บทที่ 9...3/3
พันธินบอกให้เธอขับรถไปที่บ้าน พอลงจากรถยัยเฉาก๊วยทักทายจนกางเกงแขกเลอะเป็นรอยดิน พันธินหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินกลับไปที่คฤหาสน์วัสวาน โดยที่ไม่ต่อว่าสักคำ น่าแปลกที่เขาดูเป็นกันเองมากกว่าแต่ก่อนจนเหมือนคนละคนกัน
...เหมือนพันแสง
บ้า! เธอคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน หญิงสาวเดินเข้าบ้านไป ส่วนคนขอเป็นเจ้ามือก็เดินใกล้ถึงประตูใหญ่ พ่อบ้านมายืนรอ พันธินรู้ได้ทันทีว่าพ่อรอพบเขาอยู่
ประตูห้องหนังสือเปิดแล้วปิด พันธินก้าวไปจนถึงโต๊ะตัวโปรดของพ่อ หนังสือพิมพ์เจ้าปัญหาเปิดค้างอยู่หน้าสังคมที่พ่วงข่าวบันเทิงเข้าไป เมื่อเขากลายเป็นอดีตคนรักของดรุณี นี่เองสินะเหตุผลที่พ่อรอจะคุยกับเขา
“ธินคิดอะไรกับเด็กคนนั้นหรือเปล่า” เธียรถามลูกชายน้ำเสียงเรียบๆ
“เด็กคนไหนหรือครับ” พันธินจงใจถามกลับ สำหรับอรอินทุ์เธอคงเป็นแค่เด็กคนนั้นสำหรับพ่อเท่านั้นเอง
“ตอบพ่อมาว่ารูปพวกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหมธินถึงยกเลิกการหมั้นอย่างไม่เสียดาย” เธียรคาดเดา แต่ก็อยากรู้คำตอบจากลูกชายมากกว่า
ความคิดของพ่อที่พันธินได้ยินกลายเป็นเรื่องเลยเถิด นี่เองหรือที่พ่อกังวล ผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาของเขาจะเป็นพนักงานออฟฟิศสักคนคงเป็นไปไม่ได้สินะ
“มันไม่ใช่อย่างที่พ่อคิดหรอกครับ เรื่องดรุณี ถ้าผมไม่พูดเรื่องถอนหมั้น ดรุณีก็จะพูดเอง โดยมีสรัชกับคุณจิณณ์คอยหนุนหลัง ผมแค่วางแผนใหม่ให้เท่านั้น พ่อไม่รู้จริงๆ หรือครับว่าดรุณีไม่มีใจให้ผมมานานแล้ว”
เธียรนิ่งยังไม่ตอบ จะตอบได้อย่างไรว่าเขารู้ ลูกชายไม่ใช่คนโง่ แต่การทำตามอารมณ์มักตามมาด้วยหายนะ พันธินรู้สึกผิดหวัง ทำไมพ่อถึงไม่หยุดทุกอย่าง แต่กลับทำให้ทุกอย่างดำเนินไปทั้งที่รู้
“เหตุผลนี้พ่อยอมรับได้ แล้วกับเด็กคนนั้น”
“ผมยังไม่ตอบตอนนี้ครับ ถ้าผมจะเปลี่ยนจากเด็กคนนั้นของพ่อ เป็นคุณอรอินทุ์เมื่อไหร่ ผมจะบอกพ่อเป็นคนแรก” พันธินตอบโต้ในแบบของเขา
ประตูห้องหนังสือเปิดแล้วปิดอีกครั้ง เธียรถอนใจอย่างเหนื่อยล้า ในสมองมีเพียงคำถามว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้ลูกชายมีก้าวเดินที่สวยงามและมั่นคงในวงการธุรกิจต่อไป คู่ครองถือเป็นเรื่องสำคัญ เขารู้ลูกชายคนนี้ทำได้ทุกเรื่องที่อยากทำ การหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้ใหม่คงเป็นทางออกเดียว
ธนิดามาถึงออฟฟิศเป็นคนสุดท้าย ใบหน้าของเธอแดงก่ำทั้งโกรธและโมโห อยากร้องกรี๊ดดังๆ ตั้งแต่นั่งรถแท็กซี่มาแล้ว นั่นๆ ยัยเพื่อนยังทำงานหัวเราะกับนายพัฒอยู่ได้ ช่างไม่รู้เลยว่าไฟกำลังจะเผาเรือน ไม่สิ เผาออฟฟิศอยู่แล้ว ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าพวกนั้นจะหวังผลถึงเรื่องงาน ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว
“รู้ไหมยัยอรว่าฉันได้ข่าววงในอะไรมา”
อรอินทุ์สะดุ้ง หน้าตาของธนิดาอย่างกับถูกผีอำ พิพัฒหัวเราะ ความเงียบถูกทำลายด้วยเสียงร้อยเดซิเบลของหุ้นส่วนคนสำคัญ
“ก็เล่ามาก่อนสิ ถ้าไม่เล่ายัยอรจะไปรู้ได้ยังล่ะ จริงไหมอร”
“จริงที่สุดเลยพัฒ ว่าแต่มีเรื่องอะไรล่ะฮึยัยดา ทำหน้าอย่างกันถูกโกงแชร์”
สองเพื่อนเกลอพากันหัวเราะ คนอารมณ์เดือดปุดๆ เลยเริ่มเย็นลง แต่ยังโมโหอยู่ ธนิดาลากเก้าอี้มาใกล้โต๊ะทำงานของเพื่อน
“ฟังฉันเล่าดีๆ จะเล่าแค่ครั้งเดียว หลายรอบเดี๋ยวปี๊ดอีก” ธนิดาถอนใจยาวๆ ก่อนเล่าหน้าตาเอาเรื่องยิ่งกว่าคนที่เป็นประเด็นร้อนในตอนนี้ “ตอนนี้คนในวงการโฆษณากำลังเมาท์เรื่องเธอกับคุณธินอยู่น่ะสิ แถมยังบอกว่างานนี้ถ้าบริษัทของเราได้ทำโฆษณาให้เอ็มไพร์ กรุ๊ปล่ะก็ เป็นเพราะนอนคุย ไม่ใช่ยืนคุย”
อรอินทุ์กำมือทุบโต๊ะดังปัง สองเพื่อนสะดุ้งโหยง ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมธนิดาถึงทำหน้าเหมือนถูกผีอำ แต่คนนี่แหละร้ายกาจยิ่งกว่าผีเป็นร้อยเท่าพันเท่า
“มันจะมากไปแล้วนะ รู้ไหมว่าใครมันปล่อยข่าว”
“คนเดียวกับที่ปล่อยรูปนั่นแหละ รายเดิม กัดไม่เลิก”
เป็นอันรู้กัน สมพงศ์กัดไม่ปล่อยและคงร่วมมือกับเบญญาด้วยเพราะพี่ชายของธนิดาบอกว่าคนที่ส่งข่าวเป็นผู้หญิง อรอินทุ์ยิ่งฟังยิ่งโมโห สู้กันด้วยสมองอย่างเดียวคงไม่พอสินะสำหรับคนพวกนี้
“เราว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของยัยอรไม่เหลือแน่ๆ” พิพัฒร้อนใจแทนเพื่อนขึ้นมาอีกคน
“ฉันทำเอง คราวนี้ยังไงก็ยอมไม่ได้ ขอเวลาฉันครึ่งชั่วโมง รับรองต้องมีคนกรี๊ดเสียงดัง”
ธนิดาอ้าปากกำลังจะถามว่าทำอะไร แต่เพื่อนคงไม่มีอารมณ์จะตอบแน่ๆ เลยเปลี่ยนใจไปมุงที่จอโน้ตบุ๊กของเพื่อนแทน พิพัฒก็เอาด้วย เมื่อพอเดาได้ว่าอรอินทุ์จะทำอะไร เขาเอาโน้ตบุ๊กของตัวเองมาช่วยหาไฟล์ ช่วยโหลด ไม่ถึงสิบห้านาที ทุกอย่างก็เรียบร้อยและส่งไปยังผู้รับเพียงคลิกเดียว
สามเกลอวางแผนเอาคืนแบบไหนนะ?
ปล. โบว์ส่งต้นฉบับนิยายให้ทาง MEB เพื่อลงเป็น E-BOOK ถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมาแจ้งให้ทราบกันนะคะ
จะมา up เรื่อยๆ นะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 159
แสดงความคิดเห็น