บทที่ 63 กลืนกินวิญญาณ
บทที่ 63 กลืนกินวิญญาณ
หลังจากที่กลืนกินวิญญาณของผู้ใช้ศาสตราเพลิงเข้าไป เปลวไฟสีม่วงดำก็ลุกโชนขึ้นรอบกายของเอลิน่า นางเงยหน้าขึ้นสูดดมกลิ่นอายแห่งความกลัวที่ยังหลงเหลืออยู่ในอากาศ นัยน์ตาสีดำสนิทกวาดมองไปรอบทิศทางราวกับสัตว์นักล่าที่กำลังค้นหาเหยื่อรายต่อไป
“ยังไม่พอ... ข้ายังต้องการอีก...”
นางยื่นมือออกไปในอากาศ ใช้พลังจิตวิญญาณควานหาตำแหน่งของ "ชิ้นส่วน" ที่เหลือ
ไกลออกไปในป่าลึก หญิงสาวผู้ใช้ศาสตราโลหิต ที่กำลังบาดเจ็บจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ และ ชายหนุ่มในชุดม่วงผู้ใช้ศาสตราปีศาจ ที่กำลังหลบซ่อนตัว ต่างก็สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาลที่มองไม่เห็น
“จงกลับมาหาข้า!”
เอลิน่ากำมือแน่น มิติเบื้องหน้าบิดเบี้ยวเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ โซ่ตรวนวิญญาณนับร้อยเส้นพุ่งทะลุความว่างเปล่าออกไป ลากเอาร่างของหญิงสาวผู้ใช้ศาสตราโลหิตและปีศาจปีกม่วงกลับมาที่ห้องโถงปราสาทในพริบตา!
“ปล่อยข้านะ! นี่มันบ้าอะไรกัน!” ผู้ใช้ศาสตราโลหิตกรีดร้อง นางพยายามจะสลายร่างเป็นหมอกโลหิตเพื่อหลบหนี
แต่เอลิน่าเพียงแค่กระดิกนิ้ว หมอกโลหิตเหล่านั้นก็ถูกตรึงไว้ด้วยพลังจิตที่เหนือกว่า
“โลหิตของเจ้า... รสชาติดีใช่ไหม?” เอลิน่าแสยะยิ้ม ก่อนจะอ้าปากกว้างสูดลมหายใจเฮือกใหญ่
วูบ!
ร่างของผู้ใช้ศาสตราโลหิตถูกบีบอัดจนกลายเป็นก้อนพลังงานสีแดงฉาน แล้วถูกดูดเข้าไปในปากของเอลิน่าทันที!
ถัดมาคิอเจ้าปีศาจปีกม่วง มันพยายามจะใช้กรงเล็บฉีกโซ่ตรวน แต่เอลิน่ากลับเดินเข้าไปหามันอย่างใจเย็น นางวางมือลงบนหัวของมัน แล้วใช้เล็บจิกทะลุกะโหลกเพื่อดึง "แก่นวิญญาณแห่งมิติ" ออกมา
“มิติของเจ้า... จะเป็นประตูให้ข้าไปได้ทุกที่”
นางกระชากวิญญาณสีม่วงเข้มออกมาแล้วกลืนกินมันลงไปตามกัน
ทันทีที่กลืนกินทั้งสองเข้าไป ร่างกายของเอลิน่าก็สั่นสะท้าน ผิวหนังปรากฏลวดลายสีแดงของโลหิตและสีม่วงของมิติผสมผสานกัน
บัดนี้ นางสามารถควบคุม เวทมนตร์โลหิต เพื่อฟื้นฟูร่างกายและโจมตี และใช้ เวทมนตร์มิติ เพื่อเคลื่อนย้ายและกักขังศัตรูได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อได้พลังแห่งมิติมาครอง เอลิน่าไม่รอช้า นางกรีดอากาศเบื้องหน้าสร้าง "ประตูมิติ" ขึ้นมา แล้วก้าวข้ามระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ไปโผล่ยังใจกลางค่ายทัพหลวงของ ราชาแห่งแดนใต้ ที่กำลังยกทัพมาสมทบ
ราชาแห่งแดนใต้นั่งอยู่บนบัลลังก์ในกระโจมทองคำ ทันทีที่เห็นหญิงสาวปริศนาโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า เขาถึงกับตกตะลึง
“เจ้าเป็นใคร! ทหาร! จับมัน!”
“จุ๊ ๆ... อย่าเสียงดังไปสิเพคะ ฝ่าบาท”
เอลิน่าเพียงแค่สะบัดมือ โลหิตในร่างของทหารองครักษ์นับสิบคนก็เดือดพล่านและระเบิดออกเป็นละอองเลือดตายคาที่ทันที
นางเดินนวยนาดเข้าไปหาราชาแห่งแดนใต้ที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนบัลลังก์
“ท่านเองสินะ... ที่ส่งพวกผู้กล้ามาตายเพื่อผลประโยชน์” นางเชยคางราชาผู้ชราภาพขึ้น “วิญญาณของท่านคงจะสกปรกน่าดู... แต่ก็เอาเถอะ ข้าไม่ถือ”
ฉึก!
นางฝังมือลงไปกลางอกของราชาแห่งแดนใต้ กระชากวิญญาณออกมาและกลืนกินอย่างรวดเร็ว ร่างไร้วิญญาณของราชานั่งคอพับอยู่บนบัลลังก์ แต่เพียงครู่เดียว... เอลิน่าก็เป่าลมหายใจสีดำใส่ร่างนั้น
ร่างของราชาแห่งแดนใต้กระตุกเกร็ง นัยน์ตาที่เคยไร้แววกลับมาลืมตาโพลง แต่เป็นดวงตาสีดำสนิทเช่นเดียวกับทาสคนอื่น ๆ
เอลิน่าเปิดประตูมิติอีกครั้ง เรียกเอาศพของ ราชาแมกนัส (ราชาแห่งแดนเหนือ) ออกมายืนคู่กัน
“ราชาแห่งแดนเหนือ... และราชาแห่งแดนใต้...” เอลิน่ามองดูหุ่นเชิดทั้งสองด้วยความพึงพอใจ
“พวกเจ้าจงกลับไปปกครองเมืองของตน บอกประชาชนว่าสงครามจบลงแล้ว... ให้พวกมันอยู่อย่างสงบ กินให้อิ่ม นอนให้หลับ...”
นางแสยะยิ้มอำมหิต
“ขุนพวกมันให้อ้วนพี... รอวันที่ข้าจะไปเก็บเกี่ยวเป็นอาหาร”
นางสำรวจดูศาสตราประจำกายของราชาทั้งสอง ทั้งคทาเหมันต์และดาบประจำตระกูล ยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน
“ดีมาก... ศาสตราไม่เสียหาย ทาสรับใช้ก็พร้อม... ทีนี้ก็เหลือแค่กวาดขยะที่เหลือ”
เอลิน่าวาร์ปไปยังสนามรบอีกด้านหนึ่ง ที่ซึ่งเหล่า "ผู้กล้าจากต่างโลก" คนอื่น ๆ (เพื่อนร่วมห้องของเอเรนและอาเธอร์ที่ถูกอัญเชิญมา) กำลังต่อสู้กับกองทัพปีศาจอยู่
“พวกเราต้องชนะ! เพื่อที่จะได้กลับบ้าน!” หนึ่งในผู้กล้าตะโกนปลุกใจ โดยมี เจ้าหญิง ของอาณาจักรพันธมิตรคอยร่ายเวทสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
แต่แล้ว ท้องฟ้าก็มืดครึ้มลง ร่างของเอลิน่าลอยลงมาจากฟากฟ้าราวกับเทพธิดาแห่งความตาย
“อยากกลับบ้านงั้นรึ? ...ข้าจะสงเคราะห์ให้”
“อาณาเขตโลหิต!”
สิ้นเสียงของนาง เลือดของศพทหารที่เกลื่อนกราดในสนามรบก็ลอยขึ้นมาและกลายเป็นเข็มโลหิตนับหมื่นเล่ม พุ่งเข้าใส่กลุ่มผู้กล้าและเจ้าหญิงอย่างรวดเร็วราวกับห่าฝน
“กรี๊ดดดดด!”
เสียงกรีดร้องดังระงม เจ้าหญิงผู้เลอโฉมถูกเข็มโลหิตแทงพรุนจนร่างแหลกเหลวในพริบตา เหล่าผู้กล้าคนอื่น ๆ พยายามใช้สกิลป้องกัน แต่พลังของเอลิน่าในตอนนี้อยู่เหนือขอบเขตที่พวกเขาจะต้านทานได้
ผู้ใช้โล่ถูกฉีกกระชากแขนขาด ผู้ใช้นักเวทถูกบิดคอด้วยพลังจิต ผู้ใช้หอกถูกโซ่มิติรัดจนตัวขาดครึ่งท่อน
ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที... สนามรบที่เคยเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้อง บัดนี้เหลือเพียงความเงียบงันและซากศพ
เอลิน่าเดินเหยียบย่ำไปบนกองซากศพของเหล่าผู้กล้า นางก้มลงมองใบหน้าของเจ้าหญิงที่สิ้นใจตายด้วยดวงตาเบิกโพลง
“น่าสมเพช... พวกเจ้ามันก็แค่อาหารว่าง”
นางเงยหน้ามองไปทางทิศเหนือ ทิศที่เอเรนหนีไป
“หมดเสี้ยนหนามแล้ว... เหลือแค่เจ้ากลุ่มเดียวแล้วนะ... เอเรน”
“เตรียมตัวให้ดีล่ะ... ข้าจะไปรับส่วนที่เหลือของข้าคืน!”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 5
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น