ตอนที่13:เดินสายเยี่ยมชมสัตว์ร้าย

The Regressed Demon Lord is Kind จอมมารผู้ถ่อมตนและเมตตา

-A A +A

ตอนที่13:เดินสายเยี่ยมชมสัตว์ร้าย

หมวดหนังสือ: 

  ท่าทางการดึงดาบของฮานดูลนลานดูตลก แต่เขาก็พยายามจัดท่าทางตัวเองใหม่  เขารับใช้ตระกูลนักรบอย่างสตีลวอลล์มาทั้งชีวิตจะไม่รู้วิธีสู้บ้างเลยได้ไง

กร้ากก! 

ก็อบลินตัวนั้นข่มขู่ ทุบกระบองในมือเชิงว่าพร้อมสู้เหมือนกัน

‘ เอาเว้ย อาวุธมันก็แค่ท่อนไม้ ‘ ’ ท่อนใหญ่? ’

ฮานคิดว่าดาบสั้นในมือตัวเองดูไม่พิเศษแต่มันก็ทำจากเหล็กชั้นดี ถึงตอนเลือกเขาจะอยากได้ดาบยาวกว่า                                                            แต่เวลานี้ดาบสั้นก็เพิ่มความเชื่อมั่นให้ฮานพอสมควร

' ข้าสามารถชนะได้! '

ฮานทำสีหน้าจริงจังค่อยๆเดินเข้าหาก็อบลิน

เอ๊ะๆๆๆ!

ก็อบลินใช่แรงทั้งหมดยกท่อนไม้ขึ้น วิ่งตรงเข้าหาฮาน

“ ฮะ เฮย? ”

ฮานหลุดอาการตกใจออกมา 

สิ่งที่มือใหม่มักเจอเวลาเกิดการต่อสู้จริงคือภาพจินตนาการในหัวตัวเอง ถ้าก็อบลินโจมตีเขายังงั้น ก๊อบลินโจมตีเขาอย่างงี้ และผลคือฮานก็เหวี่ยงดาบสั้นในมือไปรอบๆ 

สุดท้ายมันคือภาพลวงตาแต่การถูกโจมตีหนะ คือของจริง

ปึงงง!

“ อักก! ”

แขนสองข้างของฮานที่รับแรงปะทะถูกผลักออก ร่างกายเสียสมดุลถลาไปด้านหลัง สภาพฮานดูไม่ดีเหมือนก่อน

“ โอ้ ? ”

ซีคที่ยืนมองอยู่ห่างออกไปกลับต้องให้ความสนใจมากขึ้น คราวนี้ซีคไม่ได้ดูถูกฮาน

‘ พึ่งจะลองสู้กับสัตว์ร้ายครั้งแรก แต่เขายืนหยัดได้โดยไม่ล้ม ’

ตรงนี้ซีคให้คะแนนชื่นชมฮานเหมือนกัน อีกอย่าง

‘ ที่มือยังประคองดาบได้อยู่ด้วยแหะ ’

ตามง่ามมือของฮานที่จับดาบสั้นอยู่ มีเลือดไหลออกตามรอยฉีกขาด — ฮานเป็นมือใหม่แกะกล่องกลับกล้าปะทะกับสัตว์ร้ายตรงๆยังประคองดาบเอาไว้ในมือได้อีก ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้เพราะแรงสัตว์ร้ายนั้นไม่เบาเลย

‘ มันมาจากสภาพแวดล้อมแบบนักรบ หรือ พรสวรรค์ส่วนตัวกันนะ ’ แต่อะไรก็ไม่เท่ากับเขามีความตั้งใจพอ

วืบบบ!

ก็อบลินพุ่งเข้าหาเหวี่ยงกระบองในมือใส่ฮาน อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง

โดยที่ฮานหลบครั้งแรกๆได้แต่สุดท้ายก็ต้องยกดาบขึ้นปะทะอยู่ดี

‘ แมร่งทำไมมันแรงเยอะขนาดนี้วะ ดันเคลื่อนไหวเร็วอีก ’

สัตว์ร้ายตรงหน้าที่สูงแค่เมตรเดียวแต่เรี่ยวแรงมันหนักหน่วงมาก ไม่เห็นจะเหมือนในนิทานฮีโร่เลย ที่ก็อบลินมีไว้ให้ตัวเอกเหยียบเล่นๆ

" เxี้ยยย " ก็อบลินพุ่งเข้าหาอีกครั้ง

ฮานร้องอย่างตกใจ 

ตอนที่อันตรายถึงชีวิตเข้าหา เขาเหมือนดับเครื่องชนไปแล้วฮานไม่ได้ใช้สมองสั่งงานร่างกายอีกต่อไป 

เขาปล่อยให้ร่างกายขยับตามสัญชาติญาน แถมยังโดนก็อบลินทุบไปอีกสองสามครั้งแต่ได้เกราะป้องกันช่วย ต้องขอบคุณเลือดที่ไหลเวียนในตัวยังพลุ่งพล่าน ความรู้สึกเจ็บปวดจึงถูกมองข้ามไป 

ปึกก!

ก่อนที่สมองจะตามการเคลื่อนไหวร่างกายทัน ดาบสั้นในมือฮานเข้าหัวก็อบลิน และลึกพอจนมันตาย

ก็อบลินล้มลง เมื่อไม่รู้สึกถึงสัญญาณชีวิตของมันอีก ฮานก็ไม่เหลือแรงยืนอีกต่อไป

' เขาชนะ? '

ซีคมองทางฮานอย่างแปลกใจ

‘ ตอนจะให้ฮานมันลองสู้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาชนะมันได้จริงๆ ’

ก็อบลินจัดเป็นสัตว์ร้ายที่อ่อนแอ แต่สัตว์ร้ายก็คือสัตว์ร้ายพละกำลังมันไม่เบาอยู่แล้ว กลับกลายเป็นว่าเด็กรับใช้ ที่เติบโตมาอย่างถนุถนอมโดยนายหญิงฟรอเรล ต่อสู้กับมันและเอาชนะได้

เหตุผลที่ซีคตั้งใจให้ฮานซื้อคืออยากให้เขารู้อันตรายของสัตว์ร้ายจะได้ไม่ประมาทแถมเขายังได้โอกาสประเมินความสามารถฮานไปในตัวด้วย 

สุดท้ายซีคต้องประเมิณฮานใหม่เขามีพรสวรรค์กว่าที่คิด

“ เอาละ ถึงจะไม่อยากพูดแต่เจ้าทำได้ดีฮาน ”

ซีคเดินเข้ามาแตะไหลฮาน ที่นอนหมดแรงหน้าถิ่มพื้นอยู่

“ อึกกก ขอบคุณท… อืมม!”

ความรู้สึกเจ็บปวดกลับมาหาฮานอีกครั้งจนแทบกรีดร้อง แต่จอมมารมาโปรดเพราะตอนนั้นมีของเหลวไหลหยดไปที่ร่างกายฮานที่ละหยด ความเจ็บของเขาปวดบรรเทาลง 

“ โพชั่น(น้ำยารักษา) ? ”

“ มันเป็นความช่วยเหลือพิเศษจากข้าหนะ แต่เจ้าอย่าคาดหวังมากครั้งต่อไปอาจจะไม่มีอีกแล้ว "

ซีคยังมียาที่หยิบจากปราสาทก่อนออกมาหลายขวด แต่ด้วยราคาที่มันแพงและหายากซีคไม่อยากใช้ถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆ

บาดแผลของฮานเริ่มฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์

“ ครั้งแรกที่เจ้าได้ลองสู้กับสัตว์ร้ายเป็นยังไง ”

“ เจ้าคงคิดยังไงจะไม่มีทางที่ตัวเองจะแพ้มัน…เลยทุ่มสุดตัว เพราะคิดว่ามันเป็นแค่ก็อบลินละสินะ ”

“ เอ่อ ท่านซีครู้ ”

“ แน่นอนอย่างแกมันดูออกง่ายจะตาย แต่ที่ข้าถามไปคืออยากให้เจ้ารู้และระวังอันตรายของสัตว์ร้าย”

“ ถือว่าแกยังโชคดีก็อบลินหนะชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม! เป็นเรื่องแปลกที่มันมาอยู่ตามลำพัง "

ซีคหันไปมองทางด้านหลัง

“ แต่ดูๆแล้ว ก็อบลินนั้นจะไม่ได้หลงฝูงมาไกลเท่าไหร่เลย ”

เสียงหญ้าที่พลิวไหวถูกแหวกออก  ก็อบลินที่ละตัวเดินออกมาล้อมซีคและฮานเป็นสิบ

“ หรือที่จริงตัวนั้นมันแค่เหยื่อ ใช้ล่อพวกไม่รู้อะไรให้ออกมากันนะ ”

ท่าทางพวกมันดูไม่สนใจเห็นค่าก็อบลินตัวที่พึ่งตายไปเลย ความผูกพันเห็นใจแบบมนุษย์ไม่มีให้เห็น ถึงได้เรียกว่ามันคือสัตว์ร้ายยังไงละ 

“ ท่านซีค พวกเราตกอยู่ในอันตรายแล้วนะครับ! ”

ฮานตัวสั่นไปทั้งตัวแต่ยังทำท่าพร้อมจะสู้

“ ทุกอย่างปกติดี ข้าเตรียมของไว้พร้อมแล้ว ”

ซีคหยิบหินขึ้นมากำด้วยมือซ้ายที่ละก้อนเกิดเสียงกระทบกันในมือ จากนั้นนิ้วกลางและโป้งด้านขวาง้างกันในท่าพร้อมสะบัด

“ ท่านซีคหยิบหินขึ้นมาทำไมครับ? ท่านซีคคงไม่!…” ฮานยังพูดคำถามไม่จบด้วยซ้ำ

หินถูกวางไว้ปลายนิ้วกลางด้านขวาถูกสะบัดออกไปแล้ว

พวด!

หินก้อนนั้นพุ่งออกไปโดนกลางหน้าผากก็อบลินตัวหนึ่ง 

ดอกไม้สีแดงสดบานสะพรั่ง ราวกับมีค้อนใหญ่พุ่งออกไปฟาดหัวก็อบลินให้ระเบิดแตกออก ท่าทางที่เหมือนการละเล่นวัยเด็กนั้นแต่ด้วยพลังระดับซีคผลลัพธ์มันกลับแตกต่าง

 และซีคยังคงสบัดหินต่อไป

พวด! พวด!

ปึก! ปึก!

เมื่อไหร่ก็ตามที่หินถูกสะบัดออก เสียงก็จะดังพร้อมหนึ่งหัวที่แตกออก สัตว์ร้ายไร้หนทางตอบโต้วิ่งหนีตายกันไปทั่ว ไม่นานก็สิ้นสุดการกวาดล้างทันที

“ ท่านทำมันได้ยังไงง! ”

ฮานที่มักจะระวังท่าทีตัวเองต่อซีคคราวนี้เขาตกใจจนลืมไปเลย ไม่ต้องก้าวขาสักข้างซีคก็กวาดล้างกลุ่มก็อบลินแล้ว ทั้งทีฮานต้องทุ่มสุดตัวกับก็อบลินตัวเดียว

“ แกมองไม่เห็นหรือไง ก็แค่สบัดหินไปรอบๆ ”

ซีคทิ้งหินในมือที่เหลือลงพื้น

“ กับแค่ก็อบลินจะให้ข้าถือดาบไปไล่ฟันหรือไง ”

ฮานมองซีคด้วยสายตาเลือนลอย

‘ แค่ที่ผ่านมาเราก็คิดว่าเขาน่ากลัวพอแล้วนะ ตอนนี้เล่นฆ่าสัตว์ร้ายด้วยหินอยู่ระดับไหนกันวะ…’

ด้วยเวลาอันสั้นซีคก็แข็งแกร่งขนาดนี้ หรือ คนที่ฝึกการต่อสู้มาปกติก็เก่งแบบนี้อยู่แล้ววะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรฮานก็ไม่ได้มีเวลาให้คิดมาก

“ รีบลุกขึ้น ตั้งแต่ที่ข้าใช้โพชั่นไปหนึ่งขวด เจ้าน่าจะเริ่มขยันได้แล้วละ ”

" …ครับท่านซีค "

ฮานยังอยากนั่งต่ออีก ก็ต้องบังคับตัวเองให้ลุก

“ พวกเราได้เวลาเดินทางกันต่อแล้ว ”

ซีคและฮานเริ่มออกเดินทางในถิ่นทุรกันดารกันต่อ

 * * *

ระหว่างการเดินมีสัตว์ร้ายให้เห็นตลอดทาง โดยฉากทั้งหมดที่ฮานเห็นคือพวกมันหัวระเบิดจากหิน ส่วนตัวไหนรอดจากหินก็ถูกดาบในมือซีคฟันเป็นสองส่วนสบายๆ จนฮานแอบสาบานว่าจะไม่ท้าทายซีคอีกเลย

ตอนนี้ซีคกำลังใช้ใบหญ้าเช็ดคราบเลือดออกจากดาบ เขาพึ่งเชือดออร์คไปสองตัว

‘ ยิ่งเดินลึกเข้าไป ก็ยิ่งเจอสัตว์ร้ายได้ง่าย ’

สัตว์ร้ายพวกนี้ อาศัยอยู่ลึกเข้าไปไกลจากที่พวกชาวบ้านอยู่กัน                                                                                                              และมันไม่ค่อยเป็นภัยคุกคามคนในเมืองเท่าไหร่ 

‘ แต่สัตว์ร้ายพวกนี้หรอจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์? ’

ไม่ว่ายังไงสัตว์ร้ายพวกนี้ทุกตัวก็อันตราย ซีคจึงเลือกฆ่าทุกครั้งที่เห็น

‘ ที่ข้าทำไม่คิดถึงขั้นกวาดล้างให้หมดไปหรอก แต่ลดจำนวนมันไปบ้างก็ยังดี ’

เหตุผลนี้ก็พอจะให้ซีคเลือกเดินมานอกเส้นทางหลัก เรื่องนี้ยังช่วยให้ฮานมีประสบการณ์เรียนรู้มันจากความยากลำบาก และอีกเรื่อง…

‘ ก็นะ คงพอช่วยพากเขาได้บ้าง '

การฆ่าสัตว์ร้ายจำนวนมากช่วยให้ชาวบ้านที่อาศัยรอบเมืองปลอดภัยขึ้น ซีคไม่ได้อยากทำถึงขั้นกวาดล้างให้หมดหรอก เขาไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าคนในเขตสตีลวอลล์รู้สิ่งที่เขาทำไปไหม เพราะแค่เขาอยากทำ ชดเชยให้นิดหน่อยที่ก่อนออกมาเขาเพิ่มโอกาสการล้มสลายของเขตสตีลวอลล์ไป

‘ แค่นี้ก็ช่วยพวกเขาเยอะแล้ว ส่วนในอนาคตค่อยว่าไปตามเหตุการณ์ละกัน ช่วยไม่ได้ดันบอกว่าจะลองทำความดีดูบ้าง นี้เรากลายเป็นคนดีแล้วหรอเนี่ยซีค ' 

ถ้าฮานอ่านคำคิดซีคได้คงกรีดร้องความไร้สาระนี้ไปแล้ว

ซีคยังคงเดินสายพบเจอเหล่าสัตว์ร้ายบนหนทางขุรชระต่อไป

สักพักแล้วที่ซีครู้สึกสบายๆมีเวลาให้คิดถึงเรื่องราวในอดีต แต่คนที่เดินตามหลังอย่างฮานเหมือนกำลังตรงไปขุมนรกไม่มีวันสิ้นสุด

จนเวลาที่รอคอยมาถึงด้านหน้าฮานมองเห็นถนน นรกนั้นจบลงชั่วคราว ฮานที่กล้ามเนื้อปวดไปทั่วร่างยังแนบกระเป๋าติดตัวไว้แน่นกลัวสัตว์ร้ายโผ่ลออกมาอีก 

“ ตะวันใกล้ตกดินแล้ววะฮาน งั้นคืนนี้เรามาพักกันที่นี่แหละ ”

" ครับท่านซีค! "                                                                                                          

ฮานกระตือรือร้นตอบกลับ บริเวณที่พวกเขาพักยังเป็นพื้นที่โล่ง แต่ฮานรู้สึกดีที่อย่างน้อยก็อยู่ใกล้ถนน

ฮานเร่งสปีดเพื่อที่จะเตรียมที่นอนของพวกเขาอยู่ แต่ท่าทางเงอะงะไม่ได้ทำให้เร็วเลย ซีคหงุดหงิดที่ไม่พ้นมือเพราะต้องลงมือช่วยส่วนใหญ่ และจะแค่ตอนนี้เท่านั้นเมื่อไหร่ที่ฮานเก่งเขาจะให้ฮานทำคนเดียว

แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!

เสียงแตกของท่อนไม้ดังในกองไฟ ซีคฮานกำลังทานอาหารกัน                                                                                                                ในพื้นที่โล่งนี้เทียบกับป่าพวกเขามองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ชัดมาก 

" เฮ้ ฮาน "

“ครับ ครับท่านซีค!”

" แกเหนื่อยแล้วหรือยัง? "

เมื่อเจอคำถามกระทันหันของซีค ฮานกลัวว่าจะมีหมัดโบยบินมาถ้าเขาตอบไปตรงๆ ว่าเหนื่อยโครต

“ ผมไม่เป็นไรครับท่านซีค ”

“ ก็ดีที่ได้ยินแบบนั้น งั้นเราจะเดินทางต่อแบบเดิมคงไม่เป็นไร ”

“ หะ อันที่จริง มันค่อนข้างจะเหนื่อยโครตครับท่าน!”

ฮานที่เผลอตะโกนออกมารู้สึกกลัวจะโดนหมัดเข้า แต่เป็นการตบเบาเข้าที่หัว

“ ไอ้หนู แกควรทำตัวให้ชินซะ เราต้องเดินทางไปแบบนี้แหละจนกว่าจะออกจากเขตสตีลวอลล์ ”

“ กว่าจะออกจากเขตสตีลวอลล์ก็อีกไกลเลยนะครับท่านซีค! ”

“ ใช่ เพราะงั้นเราจะแค่แวะเข้าเมืองหาซื้อของที่จำเป็น แล้วเดินทางต่อ ”

“ มันจำเป็นต้องใช้เส้นทางตรง ไม่งั้นนานกว่าเราจะถึงปอร์ติกัน ”

ซีคหัวเราะฮาน ที่ตอนนี้กังวลจนสีหน้าบิดเบี้ยวร่างกายหมดแรง

คลอป! คล็อป!

ทันใดนั้นพวกเขาได้ยินเสียงกีบเท้าม้าแต่ไกล ทั้งสองมองที่มาของเสียงที่ห่างออกไปแต่มีแสงสลัวๆให้เห็น

“ ใครกันที่เดินทางเวลานี้ครับ พวกพ่อค้าหรือ? ”

“ ไม่ จากที่ฟังจากเสียงเท้าม้าแล้วมันเงียบเกินไป พวกพ่อค้ามักจะขนของหนักใช้เกวียนใหญ่”

“ หรือเป็นนักเดินทาง,นักผจญภัยพวกนี้กันครับ ”

“ พวกนั้นไม่เดินทางด้วยรถม้าหรือเกวียนแบบนี้หรอก ”

“ ถ้าเช่นนั้นคนแบบไหนกันครับท่านซีค ”

“ เป็นไปได้มากที่สุดก็พวกคนชั้นสูง ที่มีผู้คุ้มกันติดตามมาด้วย ”

เป็นอย่างที่ซีคสันนิษฐาน พอเห็นคนพวกนั้นชัดขึ้นรู้ได้ทันทีว่ามีภูมิหลังไม่ธรรมดา บรรดาผู้คุ้มกันสวมใส่ชุดเกราะเต็มตัว คอยปกป้องรถม้าขนาดใหญ่ดูแพง

' พวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของคารุวิมาน! '

คารุวิมาน เป็นพวกที่เคร่งศรัทธาพวกเขาถือว่าตัวเองเป็นสาวกรับใช้ของ เทพ'การุนา' ที่ีแม้แต่ ราชวงศ์ ขุนนาง และสามัญชนมากมายติดตามจะมองว่าพวกเขาเหมือนศาสนจักรก็ได้ 

สำคัญคือพวกนั้นใช้พลังปาฏิหาริย์หรือพลังศักดิ์สิทธ์นั้นแหละที่ผู้คนศรัทธา

‘ ใครกันที่สำคัญขนาดให้อัศวินศักดิ์สิทธิ์มาคอยติดตาม ’ มีไม่กี่คนบนโลกที่มีสิทธิ์ขนาดนั้น

ขบวนรถม้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ยังมุ่งตรงไปข้างหน้ามันได้มาหยุดตรงหน้าพวกเขานั้นเอง

ฮี้ๆๆ!

ม้าตัวใหญ่พ่นลมออกมา รวมกับความน่าเกรงขามของอัศวินทำเอาฮานตัวสั่น และซีคลุกขึ้นยืน

‘ เป็นไปไม่ได้ที่พวกนั้นจะมาหาเรื่องเรา ต้องการอะไรกัน ’

คารุวิมานเป็นเหมือนตัวแทนความเมตตาและศรัทธา การที่จะลงมือหรือทำร้ายผู้บริสุทธิ์แทบเป็นศูนย์เลย แต่ถ้าเป็นด้านตรงข้ามคือความเลวร้ายพวกนี้ของแสลงเลยละ ก่อนที่จะย้อนกลับมาซีคมีเรื่องต้องสู้กับพวกเขาโดยตลอดยิ่งช่วงแรกๆเขาเกือบไม่รอด

เขาระวังตัวขึ้นทันทีด้วยความเคยชิน

‘ จะว่าไปผู้หญิงคนนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของคารุวิมานนี่นา ’

เธอคนนั้นไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่ง—เธอยังเป็นนักบุญคนสำคัญอีกด้วย ในตอนนั้นเธอมีอีกฐานะคือสมาชิกปาร์ตี้วีรบุรุษของไอ้โง่เกล็นนั้นเอง ความสามารถของเธออย่างการอวยพร เสริมพลัง ฟื้นฟู ยิ่งการรักษาของเธอนะพวกวีรบุรุษนั้นเหมือนเป็นซอมบี้มากกว่ามนุษย์อีก

‘ จะว่าไปพอคิดแล้วเวลานี้ปาร์ตี้นั้นยังไม่เกิด แล้วพวกนั้นทำอะไรกันอยู่นะ ’

ซีคจมอยู่ในความจำได้ไม่นานเมื่อ—

ประตูรถม้าถูกเปิดออกพร้อมคนที่ก้าวลงมา คนนี้น่าจะมีความสำคัญมากสุดในกลุ่ม รอบตัวอัศวินศักดิ์สิทธิ์เพิ่มการเฝ้าระวังสุดๆ ทำเอาซีคสนใจว่าคือใครและเขาต้องเบิกตากว้าง

คนในกลุ่มที่ซีคไม่มีวันลืม

' นักบุญหญิง? '

เขาพึ่งจะนึกถึงเธอไป แถมยังเป็นบุคคลสำคัญในความตายครั้งนั้นของเขา เธอที่ยังร้องไห้ให้คนที่ไม่รู้จักอย่างเขาอีก

กำลังมายืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้

.

.

.

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor

เปิดตัวสาวคนแรกหรือเปล่านะ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.