CHAPTER 7 : Groan / บทที่ 7 : คร่ำครวญ

My Next Door Brother / พี่ชายข้างบ้าน

-A A +A

CHAPTER 7 : Groan / บทที่ 7 : คร่ำครวญ

หมวดหนังสือ: 

ห้องหนังสือ

“ พี่จันทร์นี้เก่งจังครับ หาทางออกได้ด้วย ” สมากล่าวชม เมื่อมาอยู่ในห้องรวมกันแล้ว

“ พี่กลัวจะตายว่า พวกเขาจะไม่ยอมเอาค่ะ ” จันทร์พูดอย่างรู้สึกอดตื่นเต้นไม่ได้

ส่วนน้อยนั่งลงอย่างเงียบ ๆ จันทร์เหมือนรู้เลยเอ่ยขึ้น

“ พี่จันทร์ขอตัวไปเอาน้ำส้มกับขนมมาให้นะคะ ”

พอพี่จันทร์คล้อยหลังออกไป

“ มีอะไรเปล่าน้อย เล่าให้สมาฟังได้นะ ”

“ คือ …….” แล้วน้อยก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้สมาฟัง 

สมารู้สึกโกรธมาก เขารู้สึกไม่พอใจพ่อของน้อยเป็นที่สุด สมามองดูเพื่อนคนเดียวของเขา น้อยตัวเล็กกว่าสมานิดหน่อย ร่างก็บางกว่ามาก แต่ผิวของน้อยจะเข้มมากกว่าเขา น่าจะได้มาจากทางพ่อแน่เลย เขากับน้อยเสียแม่ในเวลาไล่เลี่ยกัน คือช่วงมัธยมปลาย แม่ของน้อยเสียก่อนแม่ของเขา หลังจากที่แม่ของเขาเสีย พี่นุ่มนิ่มก็เป็นคนไปรับเขามา เขาจึงได้มาเรียนโรงเรียนเดียวกับน้อย พอเรียนจบเลยตั้งใจมาสอบที่เดียวกัน คณะเดียวกัน สมารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา น้อยแอบมีใจให้ชายมาตลอด โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดยังไงด้วย ชาย เป็นหนุ่มที่หล่อเอาการ คิดไปแล้วก็เหมือนเขา เขาเองก็แอบมีใจให้กับชาติ คนที่พี่นุ่มนิ่มให้มาดูแลเขาเหมือนกัน

ตอนนี้น้อย เพื่อนของเขานั่งร้องไห้ ส่วนเขาได้แต่นั่งเกาะไหล่ปลอบ

“ หยุดร้องไห้ได้แล้วน้อย ต้องคิด จะเอาอย่างไง ” สมาพยายามพูดปลอบ

“ สมาก็รู้ว่าเรามีใจให้กับพี่ชายมานานแล้ว ” น้อยเอ่ยอย่างเขิน ๆ ทั้งน้ำตา

“ อยู่บนดาวอังคารยังเห็นเลย แต่ทำไมอีตาพี่ชายของน้อยไม่เห็นบ้างนะ ” สมาล้อเพื่อนอย่างขำ ๆ เพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก และจะได้หยุดร้องไห้สักที

“ สมา ” น้อยร้องเรียกชื่อเพื่อนอย่างเขิน ๆ พวงแก้มระเรื่อขึ้นมา

“ ฮ่า ๆ ” สมายิ้มขำใหญ่

“ พอได้แล้วน้า แต่น้อยก็ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าต่อ หรือ ต้องทำอย่างไรดีสมา ก็เหมือนที่คุณพ่อน้อยท่านพูด น้อยเป็นผู้ชาย พี่ชายก็เป็นผู้ชาย แล้วยังเรื่องที่คุณพ่อท่าน….” ยังไม่ทันที่น้อยจะพูดจบ สมาก็ขัดขึ้น

“ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องไปสนใจในสิ่งที่ทำให้น้อยไม่มีความสุข หันหน้ามาสนใจในสิ่ง และคนที่จะทำให้น้อยมีความสุขดีกว่านะ คุณลุง คุณป้า ก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณชายเองเขาก็ตกลงแล้ว น้อยจะคิดอะไรมากอีก ฮึ ” พูดจบก็ขยี้ผมเพื่อนเล่น

“ แต่น้อยก็ไม่รู้นี่ว่า พี่ชายเขาคิดอย่างไรกับน้อย ” คนพูดสีหน้าแสดงความกังวลขึ้นมา

“ ถ้าน้อยอยากรู้ ทำไมไม่ไปถามคุณชายเขาตรง ๆ ล่ะ ” 

“ น้อยไม่กล้า ” น้อยก้มหน้าพูด

“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวสมาจัดการเอง ไม่ต้องคิดมาก มา ทำรายงานต่อ ”

“ จริงนะ ” น้อยถามอย่างดีใจ

“ ขอรับคุณน้อย ได้โปรดไว้ใจให้บ่าวคนนี้จัดการเถอะขอรับ " สมาเอ่ยรับด้วยเสียงเข้มแข็ง พร้อมโค้งตัว

น้อยยิ้มออกมาได้ แล้วเด็กหนุ่มทั้งสองก็ช่วยกันนั่งทำรายงานกันต่อไป

นอกห้อง ข้างประตูทางเข้า มีร่างของชายยืนหลบมุมอยู่ ตอนแรกเขาตั้งใจจะเข้าไปหา หลังจากที่ทั้งสามเข้าห้องหนังสือมา แล้วจันทร์ก็เดินออกมา เขาเดาเอาคงออกไปหาของว่างมาให้เด็กหนุ่มทั้งสองแน่ หนึ่งก็เดินตามจันทร์ออกไปด้วย เขาก็เลยได้จังหวะจะเข้าไปหา แต่มาได้ยินเสียงน้อยคุยกับสมาอยู่ น้อยเล่าเรื่องให้เพื่อนของเขาฟังทั้งน้ำตา คงอัดอั้นไว้มาก เขาเองก็เพิ่งรู้ว่า น้อยเองก็มีใจให้กับเขาด้วย แล้วเพราะอะไรน้อยถึงทำตัวห่างเหินไปจากเขานะ เขาต้องทำอย่างไรให้น้อยมั่นใจว่าที่เขาต้องการจะแต่งงานกับน้อย เป็นเพราะเขาเองก็มีใจให้น้อย อยากจะอยู่ และดูแลน้อยไปตลอด เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาคนที่กล้าขอพ่อว่าไม่อยากสานต่อโรงแรมของพ่อ เขาขอให้พ่อเอาไว้ยกให้น้อยก็แล้วกัน ส่วนเขาด้วยความที่ชอบความเร็ว เขาจึงขอพ่อมาเปิดโชว์รูมซุปเปอร์คาร์ร่วมกับนุ่มนิ่ม และชาติ ซึ่งกิจการก็เป็นไปด้วยดี ตอนนี้นอกจากนำเข้าซุปเปอร์คาร์ ยังมีซุปเปอร์ไบท์ด้วย เห็นอย่างนี้นุ่มนิ่มชอบขับมอเตอร์ไซด์มาก รู้เรื่องมากทีเดียว ตอนแรกเขาที่เขาชวนนุ่มนิ่มมาลงทุนด้วยกันก็อยากให้มาช่วยดูด้านการตลาด ตอนหลังเป็นนุ่มนิ่มที่คิดนำเข้าซุปเปอร์ไบท์ด้วย แถมยังคิดต่อยอดทำอู่ประกอบซุปเปอร์คาร์ ซุปเปอร์ไบท์ โดยให้ชาติมาเป็นนายช่างใหญ่ พวกเขาทั้งสองให้ชาติเป็นหุ้นลม ตอนแรกชาติก็ไม่ยอม เป็นนุ่มนิ่มอีกที่เป็นคนคุยกับชาติจนชาติยอม เขาเป็นคนมีความสามารถนะ แต่เรื่องนี้เขาหมดปัญญาจริง ๆ จะให้เดินเข้าไปบอกตรง ๆ เขาทำได้อยู่ แต่มันคงดูแปลก ๆ เขาคงต้องขอความช่วยเหลือจากทุกคนแล้ว เขายืนมองน้อยอย่างครุ่นคิด

ส่วนทางด้านหลังเรือน เมื่อจันทร์เดินกลับเข้ามาพร้อมถาดของว่าง

“ อุ้ย ” จันทร์อุทานเบา ๆ พร้อมสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงของหนึ่ง พี่ชายคนโตของเจ้านายเธอ เธอตกใจเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าจะเจอร่างใครอยู่ตรงนี้ เขาเองก็ยืนพิงพนังด้วยท่าสบาย ๆ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างสบายอารมณ์

“ ตกใจอะไร หายแล้ว ” หนึ่งถามขึ้นห้วน ๆ 

“ ไม่คิดว่าจะเจอใครตรงนี้ค่ะ นายหนึ่งจะเอาอะไรไหมคะ ” อันที่จริงเธออยากตอบว่า ตกใจคนถามนั่นแหละ ไม่รู้ว่าจะมายืนตรงนี้ทำไม แต่ถ้าตอบไปอย่างนั้น คงไม่จบแน่ เธอก้มหน้าตอบคำถามของเขา เธอยังไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี

“ ฉันถาม ” หนึ่งกล่าวขึ้น ด้วยเสียงเรียบมากกว่าเดิม เขาเปลี่ยนท่า โดยเดินเข้ามาข้างหน้าจันทร์

“ หายดีแล้วค่ะ พรุ่งนี้ไปทำงานได้ค่ะ นายหนึ่งสบายใจได้เลยนะคะ ” จันทร์ตอบอย่างนิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดี หรือ โชคร้ายกันแน่ที่ได้ไปทำงานที่บริษัทของหนึ่ง ก่อนหน้านี้เธอก็ช่วยคุณนวล แม่ของน้อยโดยจะเป็นลูกมือคอยช่วยทำขนมหารายได้เข้าบ้าน ภายหลังคุณนวลเสีย ตอนนั้นน้อยอายุเพียง 16 ปี ถึงบ้านตระกูลชาติพยัคฆ์จะคอยเข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่สมัยที่คุณชายนพโยธินเสีย แต่คุณนวลก็ไม่เคยต้องการ ไม่ได้รับเอาไว้เลย จนคุณชาญกับคุณสร้อยต้องให้เป็นสิ่งของ และรายจ่ายของน้อยทั้งหมด ซึ่งคล้ายกับการขออุปการะน้อยไปในตัวนั่นเอง คุณนวลถึงยอม คงเพราะไม่ต้องการให้น้อยลำบาก พอคุณนวลเสีย คุณชาญกับคุณสร้อยเป็นคนอุปการะค่าใช้จ่ายทั้งหมดทุกอย่างของที่บ้าน แต่น้อยด้วยความที่คงเห็นแบบอย่างมาจากคุณนวล หรือเป็นเพราะสายเลือดอันทรนง ถึงทำให้ไม่ยอมรับการช่วยเหลืออยู่เฉย ๆ เธอเองจะให้มาทำขนมขายแบบคุณนวล คงทำไม่ได้เพราะไม่ได้เก่ง หรือ ชำนาญเลย ยังดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคุณชายนพโยธิน ก่อนที่ท่านจะเสียได้ส่งให้เธอเรียนจนจบปริญญา ท่านกล่าวไว้ว่า เพื่อในอนาคตจะได้เลี้ยงตัวเองได้ ตอนนี้เธอเลยได้ใช้ความรู้หาเงินดูแลคุณหนูน้อยของเธอด้วย เพราะเธอไม่อยากให้น้อยต้องทำงานพิเศษมากไป ถึงจะเป็นแค่การสอนติวก็เถอะ เธอเองอยากให้น้อยได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กหนุ่มทั่วไปมากกว่า ตอนนั้นเธอได้ทำงานต่าง ๆ จนเมื่อน้อยมีสมาเป็นเพื่อน น้อยคงนำเรื่องไปเล่าให้เพื่อนฟัง ประกอบกับที่นุ่มนิ่ม พี่สาวของสมาต้องการได้เลขาคนใหม่มาแทนชาติ ที่ต้องมาคอยดูแลสมา นุ่มนิ่มจึงให้เธอลองเข้าไปทำงานกับเธอดูอย่างน้อย ชาติที่รับสมากลับมา จะได้รับน้อยกลับมาด้วย น้อยเองก็จะได้มาเป็นเพื่อนเล่นกับสมา ทำให้ทั้งเธอ และนุ่มนิ่มลดความกังวลไปได้บ้าง เธอเองก็จะได้ทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องคอยเป็นห่วงน้อย นุ่มนิ่มเองก็จะไม่ต้องคอยห่วงว่าสมาจะเหงา นุ่มนิ่ม เธอแทบจะทำงานแทนหนึ่งแทบทุกอย่าง และด้วยความที่มีธุรกิจหลายอย่าง มีอยู่หลายที่ ทำให้ต้องเดินทางแทบจะตลอดเวลา พอนุ่มนิ่มไม่อยู่ เธอก็ต้องทำงานประสานกับเลขาของหนึ่ง เพราะนุ่มนิ่มก็มีเรื่องรายงานหนึ่งทุกวัน ทำให้เธอต้องมาทำงานร่วมกับเขาไปโดยปริยาย

“ อืม ” หนึ่งรับคำ แต่สายตาก็มองไปตามเนื้อตัวที่ตอนนี้มีรอยเหล่านั้นชัดเข้มขึ้นจากเมื่อวาน

“ ยังเจ็บอยู่ไหม ” หนึ่งเอ่ยขึ้นถาม เขาพยายามมองหน้าแม่เลขานุการของน้องสาวเขา แต่จันทร์นั้นสายตาหลุบลงต่ำ ไม่ยอมมองหน้าของเขาเลย เธอจึงไม่ได้เห็นสายตาของหนึ่งในตอนนี้

“ ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ถ้านายหนึ่งไม่ได้ต้องการอะไร จันทร์ขอตัวก่อนนะคะ ” จันทร์พูดเสร็จก็เบี่ยงตัวหนีออกเดินให้ห่างจากหนึ่ง 

หนึ่งมองดูจันทร์ หน้าตาของเขาเริ่มบอกว่า ตอนนี้เขาไม่สบอารมณ์เป็นอันมาก เขาก้าวเท้าออกเดินตามเธอไปในทันที ส่วนเธอเดินนำหน้าไปอย่างไม่สนใจ เธอเดินจนมาถึงห้องอาหาร เธอกำลังจะเดินผ่านเลยไป เขาเดินมาประชิดข้างหลังเธอ เขาจับบ่าเธอให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา แล้วสองมือของเขาก็เอาถาดของว่างไปจากมือเธอได้โดยง่ายดาย น้ำไม่กระฉ่อนออกมาเลยสักนิด เขานำถาดของว่างไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร แล้วหันหน้ากลับมาหาเธอ

จันทร์มองไปรอบ ๆ อย่างชั่งใจ หนึ่งก้าวเท้าเข้าไปหาเธอ ส่วนเธอสาวเท้าหนี แต่ก็ไม่ทันสองมือของเขาคว้ามาเอาตัวเธอไป มือข้างหนึ่งโอบรอบเอวบางของเธอ อีกมือหนึ่งจับเข้าที่ปลายคางของเธอ เขายกปลายคางของเธอขึ้น ส่วนมือข้างที่โอบเอวอยู่ก็โอบแน่นขึ้น เธอยกมือขึ้นดันแผ่นอกหนาแน่นนั้นเอาไว้ ซึ่งก็ไม่ได้มีผลอะไรเลย ตอนนี้หน้าของเธอใกล้กับหน้าของเขา จมูกทั้งสองชนกัน ด้านหลังเธอติดฝาผนัง ตัวเธอตอนนี้แนบชิดอยู่กับตัวของเขา

“ มองหน้าฉันสิ ทำไมถึงไม่มอง ฮะ ” หนึ่งพูดออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก

“ ไม่ ปล่อย " เสียงแผ่วเบาดังมาจากปากของจันทร์ที่พยายามเอ่ยออกมาด้วยความยากเย็น ด้วยไม่มีระยะห่างจากกันเลย ตอนนี้แผ่นอกของเขาแนบชิดอยู่กับหน้าอกของเธอ สองมือของเธอที่ดันแผ่นอกของเขา ตอนนี้เลื่อนไปอยู่ที่บ่าของเขาแทน แผ่นอกของเขารับสัมผ้สตามแรงความกระเพื่อมของหน้าอกของเธอ 

หนึ่งเริ่มรู้สึกตัว เขาจึงปล่อยมือออกจากตัวเธอ แล้วเดินจากไป

จันทร์ยืนหอบอยู่กับที่ ก่อนจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แล้วเธอก็ไปยกเอาถาดของว่างจากบนโต๊ะอาหาร นำเข้าไปยังห้องหนังสือ

เมื่อจันทร์เดินมาถึงหน้าห้องหนังสือ

“ คุณชายมายืนทำอะไรตรงนี้คะ คุณชายต้องการอะไรหรือเปล่าคะ ” จันทร์ถามขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อย

คนถูกทัก สะดุ้งเล็กน้อย

“ ผมว่าจะมาดูน้อง ๆ เพื่อจะช่วยอะไรได้นะครับ ” ชายยิ้มแห้ง ๆ พยายามหาเหตุผล สายตาเหลือบไปเห็นหนึ่งที่เพิ่งเดินตามหลังจันทร์มาก็เลยเอ่ยขึ้นทัก

“ พี่หนึ่งจะเข้าไปในห้องหนังสือหรือครับ ”

จันทร์ยืนตัวแข็งขึ้นมาทันที หนึ่งเดินผ่านร่างของเธอไปหยุดตรงข้างตัวของชาย

“ อืม ตรงโน้น ไม่มีอะไรให้อ่าน ” ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าห้องหนังสือไปก่อน

“ งั้น ผมขอเข้าไปด้วยนะครับ ” ชายเอ่ยขึ้น หลังจากที่เห็นหนึ่งเดินเข้าไป

“ เชิญค่ะ ” จันทร์เอ่ย ก่อนเดินตามหลังทั้งคู่เข้าไป

“ เอ่อ ” 

“ เอ่อ ”

เด็กหนุ่มทั้งคู่พูดไม่ออก เมื่อเห็นหนึ่งกับชายเข้ามาด้วย

“ ขนม กับ น้ำ อยู่ตรงนี้นะคะ ” จันทร์วางของว่างไว้ที่โต๊ะ “ เดี๋ยวจันทร์ออกไปหาเครื่องดื่มมาให้คุณชาย กับ นายหนึ่งนะคะ ”

“ ไม่ต้อง ” หนึ่งพูดก่อนหันไปหาหนังสืออ่าน

“ ไม่เป็นไรครับ ไหนให้พี่ชายช่วยดูไหม เผื่อพี่ช่วยอะไรได้ ” ประโยคหลังหันไปพูดกับเด็กหนุ่มทั้งคู่

“ ดีเลยครับ ต่อนี้กำลังเรียบเรียงเลยครับ ” สมาเป็นคนเอ่ยขึ้น แล้วถอยตัวออกมาให้ชายได้เข้าไปนั่งข้าง ๆ น้อย

จันทร์เองก็รวบรวมกระดาษรายงานทั้งหมดให้เข้าที่

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.