บทที่ 21 กัดเต็มแรง
เขาเดินตามฉันมาที่ห้องนอนเช่นเคยแล้วนั่งลงปลายเตียง ฉันลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกจากห้องนอน แต่เขากลับคว้าเอวบางของฉันลงไปนั่งบนตักแกร่ง ก่อนจะกระซิบคำว่า ‘ขอโทษ’ ขึ้นมาอีกครั้ง ฉันเหนื่อยใจไม่อยากจะพูดอะไรอีก พยายามแกะมือที่เกาะอยู่ที่เอวออก แต่ก็เหมือนเดิม มือแกร่งไม่ขยับเขยื้อนเลย ฉันถอนหายใจแล้วมองไปที่หน้าเขาด้วยสายตาที่เหนื่อยหน่ายเต็มทน
“จะเอายังไงคะ เอาจริงๆ สัญญาเรามันแค่คืนเดียว แต่คุณกลับ....” ฉันเม้มปากแน่นเมื่อพูดที่คืนที่เลวร้ายนั้น ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ แล้วพูดต่อ
“ฉันถือว่าหักล้างกับการที่ฉันกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วกัน ดังนั้นจะไม่มีการล่วงเกินกันอีก แล้วคุณก็เลิกแตะต้องตัวฉันพร่ำเพรื่อได้แล้ว เห็นฉันไม่พูด คุณก็ควรให้เกียรติฉันบ้าง” นี่คงเป็นคำพูดที่ยาวที่สุดในหลายวันที่ผ่านมาที่ฉันไม่ได้พูดกับเขาเลย
“อ่ออีกอย่าง ฉันเห็นว่าข้างล่างมีห้องพักแขกอยู่กรุณาให้ฉันย้ายลงไปนอนด้านล่างด้วยค่ะ ฉันไม่อยากอยู่กับคุณ” ฉันบอกข้อตกลงอีกข้อกับเขาไป
---เซฟ Talk---
คำพูดสุดท้ายของเธอบาดลึกลงไปถึงใจของผม มันปวดมันเจ็บ แต่ผมก็ต้องก้มหน้ารับกรรมจากผลการกระทำชั่วร้ายของตัวเอง หลายวันมานี่ผมพยายามทำดีกับเธอทุกอย่าง เตรียมอาหาร พูดคุย งานการผมก็ทิ้งให้ไอ้กิตดูแลหมด ไม่ยอมไปไหน แต่เธอก็ไม่เคยกินและไม่เคยพูดกับผมไม่สนใจผมเลย มันทำให้ความหวังของผมดูริบหรี่เลือนราง ความหวังที่เธอจะอภัยให้ผม แต่ถึงยังไงผมก็ไม่มีวันยอมแพ้ เพราะยังไงผมก็ไม่มีทางปล่อยเธอไป ดังนั้นสิ่งที่ผมตั้งใจที่สุดคือ การบอก ‘ขอโทษ’ เธอทุกครั้งที่มีโอกาส และหวังว่าเธอจะใจอ่อนลงบ้าง
มาวันนี้ผมดีใจมากที่เธอยอมพูดกับผม เธอบอกยอมรับที่จะทำตามสัญญาระหว่างเรา โดยที่เธอขออิสระที่จะไปไหนมาไหนได้บ้าง ผมโอเค!! แต่แค่เงื่อนไขของผมคือผมจะไปด้วยทุกที่ที่เธอไป ผมกลัว กลัวว่าเธอจะหนีแล้วจากผมไปตลอดกาล ดูเหมือนเงื่อนไขผมจะทำให้เธอโมโหไม่น้อย แต่ไม่เป็นไร ตราบใดที่เธออยู่กับผม ผมก็ยังมีโอกาส...
---เอลิซ Talk---
ฉันยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติมออกไป ฉันคิดดีแล้วที่จะย้ายลงไปนอนที่ห้องรับแขกแทนการนอนอยู่กับเขาทุกคืนเช่นนี้ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่ได้รู้สึกเกลียดเขามากเท่ากับตอนแรกๆ แต่ฉันก็ไม่ไว้ใจเขา (และตัวเอง) ที่จะอยู่ห้องเดียวกันต่อไป ต่างคนต่างอยู่เมื่อครบสัญญา 1 เดือนก็แยกย้าย ฉันหวังอยู่ในใจลึกๆ ว่ายาคุมฉุกเฉินที่ฉันกินไปจะยังพอจะหลงเหลือฤทธิ์ ไม่ให้ฉันท้อง และถ้าเกิดฉันท้องขึ้นมาจริงๆ ฉันคงต้อง........
ข้อเสนอที่ฉันพูดกับเขาไปทำให้เขาครุ่นคิดนานอยู่ กับเรื่องที่ฉันจะย้ายลงไปนอนที่ห้องรับแขก จนฉันเริ่มหวั่นๆ ว่าเขาจะโมโหแล้วทำร้ายฉันอีกไหม ก่อนที่ฉันจะได้ยินประโยคที่ทำให้ฉันต้องยิ้มออกมา
“ตกลง ผมให้คุณย้ายไปนอนที่ห้องรับแขกก็ได้” เขาตอบรับความปรารถนาของฉันด้วยสีหน้านิ่งเฉยจนฉันไม่สามารถเดาอารมณ์ของเขาได้เลย
“ขอบคุณค่ะ งั้นฉันไปตามป้าเสริมมาช่วยย้ายของนะคะ แล้วก็เออ...ปล่อยด้วยค่ะ” ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดีใจและไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือนให้เขาปล่อยร่างฉันจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะรีบวิ่งออกมาด้วยความดีใจ โดยหารู้ไม่ว่าพอคล้อยหลังมาแล้ว คนเจ้าเล่ห์ได้เผยรอยยิ้มร้ายที่มุมปาก
ฉันรีบวิ่งไปตามป้าเสริมให้มาช่วยเก็บของแล้วเอาลงไปยังห้องนอนที่ไว้รับแขกด้านล่าง อย่างน้อยต้องอยู่ที่นี่อีก 1 เดือนยังไงก็ต้องเซฟตัวเองไว้ก่อน ถึงห้องนี้จะไม่ใหญ่เท่าห้องด้านบน แต่ก็มีทุกอย่างครบครัน ทั้งห้องน้ำในตัวทุกอย่างเทียบเท่ากับคอนโดขนาดเล็กห้องนึงเลยทีเดียว
ป้าเสริมจัดของให้ฉันเสร็จก็ขอตัวออกไป ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมาอีกหน่อยที่ไม่ต้องคอยระแวงเวลาอยู่ห้องเดียวกันกับไอ้ปีศาจเซฟ ความรู้สึกสบายบวกกับแอร์เย็นๆ ทำให้ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
รู้ตัวอีกทีฉันรับรู้ได้ถึงความอึดอัดที่บริเวณหน้าท้อง ทำให้ฉันไม่กล้าลืมตาขึ้นมา นี่ฉันโดนผีอำหรอเนี๊ย!!กรี๊ดดดดดด!!เฮี้ยนจริงๆ เลย แค่เปลี่ยนที่นอนไม่ได้บอกกล่าวก็โดนดีสะแล้ว ท่านเจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนเจ้าขาลูกขอโทษนะคะ ฉันได้แต่กล่าวขอโทษขอโพยเจ้าที่เจ้าทางในใจ ส่วนร่างกายก็นอนแข็งทื่อไม่กล้าขยับ จนสักพัก..
~~ฟืดด ฟาดด ฟืดด ฟาดด~~ กรี๊ดด!!! มาเป็นเสียงเลยหรอ ฉันจะทำยังไงดีเนี๊ย ก่อนที่ฉันจะสติแตกไปมากกว่านี้ ก็ได้เอะใจขึ้นมา เอ๊ะ! เสียงมันใกล้มาก ไหนจะมีลมอุ่นๆ รดมาที่ข้างหู เอ๊ะ! มีลมอุ่นๆ งั้นหรือ แปลว่าไม่ใช่ผี...แต่เป็น...
ฉันทำใจฮึบเปิดเปลือกตาขึ้นมามอง
พรึ่บ!!
“กรี๊ดดดดดด ออกไปนะ ไอ้บ้า” ฉันกรีดร้องสุดเสียงเมื่อลืมตามาเจอกับคนที่มานอนอยู่ข้างๆ แล้วยังถือวิสาสะกอดฉันอีก
ร่างสูงที่นอนอยู่ข้างฉัน ดีดตัวขึ้นมาด้วยอาการตกใจ แล้วรีบโวยวาย
“ไหน ใครมันกล้าเข้ามา กูจะฆ่าแม่งทิ้งให้หมด” ตะโกนพร้อมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาบุคคลที่สาม
ฉันได้แต่อึ้งระคนตกใจ กับสิ่งที่เจออยู่ตรงหน้า อะไรจะเพี้ยนได้ขนาดนี้ ท่านเซบาสเธียผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าลูกน้องมาเห็นคงจะสิ้นความนับถือ เขาโวยวายเหมือนไม่รู้ตัวเองเลย ว่าฉันกรี๊ดเพราะเขานั่นแหละ
ฉันเท้าเอวจ้องมองไปที่เขา อย่างไม่สบอารมณ์ และครุ่นคิดถึงเหตุผลที่เขาเข้ามาในห้องนี้ ~~
ว่า..เขามาทำอะไรในห้องนี้ มานอนทำไมบนที่นอนนี้ ก็ไหนเขาเป็นคนอนุญาตแล้ว เท่ากับตอนนี้มันเป็นห้องของฉันแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ฉันสงสัยสับสนสายตาก็จ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง
“คุณเป็นอะไรไหมเอลิซ มันทำอะไรคุณหรือเปล่า มันอยู่ไหน มึงออกมานะ อย่าให้กูจับได้นะ แม่จะระเบิดหัวแม่ง บังอาจมากนะ บุกเข้ามาในห้องเมียกู” เขายังคงโวยวายลั่นห้อง และเดินมาข้างหน้าฉัน ให้ฉันหลบอยู่หลังเขา
(*o*) อึ้งสุด กับพฤติกรรมของเขา
“ฉันหมายถึงคุณนั่นแหละ โวยวายหาใคร” ฉันตั้งคำถามทันทีเมื่อดึงสติกลับมา พร้อมอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัวมากยิ่งขึ้น
“อ้าวผมก็นึกว่ามีใครแอบเข้ามา” เขาหันหน้ามาทำตาใส
ฉันถลึงตามองเขาด้วยความโมโห
“นี่มันหมายความว่ายังไงคะ” ฉันถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก และต้องการคำอธิบายด้วย
“ก็คุณอยากมานอนห้องข้างล่างผมก็อนุญาตแล้วไง” เขาตอบพร้อมกับเดินกลับไปที่นอน แล้วเอนตัวนอนทำท่าทางสบายๆ
“แต่ฉันย้ายลงมานอนข้างล่างไม่ได้หมายความว่าให้คุณมานอนด้วย” ฉันยังคงพยายามคุยกับคนหน้ามึนให้รู้เรื่อง
“แต่คุณไม่ได้ห้าม ไม่ให้ผมมานอนด้วยสักหน่อย” คนเจ้าเล่ห์ยังคงตีมึนใส่
(*o*) โอ้โห้..ไอ้หน้าด้าน (ฉันอึ้งพร้อมสบถด่าเขาในใจ)
ฉันหมดคำพูดกับคนหน้าด้านอย่างเขา
“ถ้าคุณอยากนอนก็นอนไป ฉันไม่อยู่แล้วห้องนี่” พูดจบฉันลุกจากเตียงตรงไปยังประตู
แต่เขาก็ยังคงเร็วกว่าฉันเสมอ เขาดึงร่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัวของฉัน เข้าสู่อ้อมกอดเขาที่นอนอยู่ เป็นผลให้ตอนนี้ตัวของฉันก็อยู่บนตัวของเขาโดยมีวงแขนหนาที่โอบรัดแน่น
“ปล่อยนะ บอกให้ปล่อย” ฉันดิ้นไปมาบนตัวของเขา แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนว่าเขาก็จะยิ่งรัดฉันแน่นมากขึ้นจนฉันหายใจไม่ออก ฉันหยุดดิ้นเพราะแรงที่เริ่มหมดและรู้ดีว่าไม่มีทางหลุดจากอ้อมกอดนี้ไปได้ ฉันซบหน้าลงที่อกแกร่งของเขาจากความเหนื่อยและถอดใจที่จะต่อสู้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาปะทะเข้ามาที่จมูกของฉัน กลิ่นนี้มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ บริเวณท้องน้อย และก่อนที่มันจะทำให้ฉันลุ่มหลงจนจิตใจกระเจิดกระเจิง ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง...
หมับ!! กึ๊ด!!
ฉันกัดเขาเข้าอย่างเต็มแรง...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 56
แสดงความคิดเห็น