แผ่นดินนี้ข้าจอง ตอนที่ 2 เส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย

แผ่นดินนี้ข้าจอง (这是我的土地)

-A A +A

แผ่นดินนี้ข้าจอง ตอนที่ 2 เส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย

คณะเดินทางของจวิ้นอ๋องเดินออกจากนครหลวงฉางอันจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาร่วมๆ 2 เดือนแล้วเเต่ยังไม่มีท่าทีที่จะเข้าใกล้จุดหมายเเม้เเต่นิดเดียวทุกวันจวิ้นอ๋องก็จะถูกเหล่าชาวบ้านถามว่า อีกนานไหมกว่าจะถึง ฉีอ๋องก็ลำบากใจที่จะตอบคำถามเหล่านั้น อยู่มาวันหนึ่งฉีอ๋องก็สัมผัสได้ว่าเหล่าสัตว์เเถบบริเวณป่าเขานี้เริ่มจะมีรูปร่างเเปลกๆคล้ายเป็นสัตว์อสูร พอยิ่งเดินทางไปเรื่อยๆสัตว์อสูรเหล่านั้นเริ่มมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น จากเเค่ฝ่าเท้าก็ใหญ่ถึงหัวเขา จวิ้นอ๋องสัมผัสได้ถึงอันตรายที่พวกเขาเริ่มเข้าใกล้เข้าไปทุกทีเลยสั่งให้หยุดพักพร้อมกับเรียกทหารเหล่าทหารมาประชุมเป็นการด่วนรวมถึงทหารที่ล่วงหน้าไปเคลียร์เส้นทางก็ถูกเรียกตัวกลับมาด้วย เหล่าชาวบ้านเมื่อได้ยินคำสั่งหยุดพักก่อนเวลาของจวิ้นอ๋องต่างก็พากันงงไปตามๆกัน เมื่อเหล่าทหารมายืนพร้อมกันตรงหน้าของจวิ้นอ๋อง เขาเลยได้เริ่มเปิดการสนทนาท่ามกลางป่าทึบ

 

“หน่วยเคลียร์เส้นทาง พวกเจ้าล่วงหน้าไปก่อนพบเห็นสิ่งใดบ้าง” จวิ้นอ๋องถามเหล่าทหารหน่วยเคลียร์ที่มีหลายสิบคน โดยรวมแล้วทหารทุกหน่วยที่ติดตามจวิ้นอ๋องออกจากฉางอันมีจำนวนทั้งสิ้น 500 กว่านาย

 

“เรียนใต้เท้า พวกข้าน้อยในขณะที่กำลังเคลียร์เส้นทางก็พบเห็นเหล่าสิ่งมีชีวิตรูปร่างเเปลกประหลาดหรือที่ท่านเรียกว่าสัตว์อสูรนั่นเเหละขอรับ ขนาดตัวไม่ใหญ่มากใหญ่สุดเเค่หัวเข่า” ทหารนายหนึ่งจากหน่วยเคลี่ยร์เส้นทางก้าวออกมาข้างหน้ารายงานพร้อมประสานมือทำความเคารพ

 

“งั้นก็เเสดงว่าใกล้เเล้วสินะ” จวิ้นอ๋องพึมพำกับตัวเอง

 

“ใต้เท้าเมื่อว่าไงนะ” ทหารนายหนึ่งพูดขึ้น

 

“พวกเจ้า” จวิ้นอ๋องเตรียมสั่งการ

 

“ไปบอกกับเหล่าชาวบ้านหลังจากนี้ สำภาระใดที่ที่จำเป็นให้ทิ้งไว้ที่นี่เสียทำเกวียนให้ว่างเปล่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใครที่เเข็งเเรงให้วิ่งอยากรวดเร็วใครที่ไม่เเข็งเเรงก็ให้ขึ้นเกวียนเสีย เราจะออกป่านี้อยากรวดเร็ว จากนี้ไปหน้าจะเป็นคนนำหน้าเคลียร์เส้นทางเองอย่างรวดเร็ว ขอผู้ที่มีฝีมือด้านพลังเวทย์คอยสนับสนุนข้า 4 คนด้านหน้าส่วนคนที่เหลือคอยประกบทั้ง 2 ด้านของคณะเดินทางเป็นเเนวไปเรื่อยๆจนสุดขบวน เเละที่สำคัญอย่ามัวห่วงชีวิตคนอื่น ห่วงชีวิตตนเองก่อน เราใกล้ที่หมายเเล้วทุกท่าน”

พอออกคำสั่งจบจวิ้นอ๋องก็สวมหมวกเกราะพร้อมด้วยทหารที่เก่งที่สุดอีก 4 คน   เตรียมเดินนำหน้า พอจวิ้นอ๋องออกคำสั่งจบ เหล่าทหารก็รีบกระจายคำสั่งของจวิ้นอ๋องไปตามขณะเดินทาง แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการทิ้งสำภาระกันครั้งใหญ่ ข้าวของเครื่องต่างก็โยนทิ้งตรงกลางป่าไปถึง เจ็ดส่วนเเต่ที่ไม่ทิ้งเเน่ๆคือเหล่าเมล็ดพืชอุปกรณ์ทำการเกษตรสำหรับเพาะปลูก พอทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็นออกหมดชาวบ้านก็พร้อมที่จะวิ่งออกจากป่าไปพร้อมกับจวิ้นอ๋อง จวิ้นอ๋องพอเห็นชาวบ้านพร้อมแล้วก็ได้ ตะโกนออกคำสั้ง

“ไป!” น้ำเสียงอันทรงพลังของจวิ้นอ๋อง ช่วยกระตุกเเรงฮึดให้กับเหล่าทหารแล้วเป็นอย่างมากผู้หญิงที่อ่อนเเอกับเด็กต่างก็นั่งอยู่บนเกวียนก็สัมผัสได้ถึงเเรงกระตุ้นนี้ได้เช่นเดียวกัน

จวิ้นอ๋องพร้อมด้วยเหล่าองครักษ์ทั้ง 4 วิ่งนำหน้าเหล่าชาวบ้าน ไปเคลียร์เส้นทาง และเป็นไปตามที่จวิ้นอ๋องคาดการณ์ทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตราย จวิ้นอ๋องต้องปะทะกับเหล่าสัตว์อสูร ไม่ว่าจะเป็นวานรขนาดยักษ์ งูเหลือมขนาด 2 เท่าของคน เเมลงขนาดยักษ์ รวมถึงเสือโลกันตร์ เเต่ที่ว่ามานี้มีระดับไม่สุงมากนักเมื่อเทียบกับพลังของจวิ้นอ๋อง ที่อยู่มีลมปราณอยู่ขั้นที่ 5 และมีพลังเวทสายธาตุไฟ อยู่ในขั้น 3 เเต่สำหรับคนอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังแล้วทั้งหมดที่กล่าวล้วนเป็นปัญหาที่ใหญ่ จวิ้นอ๋องที่ไม่ได้ทุ่มเทในการวิ่งมากนักเพื่อไม่ให้ห่างจากคณะที่เหลือจนเกินไปเพราะถ้าหากทุ่มเทกับความเร้วในการวิ่งออกจากป่าขนาดนั้นเกรงว่าคงทิ้งห่างคนอื่นๆไปไกลแล้ว 

เกือบ 2 ชั่วยาม ผ่านไปในที่สุดจวิ้นอ๋องก็ทะลุออกจากป่าได้สำเร็จ องครักษ์ที่มาด้วยกันกับเขาตอนนี้เหลือ 3 คน ส่วนอีกคนโดนสัตวือสูรจุ่โจมจนหายไปในป่าระหว่างทาง จวิ้นอ๋องมองไปยังเบื้องหน้าถึงกับตะลึงเพราะที่นี่คือจุดหมายเเห่งการเดินทางตลอด 2 เดือน มันเป็นที่ราบที่ไม่มีหญ้า ที่ถูกล้อมด้วยป่าทึบตลอด 3 ทิศทาง       ยกเว้นทางตะวันออกที่ติดกับทะเล มันเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่เกือบเทียบเท่าเมืองฉางอัน และยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ไม่มีเเม้กระทั้งสัตว์หรือสัตว์อสูรเลยเท่าที่สายตาของจวิ้นอ๋องสามารถมองเห็นได้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่นี่เป็นป่าทึบก็จริงเเต่ถ้าหากไปตรงอีกไม่เท่าไรก็จะพบกับภูเขาขนาดใหญ่ เเละเเน่นอนจวิ้นอ๋องสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็สัมผัสได้ว่าภูเขามีอาณาเขตกว้างใหญ่มากอาจจะกินพื้นที่หลายเเคว้น 

เเต่ยังไม่ทันได้ชื่มชมพื่นที่ได้อย่างเต็มที่จวิ้นอ๋องก็นึกขึ้นว่าขณะเดินทางของเขายังออกจากป่ามาได้ไม่หมดเขาเลยตัดสินวิ่งกลับไปยังท้ายขนวณเพื่อคุ้มกันเหล่าชาวบ้านที่เหลือโดยให้องครักา์ทั้งสามเฝ้าอยู่หน้าปากทางที่เคลียร์เสร็จพอให้เกวียนผ่านไปได้ที่ละคัน เมื่อจวิ้นอ๋องวิ่งตรงไปท้ายขนวณซึ่งอยู่ห่างไม่มากนะก็พบกับเหล่าทหารและชาวบ้านที่กำลังจะกลายเป็นอาหารของเหล่าสัตว์อสูรเมื่อเห็นจวิ้นอ๋องเลยได้ใช้พลังทั้งหมดปล่อยเปลวไฟพุ่งออกจากมือขับไล่เหล่าสัตว์ไปได้มาบ้างเเต่ว่าก็มีบางคนที่    จวิ้นอ๋องช่วยไม่ได้ จวิ้นอ๋องได้เห็นภาพของเหล่าชาวบ้านที่ถูกลากหายเข้าไปในป่าแม้กระทั่งผู้หญิงและเด็กก้ไม่เว้น ภาพเหล่านี้จะสะเทือนใจจวิ้นอ๋องไปอีกนานพอคนสุดท้ายของขนวณออกจากป่าได้สำเร็จ จวิ้นอ๋องที่เดินออกมาจากป่าคนสุดท้ายด้วยสีหน้าที่หดหู่ เขามองไปยังป่าด้านหลังที่เขาพึ่งจากมาก็พบว่าเหล่าสัตว์อสูรนานาชนิดจำนวนมากต่างก็บอกทางเขาเเต่ไม่กล้าออกจากป่ามา พอออกจากป่ามาสิ่งที่ทำคือสำรวจมามีคนหายหรือตายไปกี่คน ปรากฏว่ามีทหารหายไป 125 คน จาก 500 คน คลาดว่าตาย ส่วนชาวบ้านหายไป 238 คน จาก 5000 กว่าคน และบรรยากาศของเเต่ละคนเมื่อได้ฟังรายงานต่างก็หดหู่ไปตามๆกัน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.