ตอนที่ 813 กลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพู
ตอนที่ 813 กลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพู
ราชากฎระดับสูงคนใหม่ของสกายวิงได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว
ความแตกต่างระหว่างราชากฎธรรมดากับราชากฎระดับสูงเป็นเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากที่เซี่ยเฟยเก็บตัวฝึกฝนอยู่ได้ 11 วัน เขาก็ไม่เพียงแต่จะสามารถปลดปล่อยจิตอสูรอันแข็งแกร่งออกมาได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถพัฒนาพลังจนกลายเป็นราชากฎระดับสูงแล้วอีกด้วย
“ดีมาก! นายสามารถทะลวงผ่านอุปสรรคกลายมาเป็นราชากฎระดับสูงได้ในเวลาเพียงแค่ 11 วันเท่านั้น”
“กฎแห่งความเร็วเป็นกฎย่อยที่ถูกแยกออกมาจากกฎมิติ ยิ่งนายสามารถพัฒนาพลังของกฎมิติได้มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งช่วยสนับสนุนกฎแห่งความเร็วของนายให้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น”
“เมื่อนายเริ่มฝึกกฎแห่งความเร็วในตอนที่พลังอยู่ในระดับราชากฎขั้นสูง มันก็จะให้ความแตกต่างจากการฝึกกฎแห่งความเร็วในตอนที่นายมีพลังอยู่ในระดับราชากฎขั้นต้นอย่างสิ้นเชิง” เซี่ยเทียนกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น และถึงแม้ว่าในปัจจุบันเขาจะยังคงสวมใส่แว่นตาอยู่ แต่จิตอสูรอันบ้าคลั่งของเขาก็เริ่มที่จะปลดปล่อยแรงกดดันออกมาบ้างแล้ว
ในเวลานี้เซี่ยเสี่ยวโป้, เซี่ยหลานซานและเซี่ยอู๋เย่ที่อยู่นอกประตูห้องฝึกก็เดินเข้ามาแสดงความยินดีกับเซี่ยเฟยอย่างถ้วนหน้า หลังจากที่ชายหนุ่มสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในครั้งนี้จนกลายเป็นราชากฎระดับสูงได้
“ยินดีด้วย ตอนนี้คุณได้ทำลายกำแพงราชากฎระดับสูงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้คุณจะกลายเป็นกองกำลังหลักที่แท้จริงของตระกูล” เซี่ยอู๋เย่กล่าวอย่างตื่นเต้น
“ถึงแม้ว่าระดับพลังของกฎมิติของผมจะก้าวหน้า แต่กฎความเร็วของผมยังพึ่งเริ่มต้น ตอนนี้ความเร็วของผมยังคงเชื่องช้ากว่าคนอื่น ๆ อยู่มากครับ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างถ่อมตัว
อย่างไรก็ตามคำตอบของชายหนุ่มก็ทำให้คนอื่นรู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อย เพราะเซี่ยเฟยคือผู้ที่เริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วด้วยพลังพิเศษขั้นสูงสุด พรสวรรค์ของชายหนุ่มคนนี้จึงอยู่เหนือเกินกว่าแม้กระทั่งเซี่ยบูหยุนซึ่งเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน แล้วมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาก่อนที่ความเร็วของเซี่ยเฟยจะก้าวนำหน้าคนอื่น ๆ ภายในตระกูลไป
ขณะเดียวกันแม้ว่าปัจจุบันเซี่ยเฟยจะเพิ่งเริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วได้สำเร็จเพียงแค่ขั้นที่ 1 เท่านั้น แต่ความเร็วของเขาก็เกินกว่า 240,000 เมตรต่อวินาทีแล้ว ซึ่งมันเทียบเท่าได้กับนักรบคนอื่นที่ฝึกฝนกฎแห่งความเร็วไปจนถึงขั้นที่ 3 หรือขั้นที่ 4
“เอาล่ะในเมื่อนายพูดถึงความเร็วแล้ว ทำไมพวกเราถึงไม่เริ่มฝึกกฎแห่งความเร็วตั้งแต่ตอนนี้เลยล่ะ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าถ้านายสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคครั้งสำคัญได้ในเวลาเพียงแค่ 11 วัน นายจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเพิ่มพลังของกฎแห่งความเร็ว” เซี่ยเทียนตะโกนออกมาเสียงดัง
การฝึกฝนอันบ้าคลั่งของเซี่ยเฟยทำให้เซี่ยหลานซานกับเซี่ยเสี่ยวโป้สะดุ้งขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และพวกเขาก็อยากจะถอยไปเพื่อเก็บตัวฝึกตั้งแต่ตอนนี้เลย
ความสำเร็จของเซี่ยเฟยทำให้นักรบทุกคนหันมามองตัวเองใหม่อีกครั้ง และมันก็สร้างแรงกดดันจนทำให้นักรบสกายวิงเริ่มกลับมาฝึกฝนอย่างจริงจัง
ปกตินักรบสกายวิงมักจะมีนิสัยรักอิสระและไร้ระเบียบวินัยมาโดยตลอด แต่การมาถึงของเซี่ยเฟยค่อย ๆ เปลี่ยนพฤติกรรมของทุกคนไป แม้ว่าพวกเขาจะรักอิสระแต่พวกเขาก็มีความชื่นชอบในเรื่องของการแข่งขันด้วยเช่นกัน และถึงแม้ว่ามันจะไม่มีใครคาดหวังที่จะแซงหน้าความเร็วในการฝึกของเซี่ยเฟย แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยากจะพ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มคนนี้อย่างน่าเกลียดมากเกินไป
“ได้ครับ พวกเรามาเริ่มฝึกกฎแห่งความเร็วกันตั้งแต่ตอนนี้เลย” เซี่ยเฟยตะโกนด้วยพลังใจอันเต็มเปี่ยม
“บรรพบุรุษบอกว่าการฝึกฝนควรเป็นไปตามลำดับขั้น ตอนนี้คุณได้พัฒนากลายเป็นราชากฎระดับสูงตามที่พวกเราได้ตกลงกันเอาไว้ก่อนแล้ว ลำดับต่อไปคุณก็ควรจะไปหาเซี่ยเหล่าสือเพื่อฝึกฝนเรื่องการกลั่นพลังงานและการประดิษฐ์” เซี่ยอู๋เย่กล่าวขึ้นมาอย่างลังเล
เมื่อได้ยินชื่อของเซี่ยเหล่าสือแม้แต่ราชากฎคนใหม่อย่างเซี่ยเสี่ยวโป้ก็ยังหน้าซีดขึ้นมาโดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะกว่าที่เขาจะฝึกฝนมาจนถึงระดับนี้เขาก็ถูกบังคับให้ต้องกู้หนี้ยืมสินเป็นเงินจำนวนมาก เซี่ยเสี่ยวโป้จึงกังวลว่าถึงแม้เขาจะหาเงินมาได้ตลอดชีวิต แต่เงินจำนวนนั้นมันก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะเอาไปจ่ายหนี้ของเซี่ยเหล่าสือได้ด้วยซ้ำ
นักรบทุกคนที่สำเร็จการฝึกมาจากศูนย์ฝึกสายลมต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนี้เซี่ยเหล่าสือด้วยกันทั้งหมด ยกเว้นเซี่ยเฟยเพียงคนเดียวที่ไม่เพียงเขาจะไม่ได้เป็นหนี้เซี่ยเหล่าสือเท่านั้น แต่เขายังเกือบทำให้ชายชราล้มละลายมาแล้วครั้งหนึ่งอีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาในปัจจุบันจึงไม่ค่อยจะดีมากเท่าไหร่นัก
เมื่อคิดว่าหลังจากนี้เขาจะต้องกลับไปฝึกกับเซี่ยเหล่าสืออีกครั้ง เซี่ยเฟยก็เริ่มไม่มั่นใจว่าเขาจะต้องปฏิบัติตัวยังไงกับชายชราคนนั้นดี
“หากตีเหล็กก็ต้องตีตอนที่มันยังร้อน ๆ เราควรให้เซี่ยเฟยฝึกจนสำเร็จกฎแห่งความเร็วขั้นที่ 2 ก่อนแล้วค่อยไปฝึกเรื่องอื่นในภายหลัง” เซี่ยเทียนกล่าวอย่างเคร่งขรึม
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเขากับเซี่ยเฟยมีนิสัยบ้าคลั่งคล้าย ๆ กัน ชายชราผู้สวมแว่นตาคนนี้จึงจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
—
แม้ว่าการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะเป็นเรื่องดี แต่มันก็จำเป็นจะต้องมีการพักผ่อนที่เพียงพอด้วยเช่นกัน เซี่ยเทียนจึงบังคับให้เซี่ยเฟยทำการพักผ่อนเป็นเวลา 1 วัน ก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วในวันพรุ่งนี้
เซี่ยเฟยใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับพลังใหม่เป็นเวลาครึ่งวัน ก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังบ้านของฮัวหยูตงเพื่อติดตามเรื่องการสร้างค้อนรวมศูนย์
ค้อนรวมศูนย์คืออุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้เขาได้รับอาวุธชั้นยอด แม้ว่าตระกูลจะมีแผนให้เขาเรียนรู้เรื่องการประดิษฐ์ด้วยเช่นกัน แต่เรื่องนั้นมันก็เป็นแผนการในระยะยาว ช่วงเวลานี้ชายหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องพึ่งพาฮัวหยูตงให้สร้างค้อนรวมศูนย์ขึ้นมาให้กับเขาก่อน
หลังจากชายหนุ่มเดินเข้าไปภายในมิติพิเศษที่ถูกสร้างเอาไว้สำหรับการผลิตค้อนรวมศูนย์ เขาก็ได้เห็นว่าต้นแบบของค้อนรวมศูนย์ถูกสร้างขึ้นมาเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ค้อนรวมศูนย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากฮัวหยูตงมีขนาดเล็กกว่าค้อนรวมศูนย์ที่เขาได้พบในเมืองอีกาดำ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไปบ้าง แต่นี่ก็คือค้อนรวมศูนย์ระดับสูงที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถหาได้ในตอนนี้แล้ว
ฮัวหยูตงเดินเข้ามาหาเซี่ยเฟยด้วยท่าทางที่เย็นชากว่าเดิม ชายหนุ่มจึงใช้โอกาสนี้ในการปฏิบัติตัวต่อชายชราด้วยความเคารพ และคอยมอบของขวัญพูดจาเอาอกเอาใจคล้ายกับครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน มันจึงทำให้ฮัวหยูตงค่อย ๆ ผ่อนคลายความตึงเครียดของเขาลง
“ฉันสร้างค้อนรวมศูนย์ชุดนี้ขึ้นมาตามวิธีแบบโบราณ ถึงแม้ว่ามันจะซับซ้อนกว่าปกติเล็กน้อยแต่มันก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพขึ้นมามากกว่าเดิมพอสมควร ฉันคิดว่าทุกอย่างควรจะเสร็จสมบูรณ์ในเวลาอีกประมาณครึ่งเดือน” ฮัวหยูตงกล่าว
“ขอบคุณผู้อาวุโสมากครับที่ช่วยทำงานหนักให้ผมถึงขนาดนี้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับโค้งคำนับด้วยความขอบคุณ
‘มันไม่ใช่เพราะนายหรือไงที่ทำให้ฉันต้องโหมทำงานหนักขนาดนี้ นายรู้ไหมว่าช่วงนี้ฉันนอนไม่ค่อยหลับ เพราะฝันว่าลูกหลานของตระกูลซานจะมามาทวงชุดเกราะไปจากฉัน’ ฮัวหยูตงแอบสาปแช่งเซี่ยเฟยภายในใจ
“นี่นายคิดจะเปิดใช้ค้อนรวมศูนย์ด้วยตัวเองจริง ๆ งั้นเหรอ? ค้อนรวมศูนย์ระดับนี้มันจำเป็นจะต้องใช้พลังในระดับราชากฎขั้นสูงเลยนะ หากว่ามันเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาความพยายามทั้งหมดของเรามันก็จะหลงเหลือแต่เพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น” ฮัวหยูตงกล่าว
“บังเอิญจริง ๆ เมื่อไม่นานมานี้ผมเพิ่งเลื่อนระดับกลายเป็นราชากฎขั้นสูงได้พอดีเลย แบบนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วใช่ไหมครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ! นายกลายเป็นราชากฎขั้นสูงแล้วงั้นหรอ!!”
—
เซี่ยเฟยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าเขาจะใช้อาวุธอะไรเป็นตัวตั้งต้นสำหรับการใช้ค้อนรวมศูนย์ในครั้งนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นดาบดราก้อนสเกล, หิมะโปรยและวิญญาณหวนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเขาทั้งสิ้น
‘หรือว่าฉันควรจะเสริมพลังให้กับบลัดบิวเทียสดี... ไม่ได้สิ ตอนนี้บลัดบิวเทียสสำคัญมากเกินไป ฉันจะสูญเสียมันไปไม่ได้เป็นอันขาด’ เซี่ยเฟยคิดในใจอย่างเงียบ ๆ
แต่ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังคิดอยู่นั่นเอง เข็มทิศมิติของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน ก่อนที่เขาจะได้พบว่าเฟอร์นันผู้ซึ่งเป็นผู้นำคนที่ 3 ของสมาคมอาชาดำเป็นคนติดต่อเขามา
“นายน้อยเฟย ภารกิจที่คุณให้พวกเรามาในตอนนี้เป็นงานที่หนักมาก แต่ในที่สุดเราก็ได้รับข้อมูลมาแล้วว่าใครเป็นคนเอาหน้ากากโบราณไปวางขายภายในงานของสมาคมวิหคดำ” ทันทีที่เซี่ยเฟยรับสายเฟอร์นันก็เริ่มบ่นออกมา
คำตอบนี้ทำให้เซี่ยเฟยชะงักค้างไปเล็กน้อย เพราะเขาสงสัยมาโดยตลอดว่าคนที่ส่งหน้ากากโบราณไปในงานกับคนที่ขโมยกฎแห่งเวลาไปย่อมจะต้องเป็นคนกลุ่มเดียวกัน เมื่อในตอนนี้มันได้มีข่าวเรื่องหน้ากากโบราณ มันก็หมายความว่าเขามีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งเวลาด้วยเช่นกัน
“สรุปพวกมันเป็นใคร?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“คนที่นำหน้ากากโบราณไปวางขายคือกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพู” เฟอร์นันกระซิบตอบเบา ๆ
“กลุ่มทหารรับจ้าง? ทำไมมันถึงกลายเป็นกลุ่มทหารรับจ้างได้?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“กลุ่มทหารรับจ้างถือว่าเป็นกองกำลังหลักในแดนเนรเทศ คนพวกนี้ยินดีจะทำงานทุกอย่างตราบใดก็ตามที่พวกเขาได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม บางทีคนพวกนี้อาจจะถูกจ้างวานมาให้นำหน้ากากโบราณออกไปวางขายที่งานของพวกวิหคดำก็ได้” เฟอร์นันกล่าว
“คุณพอจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพูกับพวกกลุ่มโจรเอนเชียนวินด์หรือเปล่า?” เซี่ยเฟยถามอีกครั้ง
“กลุ่มโจเอนเชียนวินด์งั้นเหรอ? อย่างมากที่สุดพวกเขาก็คงจะเคยจ้างพวกทหารรับจ้างไปในภารกิจคุ้มกัน ส่วนรายละเอียดเรื่องอื่น ๆ ผมไม่รู้เรื่องเลย” เฟอร์นันกล่าวอย่างประหลาดใจ
“ส่งข้อมูลทั้งหมดที่คุณมีอยู่มาดีกว่า อย่าให้ถึงขั้นที่ฉันจะต้องไปคาดคั้นข้อมูลจากพวกคุณเลย” เซี่ยเฟยกล่าว
เฟอร์นันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
—
“เรื่องนี้มันจะซับซ้อนมากจนเกินไปแล้ว หากเรื่องนี้มีแดนเนรเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง นายก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ ท้ายที่สุดพวกเขาก็คือกองกำลังอันดับ 3 ของดินแดนกฎเชียวนะ และกองกำลังของพวกเขาก็เป็นกองกำลังที่มีความซับซ้อนมากที่สุดอีกด้วย” โอโร่กล่าวหลังจากที่เขาได้อ่านข้อมูลของเฟอร์นัน
“พวกทหารรับจ้างปีศาจสีชมพูอาจจะรับงานจากใครมาก็ได้ หากว่าพวกเขาเป็นคนได้รับกฎแห่งเวลาไปจริง ๆ ตอนนี้กฎแห่งเวลาก็คงจะถูกส่งมอบต่อไปให้กับคนอื่นแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าว
เมื่อมีกลุ่มทหารรับจ้างเข้ามาเป็นตัวกลาง มันก็ทำให้เบาะแสที่มีลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ถึงขั้นที่ทำให้เซี่ยเฟยไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำการสืบหาเพิ่มเติมไปทางไหน
“ไม่ว่ายังไงเราก็จะยอมแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด พวกเราไปหาพวกกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพูกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยแววตาอันเย็นชา
แดนเนรเทศไม่ได้เป็นเพียงแค่อาณาเขตของกลุ่มทหารรับจ้างเท่านั้น แต่มันยังเป็นอาณาเขตของพวกซุยเซนซึ่งเป็นกลุ่มสายลับที่โด่งดังที่สุดในดินแดนกฎอีกด้วย
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 353
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น