ตอนที่ 847 นอนด้วงมิติตาเดียว

หนอนด้วงมิติที่ลอยผ่านหน้าเซี่ยเฟยมานั้นดูน่าสงสารมาก และขนาดลำตัวของมันก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่านิ้วก้อยของชายหนุ่มเลย

เซี่ยเฟยคว้ามือออกไปจับหนอนด้วงมิติตัวน้อยเอาไว้ด้วยความสนใจ เพราะถึงแม้เขาจะเคยเห็นหนอนด้วงมิติที่มีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรมาแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเห็นหนอนด้วงมิติตัวเล็กขนาดนี้มาก่อน

เมื่อพิจารณาดูใกล้ ๆ มันก็เป็นเพียงแค่หนอนด้วงมิติธรรมดาที่มีดวงตาอยู่เพียงแค่ลูกเดียว แต่ท่าทางของมันดูเหมือนกับว่ามันใกล้จะตายเต็มที มันจึงนอนหมดสติอยู่ในมือของชายหนุ่มอย่างน่าสงสาร

“ตาเดียว? ปกติยิ่งหนอนด้วงมิติมีดวงตามากเท่าไหร่ พวกมันก็จะยิ่งมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น หนอนด้วงมิติที่อยู่ในมือนายถือว่าเป็นหนอนด้วงมิติที่อ่อนแอมากที่สุด ถึงแม้มันจะถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดี แต่มันก็คงจะมีความยาวได้เพียงแค่ไม่กี่เมตร นายรีบปล่อยมันไปเถอะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับนายในอนาคตหรอก”

“ถ้าหากฉันเกิดใหม่เดี๋ยวฉันจะให้นายได้เห็นราชาหนอนด้วงมิติ มันคือหนอนด้วงที่มีดวงตามากกว่า 10,000 ดวงและทั้วทั้งตัวของมันก็เป็นสีทองอร่าม หนอนด้วงมิติของฉันสามารถที่จะกัดทำลายหนอนด้วงมิติของฮีธฟิลด์ให้เป็นชิ้น ๆ ได้ในคราวเดียว” 

“นี่คือเหตุผลที่ฉันบอกว่าทำไมยิ่งหนอนด้วงมิติมีจำนวนดวงตามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีศักยภาพในการเติบโตมากเท่านั้น” โอโร่กล่าว

เผ่ามารมีประเพณีในการเลี้ยงหนอนด้วงมิติ และโอโร่ก็ถือว่ามีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากพอสมควร เขาจึงคิดว่าเซี่ยเฟยให้ความสนใจหนอนด้วงมิติหลังจากได้เห็นหนอนด้วงมิติของฮีธฟิลด์ และเขาก็กำลังคิดที่จะเก็บหนอนด้วงตาเดียวตัวนี้ไปเลี้ยงดู

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยก็กำลังคิดแผนการนี้อยู่เหมือนกัน เพราะไม่ว่านักรบจะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างมิติด้วยตัวเองได้อยู่ดี 

ไม่ว่ายังไงชายหนุ่มก็มักที่จะมีนิสัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต การเตรียมตัวเดินทางในช่องว่างมิติจึงถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาอยากจะเตรียมพร้อมเอาไว้ด้วยเช่นกัน 

ด้วยเหตุนี้การเลี้ยงหนอนด้วงมิติเอาไว้สักตัวมันก็คงจะไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะใครจะไปรู้ว่าในอนาคตเขาอาจจะต้องกลับมาเดินทางในช่องว่างมิติอีกครั้งหนึ่งก็ได้

อย่างไรก็ตามโอโร่ก็ดูถูกหนอนด้วงตาเดียวที่กำลังจะตายภายในมือของเซี่ยเฟยอย่างชัดเจน แม้แต่ขนอุยก็กำลังจ้องมองมายังหนอนตัวเล็กตัวนี้ด้วยแววตาอันเย็นชา

หนอนด้วงตัวน้อยภายในมือของชายหนุ่มตัวสั่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ดวงตาเพียงดวงเดียวของมันยังคงปิดสนิท ปากของมันพยายามจะขยับเพื่อส่งเสียง แต่น่าเสียดายที่มันไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้กระทั่งเอาไว้ส่งเสียงได้ด้วยซ้ำ

เซี่ยเฟยเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความสนใจ เนื่องจากมันเห็นได้ชัดเลยว่าหนอนด้วงมิติตัวนี้ยังไม่ยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ เพราะถึงแม้ว่ามันกำลังจะตายแต่มันก็ยังคงพยายามดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดต่อไป

สถานการณ์ของหนอนด้วงตัวน้อยทำให้เขานึกถึงวันที่เขาได้ดื่มน้ำยาปรับสภาพยีนเข้าไปในครั้งแรก หากตอนนั้นเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอันธ เขาก็คงจะตายหายจากจักรวาลนี้ไปตั้งนานแล้ว

การพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดของหนอนด้วงตัวน้อยจึงทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกเห็นใจ เขาจึงใช้นิ้วแตะแหวนมิติเบา ๆ เพื่อหยิบขวดน้ำยาสีฟ้าออกมาหยดลงบนตัวของหนอนด้วงมิติตัวน้อย

“นั่นนายกำลังทำอะไร?” โอโร่ถาม

“พยายามจะช่วยมัน” เซี่ยเฟยตอบตรง ๆ

“ฉันบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันคือหนอนด้วงมิติที่มีศักยภาพต่ำที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะรอดชีวิตแต่ก็ไม่มีใครอยากจะได้มันเอาไปเลี้ยงหรอก” โอโร่กล่าวอย่างไม่เข้าใจ

เซี่ยเฟยยังคงเพิกเฉยต่อคำพูดของอดีตจอมมาร จากนั้นเขาก็หยิบน้ำยาขวดสีทองออกมาอีกขวดและทำการหยดน้ำยาลงบนร่างหนอนด้วงตัวน้อย

เมื่อน้ำยาทั้งสองชนิดผสมกัน มันก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอันรุนแรงขึ้นมา หนอนด้วงมิติตัวน้อยเริ่มตัวสั่นมากยิ่งขึ้นคล้ายกับว่ามันกำลังเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

“นั่นนายช่วยมันหรือพยายามจะฆ่ามันกันแน่?” โอโร่กล่าว

“สภาพร่างกายของมันในตอนนี้ย่ำแย่มาก ผมเลยจำเป็นจะต้องให้ยาแรงกับมันไป ส่วนเจ้าตัวน้อยนี่จะคลานกลับมาจากประตูนรกได้หรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของมันเอง” เซี่ยเฟยกล่าว จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ใส่หนอนด้วงมิติเข้าไปในชุดเกราะและสังเกตสถานการณ์เพื่อหาทางเข้าไปยังซีเครดสปริงต่อไป

เหล่าบรรดานักรบไลอ้อนฮาร์ทกว่า 100 คนยังคงจ้องไปยังทางเข้าซีเครดสปริงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในตอนนี้มันก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ คล้ายกับว่านักรบที่อาศัยอยู่ทางด้านในไม่กล้าจะออกมาทำการต่อสู้

ทันใดนั้นเงาดำเป็นจำนวนมากก็เคลื่อนที่ออกมาจากซีเครดสปริง ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังผสมกับกองกำลังไลอ้อนฮาร์ท

กองกำลังจากเผ่าไลอ้อนฮาร์ทได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาจึงตั้งกระบวนทัพกันอย่างเป็นระเบียบ แตกต่างจากกองกำลังจากซีเครดสปริงที่ดูเหมือนจะเกิดจากการรวมตัวกันอย่างหลวม ๆ แต่ถึงกระนั้นจำนวนของพวกเขาก็มีไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

ภายในกองกำลังของซีเครดสปริงประกอบไปด้วยสมาชิกหลากหลายเผ่าพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่ภายใต้เขตแดนของเผ่ามาร แต่มันก็มีสมาชิกจากเผ่าพันธุ์ในเขตแดนเทพรวมอยู่ในกองกำลังเหล่านั้นด้วย

“คนจากซีเครดสปริงโจมตีพวกเราเมื่อ 2-3 วันก่อนและทำให้สมาชิกของเราได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉันมาที่นี่เพื่อมาเรียกร้องหาความยุติธรรม รีบส่งมอบตัวผู้กระทำความผิดออกมาใน 3 นาที ไม่อย่างนั้นพวกเราจะได้เห็นดีกัน!” ฮีธฟิลด์ก้าวเท้าไปข้างหน้าและตะโกนออกไปเสียงดัง

ทันทีที่เขาพูดจบจิตสังหารจากนักรบไลอ้อนฮาร์ทก็ถูกแผ่ขยายออกไปอย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนต่างก็เชื่อว่าเรื่องที่ฮีธฟิลด์พูดเป็นเรื่องจริง พวกเขาจึงจับจ้องมองไปยังคนจากซีเครดสปริงด้วยความโกรธ

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง เพราะฮีธฟิลด์เพียงแค่ต้องการพยายามหาข้ออ้างให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาเท่านั้น

ในทางกลับกันเหล่าบรรดานักรบจากซีเครดสปริงก็กำลังตกอยู่ในความสับสน ก่อนที่มันจะมีเสียง ๆ หนึ่งดังออกมาจากกลุ่มนักรบทางฝั่งซีเครดสปริง

“พวกเราไม่เคยแตะต้องคนของไลอ้อนฮาร์ท ที่พวกคุณมาที่นี่ในวันนี้มันเป็นเพราะพวกคุณมีเรื่องอื่นที่ต้องการใช่ไหม?”

ทันทีที่เสียงนี้จบลง นักรบคนอื่น ๆ จากทางฝั่งซีเครดสปริงก็เริ่มส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจด้วยเช่นกัน

“ถ้าอยากจะสู้ก็แค่สู้ ไม่ต้องมาพูดจาไร้สาระ!”

“อย่าคิดว่าพวกเราจะกลัวเพียงเพราะพวกแกคือไลอ้อนฮาร์ท!!”

ทันใดนั้นมันก็มีร่างของชายชรา 2 คนลอยออกมาด้านหน้าของกลุ่มนักรบซีเครดสปริง โดยชายชราคนหนึ่งมีร่างสูง ขณะที่ชายชราอีกคนหนึ่งมีร่างเตี้ย และเมื่อพิจารณาจากท่าทางของพวกเขาแล้ว มันก็ดูคล้ายกับว่าพวกเขาจะเป็นผู้นำของกลุ่มนักรบเหล่านี้

“ทางเข้าซีเครดสปริงจะถูกปกป้องจากจักรพรรดิกฎ 2 คน ตอนนี้พวกเขาถูกล่อออกมาแล้ว เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นนายก็รีบหาทางเข้าไปในซีเครดสปริงได้เลย” โอโร่กล่าว

ที่แท้การพยายามเข้าสู่ซีเครดสปริงจำเป็นจะต้องผ่านจักรพรรดิกฎไปให้ได้เสียก่อน มันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมโอโร่ถึงให้เขาไปร้องขอความช่วยเหลือจากฮีธฟิลด์แบบนี้ เพราะการพยายามบุกฝ่าจักรพรรดิกฎ 2 คนก็เป็นเรื่องที่ยากมาก เรื่องนี้มันจึงเป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถจะทำคนเดียวได้

“พวกแกยังเหลือเวลาอีก 1 นาที รีบส่งตัวคนผิดออกมาซะ! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกเราไร้ปรานี” ฮีธฟิลด์ยังคงแสดงความกล้าหาญออกไป โดยหวังว่าเซี่ยเฟยจะบอกเล่าความกล้าหาญของเขาให้กับโอโร่

จักรพรรดิกฎทั้งสองของทางฝั่งซีเครดสปริงขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขากับไลอ้อนฮาร์ทไม่เคยมีความบาดหมางกันมาก่อน แต่จู่ ๆ คนของไลอ้อนฮาร์ทกลับมาหาเรื่องพวกเขาอย่างฉับพลัน แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าความขัดแย้งในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

“หมดเวลา! พี่น้องฆ่าพวกมันซะ!!” ในระหว่างที่จักรพรรดิกฎทั้งสองกำลังรู้สึกสับสน ฮีธฟิลด์ก็ส่งเสียงตะโกนออกคำสั่งให้กองกำลังเริ่มโจมตี

เหล่าบรรดานักรบจากซีเครดสปริงยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ฮีธฟิลด์ให้เวลาพวกเขามา เวลาเพิ่งจะผ่านพ้นไปเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าเวลาครบกำหนด 3 นาทีเรียบร้อยแล้ว

พริบตาต่อมาพื้นที่บริเวณตรงหน้าทางเข้าซีเครดสปริงก็กลายเป็นสนามรบที่มีเสียงปะทะดังขึ้นทุกที่

โอกาสมาแล้ว!

เซี่ยเฟยใช้เท้าถีบพื้นอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามออกวิ่งตรงไปยังทางเข้าซีเครดสปริง

ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นถูกระเบิดไอพ่นออกมาอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของชายหนุ่มเป็นเพียงแค่เงาดำจาง ๆ ที่พุ่งผ่านเข้าไปยังทางเข้าซีเครดสปริงโดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น

ตลอดเส้นทางการเข้ามาในซีเครดสปริงมีนักรบที่คอยคุ้มกันทางเข้าอยู่อีกหลายคน แต่น่าเสียดายที่นักรบพวกนั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังระดับต่ำ และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งความเร็วของเซี่ยเฟยที่เกินกว่า 480,000 เมตรต่อวินาทีได้

บลัดบิวเทียสตวัดกวัดแกว่งออกไปตลอดทาง ก่อให้เกิดซากศพที่แห้งเหี่ยวขึ้นมา 100 ศพ ซึ่งคนทั้งหมดต่างก็ล้วนแล้วแต่ถูกสังหารภายใต้การฟาดฟันเพียงแค่ครั้งเดียว

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็รู้สึกว่ากำแพงโดยรอบเริ่มเคลื่อนที่เร็วขึ้นและทางเดินมันก็เริ่มหดตัวเล็กลง

ทางเข้าซีเครดสปริงถูกสร้างขึ้นภายในหัวใจขนาดใหญ่ เส้นทางเดินที่เขากำลังวิ่งอยู่นี้จึงเต็มไปด้วยเลือดเนื้ออย่างมากมาย ไม่ต่างไปจากการที่เขากำลังวิ่งอยู่ในอวัยวะภายในของสัตว์ประหลาดสักตัว

“เราถูกเจอตัวแล้ว เตรียมตัวรับกับดักเร็วเข้า!” โอโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด

กับดัก?

เซี่ยเฟยชะงักค้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะได้เห็นลำแสงสีขาวพุ่งออกมาจากในระยะไกล

เล่ห์กายา!

ชายหนุ่มบิดร่างหลบออกไปทางด้านข้างอย่างรุนแรง หลบเลี่ยงลำแสงด้วยท่าทางอันน่าเหลือเชื่อ น่าเสียดายที่ผนังเนื้อโดยรอบกำลังบีบตัวเข้ามา แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าทางเข้าสู่ซีเครดสปริงกำลังจะปิดตัวลง

นอกจากนี้ลำแสงสีขาวยังไม่มีการแยกแยะระหว่างมิตรกับศัตรู มันจึงทำให้เหล่าบรรดานักรบที่คอยปกป้องทางเข้าอยู่ต่างก็ถูกสังหารลงไปเป็นจำนวนมาก

“รีบวิ่งเร็วเข้า! อย่าติดกับดักของมันเด็ดขาด!!” โอโร่ตะโกน

เซี่ยเฟยกัดฟันก่อนที่จะเร่งความเร็วไปจนถึงขีดจำกัด

หงส์คราม!

เซี่ยเฟยเรียกใช้อาวุธมายาออกมายื่นมันออกไปยังด้านหน้า เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับสว่านขนาดใหญ่เพื่อคอยเปิดทางให้เขาเคลื่อนไหวอย่างสะดวก

ในเมื่อมันไม่มีถนน เขาก็จะทำการขุดถนนขึ้นมาให้กับตัวเอง!

***************

เป็นทางเข้าที่น่าขนลุกอยู่นะ บรื๋อ!