STARCIN ภาคที่ 2 GAMES START ตอนที่ 2 ใกล้เคียง (รีไรท์)

STARCIN อุบัติมหาสงครามสตาร์คิน

-A A +A

STARCIN ภาคที่ 2 GAMES START ตอนที่ 2 ใกล้เคียง (รีไรท์)

25 กรกฎาคม พ.ศ.2575

เมื่อเช้าตรู่ขณะที่แสงอาทิตย์เริ่มส่องสว่างกระทบกับใบหน้าของซึฮากิมันก็ทำให้เขาตื่นทันที ส่วนเซนกลับนั่งหลับเอาหลังพิงประตูกระท่อมไว้ทั้ง ๆ ที่เป็นเวรเฝ้ายาม แม้ซึฮากิจะเผลอเปิดประตูจนเซนล้มหน้าแนบกับพื้นก็ยังสามารถหลับต่อไปได้

เซนเอ๊ย ซึฮากิถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปดูรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีร่องรอยพวกสัตว์ป่าเข้ามาใกล้สักรอย

พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้ที่นี่คิดได้สามกรณีคือ หนึ่งพวกมันกลัวคน สองพวกมันกลัวกระท่อมหรือไม่ก็พวกสิ่งก่อสร้างแปลก ๆ และสามบริเวณนี้ไม่ใช่ถิ่นสำหรับล่าของพวกมัน ซึฮากิตรงไปที่แม่น้ำล้างหน้าและดื่มน้ำดับกระหาย

วิธีที่จะดื่มน้ำสะอาดคงมีแค่เอามาต้มแต่เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรเจือปนมากนักพอจะดื่มได้ อีกอย่างถ้าจะก่อกองไฟปล่อย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีเพราะอาจจะเป็นจุดเด่นให้ผู้คนสังเกตเห็นได้ เขาเดินกลับมาที่กระท่อมที่มีแผงตากเนื้อ

ส่วนพวกอาหารหลังจากเตรียมในส่วนของวันนี้แล้ว ที่เหลือก็ควรตากแห้งเพื่อยืดอายุ พอมาคิด ๆ ดูแล้วพวกวัตถุดิบในการทำอาหารที่ค่ายต่างก็เป็นของที่พึ่งซื้อมาสด ๆ แต่ทำไมถึงไม่ซื้อทีเดียวแล้วเก็บไว้ทั้ง ๆ ที่มีระบบไฟฟ้าระบบการประปาแต่กลับไม่มีตู้เย็นหรืออะไรพวกนั้นเลยหรือยังไง

"เช้าแล้วเหรอยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย" เซนลุกขึ้นยังมึน ๆ เหม่อลอยอย่างกับจะนั่งหลับต่อได้ทุกเมื่อ

"ตื่นแล้วก็ดีเพราะฉันจะออกไปสำรวจดูรอบ ๆ สักหน่อย" เซนไม่ทันได้ตอบกลับซึฮากิก็เดินหายไปเสียแล้ว

"เฮ้ !" เซนตะโกนเรียกซึฮากิแต่ก็ไม่เห็นหัวแล้ว

"โธ่ ให้ตายสิไม่ถามสักคำ" เซนเดินเข้าไปยังกระท่อมยืนมองคานะที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่

"ทำไมถึงยังไม่ตื่นสักทีเนี่ย" เซนย่อตัวลงใช้นิ้วสัมผัสลมหายใจของคานะ แม้เธอจะหายใจปกติดีแต่ก็ไม่มีท่าทีที่จะฟื้นเลย

"เฮ้ ! คานะ ! ตื่นได้แล้ว" เซนจับแขนและไหล่ของเธอเขย่าเบา ๆ ก่อนจะถอดใจถอยหลังกลับออกไป

"แล้วเราจะทำอะไรดีล่ะทีนี้" เซนคิดไปเรื่อยขณะที่เดินไปดื่มน้ำที่แม่น้ำ

"เอาเถอะ ก่อไฟแล้วเอาเนื้อมาย่างกินดีกว่าหิวจะแย่แล้ว"

เมื่อย่างเนื้อกินจนอิ่มพร้อมกับเก็บไว้เผื่อซึฮากิเขาก็ได้แต่เดิน ๆ นั่ง ๆ อยู่หลายชั่วโมงเพื่อรอคอยชายผู้เป็นที่พึ่งคนเดียวของพวกเขา

"หนึ่ง...สอง..." เซนเริ่มวิดพื้นอยู่หน้าประตูกระท่อมด้วยความเบื่อหน่าย

"เก้าสิบเก้า...หนึ่งร้อย..." เอามือดันตัวลุกขึ้นยืนพร้อมด้วยรอยยิ้มอันเบิกบาน

"รอบแรกเรียบร้อย...เอาอีกสักสามรอบละกัน" เซนนั่งพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลงไปวิดพื้นต่ออีกหนึ่งร้อยครั้งขณะที่เหงื่อเริ่มท่วมตัวแต่ก็ไม่มีท่าทีที่จะหมดแรงแต่อย่างใดพร้อมกับตะโกนนับเลขเสียงดังก้องไปในป่า

"รอบที่สอง"

"รอบที่สาม"

"รอบที่สี่"

หลังจากเสร็จชุดสุดท้ายเซนทิ้งตัวลงนอนหงายหน้าหายใจเข้าออกอย่างรุนแรง เมื่อเขาถอดเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่ออย่างกับตากฝนมาเมื่อกี้แล้วก็นอนพักอยู่นานหลายสิบนาทีจนได้ยินเสียงฝีเท้าของใครหรือตัวอะไรสักอย่างเหยียบใบไม้ใบหญ้าใกล้ ๆ

"ใคร !" เซนลุกขึ้นด้วยความตื่นตัวพร้อมทั้งคว้ามีดตั้งท่าพร้อมสู้และกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อหาที่มาของเสียง

เสียงค่อย ๆ เข้ามาใกล้จากด้านขวาที่เป็นป่า เซนหันตัวไปในทางเดียวกัน

"นั่นใคร !"

หลังสิ้นเสียงตะโกนจากเซนอะไรบางอย่างก็ปรากฏออกมา "หา ! แกมันเจ้ากระต่ายเมื่อตอนนั้นนี่ เดี๋ยวก่อนนะมันอยู่ในดันเจี้ยนไม่ใช่เหรอ?" เซนอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อสิ่งที่อยู่ต่อหน้าคือกระต่ายขนสีขาวที่มีปีกเหมือนกับเจ้าปุยที่เคยเจอในดันเจี้ยน

เซนย่องเข้าไปด้วยความระมัดระวัง "เฮ้มาสิมา…" เซนทำเสียงแบบเดียวกับที่ใช้เรียกสัตว์เลี้ยงพร้อมกับเอามือลงต่ำเหมือนกับการขอมือ

มันกระโดดสั้น ๆ เข้ามาทีละนิดขณะที่หันหัวมองซ้ายขวา เมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าเซนมันก้มลงดมมือของเขาอยู่พักหนึ่งก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

"โธ่...ไม่เอาน่า ทีพวกผู้หญิงยังอุ้มแกได้สบาย ๆ เลยนะ" เซนถอนหายใจแล้วนั่งลงตรงนั้นเอามือเท้าคางมองไปที่มัน

มันแหงนหน้าขึ้นจ้องตากับเซนอยู่ครู่หนึ่ง "อะไร ! มองหน้ามีอะไร" เซนเอื้อมมือขวาช้า ๆ วางลงบนหัวของมัน เส้นขนที่สีขาวบริสุทธิ์นุ่มนิ่มอย่างหมอนมีราคา เมื่อสัมผัสไปที่หูมันก็สะดุ้งเล็กน้อยเหมือนจะเป็นจุดที่อ่อนไหวได้ง่าย

"อา..." เซนเคลิบเคลิ้มไปกับการลูบหัวเจ้ากระต่ายจนกระทั่งเอื้อมมือไปอุ้มมันขึ้นมาที่อ้อมอกแล้วใช้แขนประคองตัวของมันไว้เหมือนกับอุ้มลูกตัวน้อย ๆ

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่เซนก็ได้ยินเสียงอีกครั้งจากในป่า เขาโอบกอดเจ้ากระต่ายไว้ด้วยความเป็นห่วง

"นั่นใคร !" เสียงตะโกนส่งเสียงเรียกก่อนที่เจ้ากระต่ายจะกระโดดลงพื้น มันค่อย ๆ เดินตรงไปหาที่มาของเสียงและหยุดอยู่ตรงหน้าห่างออกไปหลายเมตร

เจ้ากระต่ายกางปีกออกตั้งท่าเหมือนจะกระโจนเข้าใส่ เมื่อเห็นพุ่มไม้ด้านหน้าขยับปีกของเจ้ากระต่ายก็มีละอองแสงออกมารอบ ๆ ไม่นานเกินลมหายใจก็มีใครบางคนโผล่ออกมาจากพุ่มไม้

"กิ ! ฉันก็นึกว่าไปตายที่ไหนแล้วซะอีก" เซนเดินเข้าไปหาซึฮากิพร้อมกับก้มลงไปอุ้มเจ้ากระต่ายขึ้นมา

"นั่นปากเหรอ" ซึฮากิลดสายตาลงมองเจ้ากระต่ายในอ้อมอกของเซน

"นายไปเอามันมาจากไหน?" ซึฮากิเดินมาหยุดตรงหน้าก้มตัวลงจ้องเข้าไปในดวงตาของเจ้ากระต่าย ขณะที่มันลดปีกลงกลับไปที่หลังเหมือนเดิม

"เรามีเรื่องต้องคุยกัน" ซึฮากินั่งลงข้าง ๆ

"ว่ามาเลย" เซนค่อย ๆ นั่งลงแต่ก็ยังอุ้มเจ้ากระต่ายไว้ไม่ปล่อยไปไหน

"ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรทางตะวันออกมีดันเจี้ยนอยู่...แต่พอฉันลองเข้าไปสำรวจดูเพียงแค่ไม่กี่ชั้นก็ได้เจอกับมอนสเตอร์ที่ใช้เวทมนตร์ได้แล้ว" มือเซนที่กำลังลูบหัวกระต่ายไปมาก็หยุดนิ่งตั้งใจฟังทุกคำพูดของซึฮากิ

"นายว่ายังไงนะ !" เผลอพูดเสียงดังออกมาเพราะความตกใจ

"ใจเย็นก่อน"

"อย่างที่รู้ ๆ กันว่าพวกมอนสเตอร์ยิ่งระดับสูงก็จะใช้เวทมนตร์ได้มากยิ่งขึ้น...ถ้าอิงจากหนังสือเล่มนั้น พวกมอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนจะได้รับละอองมานาตลอดเวลา ยิ่งอยู่ใกล้กับใจกลางของมานามากเท่าไรพวกมันก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น" เซนใจจดใจจ่อกับซึฮากิขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนกำลังมีเรื่องสงสัยในใจอยู่หลายอย่าง

"เพราะฉะนั้นที่นั่นจะมีความเป็นไปได้สองกรณีคือ หนึ่งใจกลางของมานาอยู่ใกล้ ๆ หมายความว่าที่ดันเจี้ยนนั่นจะมีเพียงไม่กี่ชั้นเท่านั้นและสอง..."

"สองก็คือ..." เซนพูดต่อทันทีที่ซึฮากิเว้นช่วงว่างคิดอะไรบางอย่างอยู่

"สองก็คือใจกลางของมานามีพลังมหาศาลมากพอที่จะทำให้มอนสเตอร์ที่อยู่ไกลออกไปสามารถใช้เวทมนตร์ได้ นายเข้าใจความหมายของมันใช่ไหม?" เซนเหงื่อไหลพรากทำท่าจะถามแต่ก็ไม่กล้า

"ใช่ มอนสเตอร์ที่อยู่ตรงใจกลางมานาจะต้องมีพลังมากพอที่จะทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ก็โชคดีที่มันไม่สามารถออกมาจากดันเจี้ยนได้เหมือนกัน ตามที่หนังสือได้บอกไว้เมื่อมอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนออกมาจากดันเจี้ยน พวกมันจะตายในเวลาไม่นานเพราะสภาพแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่แตกต่างกับภายนอก" ซึฮากิชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เซน

"นายไปเอากระต่ายตัวนี้มาจากไหน?" เซนยิ้มและอุ้มเจ้ากระต่ายให้ซึฮากิ

"อยู่ดี ๆ มันก็โผล่มาเองแถมไม่หนีไปไหนด้วย" เซนยิ้มแก้มปริพยายามจะให้ซึฮากิเห็นถึงความน่ารักของเจ้ากระต่ายและด้วยความคะยั้นคะยอซึฮากิจึงยอมอุ้มมันต่อ

"น่ารักน่าเอ็นดูใช่ไหม ไม่แปลกเลยที่พวกนาริ..." จู่ ๆ เซนก็หยุดชะงักไป รอยยิ้มที่ฉีกกว้างก็หุบลงเหมือนตระหนักได้ถึงบางสิ่ง

"กิ...คิดว่าคานะจะตื่นไหม?" สีหน้าอันโศกเศร้าและเสียงที่เอื่อยเฉื่อยตรงข้ามกับภาพลักษณ์เดิมของเซนผู้ร่าเริงมันทำให้ซึฮากิเข้าใจความรู้สึกได้ทันที

ซึฮากิไม่ตอบอะไรแล้วก็เดินเข้าไปในกระท่อม "เธอน่าจะใช้มานาจนหมด โอกาสรอดที่มีก็คงจะน้อย" เซนเมื่อได้ยินก็ทิ้งตัวลงนอนราบไปกับพื้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

"กิ...ช่วยสอนฉันทีสิ ทำยังไงก็ได้...ขอแค่ให้ฉันเก่งขึ้น" เขาชูมือขึ้นตรงหน้าเมื่อมองผ่านมือข้างนี้ไปก็เห็นท้องฟ้าที่สว่างโล่ง

"ไม่ว่าจะวิธีไหน !" จากนิ้วที่เหยียดออกกลับมากำแน่นจนมือสั่น

"ได้สิ" ขณะที่ซึฮากิเดินเข้าไปในกระท่อมเขาก็หันหน้ากลับมาตอบ "ฉันจะสอนทุกอย่างให้นายเอง" ซึฮากิยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับยื่นมือมาทางเซนเป็นเสมือนการทำสัญญา

เซนที่เห็นก็ดีดตัวลุกขึ้นเดินเข้ามาหาแววตามุ่งมั่นก่อนจะยื่นมือจับตอบรับกันและกัน เมื่อเจ้ากระต่ายเห็นทุกคนเข้าไปในกระท่อมมันก็กระโดดตามหลังไปทันที

"ฉันจะเรียกแกว่าปุยแล้วกันนะเจ้ากระต่าย" เซนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อุ้มปุยขึ้นบนอ้อมอกด้วยความทะนุถนอม

ซึฮากิย่อตัวลงเอาหลังมือแตะที่หน้าผากของคานะและยังเปิดม่านตาดูอีกด้วย ทุกอย่างก็ปกติดีเหลือเพียงแค่ยังไม่ได้สติ หรือจะเป็นอะไรภายใน ซึฮากิยืนขึ้นมองไปตามร่างกายของคานะ

"เราต้องผลัดกันเฝ้าที่นี่" ซึฮากิหันกลับมาหาเซนขณะที่เซนกำลังลูบหัวเจ้าปุยด้วยความเพลิดเพลิน

"ฉันจะไปทำทางไว้ให้ นายจะได้ไปที่ดันเจี้ยนถูก" เมื่อพูดจบเขาก็เดินผ่านตัวเซนออกมาจากกระท่อม

"วิธีที่จะพัฒนาได้ดีก็คือประสบการณ์จริง" และวันนั้นซึฮากิก็หายหัวไปทั้งวันกลับมาเมื่อตกเย็นพอดี

พวกเขาต่างก็ทำอาหารกินกันตามที่เคยแต่มีสมาชิกใหม่คือปุยซึ่งมันนอนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาตลอดและยังกินอาหารร่วมกับพวกเขา

เราต้องรีบเพิ่มเลเวลให้มากพอที่จะเอาตัวรอดได้ เลวาธานมีเลเวลห้ามากกว่าเราแค่สองเลเวลแต่ระดับมันต่างกันเกินไป ถ้าหากเจอกับพวกเลเวลสูง ๆ ในอนาคตอีกคงเป็นเรื่องยากที่จะหนี ซึฮากินั่งเหม่อคิดไปเรื่อยขณะที่อยู่เวรเฝ้ากระท่อม

เมื่อซึฮากิรู้สึกตัวอีกทีปุยก็เข้ามานอนข้าง ๆ เสียแล้วมันส่งสายตาที่ไร้พิษภัยให้จนชายหนุ่มหน้าตายยังต้องอุ้มมันขึ้น

ซึฮากิลูบหัวมันเบา ๆ ดูแล้วปุยก็ชอบอกชอบใจเป็นพิเศษจนเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมง

26 กรกฎาคม พ.ศ.2575

เริ่มวันใหม่ด้วยการมุ่งตรงไปยังดันเจี้ยน ซึฮากิปล่อยให้เซนอยู่เฝ้ากระท่อมก่อนในช่วงเช้าแม้ที่นี่จะดูปลอดภัยก็จริงแต่ก็การ์ดลงไม่ได้เด็ดขาด

"โอ้ ! ว่าไงปุย" ในหลาย ๆ ครั้งปุยมันจะพยายามเรียกความสนใจจากผู้คนไม่ว่าจะกระโดดลงบนท้องตอนหลับ เอาปีกมาสะบัดใส่หน้า บางครั้งก็ส่งเสียงร้องแปลก ๆ ออกมาด้วย

จนเมื่อซึฮากิกลับมาเห็นเซนกับปุยนอนกอดกันสบายใจบนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ ในหนึ่งก็คิดว่าเซนควรตื่นตัวและป้องกันที่นี่ไว้แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่อยากให้เพื่อน ๆ เครียดมากนัก

เซนเหลือบตาขึ้นเห็นซึฮากิเดินผ่านไปจึงรีบลุกขึ้นทันที "กิ ฉันมีเรื่องจะถามสักหน่อย?"

"คานะนอนมาหลายวันแล้วนะ เธอไม่ได้กินพวกอาหารกับน้ำเลย แบบนี้จะเป็นอะไรไหม?" ซึฮากิหยุดชะงักทันทีเหมือนนึกอะไรได้

เวรแล้วไอ้เราก็ลืมเรื่องนี้ไปได้ เราไม่มีพวกเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จะให้สารอาหารกับเธอได้ แบบนี้เธอได้ขาดอาหารกับน้ำตายแน่ ๆซึฮากิคิ้วขมวดเคร่งเครียดเผลอกัดฟันเพราะโกรธที่ตัวเองไม่รอบคอบพอ

เซนตกใจตาโตเมื่อได้เห็นท่าทีของซึฮากิเขาจึงรีบเขย่าตัวเพื่อเรียกสติ "กิ !"

"ทำให้ในกระท่อมเย็นไว้ตลอดจะได้ลดการสูญเสียน้ำ ตอนนี้เรายังยืนยันไม่ได้ว่าเธอเป็นอะไร ดังนั้นฉันจะไปหาวิธี...แล้วจะกลับมาไม่เกินสองวัน แต่ถ้าไม่มีวิธีปลุกจริง ๆ ก็คงต้องฝืนป้อนน้ำและอาหารตรง ๆ เลย" ซึฮากิรีบวิ่งออกไปไม่รอใครทิ้งเซนที่กำลังหน้าเหวอเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาปลุกคานะไม่ได้

นี่เราจะเสียเพื่อนไปอีกแล้วสินะ เซนเดินตรงไปที่แม่น้ำยืนอยู่ริมตลิ่งจ้องมองลงไปในน้ำขณะที่ปุยกระโดดตามหลังมาด้วยความเป็นห่วง

"อา !" ตะโกนแล้วโล่งขึ้นเยอะเลย เซนถอดเสื้อของเขาเอาไปแช่น้ำก่อนจะบิดหมาด ๆ

"ทำให้ตัวเธอเย็นก่อนก็แล้วกัน" เซนใช้เสื้อหมาด ๆ เช็ดไปตามตัวคานะ

"ต้องทำได้สิ เพื่อความอยู่รอด" มือสั่น ๆ ของเซนกำลังปลดกระดุมเสื้อของคานะออก ค่อย ๆ ถอดออกอย่างช้า ๆ เหมือนกลัวเธอจะตื่นจนเหลือเพียงเสื้อชั้นในสีขาวที่ไม่ได้แตะต้อง

เศษดินแล้วก็คราบเลือดเมื่อหลายวันก่อนยังอยู่อยู่เลย แถมยังมีแผลช้ำเต็มตัวด้วย เซนกัดฟันแน่นใช้เสื้อเช็ดคราบเลือดและฝุ่นดินออกและเอาไปซักที่แม่น้ำแล้วก็กลับมาอีกรอบ

ต่อไปก็กางเกง เราต้องเอาออกเพื่อช่วยชีวิตเธอ เซนปลดเข็มขัดและตะขอค่อย ๆ ดึงกางเกงออกมาด้วยความนุ่มนวลแม้เซนจะหลบสายตาไปที่อื่นแต่สุดท้ายก็เผลอเห็นกางเกงชั้นในสีขาวของคานะอยู่ดี

หลังจากถอดเสื้อผ้าและเช็ดตัวจนเสร็จเซนก็ไปที่แม่น้ำใช้หม้อตักน้ำมาสาดบนหลังคา หลังจากนั้นเขาก็หาถ้วยชามทุกอย่างที่พอจะใส่น้ำได้วางไว้รอบ ๆ คานะทั่วทั้งห้องและยังเปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท

ในช่วงกลางคืนเซนต้องเฝ้ายามคนเดียวไม่มีคนผลัดเปลี่ยนเขาจึงต้องฝืนตัวเองไม่หลบไม่นอนนั่งอยู่กับปุยกันแค่สองคน

29 กรกฎาคม พ.ศ.2575

"กิ...ฉันไม่ไหวแล้ว..." เซนที่นั่งสัปหงกเพราะไม่ได้นอนมาถึงสามวันและเพราะซึฮากิไม่ได้เอาอาหารมาให้จึงได้แต่กินเนื้อตากแห้งที่เหลือน้อยนิดพอประทังชีวิต จะออกไปล่าเองก็ไม่ได้ต้องเฝ้าคานะไว้ทำให้เซนมีสภาพทรุดโทรมจนเปลี่ยนเป็นคนละคนแต่ก็ยังคงดูแลคานะไม่เคยหยุดสักชั่วโมงเดียว

เสียงฝีเท้าที่กำลังเข้ามาใกล้ เซนไม่มีท่าทีขัดขืนตื่นตัวอะไรทั้งนั้นไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ได้แม้แต่นิดเดียว ขณะที่ตากำลังจะปิดลงก็ได้เห็นซึฮากิในชุดที่ขาดรุ่งริ่งเต็มไปด้วยแผลเดินตรงเข้ามาแต่ก่อนที่จะทักทายเขาก็หลับไปเสียก่อน

ฉันขอโทษจริง ๆซึฮากิปล่อยให้เซนนอนต่อไปและเดินเข้าไปหาคานะ

เธอยังหายใจอยู่ ชายหนุ่มหัวใจเหนื่อยหอบมองดูรอบ ๆ ที่มีหม้อถ้วยชามพร้อมน้ำวางไว้ทั่วห้อง

ทำได้ดีมากเซน "[ตรวจสอบ]" ไม่นานหน้าต่างสเตตัสของคานะก็โผล่ขึ้นมาให้ซึฮากิเห็น

Lv.3 คานะ อาริโกะ (นิทรา)

STR 132 AGI 123

VIT 140 DEF 45

INT 109 LUK 40

HP 321/321 MP 0/333

สถานะนิทรา ซึฮากิยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง

มานาเป็นศูนย์พอจะรู้สาเหตุแล้วแต่วิธีแก้ล่ะ เขานั่งลงกับพื้นกุมขมับกัดฟันแน่น

คิดสิ คิดสิ คิดสิ

ใครบางคนเอามือแตะไหล่ของซึฮากิเบา ๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้ "ใจเย็น ๆ" เซนนั่งลงข้าง ๆ และจ้องไปที่คานะด้วยความหวัง

"เราทำเท่าที่ทำได้แล้ว" เซนยิ้มหน้าตายมองคานะด้วยสายตาที่ไร้ชีวิตชีวา

เราจะเสียคนไปอีกแล้วเหรอ?"ไม่ !" เป็นครั้งแรกที่ซึฮากิพูดด้วยเสียงที่หนักแน่น ใครก็ตามที่ได้เห็นแววตาของเขาในตอนนี้ต่างก็ต้องขนลุกไม่กล้าแม้แต่จะสบตา

นึกออกแล้ว ในหนังสือนั่นมีวิธีแก้อยู่ก็คือการถ่ายมานา

"วิธีที่เราสามารถถ่ายมานาให้คนอื่นได้ มีสามวิธี หนึ่งดื่มเลือด สองปลูกถ่ายอวัยวะ และสามการมีเพศสัมพันธ์กัน" ซึฮากิหันมามองเซน

"นายเลเวลสามใช่ไหม" เซนพยักหน้าตอบกลับ

"ตัดหนึ่งและสองออกไปได้เลย สิ่งที่เราทำได้ก็คือวิธีที่สามและมันมีข้อจำกัดก็คือต้องมีเลเวลเท่ากันมานาถึงจะส่งให้กันและกันได้" เซนตั้งใจฟังทุกคำพูดจนเกิดความสงสัย

"แล้วทำไมหนึ่งกับสองถึงไม่ได้ล่ะ?" เมื่อเซนถามเช่นนั้นซึฮากิจึงยื่นมือมาจับไหล่เซน

“ถ้าจะให้ดื่มเลือดก็อาจเสี่ยงไหลเข้าไปในปอดได้ ส่วนการปลูกถ่ายอวัยวะก็เป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีเทคโนโลยี…ก็เหลือตัวเลือกที่สามที่ทำได้และปลอดภัยต่อชีวิต”

"นายต้องทำกับเธอ" ซึฮากิเดินผ่านตัวเซนไปยังประตูก่อนจะหันหน้ากลับมาพูดประโยคสุดท้าย

"เสร็จเมื่อไรก็บอกฉันจะเข้ามาตรวจสอบ"

“ดะเดี๋ยว ขอของกินก่อน” โชคดีที่ซึฮากิเก็บซากมอนสเตอร์ติดไม้ติดมือมาด้วยจึงช่วยให้เซนกลับมามีแรงได้นิดหน่อย

เซนยื่นนิ่งไปสักพักหลังจากเสียงปิดประตูเขามองไปยังเรือนร่างของคานะที่เหลือแต่ชุดชั้นใน

"ให้ฉันทำเรื่องแบบนั้นกับเธอเนี่ยนะ ! ใจเย็นก่อนเจ้าเซน" เสียงหายใจเข้าออกถี่ ๆ เพราะต้องทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนและเมื่อทำใจเสร็จเขาก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงข้าง ๆ ตัวคานะ

"เอาก็เอาวะ" เซนใช้มือที่กำลังสั่นระริกปลดเสื้อที่เหลือทั้งหมดออก

"เพื่อตัวเธอเองนะ"

เวลาล่วงเลยไปประมาณห้านาที "กิฉันเสร็จแล้ว" เซนแง้มประตูออกมาด้วยท่าทางเขินอายเมื่อเดินตามเข้าไปเซนและคานะก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

"[ตรวจสอบ]"

Lv.3 คานะ อาริโกะ (นิทรา)

STR 132 AGI 123

VIT 140 DEF 45

INT 109 LUK 40

HP 321/321 MP 5/333

"มานาขึ้นมาห้าหน่วย แต่เธอก็ยังไม่ฟื้น" ซึฮากิจ้องหน้าเซนและคิดอยู่พักหนึ่ง เพียงแค่นั้นเซนก็รู้ว่าเขาจะพูดอะไร

"นายต้องทำอีกจนกว่าเธอจะฟื้น" พูดจบซึฮากิก็เดินออกจากกระท่อมไปปล่อยเซนไว้กับคานะสองคน

"ฉันขอโทษนะ...คานะ"

ช่วงเวลากว่าสี่สิบนาทีที่เซนอยู่ในกระท่อมกับคานะเพื่อช่วยให้เธอฟื้นขึ้นมา ปุยเองก็ดูจะเป็นห่วงพยายามเอาหัวดันประตูเพื่อจะเข้าไปให้ได้แต่ซึฮากิก็จับมันไว้เสียก่อน

"เฮ้ !" เสียงเรียกข้าง ๆ ใบหูทำเอาฟรานที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ตกใจ

"พักนี้เธอดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะ" ซันนี่นั่งลงข้าง ๆ เบื้องหน้าของพวกเธอเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ใสสะอาด มีฝูงนกบินไปมารอบ ๆ คอยจับปลากิน

"ฉันคิดถึงพวกกิจัง" ฟรานนั่งกอดเข่าก้มหน้ามองพื้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าโศกราวกับไม่มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต

"หมอนั่นมันมีดีอะไรถึงไปหลงมันขนาดนั้น" ซันนี่คว้าก้อนหินทรงแบนและออกแรงขว้างมันให้กระเด้งบนผิวน้ำขณะเดียวกับที่มีเสียงฝีเท้าเดินมาด้านหลัง

"ไปกันได้แล้ว อีกไม่กี่วันเราก็จะถึงเมืองหลวงแล้วเราต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะไม่รู้ว่าจะได้ฝึกแบบไหนอีก" ชาญและซากิเดินมาด้วยกันพร้อมกับซากนกแบบเดียวกับที่เห็นบินอยู่ตรงหน้า

ฟรานลุกขึ้นยืนแต่เผลอเหยียบก้อนหินจนขาพลิกเสียหลักเพราะเอาแต่เหม่อและช่วงวินาทีที่กำลังจะล้มซากิก็เข้ามาคว้าตัวเธอไว้เสียก่อน

"ไม่เป็นไรนะ" ซากิส่งสายตาอ่อนโยนให้ฟรานไม่ว่าใครก็รู้สึกหวั่นไหวเมื่อเห็น

"อืม...ขอบใจ" ฟรานตั้งหลักยืนได้อีกครั้งไม่ได้เป็นอะไรมากและเดินผ่านพวกชาญไปโดยไม่รอพวกเขา

"ฉันขอนั่งข้าง ๆ ฟรานนะ" ก่อนที่พวกซากิจะกลับมาถึงรถม้าพวกเขาก็ได้คุยนัดแนะเป็นที่เรียบร้อย

"รออะไรอยู่เหรอ?" ซันนี่ตะโกนถามก่อนที่จะวิ่งพรวดเข้าหาฟราน

"ฉันอยากเดินยืดเส้นยืดสายสักหน่อย" ฟรานเดินตีคู่ไปกับรถม้าขณะที่ผู้คุมจ้องมองเธอตลอดเวลากลัวจะหนี แม้ทุกคนจะเดินขึ้นรถกันหมดแล้วแต่ซากิก็ดันทุรังเดินตามฟรานไปด้วย

"ฉันเดินเป็นเพื่อนนะ" ซากิมองตาฟรานและยิ้มหวานให้

"ได้สิ" ฟรานยิ้มกลับอย่างเป็นมิตร

สายลมพัดผ่านกายหยาบที่เป็นเพียงเครื่องมือทำสงครามไม่ว่าจะฟราน ซากิหรือคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในค่าย

พวกเขาต่างก็ไร้ซึ่งอิสระในการใช้ชีวิตไม่เหมือนดั่งภาพที่วาดฝันอนาคตไว้เมื่อตอนอยู่โลกเดิมของพวกเขา

เสียงกรีดร้องดังจากในกระท่อมทำให้ซึฮากิเปิดประตูเข้าไปดูทันทีจึงได้เห็นสภาพเปลือยของทั้งสองคน

"นายมันทุเรศที่สุด !" คานะตะโกนด่าด้วยเสียงที่แหบแห้งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาใช้เสื้อผ้าที่อยู่ใกล้มือปกปิดส่วนสำคัญไว้

"ฉันทำเพื่อเธอนะ ฟังฉันก่อนสิ" เซนถอยห่างออกมาเพราะคานะเริ่มหยิบของที่อยู่ใกล้ ๆ ขว้างใส่และยังร้องสะอื้นไม่หยุด

"ใจเย็นก่อนคานะ" ซึฮากิเอาตัวเข้าบังเซนค่อย ๆ เข้าใกล้คานะเพื่ออธิบายเหตุผล

"นายออกไปข้างนอกก่อน" เซนหยิบกางเกงใกล้ ๆ และรีบวิ่งออกจากกระท่อมไปทันทีขณะเดียวกับที่คานะเลิกตะโกนเสียงดังกลับมานั่งร้องไห้เงียบ ๆ

"[ตรวจสอบ]"

Lv.3 คานะ อาริโกะ

STR 132 AGI 123

VIT 140 DEF 45

INT 109 LUK 40

HP 321/321 MP 50/333

สถานะนิทราหายไปแล้ว

"ใส่เสื้อผ้าก่อนแล้วตามฉันออกมา" ซึฮากิหันหลังเดินออกมาปล่อยให้เธอสงบจิตสงบใจเสียก่อน

ไม่นานนักเธอก็ตามออกมาพร้อมกับใบหน้าทรุดโทรมเพราะนอนหลับมาหลายวันอีกทั้งยังตาแดงเพราะร้องไห้หนัก เซนที่รู้สึกผิดแอบอยู่หลังต้นไม้ไกล ๆ และคอยเฝ้าสังเกตแทน

"เธอต้องดื่มน้ำเดี๋ยวนี้" คานะรับถ้วยน้ำจากมือซึฮากิไปด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว

"ดื่มเข้าไปเยอะ ๆ เลย ร่างกายเธอขาดน้ำมาเกือบสัปดาห์แล้ว" ผิวกายของเธอดูแห้งเหือดซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันจำได้ว่าเราอยู่ที่เมืองนี่" คานะยังคงมองค้อนไม่สบอารมณ์

"เธอหมดสติไปก่อนที่เราจะหนีออกมาด้วยซ้ำ ตอนแรกคิดว่าแค่เหนื่อยแต่ผ่านไปหลายวันเธอก็ยังไม่ตื่นสักที" คานะจดจ่อกับคำพูดของเขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว

"แล้วทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ หรือพวกนายฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่รู้สึกตัว...ทำเรื่องแบบนั้นตลอด" คานะมองค้อนใส่อารมณ์วางถ้วยน้ำเสียงดัง

"มานาเธอเป็นศูนย์และอยู่ในสถานะนิทรา วิธีที่ช่วยได้ก็คือการถ่ายมานาแต่วิธีอื่นดันยุ่งยากเกินไปแถมยังเสี่ยงอันตรายอีกด้วย...ก็เลยต้องใช้วิธีนี้แหละ" คานะถอนหายใจพยายามทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น

"เพราะเป็นนายพูดฉันจะเชื่อ แล้วมีที่ไหนอาบน้ำได้บ้างฉันต้องล้างเนื้อล้างตัวก่อน"

"มีแค่แม่น้ำตรงนั้น" ซึฮากิชี้ไปทางแม่น้ำก่อนจะกวักมือเรียกเซนมา

"ฉันพร้อมรับโทษ จัดมาได้เลย" เซนก้มลงเอาหัวทิ่มพื้นต่อหน้าคานะ

"นาย...นายต้องดูแลฉัน ถ้าเกิดฉันท้องขึ้นมานายก็ต้องรับผิดชอบ" คานะฉีกยิ้มอ่อนย่อตัวลงกระซิบใกล้ ๆ

"ได้เลย !" เซนตะโกนออกมาด้วยท่าทางที่ดีใจที่คานะไม่โกรธมากนัก

"ทีนี้พวกนายก็ไปไกล ๆ ได้แล้ว คนเขาจะอาบน้ำ" คานะเดินตรงไปที่แม่น้ำ ส่วนเซนและซึฮากิก็ช่วยกันทำอาหารอีกมุมหนึ่งของกระท่อมเพื่อให้เธอสบาย

โชคดีที่รอดมาได้ อย่างน้อยก็ยังมีเราสามคนคุ้มกับที่รีบเพิ่มเลเวลจริง ๆ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.