บทที่ 20 ง้อ'เมีย'

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 20 ง้อ'เมีย'

หมวดหนังสือ: 

ฉันตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ข้างกายฉันไม่มีเขาคนนั้นอยู่ ฉันรู้สึกโล่งใจขึ้น สงสัยน่าจะไปทำงานแล้ว ไปให้พ้นๆ สักที ฉันลุกขึ้นยืนตอนนี้อาการบาดเจ็บตามตัวและตรงกลางกายได้บรรเทาขึ้นมากแล้ว ฉันเลยจะไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้ลงไปหาอะไรกิน พอว่างไม่มีอะไรทำท้องมันก็คอยร้องหาอาหารอยู่นั่นแหละ เห้อออ ถ้ายังอยู่ที่นี่ฉันคงได้เป็นถังแก๊สเคลื่อนที่สักวัน เพราะว่ากินกับนอน

 

พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฉันก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อจะมาหาอะไรกินสักหน่อย แล้วสิ่งที่เห็นก็คือ ภาพเดิมเหมือนเมื่อตอนกลางวันเป๊ะ!!! ชายร่างสูงยืนง่วนอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวเช่นเดิม นี่เขาไม่คิดจะไปไหนเลยหรือไง อีกทางคือผู้หญิงสูงวัยยืนถัดออกมาไม่ไกลด้วยอาการเป็นกังวล คล้ายกับภาพที่ฉายซ้ำ....

 

“คุณเอลิซ ตื่นแล้วหรอค่ะ” คำถามเดิมเป๊ะ!!!!ฉันยิ้มให้ป้าแทนคำตอบ เดี๋ยวจะเดจาวูไป๊!!!!

 

ป้าเสริมขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ก่อนจะบ่นเชิงขอความเห็นใจกับเรื่องราวที่แกได้เจอ

 

“เหมือนเดิมเลยค่ะ ไม่ยอมให้ป้าลงครัวจะลงครัวเอง เมื่อกลางวันก็ทิ้งหม้อทิ้งไหไปหลายใบล่ะ สงสัยคราวนี้น่าจะหมดตู้นะคะ” ป้าเสริมกระซิบบอกฉัน ด้วยท่าทางปลงตกเพราะเสียดายเครื่องครัวราคาแพงที่ต้องมาเสียหายเพราะคนมึนอยากจะลงครัวทำอาหาร

 

ฉันฟังป้าเสริมพูด สายตายังคงจับจ้องไปที่คนร่างโต นั้นยิ่งทำให้ฉันไม่เข้าใจ และสับสนยิ่งขึ้น ก่อนที่เขาจะหันมาเห็นฉันแล้วเดินเข้ามาหาอย่างรีบร้อน

 

“เอลิซ คุณตื่นแล้วหรอ หิวไหม ผมกำลังทำอะไรให้กิน รอก่อนนะ” เหมือนเดิมเป๊ะ!!! อีกคน

 

ฉันกลอกตามองบน!!

 

“รอบนี้เป็นข้าวต้มนะ ไม่ใช่โจ๊กแล้ว ไม่ไหม้แน่นอน” เขาเอ่ยอย่างกระตือรือร้น แววตาสุกใสมีประกายความภูมิใจอยู่ในนั้น

 

และอีกครั้งที่เขายังพูดไม่ทันจบ ไม่ทันไรเสียงป้าเสริมก็ดังขึ้นมา!!!

 

“ว๊ายยยยย นายท่านค่ะ นายท่าน ควันค่ะควัน ควันเต็มไปหมดเลย” ป้าเสริมพูด พลางชี้นิ้วไปที่เคาน์เตอร์ครัว หน้าตาตื่นตระหนก

 

หึ....อีกแล้ว!!!!!นี่ฉันอยู่ในอาการเดจาวูหรือไง

 

ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปที่เตาอย่างรวดเร็ว ความชุลมุนเล็กๆ เกิดขึ้น ฉันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่อ่อนลง และเข้าใจในโชคชะตาของตัวเองมากขึ้น นี่คงจะเป็นชะตากรรมที่ฉันคงต้องพบเจอสินะ ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ให้กับความซวยช่วงนี้ของตัวเอง ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบแอปเปิลกับนมมากิน ก่อนจะเดินไปยังห้องโถงนั่งมองวิวราคาพันล้านผ่านหน้าต่างเต็มบาน อย่างน้อยที่นี่ก็มีเวลาที่ฉันได้มองวิวนี้แหละ ที่ทำให้ฉันสงบใจ...

 

---เซฟ Talk---

หลังจากที่ผมกอดเธอบนที่นอน ผมยอมรับว่าผมร้องไห้ ผมเสียใจที่ทำกับเธออย่างนั้น เธอไม่ยอมพูดกับผมเลย มันทำให้ผมแทบจะบ้า ผมได้แต่พร่ำขอโทษเธอ ไม่รู้ว่าเธอจะยกโทษให้ผมบ้างไหม ผมกลัวกลัวว่าจะเสียเธอไปตลอดกาล ขอแค่ยังมีเธออยู่ก็เพียงพอ

 

ตอนที่ผมกอดเธอ เธอออกแรงดิ้นสักพักก่อนจะหลับไปคงรู้ว่าผมไม่มีทางปล่อย ใช่!!ผมมันไอ้คนดื้อด้าน ผมนอนกอดเธออยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน จนเธอเริ่มขยับตัวเหมือนจะตื่น ผมจึงรีบผละออกจากตัวเธอเพื่อไปทำอาหารให้เธอกิน เมื่อกลางวันเธอก็ไม่ยอมกินโจ๊กที่ผมทำเลย แถมเธอยังร้องไห้อีก ผมเห็นแล้วเจ็บปวดใจที่สุด ผมทำได้แค่กอดเธอแล้วเอ่ยขอโทษอีกครั้ง ครั้งนี้ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง

 

ผมลงมาเตรียมทำข้าวต้มให้เธอ ป้าเสริมยังคงระแวงว่าผมจะทำหม้อไหม้อีก สุดท้ายแล้วเมื่อเธอตื่นและเดินลงมา มันก็ไม่เป็นอย่างที่ผมคิด ครัวยังเละเหมือนเดิม เธอยังไม่ยอมกินอาหารที่ผมทำเช่นเดิม ผมได้แต่ลอบแอบมองเธอที่เดินไปหยิบแอปเปิลกับนมไปกินแทน แล้วเธอก็เดินไปนั่งยังห้องโถง เหม่อมองออกไปยังนอกกระจก “ขอโทษ” ผมยังเอ่ยขอโทษด้วยเสียงแผ่วเบาอยู่ตรงนี้ขณะที่มองเธอ...

 

---เอลิซ Talk---

ภาพเดจาวูนั้นยังคงวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ 3-4 วัน คนร่างสูงก็ยังคงพยายามทำอาหารให้ฉันกิน ฉันลอบเห็นว่ามีเครื่องครัวเปลี่ยนใหม่อยู่ 2-3 ชุด แต่ฉันก็ยังคงเลือกที่จะไม่กินของเขาแล้วทำเอง ฉันยังคงไม่พูดกับเขา เลยทำให้เขามีสีหน้าที่สลดลงอยู่บ้างเวลาที่เผลอ แต่เมื่อเขาเห็นฉันเขาจะพยายามยิ้มแย้มเอาอกเอาใจฉันอยู่ตลอด ทุกครั้งที่เขาอยู่กับฉัน เข้าใกล้ฉัน ทุกคืนเวลาที่เข้านอน เขายังคงกอดฉันแน่นเช่นเคย และเขาจะเอ่ยคำว่า ‘ขอโทษ’ เสมอทุกครั้งที่มีโอกาส

 

วันนี้ฉันเดินลงมา ฉันได้ยินลูกน้องคนสนิทคุยกับเขา

 

“นายครับ นายไม่เข้าไปดูงาน ดูกิจการบ้างหรือครับ บอร์ดที่ประชุดก็มีโครงการรอนายอนุมัติ ที่ผับก็เริ่มหละหลวม ส่วนที่คาสิโนก็....ผมว่านายต้องเข้าไปจัดการบ้างนะครับผมทำคนเดียวไม่ไหว” กิตลูกน้องคนสนิทร่ายยาว

 

“กูรู้ว่ามึงทำได้ กูเชื่อใจมึง” เขาเอ่ยบอกลูกน้องโดยที่หน้ายังจับจ้องที่แล็ปท็อปบนมือ

 

“ยังไงผมก็ต้องรอนายตัดสินใจอยู่ดีครับ เรื่องใหญ่ๆ ทั้งนั้น เห้อออ ก็มัวแต่มานั่งง้อเมียอยู่นั่นแหละ” กิตลูกน้องคนสนิทยังคงบ่นกระปอดกระแปดใส่เจ้านายที่นั่งนิ่งไม่สนใจเสียงของเขา

 

เขาละสายตาจากแล็ปท็อป ส่งสายตาอำมหิตไปที่ลูกน้อง ก่อนที่ลูกน้องจะไหวตัวทันรีบชิ่งออกไปเพราะกลัวโดนลูกหลง

 

ฉันยืนฟังจนจบบทสนทนา ถึงเดินลงไป เมื่อเขาเห็นฉันก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาตัวละหลายล้านพุ่งตรงมาที่ฉันอย่างเร่งรีบ ก่อนจะถามด้วยคำถามเดิมๆ ว่าฉันตื่นแล้วหรอ หิวไหม อยากกินอะไร และไม่ลืมที่จะเอ่ยคำว่า ขอโทษอีกครั้ง จนฉันเริ่มจะสะอิดสะเอียนต่อคำพูดเหล่านั้น หลังจากที่ไม่ได้พูดกับเขาล่วงเลยมาหลายวัน ฉันถึงได้เปิดปากพูดกับเขา

 

“จะปล่อยฉันไปได้หรือยัง” ฉันเอ่ยสายตามุ่งมั่น ฉันเบื่อที่จะอยู่แบบนี้ อยู่แบบไร้ค่า อยู่เหมือนหมูหมาที่ถูกเลี้ยงไว้ในกรง

 

เขายืนนิ่งอึ้ง กับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ สีหน้าสลดลงทันทีอย่างเห็นได้ชัด คงไม่คิดว่าประโยคแรกที่ฉันเปิดปากพูดกับเขาก็คือการขออิสรภาพของตัวเองคือ ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมายิ้มเจื่อนๆ แล้วยื่นมือหนามากุมมือฉันแล้วดึงฉันเข้าไปกอดแน่น

 

“ไม่ ไม่มีทาง คุณต้องอยู่กับผม ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้น ผม...ขอโทษนะเอลิซ” เขาเอ่ยเสียงสั่นและยืนยันในความต้องการตัวเองเหมือนเช่นเคย

 

ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายที่สุด

 

“แล้วคุณจะให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่ออะไร ฉันเบื่อ ฉันไปไหนไม่ได้ ฉันได้แต่อยู่ที่นี่ ฉันอยากออกไปข้างนอกบ้าง” มันคือสิ่งที่ฉันต้องการ เขาลงโทษฉันแล้ว ก็ควรปล่อยฉันไปได้แล้ว

 

เขาฟังที่ฉันพูดอย่างเงียบๆ ก่อนจะดันตัวฉันออกจากอกแกร่ง แล้วมองเข้ามาในดวงตากลมโตของฉัน ส่วนฉันก็จ้องเขากลับด้วยสายตาที่ขอความเห็นใจ และหวังว่าจะได้คำตอบที่ถูกใจ

 

“แต่คุณคิดจะหนีไป....ใช่ไหม” เขายังคงอ่านความคิดฉันออก

 

ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อย นั้นคือความคิดที่ฉันมีมาตลอด แต่ก็เห็นกันอยู่แล้วว่าฉันทำไม่ได้ หลายวันมานี้ฉันก็คิดหาทางออกให้ตัวเองตลอดเวลา จนตกผลึกได้ว่าคงต้องปล่อยวางและทำตามสัญญา ดังนั้นฉันจึงมาเจรจากับเขา

 

“ฉันจะไม่หนี สัญญายังคงเหมือนเดิมคือ 1 เดือน ฉันก็ยังอยู่กับคุณที่นี่เหมือนเดิม แต่ฉันขออิสระบ้าง...ได้ไหม” ฉันเอ่ยข้อตกลงที่ฉันเลี่ยงไม่ได้ โดยที่ประโยคสุดท้ายฉันเอ่ยไปด้วยเสียงที่แผ่วเบาเพราะกลัวว่าเขาจะไม่ยินยอม

 

“คุณไม่หนีไปจริงๆ นะ” เขาเอ่ยน้ำเสียงระคนดีใจ

 

“ค่ะ”

 

“ถ้างั้นผมตกลง ผมจะให้อิสระกับคุณ คุณจะไปไหนก็ได้...แต่...ทุกที่ผมจะไปด้วย” เขายิ้มเอ่ยอย่างดีใจน้ำเสียงกระตือรือร้นสุดๆ

 

ฉันมองหน้าเข้าอย่างไม่เข้าใจ นี่พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงห๊ะ!!! ถ้าไปด้วยทุกที่มันเรียกตรงไหนว่า อิสระ!!!!

 

ฉันอยากจะบ้าตาย เขาปล่อยฉันแต่ตามดูฉัน มันก็เหมือนเจ้านายที่พาหมาที่เชื่องไปวิ่งเล่น โอ๊ยยยย ไอ้เจ้ากรรมนายเวร!! ไอ้ปีศาจเซฟ!!

 

“แต่คุณก็มีงานการที่ต้องทำจะมาเฝ้าฉันตลอดเวลาได้ยังไง” ฉันบอกไปเผื่อว่าเขาจะมีสติขึ้นมาบ้าง

 

ผมก็พาคุณไปด้วยไง”

 

หึ..สติหล่นหายสินะ!

 

ฉันถึงกับอ้าปากค้างมองเขาตาแป๋ว นี่เอาจริงดิ!! ให้ตายเถอะ!! ฉันสลัดมือเขาที่จับไหล่ของฉันทิ้ง ก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนไปอย่างอ่อนแรง พูดกับคนหรือ.....เนี้ย

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.