-A A +A

ตอนที่ 899 ลูกแก้วจากคางคก

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 899 ลูกแก้วจากคางคก

เซี่ยเฟยไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าหนอนด้วงมิติสีทองตัวมหึมาจะเป็นหนอนด้วงตัวน้อยที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดในวันนั้น

เมื่อหนอนด้วงมิติสีทองเห็นว่าเซี่ยเฟยจำมันได้ มันก็สั่นร่างกายขึ้นมาอย่างมีความสุข

เห็นได้ชัดว่าหนอนด้วงมิติตัวน้อยที่เคยเปราะบางได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากหนอนด้วงมิติตาเดียวที่โอโร่เคยดูถูกกลายเป็นหนอนด้วงมิติสายพันธุ์ราชาของหนอนด้วงมิติทั้งหมด

“นายไม่จำเป็นจะต้องมาขอบคุณฉันหรอก ตอนนั้นมันเป็นนายเองที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด ส่วนฉันก็แค่หยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หนอนด้วงสีทองส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย เพราะถ้าหากวันนั้นมันไม่ได้ชายหนุ่มช่วยไว้ มันย่อมไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้อย่างแน่นอน

“เฮ้ไอ้หนู! ตอนนี้นายไม่ได้ตัวเล็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ถ้านายพลาดไปนายบี้ฉันแบนได้เลย ในเมื่อตอนนี้นายกลายเป็นหนอนยักษ์สีทอง ฉันขอตั้งชื่อนายว่าแท่งทองก็แล้วกัน”

แท่งทองตัวสั่นขึ้นมาอย่างดีใจคล้ายกับว่ามันชื่นชอบชื่อที่ชายหนุ่มตั้งให้กับมันเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่ามันรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณเซี่ยเฟยจนสุดหัวใจ ดังนั้นถึงแม้ชายหนุ่มจะตั้งชื่อมันว่าอะไร แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังคงดีใจที่ได้รับชื่อจากเซี่ยเฟยอยู่ดี

หนอนด้วงมิติสีทองที่อยู่ตรงหน้าเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดของการกลายพันธุ์ เพราะแต่เดิมมันเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตระดับต่ำในบรรดาหนอนด้วงมิติเท่านั้น แต่กฎแห่งความโกลาหลได้เปลี่ยนแปลงมันให้กลายเป็นหนอนด้วงมิติที่อยู่ชั้นบนสุดของหนอนด้วงมิติทั้งหมด

เซี่ยเฟยย่อมไม่รู้ว่าสาเหตุที่มันกลายพันธุ์มาเป็นแบบนี้ เพราะกฎแห่งความโกลาหล, ปริมาณน้ำยาที่เขาให้ไปหรือความตั้งใจที่มันอยากจะรอดชีวิต แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้มีความสำคัญในตอนนี้เลย เพราะในหัวของแท่งทองเซี่ยเฟยคือผู้มีพระคุณของมัน

เซี่ยเฟยรู้สึกว่าสถานการณ์ของแท่งทองมีความคล้ายคลึงกับเขามาก เพราะในตอนที่เขาได้รับน้ำยาปรับสภาพยีนครั้งแรก เขาก็ตกอยู่ในอาการโคม่าด้วยเช่นกัน โชคดีที่ในตอนนั้นอันธยื่นมือมาช่วยเอาไว้ มันจึงทำให้เขาเติบโตขึ้นมากลายเป็นนักรบชั้นยอดอย่างทุกวันนี้

สิ่งที่คล้ายกันระหว่างเขากับแท่งทองคือความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยยอมแพ้ ซึ่งชายหนุ่มคิดว่ามันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เขาเติบโตจนมายืนอยู่ในจุดนี้ได้

แท่งทองถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจมาก เพราะในระหว่างที่มันกำลังแสดงความรู้สึกต่อเซี่ยเฟย มันก็ยังคงกินขยะที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเศษเสี้ยวของดาวเคราะห์หรือร่างกายอันเหี่ยวเฉาของพวกดาร์คไนท์ต่างก็ล้วนแล้วแต่ถูกเขมือบลงไปในท้องของหนอนด้วงสีทองตัวนี้ทั้งหมด

เซี่ยเฟยคาดเดาว่าสาเหตุที่มันสามารถมีร่างกายอันใหญ่โตได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ นั่นก็เพราะว่ามันคอยกินนู่นกินนี่อยู่ตลอดเวลานั่นเอง

เมื่อได้เห็นการเติบโตของแท่งทอง ชายหนุ่มก็อดที่จะเหลือบสายตามองไปทางขนอุยไม่ได้ เพราะถึงแม้เจ้าตัวน้อยตัวนี้จะดูดกลืนพลังงานระดับสูงเข้าไปอย่างต่อเนื่อง แต่ขนาดลำตัวของมันก็ยังคงแคระแกร็นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ขนอุยแอบบ่นอยู่ในใจเมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยเปรียบเทียบอสูรศักดิ์สิทธิ์กับหนอนด้วงมิติ แต่มันก็ได้จับจ้องมองไปยังแท่งทองอย่างสงสัยว่าเจ้าหนอนตัวนี้ไปกินอะไรเข้ามา จนทำให้ร่างกายเติบโตจนเกือบจะเท่าดวงจันทร์

“เอาล่ะงานแรกของนายช่วยพาฉันกลับไปที่มัดดี้ที” เซี่ยเฟยตบหัวแท่งทองเบา ๆ ขณะที่เขากระโดดขึ้นไปขี่หลังของมัน

แท่งทองพยักหน้าซ้ำ ๆ ซึ่งหลังจากการพัฒนาในก่อนหน้านี้ มันก็ทำให้หนอนด้วงมิติสีทองเข้าใจในสิ่งที่เซี่ยเฟยกำลังพูด

งั่ม!

แท่งทองหันกลับไปกัดร่างของคางคกสีดำอีกครั้ง ซึ่งในคราวนี้มันบังเอิญกัดโดนหัวของคางคกพอดีจนทำให้มีลูกแก้วสีดำหลุดออกมาจากหัวของคางคก

“หือ?” เซี่ยเฟยรีบหยิบลูกแก้วขึ้นมาในมือเพื่อป้องกันไม่ให้แท่งทองกินลูกแก้วนี้เข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับลูกแก้ว เขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปจนถึงขั้วหัวใจ โชคดีที่เขาสวมใส่ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นไว้ ไม่อย่างนั้นมือของเขาก็อาจจะถูกแช่แข็งจากลูกแก้วลูกนี้ได้เลย

“แปลกมาก มันมีพลังงานไหลเวียนอยู่ข้างในลูกแก้วงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

ลูกแก้วจากคางคกยักษ์ให้ความรู้สึกคล้ายกับลูกแก้วอสูรของอสูรศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตามพวกมันก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยลูกแก้วอสูรของอสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีคุณสมบัติตามลักษณะเด่นของอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้น ขณะที่ลูกแก้วจากสิ่งมีชีวิตในดาร์คไนท์ให้ความรู้สึกถึงความตายอันไร้ที่สิ้นสุด

“ค่อยตรวจสอบมันทีหลังก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยตัดสินใจเก็บลูกแก้วจากคางคกไว้ในแหวนมิติ ก่อนที่เขาจะกระโดดขึ้นไปบนหลังของแท่งทองเพื่อเริ่มออกเดินทาง

หลังจากออกเดินทางมาได้ครู่หนึ่งเขาก็ได้พบว่าสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้คือหนึ่งในพื้นที่ของช่องว่างมิติจริง ๆ ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้มาพบกับแท่งทองโดยบังเอิญ

การเดินทางในคราวนี้เขาได้รับสิ่งต่าง ๆ กลับไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้ภายในสมองของเขาอย่างเต็มเปี่ยม หรือการพิชิตต้นสนไร้วันสลายจนทำให้หงส์ครามเกิดการพัฒนาเป็นใบหญ้าอันแข็งแกร่งและมีใบหญ้างอกเพิ่มขึ้นมาเป็น 6 ใบ

ในอดีตความแข็งแกร่งของหงส์ครามถือว่าเป็นจุดอ่อนของมันมาโดยตลอด ใบหญ้าขนาดใหญ่จึงมักจะถูกตัดขาดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย แต่มันก็ได้อาศัยการฟื้นฟูเพื่อชดเชยจุดอ่อนของตัวเอง

อย่างไรก็ตามเมื่อมันได้ผสานเข้ากับต้นสนไร้วันสลาย ใบหญ้าของมันก็ไม่มีจุดอ่อนในเรื่องนี้อีกต่อไป กลายเป็นใบหญ้าอันแข็งแกร่งที่มีความยาวถึง 3 กิโลเมตร

ในสถานการณ์ปกติใบหญ้าที่ยาวขึ้นอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อการต่อสู้มากนัก แต่ถ้าหากว่าเขาได้เจอสถานการณ์อย่างวันนี้อีก ความยาวของหงส์ครามย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้อย่างแน่นอน

หลังสิ้นสุดการเดินทางมันก็มีเพียงขนอุยคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีความสุข เพราะคู่แข่งคนสำคัญของมันอย่างหงส์ครามกำลังพัฒนาจากเดิมอย่างก้าวกระโดด ขณะที่มันไม่ได้รับการพัฒนาเพื่อดึงดูดความสนใจของเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้ขนอุยไม่พอใจมากที่สุดคือการปรากฏตัวของแท่งทอง เพราะการที่เซี่ยเฟยมีหนอนตัวนี้เพิ่มขึ้นมา มันก็หมายความว่าเจ้าตัวน้อยจะมีคู่แข่งเพิ่มจากเดิมด้วยเหมือนกัน

ช่องว่างมิติเป็นบ้านเกิดของหนอนด้วงมิติทุกตัว แท่งทองจึงพาร่างของชายหนุ่มมุ่งหน้าสู่มัดดี้ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่มันได้เดินทางอย่างต่อเนื่องถึงหนึ่งวันเต็ม ๆ มันก็หยุดร่างกายขนาดใหญ่พร้อมกับหอบหายใจออกมาอย่างหนัก

เซี่ยเฟยไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแท่งทองจะฝืนร่างกายของตัวเองเพื่อให้เขาเดินทางกลับไปยังมัดดี้โดยเร็วที่สุด จนทำให้เขารู้สึกประทับใจในหนอนด้วงตัวสีทองตัวนี้มากยิ่งขึ้น

“เหนื่อยเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับลูบหัวแท่งทองเบา ๆ จากนั้นเขาก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 ออกมาหลายสิบก้อนและโยนให้แท่งทองนำไปใช้ฟื้นฟูพลังงาน

อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งของขนอุยก็มีเพียงแค่คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 จำนวน 2 ก้อนเท่านั้น มันจึงทำให้เจ้าตัวน้อยมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยความไม่พอใจ

หลังจากฟื้นฟูพลังงานจนเสร็จแท่งทองก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง แต่ในระหว่างที่มันโผล่ร่างออกไปในมัดดี้นั่นเอง จู่ ๆ มันก็มีเงาสีดำพุ่งตรงมายังพวกเขาอย่างรวดเร็ว

“เซี่ยเฟยหลบ!” เซี่ยกวงไห่ร้องตะโกนพร้อมกับกระโดดฟาดขวานเล็งไปที่หัวของแท่งทอง

ฟุบ!

ชายหนุ่มรีบเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดเซี่ยกวงไห่เอาไว้กลางอากาศ

“เดี๋ยวก่อน! นี่เพื่อนผมเอง!!” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดัง

“อะไรนะ?! เจ้านี่เป็นเพื่อนนายงั้นเหรอ?” เซี่ยกวงไห่มองไปที่เซี่ยเฟยและมองไปที่แท่งทองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่ครับ เขาคือเพื่อนผมเอง มันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” เซี่ยเฟยถามกลับอย่างใจเย็น

“นายนี่นะไม่เคยทำอะไรเหมือนคนอื่นเขาจริง ๆ ไม่ว่าใครก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าหนอนด้วงมิติเป็นสัตว์เลี้ยงของพวกมาร มันไม่ใช่สิ่งที่นักรบเทพจะไปเอามันมาเลี้ยง” เซี่ยกวงไห่กล่าวอย่างปวดหัว

“ใครเป็นคนกำหนดล่ะครับว่านักรบฝั่งเทพจะเลี้ยงหนอนด้วงมิติไม่ได้ ว่าแต่คนอื่น ๆ ล่ะครับ ไปไหนกันหมดแล้ว?” เซี่ยเฟยกล่าว

เซี่ยกวงไห่รีบกดส่งสัญญาณผ่านเครื่องสื่อสาร ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานนักรบสกายวิงทั้งหมดก็ได้มารวมตัวกัน

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้เห็นแท่งทอง ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างประหลาดใจ เพราะหนึ่งคือพวกเขาไม่เคยเห็นหนอนด้วงมิติตัวสีทองมาก่อน และสองมันไม่มีนักรบเทพคนไหนเอาหนอนด้วงมิติมาเลี้ยงเหมือนเซี่ยเฟย

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ได้เล่าความเป็นมาถึงเรื่องที่เขาได้ไปเจอแท่งทองโดยบังเอิญ แน่นอนว่าเขาย่อมละเว้นเรื่องของกฎแห่งความโกลาหลที่เขาผสมน้ำยาให้มันกิน

หลังจากได้ยินเรื่องที่แท่งทองพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด ดวงตาของนักรบสกายวิงทุกคนต่างก็มองไปยังหนอนด้วงตัวใหญ่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม ท้ายที่สุดสกายวิงทุกคนต่างก็ชื่นชมผู้ซึ่งมีบุคลิกไม่ยอมแพ้ พวกเขาจึงไม่ได้มองหนอนด้วงตัวนี้อย่างหวาดระแวงอีกต่อไป

“ดีแล้วที่นายผูกมิตรกับหนอนด้วงมิติเอาไว้ได้ เชื่อว่าในอนาคตมันจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวนายและต่อตระกูลของพวกเรา” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร เพราะทุกคนรู้ดีว่าสงครามกับดาร์คไนท์กำลังจะใกล้เข้ามา การมีหนอนด้วงมิติอยู่ในตระกูลย่อมเพิ่มจุดแข็งให้กับพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

“ว่าแต่ด้านในชั้นป้องกันมันเป็นอะไรกันแน่? นายได้เจอกับอาวุธมายาหรือเปล่า?” เซี่ยเหลียนหนิงกล่าวถามอย่างไม่มั่นใจ

“ผมได้เจอกับต้นสนไร้วันสลายและผมก็พิชิตมันมาได้แล้วครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ

“อะไรนะ?! นายพิชิตมันได้แล้วงั้นเหรอ” เซี่ยกวงไห่อุทานขึ้นมาอย่างตกใจ

“ใช่ครับ ผมไม่เพียงแต่พิชิตมันได้เท่านั้น แต่ผมยังได้ของแปลก ๆ กลับมาด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวก่อนที่เขาจะหยิบลูกแก้วสีดำที่อยู่บริเวณหัวของคางคกยักษ์ออกมาโชว์

“นี่มัน…”

“เซี่ยเฟยนายจะโชคดีเกินไปแล้ว!” ทั้งเซี่ยเค่อและเซี่ยเหลียนหนิงต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยแววตาที่เป็นประกาย

***************

ระดมพลังสมองทั้งหมดเพื่อคิดชื่อหนอนน้อยตัวนี้ หวังว่าทุกคนจะชอบนะเพราะชื่อมันตรงตัวถึงลักษณะร่างกายพอดีเลย ^^

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.