หวานใจพี่รหัส ตอนที่2 ยัยตัวดีเธอโดนแน่!

หวานใจพี่รหัส

-A A +A

หวานใจพี่รหัส ตอนที่2 ยัยตัวดีเธอโดนแน่!

 

 

นรินทร์เรียกน้อง ๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายออกมาพร้อมกันทีเดียวหกเจ็ดคน เพื่อไม่ให้ดูเป็นการเจาะจงแกล้งนภาคนเดียวเกินไป แต่ละคนส่งกระดาษรายชื่อที่จดชื่อเพื่อนและรุ่นพี่มาได้ให้เขา โดยจะเรียกรายชื่อจากกระดาษนั้นของแต่ละคน สายตามองกระดาษในมือของนภา เธอจดชื่อเพื่อนและรุ่นพี่มาได้จำนวนไม่น้อยเลย รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของหนุ่มหล่อ อยากรู้นักจะจำได้กี่ชื่อกัน! 

 

นภาใจเต้นระทึก ถ้าเป็นรุ่นพี่คนอื่นเธอคงจะต้องหัวเราะอย่างเขิน และอายสุดขีด แต่เมื่อเป็น “เขา” ทำให้รู้สึกยิ้มไม่ค่อยออกเอาเสียเลย มองหน้าขาว ของหนุ่มหล่อ เหมือนกำลังหาเรื่องแกล้งเธอชัด ๆ ให้ตายสิ! ปกติความจำของเธอก็ไม่ค่อยเอาไหนอยู่แล้ว พลางอดลอบถอนหายใจไม่ได้

 

“แนะนำตัวเลยครับ เริ่มจากน้อง เรียงไปเลยนะครับ” นรินทร์ชี้มาที่นภาซึ่งยืนอยู่หัวแถว พลางเหยียดยิ้มเล็กน้อย

 

“ชื่อนภา มาจากจังหวัดอยุธยาค่ะ” เธอรู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น ๆ

 

น้องคนอื่นต่างแนะนำตัวต่อไปจนครบ รุ่นพี่มาจัดแถวให้น้องคนที่รออยู่หันหลังให้กับเพื่อน ๆ

 

“พร้อมนะครับ” นรินทร์เดินถือกระดาษรายชื่อของนภา เข้ามายืนใกล้ ๆ

 

เธอพยักหน้ารับ ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วงานนี้!

 

“ปาร”

 

นรินทร์เริ่มขานชื่อแรก ซึ่งนภาเดินไปชี้ตัวเพื่อนรักได้อย่างถูกต้องอยู่แล้ว แต่ทว่าเมื่อเขาขานชื่อคนต่อไปในกระดาษ สมองของเธอก็รู้สึกมึนงง สับสน ประกอบกับความตื่นเต้น ทำให้จำอะไรไม่ได้เลย วิ่งไปชี้ตัวเพื่อนสลับกันไปสลับกันมา 

 

‘โอ๊ย! ตาย! นภาเอ๋ย...” นภาได้แต่บ่นอยู่ในใจเมื่อเพื่อนแต่ละคนส่ายหน้าว่าไม่ถูก

 

ส่วนคนอื่น ๆ ก็มีอาการเช่นเดียวกัน เพื่อนที่นั่งรอต่างพากันตบมือโห่ฮา เพราะบางคนจดชื่อเพื่อนได้ยาวมากจริง ๆ แต่ดันจำได้น้อยมาก จึงต้องถูกทำโทษยกทีมโดยปริยาย เพราะไม่มีใครจำได้เกินครึ่งแม้แต่คนเดียว

 

“ขอเชิญแดนเซอร์ออกมาเต้นไก่ย่างถูกเผาให้ดูก่อนครับ” นรินทร์เรียกทีมสันทนาการออกมาสาธิต ก่อนจะให้เต้นพร้อมเพรียงกัน โดยเริ่มจากการเต้นแบบเชื่องช้ามาก ทำเอาคนดูพากันหัวเราะกลิ้ง แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น ๆ ตามเสียงกลองที่รัวไปตามจังหวะ น้องหลายคนเต้นกันเต็มที่ แต่นภาเต้นตามไปอย่างนั้นเอง คนดูที่เหลือต่างตบมือตามจังหวะอย่างชอบอกชอบใจ

 

“คำถามสุดท้ายครับ น้อง ๆ รู้รึจักพี่มั้ยครับ ว่าพี่ชื่ออะไร? เขียนลงในกระดาษเลยครับ”

 

นภาหน้าซีดเผือก เป็นรุ่นพี่คนเดียวที่เธอไม่ได้เข้าไปถามชื่อ

 

ปรากฏว่าน้อง ๆ คนอื่นตอบได้กันหมด มีนภาคนเดียวที่ตอบไม่ได้ จึงต้องอยู่ต่อ

 

“เมื่อตอบไม่ได้ งั้นก็ต้องถูกทำโทษนะครับ”

 

นภามองหน้านรินทร์ นี่มันแกล้งกันชัด ๆ แต่เธอจะไม่ยอมให้เขาแกล้งฝ่ายเดียวหรอก

 

“เอาง่าย ๆ ครับ เพลงในตำนาน กิ่งก้านใบดีกว่า”

 

ทีมรุ่นพี่ขาแดนซ์ก็ออกมาสาธิตให้ดู พร้อมเสียงกลองรัวขึ้นอีกครั้ง

 

“พร้อมนะครับ” นรินทร์หันไปถามยัยตัวแสบ และแอบอมยิ้มอยู่ในที

 

“ยังค่ะ”

 

หนุ่มหน้าใสขมวดคิ้ว มองเธอด้วยสายตาของคำถาม

 

“ยังจำไม่ได้ค่ะ เป็นคนความจำสั้น อยากให้พี่นรินทร์ช่วยเต้นให้ดูอีกรอบค่ะ” สิ้นเสียงนั้น เสียงกรี๊ดดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับเสียงตบมือเกรียวกราว

 

ธารน้ำรีบเดินมาคว้าโทรโข่งออกจากมือหนุ่มหล่อของคณะ

 

“สาธิตให้น้องดูหน่อยเร็ว” 

 

หนุ่มหน้าใสทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะยอมรับชะตากรรม

 

“พี่เต้นนำเลยนะคะ เดี๋ยวจะเต้นตามค่ะ” นภามองหน้ารุ่นพี่สุดหล่อ ด้วยสีหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่เขากลับมองเธออย่างเขม่นเข่นเขี้ยว ราวกับจะบอกว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ

 

นภาหัวเราะขำกลิ้งเมื่อเห็นนรินทร์สาธิตเต้นท่ากิ่งก้านใบให้ดู เสียงฮาตบมือลั่นสนาม เธอเต้นตามเขาไปอย่างขำ ๆ ในที่สุดก็เอาคืนเขาจนได้ ฝันไปเถอะว่า จะได้แกล้งเธอฝ่ายเดียว

 

===============

 

เมื่อกิจกรรมรับน้องสิ้นสุดลง นภาแบกหนังสือที่พี่รหัสขนมาให้ สายตาคอยมองหาพี่ชายของเธออย่างแปลกใจ ทำไมไม่เห็นเขาเลย ไปประชุมอะไรนานนักหนายังไม่เสร็จอีก อยากให้พี่ชายและเพื่อนซี้ได้เจอกันเสียที แต่ทว่าคนที่ไม่อยากเจอดันเดินเข้ามา แถมยังเดินตรงมาหาเพื่อนรักของเธออีกต่างหาก

 

“พี่รหัสฝากหนังสือมาให้ครับ ติดประชุมอยู่” นรินทร์ยื่นถุงหนังสือใบโตมาตรงหน้าปาร

 

“ขอบคุณพี่นรินทร์มากเลยค่ะ” ปารยื่นมือไปรับหนังสือจากมือรุ่นพี่

 

“ฝากขอบคุณด้วยนะคะ”  

 

“ได้ครับ พี่ไปก่อนนะ” 

 

หนุ่มหล่อมองปารอย่างเสียดาย ทำไมเธอถึงเป็นน้องรหัสของยนตร์ แทนที่จะเป็นเขา รอยยิ้มของเธอน่ารักจริง ๆ อดแปลกใจไม่ได้ ที่รุ่นน้องคนนี้ ไม่มีทีท่าจะกรี๊ดเขาเหมือนสาว ๆ คนอื่น ๆ เลย

 

นภามองนรินทร์มองปารแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ หนอยส่งตาหวานให้เพื่อนของเธอเหรอ อดเข้าไปขัดจังหวะการมองไม่ได้

 

“ไว้ฉันจะให้พี่ช่วยสอนเต้นเพลงกิ่งก้านใบอีกนะคะ ยังจำไม่ได้เลยค่ะ”  

 

นรินทร์หันมามองยัยตัวแสบ ก่อนจะรีบเดินหนีไปทันที ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอต่อหน้าปาร

 

นภาแอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ เมื่อนรินทร์หันหลังเดินไปแล้ว

 

                รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าจอมวางแผน ในที่สุดก็นึกแผนที่จะให้เพื่อนซี้ได้เจอกับพี่ชายของเธอได้แล้ว ด้วยการชวนเพื่อนไปเที่ยวบ้าน ปารตอบตกลง เพราะอยากไปเยี่ยมแม่ของนภาด้วย แต่พอไปถึงแม่ของเธอกลับไปต่างจังหวัดเสียก่อน นภาจึงชวนอยู่ทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนกัน                             

 

                “มานี่ เล่นเกมดีกว่านะ นั่งสิ มีเกมใหม่ด้วยนะ” นภาพาเพื่อนสาวเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่นหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ รอไปพลาง ๆ ก่อน

 

“เกมอะไร”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราเรียกว่า เกม ABCD”

 

ปารหัวเราะร่วน “โธ่….!!! นึกว่ารู้”

 

“เออน่า…ตอนนี้เราเป็นแชมป์อยู่ แน่จริงก็ล้มแชมป์ให้ได้ละกัน” ว่าแล้วเดินไปเปิดเครื่องคอม คลิกเปิดโปรแกรมเกมทันที

 

“ได้เล้ย!!” ปารรับคำท้า

 

หน้าจอคอมปรากฏตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีอักษร A B C D เป็นสีต่าง ๆ อยู่กระจัดกระจายกันในสี่เหลี่ยมนั้น

 

“นี่นะปาร ต้องดับเบิ้ลคลิกลบสีต่าง ๆ ของ A B C หรือ D ที่ติดกันออกไป ถ้าคลิกสีอื่นออกไปให้สีใดสีหนึ่งต่อกันได้มากที่สุด แล้วจะได้คะแนนมาก เราจะทำให้ดูนะ” อธิบายจบพร้อมกับสาธิตวิธีเล่นให้ดูประกอบ

 

“เล่นไปก่อนนะ เดี๋ยวไปหาหนมมาเลี้ยง” แล้วเดินหายตัวออกไป

 

 

 

ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น มองเด็กสาวที่นั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วส่ายหัว ผมที่ปล่อยสยายทำให้เขานึกว่าเป็นน้องสาวจอมแก่นของเขา

 

“เฮ้อ..ยัยภากลับมาก็เล่นเกมเลยแฮะ” เขาสาวเท้าเข้าไปหา เอื้อมมือโอบไหล่สาวน้อย ค้อมตัวเข้าไปใกล้

 

“ไง..กลับมาก็เล่นเกมเลยนะเรา”

 

“เฮ้ย! อย่าเพิ่งมากวนดิ” ปารง่วนอยู่กับการเล่นเกม สายตายังจดจ้องอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์อย่างตาไม่กระพริบ 

 

แต่ต้องหยุดชะงักลงกะทันหัน เมื่อสมองประมวลผลเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เสียงเพื่อนสนิท แถมยังเป็นเสียงผู้ชายอีกต่างหาก แล้วรีบหันขวับมามองอย่างด่วนจี๋ เด็กสาวทำตาโตอย่างตกอกตกใจ เมื่อหันมาจ๊ะเอ๋! กับใบหน้าของหนุ่มรุ่นพี่ ที่อยู่ใกล้จนเกือบจะชนกัน รีบหันหน้ากลับไปมองคอมพิวเตอร์ทันที หัวใจเต้นตึกตักจนรู้สึกได้ สมองหยุดสั่งงานชั่วคราว เป็นงงจนทำอะไรไม่ถูก

 

“อ้าว…!!!! พี่นึกว่า….”

 

ยนตร์ยังพูดไม่ทันจบคำก็ได้ยินเสียงน้องสาวดังเข้ามา

 

 “อั้นแน่…พี่ยนตร์ ทำอะไรเพื่อนภาคะ” นภาเดินถือถาดน้ำและขนมเข้ามาในห้อง มองเห็นมือพี่ชายที่ยังคาอยู่บนไหล่เพื่อนสาว

 

“เปล่า….” ชายหนุ่มรีบหดมือกลับ พร้อมกับถอยตัวออกมาทันที

 

“พี่นึกว่า ภานั่งเล่นคอมซะอีก” 

 

“เหรอ…ค้า….” นภาลากเสียงยาว ทำหน้ากวน ๆ แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ในที่สุดแผนของเธอก็สำเร็จ เป็นการพบกันที่เกินความคาดหมาย ก่อนเดินไปวางถาดน้ำและขนมลงบนโต๊ะเตี้ย ๆ หน้าโซฟายาว แล้วเดินไปหาเพื่อนสาว ที่นั่งตะลึงงันอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์

 

ปารอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่นึกว่าจะบังเอิญพบเขาสามเวลาขนาดนี้ เพราะเขาคือคนที่เธอคว้ามือไปขึ้นรถไฟเมื่อตอนเช้า หรือคือพี่รหัสของเธอที่เจอกันเมื่อตอนบ่าย แล้วยังมาเจอกันตอนเย็นนี่อีก ความรู้สึกอับอายที่คว้ามือเขาเมื่อเช้านี้ยังทำให้เธอกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่พบกัน

 

“นี่ปาร จำพี่ชายเราได้รึเปล่า” แล้วเดินไปจูงมือเพื่อนสาวมายืนใกล้ ๆ พี่ชายเพื่อจะทำการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ

 

ปารเพ่งมองใบหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน เขาเองก็เพ่งมองหน้าเธอเช่นกัน

 

“อ้าว…!!”

 

ทั้งสองอุทานขึ้นมาพร้อมกัน ต่างคนต่างยกมือชี้ไปยังฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่ต่างคนต่างหัวเราะก๊ากออกมา

 

“พี่ยนตร์เองหรือคะ จำไม่ได้เลย” เด็กสาวเบิกตาโตอย่างแปลกใจ เค้าโครงหน้าเมื่อสมัยยังเด็กของเขายังคงมีหลงเหลือพอให้มองเห็น แม้ใบหน้านั้นจะเปลี่ยนไปมาก ทั้งหล่อเข้มขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ดำเหมือนตอนเด็ก ตัวสูงขึ้น แถมยังใส่แว่นอีกต่างหาก

 

“ปารก็เหมือนกัน โตขึ้นเยอะเลยนะเรา พี่นี่จำไม่ได้เลย น่ารักขึ้นเป็นกอง” ชายหนุ่มยิ้ม เพ่งพิจารณาใบหน้าของเด็กสาวโค้งมนเหมือนรูปไข่ แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ ดวงตาของเธอเป็นประกายแจ่มใสเหมือนดวงดาว ที่ไม่เคยเปลี่ยนคือรอยยิ้มของเธอเหมือนดอกไม้บานยามเช้า ไม่น่าเชื่อว่าเด็กกะโปโลเมื่อก่อนจะโตเป็นสาวแล้ว นึกถึงอดีต ตอนที่อยู่บ้านใกล้กันที่ต่างจังหวัด เขาเห็นปารตั้งแต่เพิ่งเกิดเลยทีเดียว ระหว่างเขาและเธอมีเรื่องราวที่ทำร่วมกันไว้มากมาย

 

“แล้วยังเป็นเป็ดขี้แยอยู่หรือเปล่าครับ?” ยนตร์แกล้งเย้าเด็กสาว เพราะตอนเด็กนั้นเธอชอบร้องไห้ ทำปากเบะเหมือนเป็ด

 

ปารทำจมูกย่น หน้างอเป็นจวัก “พี่ยนตร์ ล้อปารอีกแล้วนะ ปารบอกว่าไม่ชอบ ก็ยังล้ออยู่ได้ หยุดเลย!” เด็กสาวพูดกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ พลางมองหน้าชายหนุ่มที่เอาแต่หัวเราะชอบใจ โดนล้อว่าอะไรก็ไม่โกรธเท่าล้อเป็นเป็ดขี้แย

 

“ไม่ยอมหยุดใช่มั้ย?” ปารกัดฟันกรอดอย่างโมโห วิ่งไล่ตีพี่รหัสเป็นพัลวัล

 

“ว่าแต่พี่ล่ะ ยังแห้วอยู่รึเปล่าคะ ส้มแห้ว ส้มแห้ว ส้มแห้ว แห้ว ๆๆๆๆ” เธอขุดเรื่องสมัยเด็กมาล้อเขาเอาคืนบ้าง เพราะตอนเด็ก เขาเคยไปจีบคนชื่อส้ม แต่ถูกปฏิเสธ ไม่ว่าเขาจะไปจีบสาวคนไหนก็จีบไม่เคยติด แห้วรับประทานเสมอ

 

                 สีหน้าของยนตร์ที่กำลังยิ้ม หัวเราะอยู่หุบลงทันที สิ่งที่เธอพูดมันตอกย้ำปมในใจตั้งแต่เด็กว่าเขาจีบสาวไม่เคยติด ไม่ว่าจะตอนเด็กหรือจะตอนนี้ก็ตาม ก็ไม่เคยจีบสาวคนไหนสำเร็จเลย แม้แต่สาวสวยคนล่าสุด ที่เขาตามจีบอยู่นาน ก็ถูกปฏิเสธตามเคย

 

                    “ที่พี่จีบส้มไม่ติด ไม่ใช่เพราะปารเหรอ! ที่แอบกินขนมที่พี่ฝากไปให้ส้มจนหมด” น้ำเสียงพี่รหัสเริ่มเข้มขึ้น

 

                   “พี่รู้เหรอ...” ปารอึ้งไปครู่หนึ่ง หน้าซีดลงเล็กน้อย เพราะเขาใช้เธอเอาขนมไปให้ส้ม แต่เธอแอบกินขนมจนเกลี้ยง

 

                   “ใช่มั้ยล่ะ”

 

                   “ก็ใช่ แต่เพราะ....” เธออยากจะพูดเหตุผลต่อไปว่า ทำไมจึงกินขนมที่เขาฝากไปให้จนเกลี้ยง แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดมันออกไป

 

                   “งั้นตอนนี้ พี่คงจีบสาวติดแล้วใช่ไหมคะ” ปารย้อนถาม หากมันเป็นความผิดของเธอจริง ๆ

 

                  

 

                   “แล้วพี่จะจีบสาวติดหรือไม่ติด มันเกี่ยวอะไรกับปารด้วย มายุ่งอะไรด้วยล่ะ” 

 

                   นภามองหน้าพี่ชาย น้ำเสียงนั้นเริ่มเข้มขึ้นทุกที ตายละหว่า! เจอกันครั้งแรกก็จะทะเลาะกันซะแล้ว เธอจะทำยังไงดีเนี่ย!!

 

                   “พี่ก็ตอบมาสิคะ ตอบมา” ปารเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับพี่รหัส

 

                   “ปารไม่ได้เจอพี่เลยหกปี พี่จีบหญิงติดหรือยังละคะ ปารอยากรู้ มันเป็นความผิดของปารเหรอ”

 

                   “ทำไม? ปารอยากหัวเราะเยาะพี่อีกคนใช่มั้ย?” เหมือนที่เพื่อนชอบล้อว่า เด็กเรียนอย่างเขาจะจีบสาวติดได้อย่างไร

 

                    “พี่ไม่เคยจีบใครติดเลย พอใจรึยัง!” ยนตร์ตะโกนใส่เธอเสียงดังอย่างโกรธเคือง แล้วเดินหน้าเครียดออกจากห้องทันที คำพูดของเธอสะกิดแผลใจที่เกือบจะหายดีแล้วให้เปิดออกอีกครั้ง 

 

  “ปาร! พี่ยนตร์เพิ่งอกหัก โดนแฟนทิ้ง เธอไม่น่าพูดแบบนั้นเลย”

 

ปารหน้าซีด จ๋อยลงทันที

 

“ก็..ก็..ไม่รู้นี่…” เธอมองตามหลังพี่ชายเพื่อนออกไปด้วยสายตาที่รู้สึกผิด

 

“ก็เขามาล้อปารก่อนทำไมล่ะ ทีเขาล้อได้ล้อดี ล้อคืนแค่เนี้ย! ทำเป็นโกรธ ไม่ยุติธรรมเลย”

 

                “เนี่ย…รู้มั้ย พี่ยนตร์ซึมไปตั้งนานเป็นเดือนเลยนะ กว่าจะดีขึ้นน่ะ” เพื่อนสาวสาธยายอาการของพี่ชายต่อ

 

“เหรอ….” ปารเสียงอ่อย

 

“แล้วปารจะไปขอโทษเขาละกันนะ” ปารผ่อนลมหายใจออกเบา ๆ อย่างเหน็ดเหนื่อยหัวใจ 

 

“ปารต้องไปง้อพี่ยนตร์ด้วยนะ ก่อนหน้านี้พี่ยนตร์เศร้าหนักมากเลย” นภาแกล้งพูดให้พี่ชายของเธอดูน่าสงสารเพิ่มขึ้นอีก เพราะรู้นิสัยเพื่อนดีว่า ไม่เคยง้อใคร ยกเว้นพี่ชายของเธอคนเดียว

 

“รู้แล้วน่า...ไม่ต้องกังวลหรอก ปารง้อแป๊บเดียว พี่ยนตร์ก็หายแล้ว จำไม่ได้เหรอ” ปารรู้สึกอึดอัดต้องง้อเขาอีกแล้วเหรอ ง้อมาตั้งแต่เด็กแล้ว

 

                 ตั้งแต่เด็กไม่ว่าครั้งไหนที่ทะเลาะกันกับเขา โกรธกันทีไร เธอก็ต้องเป็นฝ่ายไปง้อเขาทุกที! คนง้อมันต้องเป็นผู้ชายสิ! มันเป็นหน้าที่ของผู้ชายนี่นา ส่วนงอนนั่นมันอาการของผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ปารได้แต่ตั้งคำถาม ถามตัวเองวกวนอยู่ในใจ

 

แล้วทำไมเธอต้องแคร์เขา ต้องไปง้อเขาทุกครั้งด้วยนะ

 

ทำไม?

 

=====================

 

 

 

                 ยนตร์หายตัวเข้าไปในห้องของตนเอง นั่งคิดทบทวนถึงเรื่องราววัยเด็ก แม้ว่า จะรู้ดี เป็นที่เขาเองไม่มีความสามารถเอาชนะใจสาว ๆ ที่เขาตามจีบได้ ตอนนั้นเขาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ต้องฝึกซ้อมหนัก จึงไม่ค่อยมีเวลา ทำได้แค่ฝากปารเอาขนมไปให้ แต่เขามารู้ตอนหลังว่า ขนมที่ฝากไปให้นั้น ไปไม่เคยถึงคนที่เขาตามจีบอยู่เลย เพราะไม่ว่าจะฝากขนมไปกี่ครั้ง ปารก็แอบกินขนมหมดเลย แล้วยังมีหน้ามาล้อเขาอีก 

 

                 “ถ้าไม่ยอมมาง้อ จะโป้งเลย” เขาบ่นด้วยหน้าตาบูดบึ้ง นึกถึงตอนเด็ก โกรธกันทีไร ปารต้องเป็นฝ่ายมาง้อเสมอ 

 

                  ยนตร์ยกมือลูบหน้าท้องเบา ๆ เพราะมันเริ่มร้องจ๊อก ๆ แล้ว วันนี้มีเวลาทานข้าวแป๊บเดียวเอง ต้องประชุมทั้งวัน แถมต้องไปดูว่า กิจกรรมรับน้องเป็นอย่างไรบ้าง 

 

                  เขาเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะเขียนหนังสือ กดไอคอนกล้องวงจรปิดขึ้นมา กดดูกล้องที่ห้องนั่งเล่น แต่ไม่เห็นใครอยู่ซักคน สายตามองด้วยความสงสัย แล้วกดไปดูที่ห้องครัว เจอแล้ว! เหมือนกำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ เรื่องทำอาหารนั้นปารสนใจ และมีฝีมือฉายแววมาตั้งแต่เด็กแล้ว ภาพที่เห็นยิ่งทำให้ท้องยิ่งร้องดังขึ้นอีก ก่อนอื่นต้องบรรเทาด้วยการหาน้ำลูบท้อง จึงย่องลงไปที่ห้องนั่งเล่นหาน้ำดื่มละลายความเข็มข้นของน้ำย่อย แล้วย่องต่อไปที่ห้องครัว แอบดูว่า สาว ๆ ทำอะไรกัน

 

                   “ปาร...น่าทานมากเลย กลิ่นหอมจัง” นภาชะโงกหน้าเข้าไปมองหม้อสุกี้ควันฉุยบนเตา

 

                   “หิวแล้ว ใช่ม้า....ถ้าบอกว่า ไม่อร่อย ครั้งต่อไป อด! นะ จะไม่ทำให้กินอีก” ปารแกล้งพูดหยอกเพื่อนไปอย่างนั้นเอง

 

                   “พี่ยนตร์ต้องชอบแน่ ๆ เลย” นภาพูดต่อ 

 

                   “ระดับนี้แล้ว พี่ยนตร์ทานปุ๊บต้องหายโกรธปั๊บเลย” ปารพูดพลางหัวเราะ เธอจำได้ว่า พี่ยนตร์ชอบทานสุกี้มาก

 

                   “แล้วไลน์ไปเรียกพี่ยนตร์ เขาว่าไงบ้าง” มือจับทับพีค้นผักที่ลอยอยู่เหนือน้ำเดือดให้ลงไปด้านล่าง

 

                   “ยังไม่เห็นอ่านเลย สงสัยไม่ยอมลงมา เอางี้ปารยกขึ้นไปให้พี่ยนต์หน่อยน้า....”

 

                   “ไม่ล่ะ! อยากกินก็ลงมากินเองสิ!” ปารบ่นถึงคนขี้น้อยใจ

 

                   “ไหนบอกจะง้อพี่ยนตร์ไง” นภาไม่ยอม

 

                   “วันนี้ยังไม่มีอารมณ์จะง้อใคร!” ปารยังตอบเสียงแข็งอย่างรำคาญ

 

                   “วันอื่นพี่ยนตร์ไม่ว่างจะว่าไง ง้อวันนี้แหละ นะ นะ” นภาพูดพลางเขย่าแขนเพื่อนเบา ๆ อย่างขอร้อง

 

                    ปารนิ่งคิด วันนี้วันรับน้อง ยังแทบไม่เห็นเขามาดูแลน้องรหัสอย่างเธอเลย พี่รหัสคนอื่นยังมาดูแลน้องกันทั้งนั้น แต่เขาโผล่มาแป๊บเดียวเอง แถมยังให้คนอื่นเอาหนังสือมาให้อีก คงจะไม่ว่างจริง ๆ ถ้าจะไปง้อเขาวันอื่น แล้วจะไปง้อที่ไหน? บ้านไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนแต่ก่อนแล้ว จะง้อเขาได้ยังไง เธอรู้สึกกลุ้มขึ้นมาเลย

 

                   “ก็ได้ แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะจ๊ะ เรื่องพี่ยนตร์ปารง้อมากี่ครั้งแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ง้อง่ายจะตายไป ไม่เกินสามวันก็หายโกรธแล้ว เชื่อมือเราสิ ตอนนี้กินสุกี้กันดีกว่า” ปารปิดแก๊ส พลางเดินไปเตรียมชามกระเบื้องมาสองใบ

 

                   ‘เฮอะ! คิดว่าพี่จะง้อง่ายเหมือนตอนเด็ก ๆ เหรอ ไม่มีทาง! เดี๋ยวจะให้ง้อให้เข็ดเลย’ ยนตร์ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม แม้จะเป็นความจริงก็ตาม เขาไม่เคยโกรธปารได้เกินสามวันเลย มาง้อทีไรใจอ่อนทุกทีไป

 

                   ยนตร์สะดุ้ง! เมื่อเสียงสัญญาณไลน์จากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาดังขึ้น รีบกดปิดเสียง แล้วรีบกลับขึ้นห้องทันที

 

                   นภากดไลน์ไปหาพี่ชายอีกครั้ง และได้ยินเสียงไลน์ดังขึ้น แต่ไม่ได้ดังจากเครื่องของเธอ หรือว่าดังจากเครื่องของปาร แต่โทรศัพท์ปารไม่ได้อยู่ตรงนี้นี่นา แล้วเสียงนั้นมาจากไหน รีบเดินไปดูหน้าห้องครัว ก็ไม่เห็นมีใคร หรือว่าเธอหูแว่ว                  

 

     

 

                   “มากินสุกี้เถอะ เสร็จแล้ว” ปารตักสุกี้ใส่ชาม พลางราดน้ำจิ้มรสเด็ด

 

                  

 

                   ยนตร์มองภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นสองสาวกำลังกินสุกี้กันอย่างเอร็ดอร่อย ท้องของเขาร้องอีกแล้ว ต่อมามองเห็นปารตักสุกี้ร้อน ๆ ใส่ชามกำลังเดินขึ้นมาบนห้องของเขา มือรีบกดเม้าท์รูปกากบาทของโปรแกรมกล้องวงจรปิด จับท้องตัวเอง เริ่มร้องอีกแล้ว รีบกินน้ำเข้าไปอีกแก้ว จะให้ปารให้ยินเสียงท้องร้องของเขาไม่ได้เด็ดขาด

 

                   “ก๊อก ๆ” เขาได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง

 

                   ‘จ้างให้ก็ไม่เปิด!’ ยนตร์ปรายสายตาไปที่ประตูห้อง

 

                   “พี่ยนตร์จ๋า....ทานสุกี้กันเถอะ ปารยกมาให้แล้ว กำลังร้อน ๆ เลย ของโปรดของพี่ยนตร์นี่นา ปารทำสุดฝีมือเลยนะ เปิดประตูรับหน่อยสิคะ” เสียงปารอ้อนอยู่หน้าประตูห้องชายหนุ่ม

 

                   เท้าของยนตร์เดินไปที่หน้าประตู แต่แล้วรีบเดินกลับไปที่เตียงนอน หันหลังให้ประตู ยังได้ยินเสียงปารเรียกเขาต่อไปไม่หยุด

 

                   ‘ฝันไปเถอะ ว่าจะยอมเปิดประตูให้ เฮอะ! คิดว่าพี่ง่ายใช่มั้ย? ไม่เกินสามวันเหรอ คอยดูละกัน’ ยนตร์ยิ่งคิดยิ่งหัวเสีย เดินไปนั่งหน้าคอมเปิดเกมส์ขึ้นมาเล่นแก้เซ็ง จะได้เลิกสนใจคนที่อยู่หน้าประตู

 

                   ‘หมดความพยายามแล้วล่ะสิ!’ เสียงหน้าประตูเงียบไปแล้ว

 

                   “โพล้ะ!!!” เขาได้ยินเสียงเหมือนชามหล่นแตกอยู่หน้าประตูห้อง

 

                   “โอ๊ย!” เสียงต่อมาทำให้ยนตร์ลุกขึ้นจากหน้าคอมทันที

 

                   “ปาร!” เขารีบเดินไปเปิดประตูอย่างตกใจ

 

 

 

 

 

================ 

 

 

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

แวะมาอ่านเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึงตอนเข้าเรียนใหม่ๆ เลยครับ

ตามอ่านทั้ง 2 เรื่องเลยครับ 55

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากค่า... จบมากี่ปีแล้วค้า...^^

เรื่องนี้เราอยากให้มีการรับน้องแบบที่เราคิดไว้เลย

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

หวังว่าพี่ปกครองคงไม่โหดนะครับ 55+

ผมจบมา 2 ปีแล้วคร้าบ

รูปภาพของ Risait444

จบด้านไหนมาค้า...พี่ปกครองโหดเหรอ ..

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ของผมไม่โหดเท่าไหร่ครับ แค่ตะโกนเสียงดัง แต่จริงๆ ก็ไม่มีอะไร

ผมจบมนุษยศาสตร์ไทยครับ

รูปภาพของ Risait444

ว้าว...จบภาษาไทย
แล้วทำงานไรคะ ครูภาษาไทยรึเปล่าคะ อิอิ

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ไม่เลยคร้าบ 55

ทำเกี่ยวกับด้านโปรแกรม ไม่รู้หลุดมาทางนี้ได้ไง

รูปภาพของ Risait444

ผู้ดูแลระบบคอมไรงี้เหรอคะ

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพัฒนาการทำงานของโปรแกรมครับ

รูปภาพของ Risait444

เหมือนพวกโปรแกรมเมอร์ไหมคะ หรือดูแลพวกแอพพลิเคชั่น

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

เน้นไปในทางจัดเรียงข้อมูล แล้วส่งให้นักพัฒนาอีกทีครับ

รูปภาพของ Risait444

เหมือนแอดมิน ดูแลระบบป่ะคะ

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ไม่ครับ

คือก่อนที่นักพัฒนาจะทำโปรแกรมแต่ละตัวออกมาได้ ก็จะต้องมีข้อมูลก่อน ผมจะเป็นฝ่ายจัดเตรียมข้อมูลในตรงนั้นครับ

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากๆ เลยจ้า...

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.