ตอนที่ 782 เฮเลน

-A A +A

ตอนที่ 782 เฮเลน

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 782 เฮเลน

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าข้อเสนอแนะของเทพขาวดำเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเซี่ยเฟยมาก เพราะนับตั้งแต่ที่เขาได้รับบลัดบิวเทียสมา มันก็กลายเป็นอาวุธหลักสำหรับเขามาโดยตลอด

ความสามารถในการดูดเลือดของบลัดบิวเทียสเป็นความสามารถที่โดดเด่นเกินกว่าอาวุธใด ๆ ของเขาทั้งหมด จนทำให้ในปัจจุบันเขาแทบที่จะไม่ได้ใช้หิมะโปรยหรือแม้กระทั่งวิญญาณหวนในการต่อสู้อีกต่อไปแล้ว

หากว่าเขาสามารถใช้ค้อนรวมศูนย์เพื่อหลอมรวมลูกแก้วอสูรเข้ากับบลัดบิวเทียสได้ มันย่อมเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วถึงแม้ว่าการหลอมรวมอาวุธแบบซ้ำซ้อนจะมีความเสี่ยงสูงมาก แต่มันก็อาจจะหมายถึงการที่เขามีโอกาสได้รับอาวุธที่ท้าทายสวรรค์กลับมาด้วยเช่นเดียวกัน

“ข้อเสนอของคุณน่าสนใจจริง ๆ แต่ผมไม่รู้ว่านักประดิษฐ์คนไหนที่ผมพอจะเชื่อถือได้บ้าง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“นั่นสินะ ปกติยิ่งพวกนักประดิษฐ์มีระดับสูงเท่าไหร่ พวกเขาจะยิ่งมีเล่ห์เหลี่ยมสูงมากขึ้นเท่านั้น เอาเป็นว่าฉันจะแนะนำคนคนหนึ่งให้นายได้รู้จักก็แล้วกัน ส่วนนายจะโน้มน้าวให้เขามาช่วยนายได้หรือไม่ เรื่องนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนายเอง” เทพดำกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

คำตอบของเทพดำทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็รู้ดีว่าการสร้างค้อนรวมศูนย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากและมันก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เสี่ยงเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้

“เอาล่ะถึงเวลาที่พวกเราจะต้องจากกันแล้ว สนามรบโบราณยังคงอยู่ห่างไกลจากสิ่งที่พวกเราจินตนาการเอาไว้ หลังจากที่นายจากไปพวกเราก็จะออกเดินทางไปจากที่นี่ด้วยเหมือนกัน” เทพขาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“หวังว่าพวกเราจะได้พบกันใหม่นะครับ ขอให้พวกคุณโชคดี” เซี่ยเฟยกล่าว

“ถ้ามีข่าวอะไรฉันจะติดต่อนายผ่านทางเข็มทิศมิติก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นนายก็ไม่มีทางที่จะหาพวกเราเจอหรอก” สองพี่น้องเทพขาวดำต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน

“เขาเป็นเด็กที่มีแววมากเลยนะ พวกเราสมควรจะชวนเขามาอยู่กับพวกเราดีไหม?” เทพดำกล่าวกับเทพขาวหลังจากที่เซี่ยเฟยกลับไปแล้ว

“ใจเย็น ๆ อย่าลืมนะว่าเป้าหมายของพวกเราคือประตูจักรวาล บางทีเซี่ยเฟยอาจจะมีเป้าหมายอื่นอยู่ก็ได้ อีกอย่างตอนนี้พลังของเขายังไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรพวกเราได้มากนัก เราค่อย ๆ ดูเขาไปก่อนก็ได้” เทพขาวกล่าว

“ตอนนี้นายชอบเขาแล้วใช่ไหมล่ะ?” เทพดำกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“ชอบหรือไม่ชอบเรื่องนั้นมันก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนเรื่องที่เขาจะเติบโตขึ้นมาอยู่เคียงข้างเราได้หรือไม่มันก็เป็นคนละเรื่องกัน อย่าลืมว่าอัจฉริยะในอดีตถูกสังหารก่อนวัยอันควรไปแล้วตั้งกี่คน อีกอย่างฉันก็คิดว่าเซี่ยเฟยเป็นพวกรักอิสระมากเกินไป แม้ว่าเราอยากจะชวนเขาให้มาอยู่กับพวกเราจริง ๆ แต่ฉันก็ยังมองว่ามันยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเราอยู่ดี” เทพขาวกล่าวอย่างจริงจัง

“นั่นสินะ สุดท้ายเขาก็ยังคงเป็นคนรักอิสระเหมือนกับสมาชิกทุกคนของสกายวิง พวกเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะก่อนที่จะมีใครมาค้นพบร่องรอยของพวกเรา” เทพดำกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

เทพขาวทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะหนทางการหาสถานที่อยู่อาศัยอย่างสงบในระยะยาวก็ยังคงเป็นหนทางอันยาวไกลสำหรับสองพี่น้องอย่างพวกเขาอยู่ดี และเรื่องทั้งหมดนี้มันก็ต้องขอบคุณน้องชายของเขาที่ได้ก่อเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นมา

ณ สวนสายลม

เซี่ยเฟยกลับมาที่พักอย่างพึงพอใจ เพราะการเดินทางไปยังสนามรบโบราณในคราวนี้ทำให้เขาได้รับผลกำไรกลับมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการที่ระดับพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 ระดับ, การได้รับลูกแก้วอสูรชิ้นใหญ่ที่หาได้ยาก และเขาก็ยังได้พบกับเทพขาวดำที่เขารู้สึกสงสัยมาเป็นเวลานาน สิ่งเดียวที่เขาพลาดไปคือกฎแห่งเวลาซึ่งเป็นกฎที่สาบสูญของเผ่าเทพ

“ไปเที่ยวไหนมาล่ะ?” เซี่ยจงไห่กล่าวทักทายระหว่างที่พวกเขาพบกันที่ทางเดิน ซึ่งในตอนนี้เป็นช่วงเวลาเช้าตรู่ของกลุ่มดาวม้าขาว และมันก็ดูเหมือนกับว่าชายชรากำลังจะออกเดินทางไปทำงานที่สมาคมผู้คุมกฎ

“ผมออกไปเดินเล่นมาครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างสบาย ๆ โดยไม่คิดที่จะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับสนามรบโบราณ แต่ในทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงเดินตามหลังเซี่ยจงไห่ออกไปยังนอกบ้าน

“บังเอิญว่าผมมีเรื่องจะต้องไปจัดการที่สมาคมพอดี ขอผมไปด้วยนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าว

“มีธุระหรือจะไปหาเจ้าเด็กจากตระกูลเชฟชิฟเตอร์?” เซี่ยจงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผมอยากจะไปเจอหลางซุนเย่อยู่เหมือนกัน แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องไปหาผู้อาวุโสวูดก่อน” เซี่ยเฟยกล่าว

“วูด? เขาคนนั้นไม่ค่อยได้มาที่สมาคมหรอกนะ ถ้านายอยากจะเจอเขาจริง ๆ นายต้องไปที่บ้านเขา เอาล่ะถึงยังไงฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันจะพานายไปส่งที่บ้านเขาก็แล้วกัน” เซี่ยจงไห่กล่าวอย่างสับสนกับจุดหมายของเซี่ยเฟยเล็กน้อย

เซี่ยเฟยตอบตกลงอย่างขอบคุณ ก่อนที่ทั้งคู่จะออกเดินทางไปพร้อมกัน

กลุ่มดาวม้าขาวกลับสู่ความสงบอีกครั้ง คล้ายกับว่าการที่ตระกูลมูนวอร์ดถูกขับไล่ออกไปไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถานการณ์ภายในกลุ่มดาวแห่งนี้มากนัก

“นายรู้ไหมว่าคราวนี้เผ่ามนุษย์ก็พ่ายแพ้อีกแล้ว” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับยักไหล่

“แพ้เรื่องอะไรเหรอครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“นี่นายไม่รู้เรื่องเหรอ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กจากตระกูลเฝิงมาขอให้นายไปร่วมทีมกับเขาหรือยังไง?” เซี่ยจงไห่กล่าว

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็จำได้ว่าประมาณ 2 ดือนก่อนเฝิงซินเหนียนมาชักชวนเขาให้ไปทำอะไรสักอย่าง แต่ในตอนนั้นทั้งคู่ไม่ได้คุยรายละเอียดกันว่าเป้าหมายของนายน้อยตระกูลเฝิงคืออะไรกันแน่

“กลุ่มมังกรฟ้าจะมีการจัดการแข่งขันภายในทุก ๆ 3 ปี โดยในปีนี้เฝิงซินเหนียนได้รับหน้าที่ในการคัดเลือกนักสู้ทุกคนด้วยตัวเอง แต่ในท้ายที่สุดเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังคงได้รับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง เหล่าบรรดาตระกูลชั้นยอดจึงรู้สึกขายขี้หน้ามากเมื่อได้เห็นว่าสมาชิกรุ่นใหม่ในกลุ่มดาวม้าขาวอ่อนแอมากกว่าเมื่อก่อน” เซี่ยจงไห่กล่าว

ดินแดนกฎเป็นพื้นที่ที่เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ได้มาอาศัยอยู่รวมกันอย่างมากมาย และการแข่งขันภายในของกลุ่มมังกรฟ้าก็เป็นการจัดแข่งของสมาชิกรุ่นใหม่ในแต่ละเผ่าพันธุ์ ซึ่งในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าเหตุผลที่เฝิงซินเหนียนมาชักชวนเขาในวันนั้น เนื่องมาจากการประลองภายในของกลุ่มมังกรฟ้านี่เอง

“จริง ๆ แล้วเผ่ามนุษย์ก็เป็นเพียงแค่เผ่ากลาง ๆ ในดินแดนกฎเท่านั้นเอง สาเหตุที่ตระกูลเฝิงสามารถควบคุมกลุ่มมังกรฟ้ามานานหลายปี นั้นก็เพราะว่าพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากพวกผู้อาวุโสที่อยู่เบื้องบน” 

“เมื่อไหร่ก็ตามที่เบื้องบนหมดความเอ็นดูตระกูลเฝิงแล้ว ในเวลานั้นตระกูลเฝิงก็จะสูญเสียอำนาจของตัวเองไปในทันที แต่ช่างมันเถอะถึงยังไงเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับตระกูลสกายวิงของเรา แล้วถึงแม้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะพ่ายแพ้แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับยักไหล่

ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน้าบ้านของผู้อาวุโสวูด อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะค่อนข้างใหญ่โต แต่ความรู้สึกแรกที่เซี่ยเฟยสัมผัสได้จากตัวบ้านกลับเป็นความวังเวง

“นี่แหละบ้านของตาเฒ่าวูด ถ้านายจะเข้าไปก็เข้าไปเลยฉันไม่เข้าไปกับนายด้วยหรอกนะ ตั้งแต่เขาเสียลูกสาวไปเขาก็แทบจะเสียสติไปเลย ฉันไม่อยากจะเห็นน้ำตาใครตั้งแต่เช้า เอาเป็นว่าหลังกลับบ้านแล้วพวกเราค่อยคุยกัน” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังบ้านที่อยู่ด้านหน้า

จากนั้นทั้งสองก็แยกทางกัน โดยเซี่ยจงไห่เดินทางไปยังสมาคมผู้คุมกฎ ขณะที่เซี่ยเฟยเดินไปเคาะประตูบ้านของวูด

คนที่เดินมาเปิดประตูให้กับชายหนุ่มคือชายชราที่ไร้ชีวิตชีวา ก่อนที่เขาจะนำเซี่ยเฟยไปยังห้องนั่งเล่นและสั่งให้สาวใช้เดินไปรายงานวูดว่าเซี่ยเฟยมาหา

ระหว่างรอเซี่ยเฟยก็กวาดสายตามองสำรวจห้องโถง ก่อนที่เขาจะบังเอิญพบกับรูปถ่ายรูปหนึ่งบนผนัง โดยรูปนั้นคือภาพถ่ายของวูดกำลังอุ้มลูกสาวตัวน้อยและใบหน้าของเขาก็ดูมีชีวิตชีวาแตกต่างจากในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง

“ทำไมหน้าของเธอถึงดูคุ้น ๆ” เซี่ยเฟยยกมือขึ้นมาจับคางขณะมองไปทางลูกสาวของวูด

“ฉันรู้สึกเหมือนฉันเคยเจอเธอที่ไหนสักที่นะ แต่ทำไมฉันถึงนึกไม่ออก?” โอโร่ก็ส่งเสียงพึมพำออกมาด้วยเช่นกัน

“ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งผมเคยถอดรหัสที่เธอเป็นคนทิ้ง แล้วมันก็ออกมาเป็นเพลงที่ชื่อว่ามูฟวิงสตาร์” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เดี๋ยวก่อนนะ เธอคนนี้คือผู้หญิงที่เราพบในสนามรบโบราณไม่ใช่เหรอ? แล้วเพลงแปลก ๆ นั่นใช่เพลงมูฟวิงสตาร์ที่นายถอดรหัสออกมาด้วยหรือเปล่า?” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็นึกออกในทันทีว่าเสียงเพลงของหญิงสาวที่เขารู้สึกคุ้นเคยในสนามโบราณ แท้ที่จริงแล้วมันก็คือเพลงมูฟวิงสตาร์ของลูกสาวผู้อาวุโสวูดนี่เอง

‘ลูกสาวของผู้อาวุโสวูดมีความเกี่ยวข้องกับกฎแห่งเวลาที่หายไปงั้นเหรอ?’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจและรู้สึกว่าจักรวาลแห่งนี้มันช่างแคบจริง ๆ เพราะจู่ ๆ เรื่องต่าง ๆ มันกลับมีความเชื่อมโยงกันทั้ง ๆ ที่ในตอนแรกมันดูจะไม่มีความเกี่ยวโยงกันมาก่อนเลย

หลังจากนั้นไม่นานผู้อาวุโสวูดก็เข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็คือผู้ที่สามารถคลี่คลายปมที่อยู่ภายในใจของเขามาเป็นเวลานานหลายปี

เซี่ยเฟยไม่ได้พูดจุดประสงค์ที่เขาเดินทางมาหาผู้อาวุโสโดยตรง แต่พยายามถามอ้อม ๆ เกี่ยวกับเรื่องบทเพลงของลูกสาวผู้อาวุโสวูดที่พวกเขาได้พูดคุยค้างกันเอาไว้ในครั้งก่อน

อย่างไรก็ตามทันทีที่บทสนทนาถูกเชื่อมโยงเข้ากับลูกสาว ผู้อาวุโสวูดก็เริ่มร้องไห้พร่ำพรรณนาออกมาอย่างน่าสงสาร และในที่สุดเซี่ยเฟยก็ได้รู้แล้วว่าทำไมเซี่ยจงไห่จึงไม่อยากเข้ามาพบกับผู้อาวุโสคนนี้พร้อมกับเขาด้วย

เมื่อคนที่ที่รักต้องจากไปมันย่อมไม่มีใครสามารถหักห้ามความโศกเศร้าได้ แล้วถึงแม้ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า แต่อย่างน้อยเซี่ยเฟยก็คือคนที่สามารถช่วยไขปริศนาที่ลูกสาวของเขาทิ้งเอาไว้ได้

เซี่ยเฟยคอยรับฟังอย่างอดทนและพยายามเก็บข้อมูลทั้งหมดจากสิ่งที่วูดพร่ำออกมา อย่างไรก็ตามมันก็ดูเหมือนกับว่าผู้อาวุโสวูดจะไม่ได้ระบายความในใจมาเป็นเวลานานแล้ว เขาจึงเริ่มไว้วางใจชายหนุ่มและบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ออกมาอย่างไม่ปิดบัง

กว่าที่เซี่ยเฟยจะออกมาจากบ้านของผู้อาวุโสวูดก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะเขาพยายามหาข้ออ้างขอตัวออกมา ผู้อาวุโสวูดก็คงจะพูดเรื่องเกี่ยวกับเฮเลนผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของเขาไปอีก 3 วัน 3 คืน

“ดูเหมือนมันจะไม่มีเรื่องเชื่อมโยงเฮเลนกับกฎแห่งเวลาเลยนะ” โอโร่กล่าวพร้อมกับส่ายหัว

ตอนแรกเขายังคงรับฟังเรื่องเฮเลนอย่างตั้งใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแม้แต่โอโร่ก็ยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับบทสนทนาที่มีเพียงแต่การระบายอารมณ์

“ผมพอจะจับประเด็นหลัก ๆ ได้ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือคุณเฮเลนมีความสามารถทางด้านดนตรีที่สูงมาก เรื่องที่ 2 คือเธอมีความหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องทางไสยศาสตร์ และเรื่องที่ 3 คือเธอเริ่มตีตัวออกห่างจากคนอื่น ๆ เมื่อ 2-3 ปีก่อน” เซี่ยเฟยกล่าว

“เรื่องพวกนั้นมันเกี่ยวอะไรกับกฎแห่งเวลา?” โอโร่กล่าวถามด้วยความสับสน

“บางทีการหายตัวไปของคุณเฮเลนอาจจะเกี่ยวกับนิกายอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับห่านป่าของคนพวกนั้นก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นิกายงั้นเหรอ? ฉันแทบจะไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนิกายอะไรภายในดินแดนกฎเลยนะ” โอโร่กล่าวขึ้นมาด้วยความสับสน

“จากข้อมูลที่ผมได้รับมา มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากที่เธอจะเป็นพวกหัวอ่อน และถูกนิกายอะไรสักอย่างหลอกใช้จนหายตัวไปอยู่กับคนพวกนั้น” เซี่ยเฟยกล่าว

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.