ตอนที่ 44 .. “ ชีวิตที่เหลืออยู่ ”

องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

-A A +A

ตอนที่ 44 .. “ ชีวิตที่เหลืออยู่ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

     เป็นเพียงความบันเทิงในการฟังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพผู้ประพันธ์นิยาย .. มัชฌิมา              

น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า - อิทธิ พลางกูร

https://www.youtube.com/watch?v=sAezlkXZNiY

ขอขอบคุณ คุณอิทธิ พลางกูร จาก ค่าย อาร์ เอส ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 44 .. “ ชีวิตที่เหลืออยู่ ”

       พูดไม่ทันขาดคำ ยุ้ยค่อยๆประคองทดเดินขึ้นบันไดมา

“นั่นไงมาโน้นแล้ว” เอี้ยงชี้ไปที่บันได งามตารีบวิ่งเข้าไปช่วยอีกแรง

“พ่อเป็นอะไร ทำไมถึงไม่บอกหนูหละ แล้วอีนี่มันมายุ่งอะไรกับพ่อด้วย ปล่อยเลยนะ ไป” งามตาผลักยุ้ยจนกระเด็นออกทันที

“โอ๊ย อะไรนะอีนี่ เจ็บนะโว๊ย มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ยอีงาม” ยุ้ยไม่พอใจมาก

“เสือกไง” งามตาตะโกนออกไป แล้วหันมาดูพ่อ

“พ่อเป็นยังไงบ้าง มีอะไรทำไมพ่อถึงไม่บอกหนูหละ เดี๋ยวนี้พ่อเห็นหนูเป็นคนอื่นไปแล้วเหรอ หนูน้อยใจนะ ทีอีนี่เป็นคนอื่น พ่อยังไว้ใจให้มันพาไป” ทดพยายามไกล่เกลี่ย

“พ่อไม่ได้คิดแบบนั้น ยุ้ยเค้ามีน้ำใจ อีกอย่างพ่อก็แค่ไปเอายาตามที่หมอนัด” ทดนั่งพักตรงที่ทานข้าว

“ไม่ได้เป็นอะไรมาก ทีแรกพ่อก็จะไม่ไป แต่ยุ้ยไม่ยอมพ่อก็เลยต้องไป ก็เท่านั้นเอง” งามตานั่งหน้ามุ่ย

“อย่าคิดอะไรมาก พ่อรักพวกแกทุกคนแหละ ยังไง พวกแกก็เป็นลูกสาวพ่อทั้งนั้นแหละ” งามตาน้อยใจ ทำงอน ยุ้ยยื่นเงินให้เอี้ยง

“ขอบใจมากนะพี่เอี้ยงนี่จ๊ะ ค่าเสียเวลาที่มาดูแลแม่” เอี้ยงเอามือปัดออกไม่เอา ยุ้ยจับยัดใส่มือให้ทันที 500 บาท

       เอี้ยงจึงต้องจำใจรับและเดินลงบ้านกลับร้านไปเลย ไม่พูดอะไร

“พ่อเข้าไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวแม่หนูดูให้เอง ส่วนนี่ยาพ่อจ๊ะ”

“ขอบใจนะลูก” ทดรับยาจากยุ้ยและเดินตรงกลับเข้าไปที่ห้อง ยุ้ยหันไปดูแม่สะอิ้ง เอามือตัวเองจับมือสะอิ้ง

“แม่ เดี๋ยวทานข้าวกับหนูนะแม่ แล้วจะได้ไปอาบน้ำกัน” สะอิ้งยิ้มให้และพยักหน้า แต่จริงๆ ไม่รู้หรอกว่ายุ้ยหมายถึงอะไร

       งามตาหัวเสียเดินเข้าห้องปิดประตูเก็บตัวเงียบ ยุ้ยหันไปดูก็ส่ายหัว แต่ก็ไม่สนใจ เพราะต่างคนต่างอยู่หนะดีที่สุดแล้ว

----- ***** -----

       หญิงรันตัดสินใจ หนีพวกนักข่าวมาที่ทะเล มาพักสมองยังเรือนรับรองของตระกูลบุษบงในคืนนี้ พิมพ์กระซิบบอกริชาร์ด

“ก็ถือซะว่าเรามาพักผ่อนนะพี่ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้มาแบบนี้ หนูขอพักผ่อนไปในตัวนะพี่ อย่าว่าหนูนะ”

       ริชาร์ดพยักหน้า พิมพ์หันไปหอมแก้มริชาร์ดโดยไม่สนใจว่าใครนั่งอยู่ข้างหลังบ้าง โชคดีที่ทั้งสองคนนอนหลับพักสายตา จึงไม่ได้เห็นภาพหวานๆที่ทั้งสองคนสวีทกัน ริชาร์ดขับรถมุ่งไปยังชลบุรีแบบไม่เร็วมาก โดยมีหวานใจนั่งเคียงข้างเป็นเพื่อน

“ที่นี่หรือเปล่าครับองค์หญิง” ริชาร์ดจอดรถถามหญิงรันเมื่อขับรถเข้าเขตบางแสน หญิงรันเปิดประตูลงไปและมองดูรอบๆ

“ใช่คะริชาร์ด หญิงจำทางเข้าได้” หญิงรันเดินไปที่ป้ายไม่ใหญ่มากซึ่งมีเถาวัลย์ปกคลุมอยู่

       หญิงรันดึงสิ่งที่ปกคลุมออกแล้วต้องยิ้มออกมา “บ้านพักราชนิกูล บุษบง ตรงไป 2 กิโลเมตร” หญิงรันรีบวิ่งขึ้นรถ

“ตรงไปเลยค่ะริชาร์ด อีก 2 กิโล หญิงจำได้แล้ว บ้านพักจะอยู่ทางขวามีประตูรั้วไม้สีเขียวอ่อน” ริชาร์ดรีบออกรถไปตามทางที่หญิงรันบอกทันที หญิงรันมีความสุขมากที่ได้กลับมายังบ้านที่ตัวเองรักมากหลังหนึ่งเมื่อยังทรงพระเยาว์

%%%%% ----- %%%%%

       หญิงยุตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน ในเมื่อโทรหาเพื่อนแล้วไม่ยอมรับสาย จึงรีบขับรถไปหาเพื่อนที่วังทันที โดยที่ยังไม่รู้ว่าเพื่อนไม่อยู่แล้ว หญิงยุมาหาหญิงรันโดยที่ไม่ได้บอกเมืองรามเพราะยังไม่ได้เข้าวังหัสดี ออกจากมูลนิธิ ก็ตรงมาที่วังเพื่อนทันที นางกำนัลแขไขเดินออกมารับหน้า

“หญิงรันกลับมารึยัง เห็นได้ข่าวว่าวันนี้ไปฟังคำพิพากษาตัดสินคดี ตอนนี้อยู่ไหน”

“องค์หญิงไม่อยู่เพคะท่านหญิง” หญิงยุไม่เชื่อ นึกว่าแขไขโกหก

“หญิงรัน หญิงรัน แกอยู่ไหน ออกมา แกต้องออกมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง ฉันไม่ชอบนะที่แกทำแบบนี้ ยังไงเราก็ต้องออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง ออกมา หญิงรัน”

       หญิงยุเดินตะโกนเรียกเพื่อนอยู่นาน หญิงรันก็ไม่ยอมออกมาให้เห็นหน้า จนเสด็จเจ้าฟ้าต้องเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษร (ห้องสมุด) เพราะเสียงนางดังมาก

“มีอะไรกันรึ แขไข เสียงใครหนะ ดังเข้าไปจนถึงด้านใน” เสด็จเจ้าฟ้า พึ่งสังเกตุเห็นว่าหญิงยุเดินไปมา

“อ้าวหลานวรุณยุภา มีอะไรเหรอ อยากบอกนะว่าเสียงที่อึกทึกเมื่อกี้ เป็นเสียงเจ้า”

“เพคะเสด็จอา หม่อมฉันต้องขอประทานอภัยด้วยที่ทำให้ทรงกริ้ว คือหม่อมฉันมาหาหญิงรันเพคะ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลงมา ไม่รู้ว่าจะงอนเล่นตัวไปถึงไหน” หญิงยุหยุดสวัสดีเพื่อขออภัยเสด็จอาและเดินไปพูดไปต่ออีก แบบอารมณ์ฉุนเฉียว

“หญิงรันไม่อยู่หรอก พึ่งขออนุญาตอาไปทะเลเมื่อตอนเย็นนี้เอง อาก็ให้ไป เพราะเมื่อตอนบ่ายๆเห็นว่ามีนักข่าวมาออรออยู่ที่หน้าประตูวัง หญิงรันก็เลยขอหลบไปพักผ่อนที่นั่น ถ้าอยากเจอก็ตามไปซิ จำทางได้ไหมหละ เมื่อตอนเด็กๆหลานก็เคยไปไม่ใช่เหรอ ที่บางแสนหนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วอาขอตัวก่อนนะ กำลังหาข้อมูลบางอย่างอยู่ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะหลาน”

       หญิงยุ ไหว้ลาเสด็จอาและถอนหายใจ แขไขกำลังจะเดินออกไป แต่ต้องหยุด เพราะหญิงยุเรียกไว้

“จะไปไหน มานี่” แขไขซวยแล้ว นั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้น เมื่อไม่เดินไปหา หญิงยุเลยต้องเดินเข้ามาหาเอง

“บอกมาให้หมด ว่าอะไรยังไง และเมื่อไหร่ อย่าให้ตกหล่นแม้แต่สักนิดเดียว” จากนั้นแขไขก็บอกทุกอย่างเท่าที่ตัวเองรู้

***** ..... *****

       6 โมงเย็นเศษๆ รถของริชาร์ดก็มาถึงจุดหมาย

“นั่นไงคะริชาร์ด เลี้ยวเข้าไปเลยทางขวา บ้านหลังนั้น มีป้ายด้วยนั่นไง”

หญิงรันดีใจมากที่ถึงบ้านพักสักที หลังจากที่ลุ้นมานาน ริชาร์ดมองดูกระจกหลัง เพื่อความปลอดภัยว่ามีรถตามมาบ้างไหม เมื่อโล่งจึงเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าประตูและบีบแตร <ปิ้นๆ ปิ้นๆ> ไม่นานก็มีลุงแก่ๆคนหนึ่งวิ่งออกมา เปิดประตูให้ ริชาร์ดขับรถเข้าไปจอดใต้ร่มไม้ ลุงคนนั้นวิ่งมาเปิดประตูให้กับองค์หญิง และเอ่ยปากถาม

“องค์หญิงรันใช่ไหมขอรับ” หญิงรันงง ว่าลุงคนนี้รู้ได้เช่นไรว่าเธอเป็นใครและจะมาพักที่นี่

“ลุงรู้จักหญิงด้วยเหรอ” ลุงยิ้มให้

“ทำไมจะไม่รู้จัก องค์หญิงจำกระหม่อมไม่ได้เหรอขอรับ กระหม่อม ลุงทองดี คนที่องค์หญิงเคยขี่โก่งเมื่อตอนยังทรงพระเยาว์ไงขอรับ ตอนนั้นองค์หญิงยังทรงดำริไม่ได้ คงจะลืมลุงทองดีคนนี้ไปแล้วกระมั้ง”

“หญิงจำได้แล้ว สวัสดีค่ะต้องขอโทษด้วย หญิงจำไม่ได้จริงๆแล้วนี่ลุงรู้ได้ยังไงว่าหญิงจะมา หญิงไม่ได้บอกใครเลย”

“เสด็จเจ้าฟ้าขอรับ เสด็จท่านทรงโทรมาหากระหม่อมสักพักนี่เองว่าองค์หญิงน้อยจะมาพักผ่อนสมองที่นี่ กระหม่อมเลยมารอรับเสด็จ เชิญเด็จทางนี้เลยขอรับ ยังจำนังเจี๊ยบลูกสาวของกระหม่อมได้ไหมขอรับ” หญิงรันส่ายหน้า

“นั่นซินะ องค์หญิงคงจะจำใครไม่ได้ในตอนนั้น เพราะยังทรงพระเยาว์เหลือเกิน แค่ 7 ชันษาเท่านั้นเอง”

       ริชาร์ดลงมาจากรถและเดินไปที่ชายหาด พิมพ์เดินตามไปและเดินเกี่ยวแขนเดินชมความงามของทะเลยามเย็น นานแล้วที่สองคนไม่ได้มาเที่ยวทะเล พิมพ์ให้รางวัลริชาร์ดที่พาพวกเธอมาถึงที่นี่อย่างปลอดภัย โดยการหอมแก้มซ้าย ริชาร์ดนั่งลงที่โขดหินเล็กๆแล้วกอดพิมพ์เอาไว้ หันไปหอมแก้มขวา พิมพ์มีความสุขมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้กับธรรมชาติที่สวยงาม

       เพทายเดินตามองค์หญิงรันเข้าไปในบ้านพัก มองดูรอบๆทำไมมันช่างกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ ขนาดห้องน้ำยังใหญ่กว่าห้องนอนบ้านเธอที่บ้านนอกเสียอีก เมื่อเดินขึ้นมาด้านบนก็พบว่ามีคนยืนรออยู่อีก 4 คน ลุงทองดีจึงแนะนำให้รู้ทันทีว่ามีใครเป็นใครบ้าง เมื่อองค์หญิงรันเหยียบถึงบันไดด้านบน ทั้ง 4 คนก็รีบนั่งลงและก้มลงกราบ จากนั้นก็ลุกขึ้นชันเข่า

“ตามสบายนะทุกคน ฉันไม่ชอบพิธีรีตองอะไรมาก” หญิงรันออกตัว เพราะเหนื่อยอยากพัก

“ช่างงดงามอะไรเช่นนี้ องค์หญิงน้อยของอิฉัน” จิต ภรรยาของลุงทองดี คลานเข้ามากอดและหอมแก้ม

“ตั้งแต่ทรงพระเยาว์น่ารักเช่นไร พอทรงเติบใหญ่ขึ้นมา ก็ยังทรงน่ารัก และสวยขึ้นอีกด้วยเพคะ จำอิฉันได้ไหม เพคะ”

       หญิงรันส่ายหน้า แล้วหันไปเห็นอีก 6 สายตา มองจ้องมาที่เธอ ลุงทองดีเลยรีบบอก

“นี่นังเจี๊ยบไงขอรับองค์หญิงน้อย พระสหายของพระองค์เมื่อตอนอยู่ที่นี่ นังเจี๊ยบมันแก่กว่าองค์หญิง 3 ปี ตอนนั้นองค์หญิง 7 ชันษา นังเจี๊ยบมันพึ่ง 10 ขวบเอง พอจะจำได้หรือยัง” หญิงรันเพ่งอยู่นานก็ร้องอ๋อ

“เจี๊ยบ หญิงจำได้แล้ว คนที่ชอบพาหญิงไปเก็บไข่เต่าบ่อยๆใช่ไหม”

“ใช่เพคะ หม่อมฉันดีใจจังที่พระองค์จำได้ นี่สามีและลูกของหม่อมฉันเพคะ ไหว้องค์หญิงซิลูก”

       สามียกมือไหว้ ส่วนเด็กไม่รู้เรื่องอะไรแม่ให้ทำอะไรก็ทำตาม

“สวัสดีครับ ผู้ชายเสียด้วย กี่ขวบแล้วหละเนี่ย” หญิงรันชอบเด็กน้อยผู้นี้ เพราะมีความรู้สึกว่าตัวเองจะได้เป็นแม่คนแล้วมั้ง

“3 ขวบเพคะองค์หญิง ส่วนนี่พี่ฤกษ์สามีหม่อมฉัน” ฤกษ์ยิ้มให้นก นกยิ้มตอบ

“เป็นชาวประมงอยู่แถวนี้ ถ้าไม่มีงานหาปลาหรือออกทะเล ก็จะออกมาช่วยหม่อมฉันขายอาหารที่ชายหาด นอกนั้นก็เป็นช่างประจำบ้าน มีอะไรที่เสียก็เรียกใช้พี่ฤกษ์ได้เลยเพคะ” หลังจากที่เจี๊ยบ แนะนำเสร็จ นกก็แนะนำบ้าง

“นี่เพทายนะ เป็นคนสนิทของหญิง รู้จักกันไว้นะ มีอะไรก็เรียกใช้ได้ เพทายเป็นนางกำนัลฝ่ายใน คงจะช่วยอะไรได้บ้าง”

“งั้นเชิญองค์หญิงเด็จทางนี้เลยขอรับ ห้องพักรับรองของท่าน กระหม่อมได้ให้ยัยจิตและนังเจี๊ยบจัดไว้ให้แล้ว อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมาแบบกะทันหัน ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้กระหม่อมจะจัดทำให้ใหม่ คืนนี้ทรงพักผ่อนไปก่อนคงพอจะบรรทมได้นะขอรับ” หญิงรันเดินเข้าไปดู แล้วก็ยิ้มๆ

“พอแล้ว แค่นี้หญิงนอนได้ ลุงทองไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว ถ้าจะกรุณาช่วยจัดห้องให้เพื่อนของหญิงอีกสักห้องสองห้องจะดีกว่า นั่นเดินขึ้นมากันแล้ว” พิมพ์เดินควงแขนริชาร์ดขึ้นมา

“พิมพ์คืนนี้ค้างที่นี่ก่อนแล้วกันนะ” พิมพ์รีบหันไปมองหน้าริชาร์ดเลยทันที

“พรุ่งนี้ค่อยกลับนะ ดีไหม ว่าไง” นกยังคงรอฟังคำตอบ

       พิมพ์ยิ้มอายๆแล้วรีบบอกหญิงรัน เพราะมันเกิดกลับตาลปัตรเข้าให้แล้ว

“พี่นก หนูเออ ขออยู่ที่นี่กับพี่สัก วันสองวันจะได้ไหม หนูเออ..” หญิงรันพอจะเข้าใจ

“ตามสบายเลยพิมพ์ จะอยู่กี่วันกี่คืนตามสบายเลยพี่ยินดี” แล้วก็หันไปถามลุงทองทันที เมื่อได้รับข่าวดีจากปากพิมพ์

“ลุงทอง ตกลงหาห้องให้เพื่อนหญิงได้ไหม มาแบบกะทันหันแบบนี้” ลุงทองตอบแบบนิ่มๆ แต่มีปัญหาเล็กน้อยตามมา

“มีขอรับ แต่เหลืออยู่เพียงห้องเดียวเท่านั้น ทางปีกขวา เพราะห้องอื่นปิดไว้ยังไม่ได้ซ่อมแซมและปรับปรุงเลย เดือนที่แล้วก่อนปีใหม่ก็มีกลุ่มพระญาติของเสด็จมาเที่ยว มากันเยอะแยะ พอเมาก็เผลอทำมุ้งลวดขาดบ้าง กระจกแตกบ้าง หม่อมฉันกับเจ้าฤกษ์ ยังหาเวลาซ่อมไม่ได้เลย ต้องขอประทานอภัยด้วยขอรับ” นกหันไปหาพิมพ์

“ว่าไงหละพิมพ์ เหลือห้องเดียว ไหวไหม” นกรอคำตอบ

“หรือจะมานอนกับพี่ก็ได้นะ ถ้าเธอไม่สะดวกหละก็” ริชาร์ดรีบออกตัวทันที แสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่

“ไม่เป็นไรหรอกครับองค์หญิง ผมเป็นผู้ชาย ผมนอนที่รถก็ได้ หรือนอกชานนี้ก็ได้ ลมเย็นดี”

“คงจะไม่ไหวหรอกคุณ นี่มันมกรา อากาศที่นี่พอตกดึกจะเย็นมาก หนาวจับใจเลย ลุงว่าคุณจะหนาวตายเสียก่อน”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่นก หนูนอนได้ พี่ริช นอนห้องเดียวกันนี่แหละ หนูไว้ใจพี่ อีกอย่างห้องใหญ่ๆแบบนี้หนูไม่กล้านอนคนเดียวหรอก กลัว พี่นกสบายใจได้ ตามสบายเถอะค่ะ ว่าแต่ตอนนี้มีอะไรให้พวกเราทานบ้างไหมคะลุง ท้องหนูร้องแล้ว” พิมพ์หิวมาก

“งั้นก็ขอเชิญที่ชายหาดเลยก็แล้วกัน ลุงเตรียมอาหารทะเลไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้ว พอเสด็จท่านโทรมาบอก ลุงก็ให้เจ้าฤกษ์ออกไปเตรียมของทะเลสดๆมาไว้ให้เลย เชิญเลยครับทุกคน” นกจึงมีความคิดดีๆขึ้นมาทันที

“เอาอย่างนี้ ไหนๆลุงกับฤกษ์ ดีกับหญิงแบบนี้ วันนี้หญิงจะขอตอบแทนด้วยการทำอาหารทะเล และน้ำจิ้มรสเด็ดให้ทุกคนทานเอง ตกลงนะคะ” ทุกคนที่นี่มองหน้านกตามกัน นกยังคงยิ้มและพูดต่อ หลังจากที่เห็นปฏิกิริยาของทุกคนที่นี่

“นะคะ ถือว่าหญิงขอร้อง อย่าปฏิเสธหญิงเลยนะคะลุง”

“องค์หญิงทรงทำได้เหรอเพคะ” เจี๊ยบไม่แน่ใจ

“เอาไว้ลองชิมดูก็แล้วกันพี่เจี๊ยบ เดี๋ยวจะหาว่าพิมพ์โกหก ถ้าใครได้กินหรือลิ้มรสฝีมือการทำอาหารขององค์หญิงรันนะ รับรองจะลืมไม่ลง ที่ 1 แบบนี้เลย ไม่เชื่อก็คอยดู แล้วจะหาว่าพิมพ์ไม่บอก”

----- ***** -----

       หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยทุกคนก็ลงไปสนุก และมีปาร์ตี้อาหารทะเลย่อมๆ มีความสุขเล็กๆ ตามอัตภาพ ถึงหญิงรันจะมีความสุขยังไง ทุกวินาทีก็ไม่เคยลืมที่จะนึกถึงธวัช “วันนี้เปลี่ยนมาทานอาหารทะเลสักมื้อนะพี่”

       นกแอบหลบเพื่อนๆเอาอาหารทะเลมาวางไว้ให้กับธวัช จุดธูปบอกและไม่ลืมที่จะกรวดน้ำให้กับสามี เพื่อที่จะได้ทานของดีๆกับเขาบ้าง ไม่นานของที่นกทำให้ส่งให้ก็มาปรากฏที่ธวัชอีกเหมือน เช่นทุกครั้ง คราวนี้ธวัชได้ยินเสียงที่นกพูด ออกมาอย่างชัดเจน

แต่ไม่รู้ว่าดังมาจากไหนและเป็นเสียงของใคร เพราะก่อนตายนกก็ยังไม่สามารถพูดได้ แต่ธวัชก็ดีใจที่รู้ว่าเมียชื่อนก

“พี่วัช ขอให้พี่ทานให้อร่อยนะ ของที่พี่ชอบทั้งนั้น หนูคิดถึงพี่นะ ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้มาพบกันและรักกันอีกครั้งนะพี่ หนูจะรอจนถึงวันนั้น หนูรักพี่นะสามีของหนู” ธวัชน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

“นก นั่นเสียงนกใช่ไหม” เมียทั้งสามคนของเขา นอกจากนกที่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ทุกวันแล้ว อีกสองคนไม่เคยเลยที่จะทำ นานๆถึงจะทำให้สักที เช่นนี้ผีพลอยก็เลยกลายเป็นผีตระกระตะกรามไปเสียแล้วโดยปริยาย เมื่อธวัชได้รับอาหารดีๆทุกวันจากนกที่ทำส่งมาให้

“น้ำจิ้มอร่อยมากเลยพี่ กุ้งนี่ก็สดมาก นี่ปลาหมึกไข่ด้วย หนูไม่ได้ทานของดีๆแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะพี่ แหม ญาติพี่นี่สงสัยถ้าทางจะรวยนะ ถึงมีของดีๆส่งมาให้พี่ทุกวัน ดีๆหนูจะได้มีของดีๆทานทุกวัน ผัวหนูนี่โชคดีชะมัด เอ..แล้วพรุ่งนี้จะเป็นอะไรน้อ” วันนี้พลอยซัดเสียจนพุงกางไปเลย อาหารทะเลดีๆทั้งนั้น ตัวธวัชเองกลับได้ทานไม่เท่าไหร่ แต่ก็ทานจนอิ่มเช่นกัน

       ยิ่งได้ลิ้มรสน้ำจิ้มแล้วธวัชรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ฝีมือนี้ไม่ใช่ใคร ต้องเป็นนกแน่นอน เขาจำฝีมือการทำน้ำจิ้มรสเด็ดได้ เนื่องจากไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสูตรเฉพาะตัว ธวัชนั่งพนมมือตั้งจิตอธิษฐาน ส่งกระแสจิตเท่าที่เขาคิดว่าทำได้ถึงคนที่เขารักทันที

“ถ้าบุญวาสนาของผมยังมีและหลงเหลืออยู่ ขอให้คำพูดประโยคนี้จงล่องลอยไปยังคนที่ลูกรักหรือคนที่ทำบุญส่งมาให้ได้รับรู้ด้วยเทอญ ถ้าเป็นนกจริงที่คอยส่งทุกสิ่งทุกอย่างมาให้พี่ ขอให้นกจงรับรู้เอาไว้ด้วยนะว่า พี่รักและคิดนกอยู่เสมอทุกวัน ทุกลมหายใจเข้าออก รอพี่นะคนดี พี่กำลังหาทางกลับไปหาน้อง สักวันนึงเราต้องได้พบกันอีกแน่นอน พี่รักหนูมากนะ สกุณาของพี่”

       นกกำลังนั่งฟังเพลงอยู่แบบเพลินกลางเปลวไฟที่จุดอยู่กลางชายหาด จู่ๆก็มีลมเย็นๆพัดผ่านเธอแบบไม่เคยเจอมาก่อนจนขนลุกซู่ และเหมือนมีเสียงเบาๆผ่านหูเธอไป

“พี่รักและคิดนกอยู่เสมอทุกวัน ทุกลมหายใจ รอพี่นะคนดี” นกสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นมา

“พี่วัช” นกหันไปดูรอบๆก็ไม่มีใคร นอกจากเพื่อนๆและคนรู้จัก นกนึกถึงธวัชสามีสุดที่รักทันที น้ำตานกไหลรินออกมาอย่างช้าๆ และยกแขนขึ้นมาพนมมือทันที

“พี่วัช ขอให้พี่ไปสู่สุขคติ อย่าได้มีห่วงหรือกังวลอะไรที่นี่เลยนะพี่ หนูขอสัญญาว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พี่ทุกวัน หลับให้สบายนะพี่ ถ้าพี่มาเพื่อจะบอกอะไรหนู หนูรับรู้แล้ว หลับให้สบายนะคนดีของหนู หนูรักพี่นะ”

       นกหันไปมองรอบๆด้วยน้ำตา พิมพ์หันไปเห็นเข้าจึงสะกิดริชาร์ดให้ดู ริชาร์ดเข้าใจดี จึงบอกพิมพ์ให้เข้าใจ

“พี่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น โน่นไง เห็นไหม พิมพ์ไม่ได้สังเกตุเหรอว่านกเค้าเอาอาหารทะเลทั้งหมดที่มีในวันนี้ แอบไปทำบุญให้กับธวัชหนะ จะมีใครที่รักมั่นคงอย่างนกไม่มีอีกแล้ว พี่ถึงบอกไงว่า อะไรที่พอจะช่วยนกและธวัชได้พี่ก็จะทำ ถ้าพี่ตายไป พิมพ์จะทำแบบนี้ให้พี่ไหมเนี่ย พี่อยากรู้จัง” ริชาร์ดแหย่แฟนเล่น แต่พิมพ์ไม่สนุกด้วย

“พี่ริชหนะ ดูพูดเข้า หนูไม่ชอบนะ ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้” ริชาร์ดตามใจแฟน

“จร้าๆ ถอนก็ถอน แต่ต้องตอบพี่ก่อนว่าจะทำแบบที่นกทำไหม”

“ทำซิพี่ เพื่อคนที่เรารัก หนูทำได้เสมอ เผลอๆ อาจจะดีกว่าที่พี่นกทำเสียอีก”

       ริชาร์ดเอามือขวาบีบจมูกแฟนสาวเล่นขณะที่อยู่ในอ้อมกอด

“จร้า พี่เชื่อ” แล้วพิมพ์ก็จ้องมองไปที่นกซึ่งนั่งเหงาอยู่คนเดียวตรงนั้น

“สงสารพี่นกนะพี่ เป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว” พิมพ์พอพูดจบน้ำตาก็ไหลออกมาเหมือนกัน จนริชาร์ดต้องปลอบใจอยู่นาน

“พี่วัช หนูขอสัญญานะว่า จะทำความฝันของพี่ที่เคยบอกหนูไว้ให้สำเร็จจนได้ ร้านขายรถมอเตอร์ไซด์ของพี่ต้องสำเร็จหนูไม่เคยลืม ส่วนพ่อกับแม่ พี่ไม่ต้องกังวลนะ หนูจะอุปการะและดูแลจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตท่านทั้งสองเลย ช่วยเป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะพี่ ชีวิตที่เหลืออยู่ของหนู จะไม่มีใครอีก จะมีพี่เพียงคนเดียวเท่านั้นหนูขอให้สัญญา หนูรักพี่เสมอนะขอให้รับรู้ไว้”

xxxxx ===== xxxxx

       อย่าว่าแต่นกเลยที่คิดจะทำความฝันของธวัชให้สำเร็จ ยุ้ยก็เช่นกัน ยุ้ยก้มหน้าเอามือลูบไปที่ท้อง

“ลูกจ๋าช่วยเป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะลูก ถึงพ่อหนูจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ของแม่ จะต้องอยู่ให้ได้เพื่อหนูนะลูก แม่จะพยายามทำความฝันของพ่อเป็นความจริงให้ได้ พ่อหนูเขารักร้านนี้มาก สักวันแม่จะซื้อที่นี่มาเป็นของแม่ให้ได้ เพื่อเอาไว้เป็นอนุสรณ์ให้ลูกได้รู้ว่า แม่รักพ่อหนูมากแค่ไหน ช่วยแม่ด้วยนะลูก” ยุ้ยยิ้มทั้งน้ำตาและล้มตัวลงนอน ข่มตานอนยังไงก็ไม่หลับเสียทีคืนนี้

“พี่วัชหนูคิดถึงพี่นะ ทำไมถึงจากหนูไปเร็วอย่างนี้ พี่รู้ไหมว่าเรามีลูกด้วยกัน มีโซ่น้อยๆตัวแทนของพี่ด้วย หนูสัญญาว่าจะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะส่งเค้าเรียนให้สูงๆ สูงกว่าพี่และสูงกว่าหนูอีก ช่วยเป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะพี่ หนูรักพี่นะ”

                                                                                                +++++ ***** +++++       

       วันนี้ยุ้ยนึกยังไงไม่รู้ ลุกขึ้นมาทำอาหารเองตั้งแต่เช้ามืด <ตี5> สงสัยคงเป็นเพราะเมื่อคืนที่นอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็เล่นเอาไปเกือบตี 2 ได้มั้ง งามตานอนหลับไม่ยอมตื่นขนาดเสียงทำครัวดังออกขนาดนั้นและใส่บาตรให้สามี ประมาณ 6 โมงเช้า

“ไม่ว่าพี่วัชจะอยู่แห่งหนตำบลใด ขอให้ดวงวิญญาณของพี่จงไปสู่ที่ดีๆถ้าเป็นสรวงสวรรค์ก็ขอให้อยู่ในชั้นดีๆนะพี่ เรื่องลูก พี่ไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลนะ หนูขอสัญญาว่า หนูจะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้ คุณตาคุณยายรักเด็กคนนี้มาก พี่หลับให้สบายนะพี่ ไม่ต้องพะวงกับเรื่องในโลกมนุษย์นี้อีกแล้ว ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้กลับมาพบกันอีกนะพี่ ทานอาหารให้อร่อยนะ หนูอาจจะทำไม่อร่อยเหมือนใครบางคน แต่หนูก็ลองทำเต็มที่เท่านี่หนูจะทำได้ ไข่เจียวหมูสับที่พี่ชอบ ไส้กรอกทอด ไข่เค็มและผัดผักบุ้งไฟแดง ถ้าเค็มไปก็อย่าว่ากันนะ หนูทำได้เท่านี้จริงๆ รักพี่วัชเสมอทุกลมหายใจ หนูต้องไปแล้วนะพี่”

       ยุ้ยตั้งจิตอธิษฐานด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์และรำพึงผ่านสายน้ำที่หล่นลงบนใบไม้ที่รองอยู่ก่อนถึงพื้นดิน หลังจากทำบุญกรวดน้ำไปให้ ยุ้ยก็เก็บกวาดใบไม้ที่บริเวณหลุมศพดังเดิม หลายวันแล้วที่ไม่ได้เข้ามา จากนั้นก็กลับบริหารงานที่ร้านต่อดังเดิม

>>>>> @@@@@ <<<<<

       หญิงยุมารับพิกุลที่วัง โดยให้สามีเป็นสารถีขับรถมาให้ งานนี้หญิงยุใช้รถเบ็นซ์ของตัวเองไป เพราะจะดูคล่องตัวกว่า รถกระป๋องเก่าๆของสามี เมืองรามมองหน้าภรรยาสาว แบบไม่ค่อยจะยินดีเท่าใดที่ชอบพูดถึงรถกระป๋องเก่าๆของเขาแบบนั้น

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม พิกุล จำไว้นะแล้วกรุณาอย่าโทรบอกให้เจ้านายเธอรู้ก่อนว่าฉันจะไป ไม่งั้นแกกับฉันมีเรื่องกันยาวแน่”  

       หญิงยุยังไม่เลิกนิสัยเดิม ชอบขู่พวกบ่าวไพร่ จนเมืองรามไม่ชอบ จึงต้องท้วงติงและบอกกล่าวภรรยาบ้างเพื่อให้เธอเลิกซะที

“เพคะ ท่านหญิง หม่อมฉันจะไม่พูด หม่อนฉันจะเป็นใบ้ไปตลอดเส้นทางเลย ทรงสบายพระทัยได้เลย เพคะ พอพระทัยรึยัง”

“ดีมาก ถ้าแกทำดี ฉันจะมีรางวัลให้ แต่ถ้าตรงข้าม แกจะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต คอยดู ไปขึ้นรถ และอย่าลืมบอกทางด้วย”

“ไม่เอาน่าหญิง ไปขู่เด็กมันทำไม มันก็ทำตามหน้าที่ เราตกลงกันแล้วไง ถ้าหญิงยังไม่เลิกนิสัยแบบนี้ ผมจะไม่ช่วยนะ”

“เออๆ ก็ได้ๆ ไปๆ กว่าจะถึงเดี๋ยวแดดก็ร้อนกันพอดี นี่ก็ 8 โมงเข้าไปแล้ว หญิงใจร้อนอยากเจอรันเร็วๆ”

       จากนั้นทั้งหมดก็ออกเดินทางตรงไปยังบ้านพักชายทะเลส่วนตัวของราชนิกูลบุษบง แบบไม่มีพักกลางทางเลย

..... +++++ .....

“นั่นไงมาแล้ว อาหารเช้าวันนี้ มีไส้กรอกด้วย เมื่อคืนอาหารทะเล เช้านี้ผิดกันลิบลับเลยผัวจ๋า ไข่เจียวหมูสับหนูขอนะ ไข่เค็มพี่เอาไปแล้วกัน ผัดผักบุ้งไฟแดง ยี้โคตรเค็มเลย พี่เอาไปเถอะ เดี๋ยวโรคไตถามหา” ธวัชส่ายหัวกับเด็กคนนี้ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

$$$$$ ----- $$$$$

       นกตื่นขึ้นมาแต่เช้าประมาณ 6.45 น. ทำโน่นนี่นั่นเสร็จก็ประมาณ 7 โมง ก็อย่างที่บอก เธอชินเสียแล้ว 9 เดือนที่อยู่กินกับธวัชมันเป็นสิ่งที่คุ้นเคยไปเสียแล้วสำหรับเธอ พอได้เวลามันต้องลืมตาตื่นขึ้นมานอนต่อไม่ได้

       นกเดินลงไปที่ชายหาดตามลำพัง หลังจากที่อาบน้ำและดื่มนมสด นกเอาเสื้อกันหนาวสวมทับไปเพียงตัวเดียว เพทายจะขอตามเสด็จไปด้วย นกก็ไม่ยอมให้ไป ให้อยู่ช่วยทางนี้ช่วยทำครัวล้างจาน อะไรก็ได้แต่ห้ามตามเธอไปโดยเด็ดขาด และที่สำคัญนกไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย เพราะนกอยากอยู่คนเดียวจริงๆ นกเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ ไม่รู้ตัวว่าไกลเท่าใด เพราะไม่ได้สนใจ เจอใครก็ทักทาย เจอเด็กเล็กๆก็ขออุ้มตลอด จนมีอยู่จังหวะหนึ่งที่เกิดหน้ามืดขึ้นมา ขณะที่อุ้มเด็กน้อย จนเกือบล้ม ดีที่แม่เด็กเข้ามารับไว้ทันและพามานั่ง

“เป็นอะไรมากไหมคุณ มามานั่งลงตรงนี้ก่อน หน้าตาทำไมดูซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่าคะเนี่ย”

“หนูสบายดีค่ะพี่ ขอบใจมากนะคะที่ช่วยเมื่อกี้ แล้วน้องเป็นยังไงบ้าง หนูขอโทษจริงๆนะคะ”

“ไม่เป็นไร พี่รู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แล้วนี่มาจากไหนหละเนี่ย พี่ไม่เคยเห็นหน้าเราเลย ไม่ใช่คนแถวนี้แน่ๆ ใช่ไหม”

“ค่ะพี่ หนูมาจาก” เอาหละซิ พอจะบอกพี่สาวคนสวย ก็จำทางกลับไม่ได้ซะแล้ว หันไปมองดูทาง มันก็เหมือนๆกันหมด ซวยแล้ว

       ทางไหนหละทีนี้ หน้ามืดครั้งเดียว จำอะไรไม่ได้ซะแล้ว นกหันซ้ายแลขวา “อ้าว แล้วทางไหนหละเนี่ย” นกสับสนจริงๆ

“ทำไมมันดูเหมือนกันไปหมด” แล้วก็หันหน้ามาบอกกับพี่สาวคนสวย

“พี่หนูจำทางกลับไม่ได้แล้ว หนูจำไม่ได้ว่าหนูมาจากทางไหน พี่..โอ๊ยหนูสับสนหมดแล้ว” เอาหละซิ แล้วจะทำยังไงหละทีนี้ ในเมื่อเจ้าตัวจำไม่ได้ แล้วใครจะรู้หละน้องท่าน ยุ่งแล้วทีนี้ พี่สาวคนสวยเอามือจับกบาลตัวเอง

“เวร แล้วจะเอายังไงกันดีหละทีนี้ ลงจำอะไรไม่ได้แบบนี้ งานเข้าแล้ว” พี่สาวคนสวยบ่น

##### ^^^^^ #####

       งามตาเดินเข้ามาจะเอาถาดอาหารมาให้สามี ก็ต้องพบว่า มีถาดอาหารของยุ้ยวางอยู่ก่อนแล้ว จึงเกิดความไม่พอใจ เดินเข้าไปจับถาดของยุ้ยเหวี่ยงออกไปทันที ถาดตกลงกับพื้นเสียงดังสนั่นจานชามกระจายแตกพังไม่มีชิ้นดี แล้วก็เอาถาดของตัวเองวางแทน หลังจากจุดธูปบอกกล่าวเป็นที่เรียบร้อยก็เดินจากไป ปล่อยให้ถาดของยุ้ยพังแตกอยู่ตรงนั้นแหละไม่สนใจและใส่ใจ

!!!!! &&&&& !!!!!

       ประมาณ 10.00 น.พิมพ์ยังคงนอนสบายยังไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนซัดเบียร์ไปเยอะเหมือนกันนานๆจะได้มาเปิดหูเปิดตาแบบนี้สักที จึงมีอาการมึนหัวนิดๆเลยนอนยาว เผลอตัวนอนกอดริชาร์ดโดยไม่รู้ตัวด้วยและที่สำคัญ พิมพ์เผลอตัวเผลอใจมีอะไรกับริชาร์ดด้วย โดยไม่ได้ตั้งใจ พิมพ์รู้สึกตัวขึ้นมาก่อน รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม เหมือนหนาวๆโหว่งเหวงยังไงไม่รู้

       พอลืมตาก็ต้องตกใจที่เห็นว่าตัวเองนอนกอดริชาร์ดอยู่ พอขยับตัวก็รู้สึกเพลียๆและเจ็บที่หว่างขา จึงเปิดผ้าห่มออกทันทีต้องตกใจอีกครั้งที่เห็นตัวเองโป๊เปลือย มองไปที่ริชาร์ดก็เช่นกันนอนเปลือยอยู่ พอขยับตัวก็เห็นเลือดเลอะอยู่ที่หว่างขาตัวเองและที่นอน จึงรีบปลุกริชาร์ด

“พี่ริช พี่ริช ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ พี่ริช พี่ริช” ริชาร์ดค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นพิมพ์เปลือยต่อหน้าเขา

“พิมพ์ ทำไมเป็นแบบนี้” ริชาร์จะดึงผ้าห่มปิดตัวให้พิมพ์ พอก้มลงไปก็เห็นว่าตัวเองก็เปลือยไม่มีอะไรปิดตัวเช่นกัน

“ทำไมพี่ทำกับหนูแบบนี้ ไหนบอกจะไม่รังแกหนูไง หนูเกลียดพี่” พิมพ์ตบหน้าริชาร์ดอย่างแรง

“พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง สงสัยเพราะเบียร์พวกนั้นแน่เลย พี่ขอโทษ ไหนๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว พี่จะรับผิดชอบหนูเองนะ”

“มันก็ต้องแหง๋ซิพี่ ลองพี่ไม่ยอมรับ ไม่รับผิดชอบซิหนูเอาพี่ตายเลย ไม่เชื่อก็ลองดู แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ซิ ถ้าหนูท้องขึ้นมาจะทำไง แม่เอาหนูตายแน่เลย โอย ไหนจะความฝันหนูอีก พี่หนะไม่น่าเลย ทำไมไม่รู้จักห้ามใจไว้บ้างนะ โอ๊ย พี่นะ หมดกันอนาคตฉัน”

“ไม่เอาน่าพิมพ์ ทำไมถึงพูดแบบนั้นหละ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้ ถึงจะมีลูกตอนนี้สัก 10 คน พี่ก็เลี้ยงหนูได้ นะๆไหนๆหนูก็เป็นเมียพี่แล้ว พี่ก็ขอต่อเลยแล้วกันนะนะ” พิมพ์ทั้งโกรธและทั้งอยาก ตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะทำยังไงดี หลังจากที่ได้เสียตัวให้กับริชไปแล้ว

       เมื่อไม่มีคำตอบให้ ริชาร์ดก็คิดว่าพิมพ์ไม่ปฏิเสธ จึงดึงผ้าห่มมาคลุมหัวและเอาเมียต่ออีก แต่กี่ยกนี่ไม่รู้ แต่ก็มีความสุขทั้งคู่ เพราะพิมพ์ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรกลับชอบเสียอีก มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเรื่องแบบนี้ เมื่อมีครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็ไม่ต้องเขินอายอะไรอีก เพราะมันเป็นกฎธรรมชาติของการมีชีวิตคู่ ผัวเมียเอากันมันไม่ใช่เรื่องแปลกจริงไหมครับ

       เป็นเวลาเดียวกันที่เมืองรามขับรถมาถึงเขตของบ้านพักที่นกอยู่แต่หลงเพราะพิกุลไม่เคยมา จึงทำให้เกิดการล่าช้าขึ้น

“ว่าไงพิกุล แกจำทางได้หรือเปล่า พาฉันมาถูกไหมเนี่ย อย่าบอกนะว่าหลง” พิกุลยอมรับ

“เพคะ หลง” หญิงยุแหกปากดังลั่น

“ว่าไงนะ หลง” พิกุลยกมือไหว้ขอโทษหญิงยุ

“โอ๊ย พิกุล นี่ฉันคิดผิดหรือเปล่าเนี่ยที่เอาแกมา” หญิงยุอารมณ์ไม่ดี

“โอ๊ย เห็นเป็นคนเก่าคนแก่ นึกว่าจะรู้ ที่ไหนได้..ไม่อยากจะพูด แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรกว่าไม่รู้ทาง ฉันจะได้ขอแผนที่ ให้คนที่รู้เขาเขียนบอกทางให้หรือไม่ก็ขอเบอร์โทรมา ฉันอยากจะบ้าตาย โอ๊ย ไม่น่าเลย เสียเวลาจริงๆ อึ๊ย”

“แล้วทำไมท่านหญิงไม่ถามหม่อมฉันก่อนหละเพคะ ท่านก็เคยมา” พิกุลเถียง

“ยังจะมายอกย้อนฉันอีก เด็กคนนี้ มันน่าไหมเนี่ย”

       หญิงยุเงื้อมือจะฟาดพิกุลแต่ทำไม่ลง เมืองรามมองไปมาจึงเอ่ยปากขึ้น

“นี่เราก็วนมาสองสามรอบแล้วนะ เข้าแยกนั้นออกแยกนี้ แล้วนี่เราจะไปทางไหนกันต่อดีหละหญิง หญิงจำไม่ได้เลยเหรอ เคยมาแล้วนี่” หญิงยุมองออกไปรอบๆ ยังไงก็จำไม่ได้ เพราะสภาพมันเปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อก่อนมีแต่ป่าและที่โล่ง

“มันนานมากแล้วนะราม ตั้งแต่หญิง 7 ขวบ จนมาถึงวันนี้ 16 ปีแล้วนะ มันเปลี่ยนไปมากจนหญิงจำไม่ได้เลย ดูซิบ้านเรือนขึ้นเต็มไปหมด” แล้วหันไปเล่นงานพิกุลต่อ

“นี่ถ้าแกมาคนเดียวแกจะมาถูกเหรอ พิกุล” พิกุลแก้ตัวอีก

“ต้องถูกซิเพคะท่านหญิง ก็ลุงอาด คนขับรถที่วังแกมาที่นี่บ่อยจะตาย” หญิงยุมองหน้าพิกุล

“นี่ท่านหญิงเล่นมารับหม่อมฉันออกมาแบบนี้ หม่อมฉันจะรู้ไหม ตอนนี้ถ้าไม่โทรถามทางกับองค์หญิง หม่อมฉันรับรองได้เลยว่าพวกเราได้กินข้าวลิงที่นี่เป็นแน่แท้ และไม่มีโอกาสได้เจอตัวองค์หญิงแน่เพคะ ตกลงจะเอาไงท่านหญิงทรงรับสั่งหม่อมฉันมาได้เลย ว่าจะทรงให้โทรหรือไม่โทร” มันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ หญิงยุคิดอยู่นาน พิกุลไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว

       พิกุลต้องเล่นแผนนี้แล้ว ไม่งั้นไม่ถึงแน่ หญิงยุตัดใจพยักหน้า หมายถึงโทรก็โทร ว่าจะมาเซอร์ไพร์สซะหน่อย อดเลย

<<<<< $$$$$ >>>>>

     ขณะที่นกกำลังเหวอจิตหลุดอยู่นั้น ฤกษ์สามีของเจี๊ยบ พึ่งลงมาจากเรือหาปลา เพราะออกไปหาปลาตั้งแต่ตี 4 กลับมาพอดีเดินยกลังปลาขนาดกลางมาทางนี้เพื่อจะไปขึ้นรถกลับไปยังบ้านพัก หันไปเห็นนกเข้าพอดี จึงเดินเข้ามาหาทันที เพราะสงสัยว่านกเดินมาถึงนี่ได้ยังไง เพราะมันไกลจากบ้านพักมาก นกยังไม่เห็นฤกษ์ เพราะกำลังขวัญเสีย นั่งหันหลังให้กับทะเล

“องค์หญิงขอรับ” นกสะดุ้งเมื่อมีคนมาเรียกเธอแบบนั้น พี่สาวที่นั่งอยู่ก็ต้องตกใจเช่นกันที่ฤกษ์เรียกเช่นนั้น นกหันไป

“ฤกษ์” เหมือนสวรรค์ทรงโปรดนกยิ้มออกมาได้ เมื่อเจอคนรู้จัก

“องค์หญิงทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ขอรับกระหม่อม” พี่สาวคนนั้นรีบลุกไปดึงแขนฤกษ์ไปพูดห่างๆทันที

“ฤกษ์เมื่อกี้แกเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าอะไรนะ” พี่สาวคนนั้นตกใจมากที่ได้ยินฤกษ์เรียกว่าองค์หญิง

“องค์หญิงครับพี่มุก นั่นหนะ พระองค์เจ้าหญิง อรัญญิกา บุษบง หรือ หญิงรัน แห่งวังบุษบง ตัวจริงเสียงจริงเลยหละพี่ คนที่ออกทีวี เมื่อปีที่แล้วไง ที่ว่าโดนลักพาตัวไป หายตัวไปเกือบปีหนะพี่ องค์นี้แหละ ไม่ผิดตัว” มุกตกใจมาก เอามือปิดปากตัวเองทันที

“เมื่อคืนผมกับครอบครัว ยังถวายการอารักขาอยู่เลย พระองค์ทรงเสด็จมาพักที่บ้านพักส่วนพระองค์เมื่อเย็นวานนี้เอง”

       ฤกษ์รีบถาม “นี่พี่อย่าบอกนะว่า พี่ไม่รู้จักองค์หญิงหนะ ข่าวท่านออกดังจะตาย อะไร” พูดจบฤกษ์ก็เดินกลับมาหานก

“ตกลงยังไงกันขอรับกระหม่อม แล้วนี่จะทรงดำเนินไปที่ใดต่ออีกหรือไม่ กระหม่อมจะได้อยู่เป็นเพื่อน นำทางให้ขอรับ”

“ไม่หละ ขอบใจมากนะฤกษ์ บอกตามตรงนะว่า ฉันหลงทาง ถ้าเธอไม่มา ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นยังไงบ้าง ขอบใจมากนะที่เธอมา”

       มุกรีบเดินกลับมาและก้มลงกราบนก

“อะไรกันพี่สาว พี่ทำอะไรหนะ ไม่เอาลุกขึ้นมา” คนแถวนั้นพอรู้ว่านกเป็นใคร รีบมาดูกันใหญ่บางคนก็ขอถ่ายภาพด้วย บางคนก็ขอแตะเนื้อต้องตัวด้วยสักนิดก็ยังดี นกยิ้มให้กับทุกคนและไม่ถือตัว

“หม่อมฉันต้องขออภัยด้วยเพคะ ทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วยที่มีตาหามีแววไม่ ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน มิน่าหละ นึกสังหรณ์ใจอยู่นานแล้วว่าเคยเห็นที่ไหน หวังว่าองค์หญิงทรงให้อภัยหม่อมฉันนะเพคะ ที่บังอาจตีตนเสมอท่าน”

“ไม่เป็นไรพี่ หญิงไม่ได้คิดอะไร กลับต้องขอบใจพี่เสียอีกที่ช่วยเหลือหญิง ถ้าไม่ได้พี่และยาดมอันนี้ หญิงอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ลุกพี่ ลุกขึ้นมา หญิงไม่ได้ถือองค์อะไรขนาดนั้น คิดเสียว่าหญิงเป็นน้องสาวของพี่คนหนึ่งก็แล้วกันนะพี่ แล้วพี่ชื่ออะไรหละ หญิงยังไม่รู้ชื่อผู้มีพระคุณกับหญิงเลย”

           นกยิ้มให้กับมุก มุกยังคงพนมมือ 

“โถ แม่คุณ ดูซิพวกเราท่านไม่ถือองค์จริงๆ” มุกดีใจมาก

“หม่อมฉันชื่อมุกเพคะ ขอให้องค์หญิงเจริญๆนะเพคะ บุญของหม่อมฉันและครอบครัวจริงๆที่ได้พบกับท่าน โดยเฉพาะลูกสาวของหม่อมฉันที่องค์หญิงทรงอุ้มและทรงเอ็นดู มาลูก มาถวายองค์กับองค์หญิงก่อนลูกมา นั่นด้วยมา”

       มุกเรียกลูกอีกทั้งสองคนมาหาองค์หญิง คนที่นกอุ้มหนะประมาณขวบนึง ส่วนอีก 2 คน คนโตเป็นชายอายุประมาณ 5 ขวบ และคนที่สองเป็นหญิงประมาณ 3 ขวบ ทั้งสองมอบกราบองค์หญิงรัน หญิงรันเอามือลูบหัวเด็กทั้งสอง

       หญิงรันไม่รู้จะให้อะไรกับมุกเป็นการตอบแทนที่ช่วยเธอ มองไปที่ข้อมือขวาตัวเองมีเลสทองหนัก 1 บาทติดอยู่ จึงถอดและคล้องใส่ไปที่ข้อมือของสาวน้อยที่มีอายุเพียง 1 ขวบนั้นทันที ต่อหน้าทุกคน มุกตกใจมาก จะถอดออก

“อย่าถอดนะพี่ ถ้าพี่ถอดออกหญิงจะโกรธมาก ถือว่าพี่ไม่รับน้ำใจจากหญิง หญิงให้เพราะพี่เป็นคนดีมีน้ำใจช่วยเหลือคนทั้งๆที่เราไม่รู้จักกัน จำไว้นะพี่ ความดีทำไปเถอะ พระสวามีหนูเคยบอกเอาไว้ว่า ความดี ไม่มีวันหมด ทำไปเถอะ ถึงแม้ว่า มันอาจจะเห็นผลช้าไปนิด แต่ดีกว่าที่เราไม่ได้คิดทำอะไรเลย นะพี่นะ หญิงขอ ถ้าพี่รักและเอ็นดูหญิงจริงๆ”

         มุกทรุดตัวนั่งลงก้มกราบหญิงรันอีกครั้งและน้ำตาไหลออกมา

“ขอให้ทรงเจริญยิ่งๆขึ้นไปนะเพคะ” มุกเอื้อมมือขวาหญิงรันมาไว้บนหัวตัวเอง

“ขอบพระทัยมากเพคะ หม่อมฉันจะจดจำวันนี้ไปจนวันตายเลย ว่าท่านหญิงทรงดีกับหม่อมฉันเช่นไร”

         หลังจากที่ร่ำลาเป็นที่เรียบร้อย หญิงรันก็บอกให้ฤกษ์พาตนกลับไปยังบ้านพักทันที

“ไปฤกษ์ ฉันอยากกลับที่พักแล้ว” ฤกษ์โค้งคำนับและผายมือให้องค์หญิงเดินไปที่รถซึ่งเขาขับมาจอดรออยู่แล้ว

      นกหันไปบ๊ายบายทุกคน มุกอุ้มลูกสาวโบกมือให้ หลังจากที่พิกุลโทรหานกแต่ไม่มีคนรับถึงสองครั้ง โชคดีที่ครั้งที่สาม เพทายเดินเข้ามาทำธุระในห้องพอดีจึงรับสายแทน

“สวัสดีค่ะ” จากนั้นก็เป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มของหญิงยุ หลังจากที่เพทายรับสาย และรบกวนให้ลุงทองดีบอกทาง

       ไม่นานคณะเดินทางของหญิงยุก็มาถึงบ้านพักจนได้ เมืองรามนำรถมาจอดข้างๆรถของริชาร์ดและหญิงยุขอตัวขึ้นไปพักผ่อนเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง รู้แค่ว่าเพื่อนไม่อยู่เท่านั้นแต่ไม่รู้ว่าหายตัวไปตั้งแต่เช้า แต่อีกหลายคนใจไม่ดีเมื่อรู้ว่านกหายตัวไปแบบไร้ร่องลอย หญิงยุขอตัวไปนอนห้องเพื่อนก่อน ส่วนทองดีต้องรีบออกไปตลาดทันที เพื่อหาอุปกรณ์มาซ่อมและแก้ไขห้องที่ชำรุดอยู่อีก 1 ห้อง ทั้งกระจกและมุ้งลวดที่ขาด เพราะไม่งั้นเมืองรามกับหญิงยุ ไม่มีที่นอนแน่คืนนี้ ไม่นานฤกษ์ก็โทรหาเมียตัวเอง

“ไม่ต้องตกใจนะเจี๊ยบ องค์หญิงอยู่กับพี่ ท่านทรงหลงทาง ตอนนี้พี่กำลังขับรถพาท่านกลับไป สบายใจได้ บอกพ่อกับแม่ด้วยนะ คงไม่เกิน 10 นาทีหรอก เตรียมจัดอาหารให้ท่านเสวยได้เลย นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วท่านคงทรงหิวแล้วหละ เพราะดูอาการแล้วองค์หญิงน่าจะไม่สบายด้วย แค่นี้นะ แล้วค่อยคุยกัน”

         ฤกษ์หันไปดูองค์หญิงที่นั่งหลับมาตลอดทาง ดูแล้วน่าเป็นห่วงมาก

///// +++++ /////

       ยุ้ยนั่งวางแผนว่าจะพัฒนาร้านยังไงต่อ นอกจากเปิดรับซ่อมตามปกติ ถึงแม้ว่าตอนนี้ลูกค้าอาจจะยังน้อยกว่าตอนที่ธวัชอยู่ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายสูงมาก ไม่มีกำไรเข้ามาเลย มีแต่รายจ่ายแต่ยุ้ยก็จะสู้ เปิดดูยอดเงินในแอปธนาคารส่วนตัวของเธอเอง เหลือไม่กี่หมื่นแล้ว คือยุ้ยไม่เอาเงินแสนที่ธวัชโอนกลับให้มาปน เธอถอนออกแล้วเอาไปเปิดเป็นอีกบัญชีต่างหากให้ลูก

       ยุ้ยไม่มีความรู้ทางนี้เสียด้วยไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งพาใครดี จึงได้แต่นั่งกลุ้มเอามือกุมหัวนั่งก้มหน้าอยู่เพียงลำพัง จ้อยกับเอี้ยงเข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองคนจึงเดินเข้ามาหายุ้ย

“ถ้าไม่ไหวก็หยุดเถอะนะยุ้ย พวกพี่สองคนเข้าใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น” จ้อยพูดก่อน

“ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีพี่วัช ลูกค้าเค้าก็ไม่อยากเสี่ยง เขาไม่มั่นใจในฝีมือของพี่สองคน ทุกวันนี้เราก็ได้แต่เล็กๆน้อยๆ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยาง ขายหมวกกันน๊อก เติมลม พวกนี้มันไม่สามารถทำให้ร้านเราอยู่รอดได้หรอก” เอี้ยงกล่าวเสริม ยุ้ยเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มให้

“เรื่องพวกนั้นพวกพี่ไม่ต้องห่วงและกังวลนะพี่ หนูยังไหว” ทั้งสองคนรู้ดีว่ายุ้ยไม่มีตังเหลือแล้ว เพราะลงทุนไปค่อนข้างเยอะ ไหนจะหม้อลม ไหนจะพวกน้ำมันเครื่อง ยางอะไหล่ ล้อซี่ลวดที่ซื้อมาเก็บไว้ ถึงจะไม่เยอะ แต่นั่นมันก็เงิน ไหนจะพวกอะไหล่ทั่วไปปลีกย่อย น้ำมันพวกโซฮอล์ทั้งหลายไม่ว่าจะ 91 หรือ 95 ที่ซื้อมาเพื่อบรรจุลงขวดขาย 35-40 บาท ของพวกนี้มันได้กำไรไม่กี่ตัง ขวดละไม่กี่บาท ไหนจะค่าแรงรายเดือนของจ้อยกับเอี้ยงอีก

“พี่รู้นะว่ายุ้ยไม่มีเงินเหลือแล้ว” จ้อยพูดความจริงออกมา จนยุ้ยต้องหน้าเสียไปเลยทันที

“ยุ้ยอย่ามาโกหกพี่เลย สร้อยคอและเลสข้อมือของยุ้ย ไม่อยู่แล้วใช่ไหม” เอี้ยงไม่อยากให้ยุ้ยแย่ไปกว่านี้

“พี่เห็นนะ สองวันก่อน ยุ้ยเดินเข้าโรงจำนำหน้าปากซอย” ยุ้ยตกใจนิดหน่อยที่เอี้ยงรู้ ยังไม่พอ จ้อยพูดอีก

“รถก็เหมือนกันยุ้ย พี่เห็นนะว่ายุ้ยเอาไปเข้าไฟแน้นท์ไว้ด้วยใช่ไหม ยุ้ยถ้ามันลำบากถึงขนาดนี้ ยุ้ยจะมาทนทำไม พี่สองคนไม่อยากที่จะเอาเปรียบยุ้ยอีกแล้วนะ พี่เข้าใจว่ายุ้ยต้องการที่จะทำให้ความฝันของพี่วัชเป็นจริง เพื่อลูก”

“แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ มันก็ต้องยอมปล่อยและทิ้งมันไป พี่เข้าใจนะว่ายุ้ยรักพี่วัช แต่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์แล้ว ยุ้ยวางมือเถอะเชื่อพี่แล้วกลับไปอยู่ที่สวนยางซะ แล้วทางนี้ พอพี่เก็บรวบรวมได้ พี่จะส่งเงินคืนให้ยุ้ยเอง” เอี้ยงสงสารยุ้ยจับใจ

“พี่จ้อย พี้เอี้ยงฟังหนูนะ” ยุ้ยน้ำตาไหลออกมา เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนหวังดี แต่ยุ้ยก็ยังขอรั้นและดันทุรังอยู่อีกครั้ง

“เรื่องนั้นพี่ไม่ต้องห่วง พี่ทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน หนูขอสัญญา ถ้าไม่ไหวจริงๆ หนูจะบอกพวกพี่เอง นะพี่นะ ขอให้ไว้ใจหนู ไปเถอะ นั่นลูกค้ามาแล้ว ไปเถอะพี่ หนูขอคิดอะไรคนเดียวหน่อยนะพี่นะ ขอบใจพี่สองคนมาก”

       จ้อยกับเอี้ยงไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องยอมยุ้ยไปก่อนและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะช่วยกันได้ อะไรประหยัดได้ก็ประหยัดไป

***** ฿฿฿฿฿ *****

       ธวัช ยังคงหลบพลอยเพื่อหาที่นั่งทำสมาธิ คราวนี้พลอยหาธวัชไม่เจอ เพราะจิตของธวัชแกร่งมากขึ้น จึงสามารถทำให้พลอยหาตัวเขาไม่เจอ พลอยหงุดหงิดมากที่หาตัวสามีไม่เจอ ตั้งแต่ทานมื้อเช้าเสร็จ ธวัชมานั่งตั้งจิตทำสมาธิเหมือนที่หลวงตาบุญเคยสอนเอาไว้ ว่าเมื่อใดที่จิตใจไม่สงบไม่สบายใจ ให้ทำใจให้ว่างแล้วสมาธิจะมาเอง ธวัชมีความสุขมากที่ไม่มีพลอยมากวนใจ

----- ^^^^^ -----

       ฤกษ์พานกหรือองค์หญิงรันของพวกเขามาถึงบ้านพัก ก่อนเที่ยง ทันเวลาพอดี

“ถึงที่ประทับแล้วขอรับ เชิญเสด็จได้เลย”

“ขอบใจนะฤกษ์ ถ้าไม่ได้เธอฉันคงแย่” ฤกษ์ยิ้มให้ นกอาการเริ่มไม่ไหวแล้ว หน้ามืดปากซีด

“ไม่เป็นไรขอรับ เสด็จท่านมีบุญคุณกับครอบครัวเจี๊ยบมาก อะไรที่ช่วยได้กระหม่อมยินดีช่วย อีกอย่าง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทรงดำเนินเถอะขอรับ พระสหายมารอกัน เพราะทรงเป็นห่วงองค์หญิงกันไปหมดแล้ว”

“ไอ้รัน” นกวูบไปเลยทันทีเมื่อก้าวออกมาจากรถ หญิงยุวิ่งเข้ามากอดเพื่อน ในขณะที่นกหน้าตาไม่รับรู้อะไรแล้ว เพราะไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้าแค่นมกล่องเดียวที่ติดมือไป อ๊วกไปก็หลายหน ตลอดเวลาที่เดินทางกลับมา จึงหลับไป เพราะหมดแรง

“แกเป็นอะไร เมืองราม ช่วยที” เมืองรามต้องรีบเข้ามาอุ้มนกเข้าไปนอนในห้องพัก

“พี่ฤกษ์ พี่ไปเจอองค์หญิงที่ไหนเนี่ย” เจี๊ยบสงสัยมาก

“โน่นแหนะ ชายหาดทางโน้น ตรงสะพานปลา พี่ก็ยังงงเลย ไม่รู้ว่าองค์หญิงเสด็จไปถึงนั่นได้ยังไง ไกลมาก เป็นกิโลๆ” เจี๊ยบตกใจมาก “จริงเหรอพี่” พิมพ์อยากรู้

“มันไกลจากตรงนี้มากเลยเหรอพี่” หญิงยุหันมายืนฟังด้วย อยากรู้ความจริง

“จริงครับ คุณพิมพ์ คุณลองคิดดูนะ ขนาดขับรถจากนี่ไปสะพานปลาใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง” พิมพ์นั่งคิดตาม หญิงยุเช่นกัน

“แล้วนี่เดินนะด้วยเท้าหนะจะใช้เวลาเท่าไหร่” พิมพ์ยักหน้า

“พี่หนะนับถือใจองค์หญิงจริงๆเลยทีเดียว” หญิงยุปรี๊ดขึ้นมาเลยทีเดียว

“ไม่ได้แล้ว ต่อไปนี้นะ ต้องมีคนประกบอยู่กับหญิงรันตลอดเวลาเลยเข้าใจไหม เพทาย แกนี่แย่มาก ปล่อยให้เจ้านายอยู่คนเดียวได้ยังไง ทำโทษซะดีไหมเนี่ย คอยดูนะ ถ้าเพื่อนฉันเป็นอะไรไป แกโดนแน่” เพทายซวยแล้ว เมืองรามจึงต้องปรามเมียอีกครั้ง

“หญิงไม่เอา ผมบอกแล้วไง ว่าเพทายเค้าทำตามหน้าที่ ไม่ได้ยินเหรอว่า นกสั่งไม่ให้ตาม เขาก็ไม่ตาม แยกหน่อยซิอย่าเอาแต่ใจตัวเองมันไม่ดี เด็กมันกลัวจะแย่อยู่แล้ว อีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย เพทายไปเถอะ อย่าสนใจเลย เมียฉันเค้าพูดไปแบบนั้นแหละ มีอะไรทำก็ไปทำเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง” เพทายยกมือไหว้เมืองรามแล้วก็คลานออกไป

        รีบเดินกลับเข้าไปดูนกที่นอนหมดสติอยู่ เพทายคลานเข้าไปหาพิกุล

“พี่ ทำไมท่านหญิงถึงไม่มีเหตุผลเลยหละ ผิดกับพระสวามีเลยนะที่ต่างกันสุดขั้วเลย ไม่รู้ว่าอยู่กันได้ยังไง หนูไม่ชอบเลย” พิกุลเอามือตบไหล่เพทายเบาๆ

“เบาๆหน่อยแก” พิกุลเหลียวซ้ายแลขวา

“อย่าพูดให้ท่านได้ยินเชียว นี่แหละ หม่อมเจ้าหญิง วรุณยุภา หัสดี ตัวจริงเสียงจริง ถ้าได้ยินที่แกพูดเมื่อกี้นะ แล้วทรงกริ้วขึ้นมา แกจะได้รู้ว่า นรกเป็นยังไง” เพทายตาโตขึ้นมาเลย แทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลกนี้อีก

“ถึงขนาดนั้นเลยเหรอพี่ เป็นถึงหม่อมเจ้าหญิง ท่านจะทำตัวเหมือนคนสามัญได้ยังไง ยอมใครไม่เป็นเลยรึ เอาแต่ใจเกินไปมั้ง”

“ท่านหญิงองค์นี้ไม่เคยยอมลงให้ใครนอกจากพระสวามีองค์เดียวเท่านั้น จำไว้ อย่าพูดแบบนี้อีกเชียวนะโดยเฉพาะ ผู้กองเมืองราม พระสวามีหนะ ท่านไม่ชอบให้ใครมานินทาเมียลับหลัง ไปจะทำอะไรก็ไปทำ อ้อ..เอาเครื่องทรงขององค์หญิงจัดใส่ตู้ด้วย เดี๋ยวฉันมาขอไปดูเครื่องเสวยก่อน ไป อ้อแล้วจำใส่สมองและกะโหลกกลวงๆของแกไว้ด้วย อย่านินทาเชื้อพระวงศ์ มันไม่ดี”

“ค่ะพี่” เพทายรับคำสั่ง หัวหน้าอย่างพิกุลแล้วรีบไปทำอย่างโดยเร็ว ส่วนพิกุลก็ไปดูอาหาร ถ้าองค์หญิงตื่นขึ้นมาจะได้พร้อม

///// +++++ /////

       งามตา เดินผ่านหน้าร้านแล้วถุยน้ำลายใส่ ยุ้ยไม่พอใจ จึงเดินออกมาต่อว่าทันที

“มึงทำอะไรหนะงาม มันสกปรกใช่ไหม กูขอร้องหละงาม ต่างคนต่างอยู่จะได้ไหม กูไม่เคยที่จะไปทำอะไรให้มึงเดือดร้อนเลย มีแต่มึงคนเดียวที่ทำกูเดือดร้อน กูรู้นะไอ้เศษชามข้าว จานที่แตกหนะฝีมือมึง กูเดินไปกวาดหลุมศพพี่วัชมาเมื่อตอนเที่ยง กูเห็นหมดแล้ว มึงทำทำไม มันได้อะไรขึ้นมา ถึงมึงจะไม่ชอบกู กูไม่ว่า แต่นั่นมันถ้วยชามเครื่องเซ่นของผัว มึงทำลายแบบนั้นแล้วพี่วัชจะได้แดกไหม คิดซะมั้งซิมึง สมองเนี่ย คิดบ้าง”

        ยุ้ยเอานิ้วชี้ดันไปที่หัวงามตา

“เรื่องของกู มึงไม่เกี่ยว ตราบใดที่มึงยังอยู่ กูก็จะทำแบบนี้ มีอะไรไหม กูเกลียดมึง มึงได้ยินไหม”

“เออ เมื่อพูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง มึงอย่าให้กูร้ายขึ้นมาเหมือนเมื่อก่อนก็แล้วกัน กูอุตส่าห์..อึ๊ย จำไว้ ถ้ากูทนขึ้นมาไม่ได้เมื่อไหร่ แล้วมึงจะเสียใจ” พูดจบยุ้ยรีบเดินเข้าร้านแล้วตักน้ำมาสาดไล่งามตาและล้างสิ่งสกปรกที่งามตาทิ้งไว้ด้วย งามตาชี้หน้าด่ายุ้ย

“อียุ้ย มึง อีเมียน้อย กูไม่ใช่หมูไม่ใช่หมาที่มึงจะเอาน้ำมาไล่สาดกูนะ อี อีเลว” ยุ้ยไม่สนใจ เพราะงามตามาทำเลอะเอาไว้

“ทำไม นี่มันหน้าร้านกู กูยอมรับก็ได้ ถึงกูจะเป็นเมียน้อย มึงเป็นเมียหลวง ยังไงกูก็เมีย มาดูกันว่ามึงกับกูใครจะทำความฝันของผัวได้สำเร็จก่อนกัน ไป ชิ้ว อย่ามาบังหน้าร้านกู เสนียดชัดๆอีนี่ ในเมื่ออยู่กันดีๆไม่ได้ ก็ไม่ต้องอยู่ ไป ไปเลย”

“เออ ก็ได้ กูไม่อยู่ให้เป็นเสนียดสายตากูหรอก อีเมียน้อย..เร็วมาดูกันเร็วพวกเรา อีเมียน้อยมันหน้าด้าน อีนี่มันแย่งผัวฉัน”

     ยุ้ยโมโหมาก เหวี่ยงขันโครมเข้าไปให้ งามตาหลบทันแล้วเตะขันทิ้งลงคลองไปเลย แล้วเดินกลับเข้าบ้านไป ยุ้ยอารมณ์เสีย หันหลังเดินกลับเข้าร้าน ไปนั่งหน้ามุ่ย ดีนะที่ตอนนั้นไม่มีลูกค้า เพราะเป็นช่วงเที่ยง จ้อยกับเอี้ยง นั่งทานข้าวอยู่หลังร้าน ไม่อยากยุ่ง

----- ^^^^^ -----

       1 ชั่วโมงผ่านไป บ่ายโมงนิดๆ นกตื่นขึ้นมา เพทายดีใจมาก

“องค์หญิง ฟื้นแล้ว” เพทายรีบวิ่งออกไปบอกทุกคนด้านนอก

“ฟื้นแล้ว องค์หญิงทรงตื่นแล้ว” หญิงยุรีบหันมาบอก

“แล้วแกออกมาทำไม เข้าไป เผื่อหญิงรันต้องการอะไร ไป” หญิงยุไล่

“โอ๊ยเด็กคนนี้นี่ มันเป็นอะไรของมันนะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย สักอย่าง หญิงรันเอามันมาเลี้ยง มาใช้ ทำไมเนี่ย ไม่ได้เรื่องเลย อึ๊ย”

       ทุกคนเดินเข้าไป นกกำลังดันตัวเองขึ้นมาจากที่นอน หญิงยุวิ่งเข้าไปประคอง

“ไอ้รัน ช้าๆ ค่อยๆเพื่อน เป็นไงบ้างแก”

“ไอ้ยุ แกมาได้ยังไง แล้วนี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย” นกเกิดอาการอาเจียนทันที พิกุลรีบเอากระโถนมาให้

       นกอ๊วกใส่อยู่พักใหญ่ จนเจี๊ยบไม่แน่ใจ แต่ไม่กล้าพูดออกไป เพราะอาการแบบนี้ เธอเคยเป็นมาก่อน แต่ก็ไม่กล้าพูดให้ใครฟัง แต่คันปากยิบๆ จึงสะกิดเพทาย เพราะอยู่ใกล้ที่สุดแล้วกระซิบถามเบาๆ

“นี่เธอ ฉันขอถามอะไรหน่อยซิ” เพทายหันไปตอบเบาๆ

“มีอะไรเหรอพี่” เจี๊ยบมองไปที่องค์หญิง

“องค์หญิงเษกสมรสหรือมีพระสวามีหรือยัง”

“ยังนะพี่ เรื่องนี้หนูไม่รู้จริงๆ เพราะหนูพึ่งมาอยู่กับท่านได้ไม่เท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ต้องถามพี่พิกุลโน่น ว่าแต่มีอะไรเหรอ”

       เจี๊ยบกระซิบที่หูเพทายเบาๆ “ท้อง” เจี๊ยบรีบเอามือปิดปากเพทายทันที จนทุกคนต้องหันมา

“มีอะไรกันหนะสองคนนั้น ว่าไง” หญิงยุหันไปถาม

“ไม่มีเพคะท่านหญิง” เจี๊ยบรีบลากตัวเพทายออกไปด้านนอก

“จำไว้นะอย่าพูดเรื่องนี้ให้ใครได้ยินเป็นอันขาด ฉันแค่สันนิษฐานเท่านั้น เพราะอาการมันฟ้องเหมือนฉันเมื่อก่อนนี้”

       เจี๊ยบยืนยันอีกครั้ง “ตอนที่ฉันมีเจ้าตัวเล็กหนะ แต่ถ้าองค์หญิงท่านยังไม่มีพระสวามี ก็ถือซะว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกัน เข้าใจไหม ท่านคงจะเป็นโรคกระเพาะหรือไม่ก็เมาแดด เพราะไม่ได้ทรงเสวยอะไรเลยตั้งแต่เช้า”

       เจี๊ยบกำชับเพทายเป็นอย่างดี “รูดซิบปากให้เงียบเลยนะ ถ้ายังไม่อยากตกงาน”

“ค่ะพี่” เพทายเจอศึกหลายด้านเหลือเกิน ไหนจะหญิงยุ ไหนจะพิกุลและยังจะมาเจี๊ยบอีก

       นกเริ่มอาการดีขึ้นเมื่อจิตเอายาหอมมาให้ทาน

“ทรงดีขึ้นหรือยังเพคะ องค์หญิง” จิตถามเพราะความเป็นห่วงพระวรกาย

“ดีขึ้นแล้วป้า ขอบใจมากนะ หมู่นี้หญิงเป็นอะไรก็ไม่รู้หลังๆนี้ ไม่ค่อยจะมีแรงเลย สงสัยคงนอนน้อย”

“โธแม่คุณของบ่าว ทรงตรากตรำงานหนัก ต้องทรงหาเวลาพักผ่อนบ้างนะเพคะ ลักษณะแบบนี้ไม่น่าจะพักผ่อนน้อยแล้วหละ”

       เจี๊ยบรีบดึงแขนแม่ตัวเองแล้วเอามือจุ๊ๆที่ปาก ส่ายหน้า แม่พอจะเข้าใจ จากนั้นก็รีบคลานออกไปทั้งคู่

“เอาหละทุกคนตอนนี้หญิงรันก็ตื่นแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ใครมีอะไรไปทำก็ไปนะ ขออากาศบริสุทธิ์ให้เพื่อนฉันบ้างไปไป เดี๋ยวเพทาย แกอยู่ก่อน พิกุลไปจัดอาหารให้หญิงรันด้วย นอกนั้นออกไปให้หมด รามอยู่กับหญิงก่อน” จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไป

       ริชาร์ดกับพิมพ์ ไม่อยากที่จะสนใจอะไร สองคนผัวเมียเลยเดินลงไปหาอะไรเล่นที่ชายหาด อย่างน้อยก็มีความเป็นส่วนตัวแล้ว เพราะหญิงยุมาแล้วจึงรอดตัวไป ส่วนลุงทองดีพอกลับมาถึงก็ขอแรงฤกษ์ช่วยกันซ่อมแซมห้องพักอีกห้อง เพื่อที่หญิงยุกับเมืองรามจะได้นอนได้คืนนี้ หญิงยุ เห็นว่าเจี๊ยบลากเพทายไปคุยอะไรกันไม่รู้ข้างนอกและชี้เข้ามาทางนี้ จึงอยากจะรู้ความลับนั้น

“บอกมา เมื่อกี้เจี๊ยบคุยอะไรกับแก ฉันรู้นะว่ามันต้องเกี่ยวกับหญิงรันเพื่อนฉัน” นกหันไปมองหน้าเพทาย

“มีอะไรกันเหรอเพทาย ตกลงเจี๊ยบเค้าพูดอะไรกับเธอ ไหนบอกมาซิ ถ้ามันเกี่ยวกับฉัน ฉันก็ควรต้องรู้ใช่ไหม”

“คือ ไม่มีอะไรเพคะ พี่เจี๊ยบเค้าแค่อยากรู้เลยถามว่า องค์หญิงทรงมีพระสวามีเหมือนท่านหญิงยุหรือยังก็เท่านั้น เพราะ..”

“อะไร บอกมาเดี๋ยวนี้นะ มัวอ้ำอึ้งอมพนำอะไร เร็ว” หญิงยุจ้องหน้าเพทายอย่างเอาเป็นเอาตาย ตาเขม็ง

“หม่อมฉันกลัวแล้วเพคะ หม่อมฉันขอทูลตามความจริงแล้ว ทรงอย่าลงโทษหม่อมฉันเลยนะเพคะ”

“ว่าไป ฉันไม่ลงโทษอะไรเธอทั้งนั้นแหละ ก็แค่พูด ถ้ามันเกี่ยวกับฉัน ฉันจะได้เตรียมตัวได้ถูก” หญิงรันจ้องหน้าเพทาย

“พี่เจี๊ยบคิดว่าองค์หญิงจะมีพระโอรสหรือพระธิดาเพคะ” เพทายยกมือขึ้นเหนือหัวและก้มหน้าพูดอย่างเร็ว

“อะไรนะ” ทั้งสามคนอ้าปากค้าง หญิงยุหันไปมองหน้าเพื่อน

“จริงเหรอไอ้รัน แกท้องเหรอ”

“ไม่นะแก ฉันจะท้องได้ยังไง พี่วัชตายไปตั้งนานแล้ว ไม่จริง ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่”

“จริงไม่จริง พี่ว่านกต้องให้หมอมาตรวจดูอาการนะ เชื่อพี่” เมืองรามยังคงยืนยันแบบนั้น

“ไม่ หนูไม่ตรวจ หนูไม่ทำอะไรทั้งนั้น หนูไม่ตรวจ ไม่” นกรีบลุกออกจากที่นอนแล้ววิ่งออกไปข้างนอก

       ทั้งสามคนรีบวิ่งตามออกไป นกยืนหันหน้าไปที่ทะเล ยกมือซ้ายมาข้างหลังห้ามเอาไว้ไม่ให้ใครตามมา

“ขอหญิงอยู่คนเดียว ได้โปรดอย่าตามมา แกด้วยยุ ถือว่าฉันขอร้อง ถ้าแกรักฉัน”

“แต่แกต้องทานอะไรบ้างนะรันตั้งแต่เช้าแกยังไม่ได้ทานอะไรเลย” หญิงยุเป็นห่วงเพื่อน

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ลงไปเดี๋ยวฉันจัดการเอง แต่พวกแกไม่ต้องตามฉันมาเข้าใจไหม ฉันอยากอยู่คนเดียว ขอร้องหละ”       

       จากนั้นนกก็ค่อยๆพยุงร่างตัวเองลงไปนั่งทานข้าวต้มข้างล่างเพียงลำพัง จากนั้นก็เดินหายไปในสวนมานอนเล่นที่ชิงช้าตัวเดิมที่เคยนอนเล่นเมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว ถึงมันจะเก่าแต่ก็ยังดูแข็งแรงอยู่ เพราะวัสดุทำมาอย่างดี

       นกนอนคิดถึงเรื่องที่เพทายพูด ถ้าจริงเธอจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะสามีก็ได้ตายไปแล้ว ถ้าเขามาเกิดจริงๆก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ อย่างน้อยก็มีตัวแทนของคนที่เธอรัก แต่อาจจะน่าเป็นห่วง ถ้าสังคมภายนอกรู้เรื่อง

       นกคิดไม่ตก จากนั้นก็เผลอหลับไปอีก เพราะร่างกายกำลังปรับตัวอยู่            

##### ^^^^^ #####

       เวลาผ่านไปจนเย็นนกเดินกลับมาที่บ้านพักอีกครั้งหลังจากที่หายไปเพื่อทำจิตใจให้สงบ หญิงยุเดินเข้ามาหาแบบห่วงๆ

“แกหายไปไหนมาไอ้รัน ฉันเป็นห่วงแกนะ ฉันรักแกมากนะเพื่อน” หญิงยุเดินเข้าไปโอบกอดเพื่อน

“ฉันก็รักแกไอ้ยุ อย่าคิดมาก ฉันไม่ได้เป็นอะไร เห็นไหมฉันสบายดีแล้วขี้แยไปได้แกเนี่ย มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วนะแก”

“แกไม่โกรธฉันกับรามแล้วเหรอ ฉันยังคิดว่าแก ไม่ยอมยกโทษให้ฉันเสียอีก” หญิงยุถามเพราะกลัวเสียเพื่อนรักไป

“ไม่แล้ว ฉันเลิกคิดไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันเห็นหน้าแกที่นี่ ฉันรู้ว่าแกทำไปเพราะมีเหตุผล ฉันจะไปโกรธแกทำไม”

       นกหันไปที่เมืองราม “พี่ราม อย่าคิดมากนะ ฝากเพื่อนรักหนูด้วย” นกเอามือเธอมาตบเบาๆที่หลังมือเมืองรามและบีบไว้

“จริงๆแล้วไอ้ยุเพื่อนหนูคนนี้มันไม่มีอะไรหรอก บางครั้งมันก็อาจจะดื้อและเอาแต่ใจตัวเองมากไปบ้าง” นกปล่อยมือจากเมืองราม

“แค่มีคนมาปราบพยศมันได้ หนูก็ดีใจแล้ว หนูดีใจนะที่เป็นพี่” นกยิ้มให้ด้วยความจริงใจ

“หนูเชื่อว่าเพื่อนหนูดูคนไม่ผิด รักมันให้มากๆนะพี่ เพราะเพื่อนคนนี้หนูรักมาก”

       นกย้ำมาก เพราะเธอมีหญิงยุเพียงคนเดียวจริงๆ “ขอบใจมากนะนกที่เข้าใจพี่กับหญิงยุ” เมืองรามกลัวนกไม่เข้าใจ

“พี่ขอให้สัญญาว่า จะรักและดูแลหญิงยุให้ดีที่สุด อาจจะมากกว่าที่นกรักด้วยซ้ำไปก็ได้”

       นกกับหญิงยุคืนดีกัน ทำให้เมืองราม ริชาร์ดและพิมพ์ ดีใจเป็นที่สุด เพราะเรื่องร้ายๆจะได้ผ่านไปเสียที

“มาพี่ มาอิ่มท้องกันดีกว่า ในเมื่อทุกคนได้รับข่าวดีกันหมดแล้ว เราก็มาหาความสุขกัน พี่นก หนูขอน้ำจิ้มรสเด็ดอีกสักครั้งจะได้ไหม มันแซ่บมาก วันนี้มากันครบแล้วนี่ หนูขอนะพี่นะ ช่วยแสดงฝีมือให้หนูได้ลิ้มรสสูตรเด็ดของพี่หน่อยอีกสักครั้ง”

“ได้เลยน้องรักของพี่ ก็เรามันเลือดสุพรรณ มาด้วยกัน ไปด้วยกัน” นกกอดคอพิมพ์แล้วเดินเข้าครัวไปพร้อมกันแบบมีความสุข

       จากนั้นทุกคนก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง และลืมเรื่องที่ว่านกจะท้องหรือไม่ไปเลย ทั้งหมดอยู่ที่นี่ต่ออีก 1 คืน 1 วัน เย็นวันอาทิตย์จึงเดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ เรื่องของพิมพ์ ริชาร์ดขอร้องพิมพ์ให้ย้ายไปอยู่กับเขาที่บ้านเพราะพิมพ์เป็นเมียเขาเต็มตัวแล้ว ทีแรกพิมพ์ขัดใจ แต่ทนลูกอ้อนสามีไม่ไหว จึงยอมใจอ่อนย้ายออกจากแฟลตในวันต่อมา

>>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 45 .. “ จันทร์เจ้าขา ”

ตอนที่ 44 .. “ ชีวิตที่เหลืออยู่ ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.