ตอนที่ 36 เย่ซี , เย่บา

สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)

-A A +A

ตอนที่ 36 เย่ซี , เย่บา

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 36 เย่ซี , เย่บา

 

“ตระกูลเย่นั้นซื่อสัตย์ และความจงรักภักดีของพวกเขาไม่เคยเป็นที่สงสัยในราชตระกูล และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาทดแทนตระกูลเย่ แต่ในราชวังมีการแก่งแย่งกันขึ้นครองบัลลังก์ เพราะการมีอยู่ของตระกูลเย่ หากข้าเป็นจักรพรรดิ ข้าก็ไม่อาจอยู่อย่างสงบได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงการหวาดระแวงที่เลื่อนลอย หรือแม้กระทั่งการเข้าใจผิดคิดไปเอง”

 

หลังจากได้ฟังเขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เย่ฉุ่ยเหยาไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สายตานางมองไปยังใบหน้าเขา นางเกิดความสับสนขึ้นเล็กน้อย เพียงครู่หนึ่งนางก็เอ่ยขึ้นช้าๆ “เจ้าคือเสี่ยวเฉินจริงๆหรือ?!”

 

เย่หวูเฉินแสดงสีหน้าไร้เดียงสา “แน่นอน ท่านกระทั่งจำน้องชายตัวเองไม่ได้? มองดูที่หลังมือข้านี่สิ นี่คือรอยประทับ และเมื่อครู่ที่ผ่านมา ข้าเพิ่งถูกบังคับให้ทดสอบสายเลือด.... โอ้ ใช่แล้ว พี่หญิงคงยังไม่รู้ว่าข้าหมดสติไปเป็นเวลานาน และข้าถูกผู้อาวุโสเทพกระบี่ช่วยเอาไว้ เขายังสอนข้าหลายๆเรื่อง เมื่อข้าได้สติขึ้นมาข้าไม่อาจจำเรื่องราวในอดีตได้ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันแรกที่ข้าได้พบกับพี่หญิง”

 

เย่ฉุ่ยเหยานิ่งค้างไปอีกครั้ง เขายังยิ้มบาง ขณะที่ม่านตานางเบิกกว้าง เย่ฉุ่ยเหยารีบเบือนสายตาหนีและถามราบเรียบ “ทำไมเจ้าถึงบอกเรื่องพวกนี้กับข้า?”

 

“เพราะข้ารู้ว่าพี่สาวของข้ารู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว พวกเขาจงรักภักดีเกินไป บิดาและปู่ของท่านไม่เคยสอนเรื่องเหล่านี้ และถึงแม้ว่าท่านจะรู้ แต่ท่านก็ไม่อาจพูดมันออกมา เพราะหากพูดไปก็มีแต่จะถูกดุด่า ดังนั้นท่านจึงทำเป็นไม่สนใจเรื่องราวใดๆของครอบครัว แต่ท่านยังคงเป็นห่วงกังวลถึงอนาคตของตระกูล ท่านจึงค่อยๆเกิดความเสียความใจที่ต้องเกิดมาในตระกูลนี้ และเริ่มปรารถนามีชีวิตที่ธรรมดาและสงบสุข”

 

เย่หวูเฉินลอบส่ายศีรษะ นางคิดจริงๆหรือ ว่าสิ่งที่นางเรียก ‘ชีวิตธรรมดา’ นั้นจะสวยงามจริงๆ? หากว่านางเกิดในตระกูลธรรมดา ไม่ต้องคิดถึงอย่างอื่น เพียงแค่รูปโฉมของนางก็ทำให้นางไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้แล้ว และนางจะต้องถูกบังคับให้กลายเป็นของเล่นอยู่ในเงื้อมมือใครบางคน แต่เพราะว่านางเกิดในตระกูลเย่ นางจึงสามารถสามารถใช้ชีวิตสงบสุขแบบนี้ได้ เฮ้อ สตรีหนอสตรี............

 

“ท่านสมควรรู้อยู่แล้วถูกไหม? สายเลือดบุตรชายตระกูลเย่มักจะทรงพลังได้ที่เปรียบ แต่ข้ากลับไม่ได้รับสืบทอดสิ่งดีๆจากสายเลือดนั้น.... กลับเป็นว่าข้ามีแต่โรคภัยและต้องพิการ น่าแปลกใช่มั้ย แต่ท่านกับข้าย่อมทราบดี ว่าถึงแม้พวกเราจะพยายามขนาดไหน ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆได้ ต่อให้พูดความจริงไป หรือต่อให้เรื่องนี้แปลกแค่ไหน แน่นอนถ้าหากข้าเป็นจักรพรรดิ ข้าย่อมสามารถทำให้เกิดเรื่องเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย หากข้าต้องการก็แค่ใช้ยาเพียงเล็กน้อย ท่านคิดว่าไงพี่หญิง? ท่านย่อมยินดีกับบุคคลิกเย็นชาของตนเอง เพราะหากท่านมีความสามารถทัดเทียมกับบุรุษ เป้าหมายของพวกมันคงไม่ใช่เพียงแค่ข้า”

 

หลังจากพูดมานานเกินกว่าครึ่งวัน เย่หวูเฉินจึงเริ่มกระหายน้ำ เขายิ้มบางให้เย่ฉุ่ยเหยา แล้วอุ้มหนิงเสวี่ยและยืนขึ้น จากนั้นก็เดินออกไปจากประตู “วันนี้ข้ารบกวนพี่สาวมากแล้ว ไว้วันหลังข้าจะมาหาอีก แต่หากพี่สาวคิดถึงข้า ท่านสามารถมาเยี่ยมข้าที่สวนน้อยได้ทุกเวลา”

 

“เจ้าได้บอกเรื่องนี้กับท่านปู่หรือยัง?” เย่ฉุ่ยเหยาถาม

 

“ไม่ ข้าจะไม่ใช้ปากของข้าบอกพวกเขา แต่ข้าจะใช้ความจริง”

 

นางมองแผ่นหลังของเขาจนกระทั่งลับตาไป เย่ฉุ่ยเหยาค่อยๆนั่งลง จิตใจนางปกติสงบราบเรียบดั่งผิวน้ำ แต่ยามนี้กลับพบว่ายากที่จะกลับมาสงบลง หลังจากนั่งเงียบอยู่นาน นางกล่าวพึมพำ “เขาคือเสี่ยวเฉินจริงๆหรือ.....”

 

นางนึกถึงน้องชายที่ปกตินอนติดอยู่กับเตียงตลอดปี ร่างกายของเขาเปราะบาง นิสัยใจคออ่อนแอ นางนึกถึงเมื่อครู่ที่เขาเผยท่วงท่าสง่างาม วาจาทุกคำชำแรกเข้าสู่หัวใจที่ปิดตาย นางเริ่มสับสนและส่ายศีรษะ สายตานางจับจ้องภาพที่เขาวาดเมื่อครู่ ‘ขุนเขาทะเลเมฆ’ และนางไม่ละสายตาเป็นเวลานาน

 

เย่หวูเฉินกับหนิงเสวี่ยกลับมาที่สวนน้อย หวังเวิ่นชูไม่ได้อยู่รอพวกเขา แต่เป็นคนสองคนที่มีสีหน้านอบน้อม พวกเขายังดูอายุไม่เกิน 20 ปี และต่างก็สวมใส่ชุดสีดำแบบคนใช้ เมื่อเห็นเย่หวูเฉินกลับมา พวกเขารีบเข้าไปคำนับต้อนรับทันที “นายน้อยเล็ก คุณหนูหนิงเสวี่ย บ่าวผู้ต่ำต้อยคือเย่ซี ส่วนนี่คือน้องชายข้า เย่บา นายหญิงส่งพวกเรามาให้คอยติดตามรับใช้พวกท่านในอนาคต พวกเราจะเชื่อฟังคำสั่งของนายน้อยเล็กเป็นอย่างดี....”

 

“เรียกข้าว่านายน้อยก็พอ ข้าไม่ชอบถูกเรียกว่า ‘เล็ก’ ยิ่งกว่านั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเรียกตนเองว่าต่ำต้อยในอนาคต” เย่หวูเฉินกล่าวราบเรียบ เขาไม่ใส่ใจแล้วจูงมือหนิงเสวี่ยเข้าห้องเรียน

 

“ขอรับ ขอรับ” เย่ซีและเย่บา รีบตอบรับ ไม่มีใครในตระกูลเย่ที่ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนขี้โรคอีกต่อไป แม้แต่บุคลิกนิสัยยังเปลี่ยนจนไม่เหลือเค้าเดิม หลังจากที่กลับมา เขาได้ตบหน้านายน้อย ดังนั้นเขาย่อมเป็นคนที่เอาใจได้ยาก ยามที่หวังเวิ่นชูเรียกพวกเขา พวกเขาได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ ดังนั้นเมื่อนายน้อยเล็กกล่าววาจา พวกเขาจะกล้าเอ่ยคำว่า ‘ไม่’ ได้อย่างไร

 

เย่หวูเฉินนั่งลงขณะที่อุ้มหนิงเสวี่ย เย่ซีนำถ้วยน้ำชามาบริการอย่างรวดเร็ว เขากล่าว “นายน้อยเล็.. เอ้ย นายน้อยเชิญดื่มน้ำชา”

 

เย่หวูเฉินพยักหน้าและดื่มเข้าไปอึกใหญ่ กลิ่นหอมของชาลอยฟุ้งกระจาย ให้สัมผัสถึงรสชาติที่ยอดเยี่ยม เขาได้แต่คิดว่าแม้สุราของโลกนี้จะย่ำแย่ แต่น้ำชากลับใกล้เคียงกับในความทรงจำ ขณะที่เขาดื่มก็พลางถาม “เย่ซี เย่บา บ้านเกิดของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน และชื่อเดิมของพวกเจ้าคืออะไร?”

 

เมื่อบุรุษเข้าสู่ตระกูลเย่ พวกเขาจะสามารถใช้ได้เฉพาะแซ่ ‘เย่’ และชื่อจะเป็นลำดับตัวเลข ส่วนสาวใช้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อของพวกนาง เย่ซีคำนับก่อนกล่าว “เรียนนายน้อย ผู้น้อย.... เสี่ยวบาและข้ามาจากเมืองเฉิงอานทางใต้ พวกเราเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด ก่อนนี้ข้ามีชื่อว่า หยางเตียนฟง” (โน๊ต : เตียนฟง แปลว่า จุดสุดยอด)

 

พรวด...

 

น้ำชาที่กำลังไหลลงลำคอเย่หวูเฉินพุ่งพรวดออกมา กระจายไปโดนหน้ากระทั่งเสื้อผ้าของหนิงเสวี่ย เขารีบวางถ้วยชาลงแล้วเช็ดน้ำชาช่วยนาง ขณะที่เขากำลังสำลักอย่างหนักจนน้ำตาแทบเล็ดออกมา

 

ปฏิกิริยาเกินคาดของเย่หวูเฉินทำให้เย่ซีกระวนกระวาย เขากล่าวขอโทษและรีบยิ้มให้ “ทำให้นายน้อยต้องหัวเราะแล้ว เพราะว่าบิดาตั้งชื่อนี้ให้กับข้า ข้าต้องการเปลี่ยนชื่อในอนาคต แต่ตอนนี้... ข้าได้รับเกียรติให้คอยรับใช้นายน้อย นับเป็นเรื่องโชคดีที่สุดในชีวิตข้า”

 

“แล้วเจ้าละเสี่ยวบา? ชื่อของเจ้าคือ?” เย่หวูเฉินเขย่าคอตัวเอง ในที่สุดก็กำจัดความรู้สึกติดขัดในลำคอได้

 

“เรียนนายน้อย ข้าชื่อว่าหยางเก้าฟง” เย่บาก้มศีรษะตอบ (โน๊ต : เก้าฟง แปลว่า จุดสูงสุด)

 

หน้าผากของเย่หวูเฉินยับย่นเป็นรอยดำสามเส้น เตียนฟง , เก้าฟง ช่างเป็นชื่อที่ทรงพลัง โชคไม่ดีที่พ่อของพวกเขาแซ่หยาง

 

หยางเตียนฟง , หยางเก้าฟง บิดาของพวกเขาช่างอัจฉริยะในการเลือกชื่อเสียจริง

 

(โน๊ต : หยางเตียนฟง = แกะบ้า/ ลมบ้าหมู  หยางเก้าฟง = แกะคลั่ง)

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.