บทที่ 102: ผู้สืบทอดมรดกไททัน
15 นาทีต่อมา ในที่สุดการตัดสินใจของนายพลเฝิงก็ได้รับการอนุมัติจากทุกคน
แต่ขณะที่เหล่าทหารชั้นผู้ใหญ่ตกลงที่จะให้ปฏิบัติการที่เมืองหย่งเย่ดำเนินต่อไป พวกเขาก็ได้เพิ่มเงื่อนไขเข้ามาอีก 1 ข้อ
นั่นก็คือ เฝิงเจิ้งกั๋วจะต้องนำผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS 5 คนติดตามไปคอยคุ้มกันหลี่หวงเหยียนกับฉู่อวี้ด้วย
หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น พวกเขาจะต้องยุติปฏิบัติการทันทีและภารกิจหลักก็คือการปกป้องฉู่อวี้ ผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์!
…
หลังการประชุมเสร็จสิ้น เฝิงเจิ้งกั๋วก็ยิ้มกว้างจับมือกับทุกคนและพูดคุยถึงสถานการณ์ในสนามรบปัจจุบัน
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว เขาก็ค่อย ๆ เดินกลับห้องของตัวเอง
พอเขาปิดประตูสนิท รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันทีและแทนที่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ไอ้แก่พวกนั้นจัดการยากจริง ๆ” เฝิงเจิ้งกั๋วเดินมานั่งลงที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะมองปฏิทินบนโต๊ะแล้วอดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเยาะเย้ย “เหอะ โชคดีที่แผนการไม่มีอะไรผิดพลาด”
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่หวงเหยียนถึงได้เผลอปล่อยข่าวแผนปฏิบัติการที่เมืองหย่งเย่ให้รั่วไหลออกไปได้ง่าย ๆ
ถ้าเขาไม่พยายามโต้แย้ง แผนการนี้คงจะถูกคนอื่นยกเลิกไปแล้ว
โชคดีที่ไหนที่สุดเขาก็สามารถผลักดันให้แผนการบุกเมืองหย่งเย่นี้ดำเนินต่อไปจนสำเร็จ
สิ่งเดียวที่เขาจะต้องแลกมาก็คือการต้องพาผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS 5 คนร่วมเดินทางไปกับพวกหลี่หวงเหยียนด้วย
“เจ้าหน้าที่ระดับสูงพวกนี้โง่เง่าสิ้นดี” รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏที่ใบหน้าซูบผอมของเฝิงเจิ้งกั๋ว “ฉันแฝงตัวอยู่ในกองทัพมาตั้งนานแต่ไม่มีใครสงสัยฉันเลย… นี่ยังคิดจะให้ฉันไปปกป้องพวกมันอีกงั้นเหรอ? ฮ่า ๆๆๆ โง่ชะมัด!!”
“พอต้องมาอยู่กับคนโง่พวกนี้ทุกวัน ฉันอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงดูสักครั้ง ขอบคุณพระเจ้า ยุคสมัยของมนุษย์ใกล้จะจบลงแล้ว” นายพลเฝิงเอื้อมมือไปหยิบขวดไวน์มาจากลิ้นชักตู้ มันเป็นขวดไวน์เก่าแก่ที่ผลิตในฝรั่งเศส
หลังจากการรุกรานของเผ่าไททัน สินค้าต่างชาติชิ้นนี้ก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นสินค้าหายากไปเสียแล้ว
แต่เฝิงเจิ้งกั๋วยังคงเปิดฝาขวดอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะกระดกไวน์ในขวดเข้าปากทันที
ในไม่ช้ากลิ่นหอมเข้มข้นของแอลกอฮอล์ก็อบอวลไปทั่วห้อง
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางปกป้องหลี่หวงเหยียนกับฉู่อวี้อย่างแน่นอน
ที่จริงแล้วเหตุผลที่เขาผลักดันปฏิบัติการนี้ก็เพื่อให้ 2 คนนั้นต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของไททัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กสาวที่ชื่อฉู่อวี้!
ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพและเป็นสายลับของเผ่าไททัน เขาย่อมรู้ดีว่าผู้สืบทอดที่มีความเข้ากันได้ถึง 95% นั้นหมายความว่าอย่างไร
ถ้าหากปล่อยให้เธอได้มีโอกาสพัฒนาความแข็งแกร่งจนเต็มที่ เธอจะกลายเป็นหายนะสำหรับเผ่าไททัน
ในทำนองเดียวกัน มีเพียงข้อมูลที่เขามอบให้เท่านั้นถึงจะช่วยให้ไททันสามารถกำจัดผู้สืบทอดมรดกที่ชื่อว่า ‘ฉู่อวี้’ ได้
แบบนี้มันก็นับว่าเขามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยเหลือเผ่าไททัน!
“ถ้าแกอยากจะโทษใครก็โทษที่ตัวเองโชคร้ายเถอะ” เฝิงเจิ้งกั๋วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “ฉันจะใช้ชีวิตของแกเป็นผลงานของฉัน!”
…
วันต่อมา
ตอนนี้แผนปฏิบัติการเมืองหย่งเย่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
หลี่หวงเหยียนขยับมายืนอยู่ข้างฉู่อวี้และกระซิบถามเบา ๆ ว่า “กลัวหรือเปล่า? ถ้าเธอไปถึงเมืองหย่งเย่ เธอจะต้องเผชิญหน้ากับไททันมหันตภัยเชียวนะ”
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เด็กสาวส่ายหัวช้า ๆ แล้วตอบว่า “ไม่กลัวค่ะ”
“ทำไมล่ะ?” ชายผมแดงถาม
“เพราะว่าไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ” ฉู่อวี้ยังคงตอบกลับด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน “ในสงครามครั้งนี้ไม่พวกเราก็ไททันที่ต้องย่อยยับไปข้างหนึ่ง เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ แล้วฉันก็ตัดสินใจแล้วด้วยค่ะ”
หลังจากที่หลี่หวงเหยียนได้ยินคำพูดของเด็กสาว ดวงตาของเขาก็มีประกายฉงน
เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากเด็กผู้หญิงในวัยไม่ถึง 20 ปี
จากนั้นเขาก็ถามอีกครั้งว่า “แล้วทำไมเธอถึงไม่เลือกมาแนวหน้าล่ะ ฉันตรวจสอบประวัติของเธอแล้ว เธอเป็นผู้มีพลังประเภทสนับสนุน ฉันว่าเธอน่าจะอยู่ในหน่วยโลจิสติกส์ได้สบาย ๆ เลย”
ฉู่อวี้เหม่อมองไปที่ไกล ๆ แล้วกระซิบว่า “เพื่อคนคนหนึ่งค่ะ”
“เพื่อคนคนหนึ่ง… ที่ฉันอยากใช้ชีวิตนี้ปกป้อง ฉันเคยบอกเขาไปแล้วว่าคราวนี้เป็นตาของฉันที่จะปกป้องเขาบ้าง แต่ฉันไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเกินกว่าที่ฉันคิดเสียอีก”
“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็เข้าใจว่า… ฉันไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะไปปกป้องเขาได้ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ก็คือพยายามพัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อแบ่งเบาภาระที่หนักอึ้งบนบ่าของเขาค่ะ”
“ถ้าเป็นไปได้ สักวันหนึ่ง… ฉันก็อยากจะร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาสักครั้ง”
เมื่อหลี่หวงเหยียนได้ยินคำตอบของฉู่อวี้ เขาก็กลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ “ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคนที่เธอพูดถึงเป็นใคร แต่เธออย่าได้ดูถูกตัวเองนัก เธอก็รู้นี่ว่าตัวเองคือผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์ ตัวเธอเองก็มีพรสวรรค์ไม่แพ้กัน”
“ก่อนหน้าเธอมีแค่ 3 คนเท่านั้นที่มีความเข้ากันได้เกิน 90% และนอกจากเธอแล้วก็มีเพียงคนเดียวที่เปอร์เซ็นต์ความเข้ากันได้เกิน 95% แบบนี้แค่เธอขยันมากกว่าเดิมสักหน่อย ไม่ว่ายังไงความพยายามของเธอไม่มีทางสูญเปล่าแน่นอน สักวันหนึ่งเธอจะต้องปกป้องคนที่เธออยากปกป้องได้แน่”
ขณะนี้ภาพของหลินหยวนปรากฏขึ้นในหัวของฉู่อวี้
ไม่… ไม่ใช่ว่าเธอดูถูกตัวเอง
เธอรู้ดีว่ามรดกของไททันทั้ง 8 นั้นคืออะไร
เธอยังรู้ด้วยว่าระดับความเข้ากันได้ 95% นั้นหายากแค่ไหน
แต่พรสวรรค์และความแข็งแกร่งของหลินหยวนจะด้อยกว่าเธอได้อย่างไรกัน?
ในสายตาของฉู่อวี้ ผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนหมาป่าเดียวดายที่นำหน้าเธอ 1 ก้าวเสมอ
และสิ่งที่เธอทำได้ก็คือจ้องมองแผ่นหลังของเขาที่ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
จากนั้นเด็กสาวก็เปลี่ยนเรื่องพูด “ว่าแต่นอกจากฉันแล้ว มีใครที่มีความเข้ากันได้เกิน 95% อีกเหรอคะ?”
หลี่หวงเหยียนพยักหน้าตอบว่า “หมอนั่นเองก็เป็นตำนานเหมือนกัน เขาสืบทอดมรดกของไททันเซราฟ รู้ไหมว่าถ้าผู้สืบทอดเติบโตเต็มที่ เขาก็ได้กลายเป็นนักฆ่าในสนามรบ อีกอย่าง… ค่าความเข้ากันได้ของหมอนั่นสูงถึง 98% เชียวล่ะ”
หลังจากได้ยินตัวเลขนี้ฉู่อวี้ก็หรี่ตาลง
ความเข้ากันได้ 98%?!
เป็นไปได้ยังไง?!
ค่าความเข้ากันได้ของเธอเพียงแค่ 95% เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อค่าความเข้ากันได้มี 90% ขึ้นไป ความแตกต่างแม้เพียง 1% กลับมีความหมายต่างกันมหาศาล
นอกจากนี้มรดกของไททันศักดิ์สิทธิ์มีแนวโน้มว่าจะเป็นพลังสนับสนุนเสียมากกว่า ทั้งการรักษา พรคุ้มครอง และลบล้างคำสาป
แต่มรดกของไททันเซราฟกลับเน้นด้านการสังหาร
เพราะถึงอย่างไรเซราฟก็มีอีกชื่อหนึ่งที่ถูกเรียกขานมากกว่าชื่อจริงของเขา นั่นก็คือเทพสงคราม!
พอฉู่อวี้คิดถึงเรื่องนี้ เธอก็เอ่ยถามว่า “แล้วตอนนี้ผู้สืบทอดคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
“เขาหายตัวไป” หลี่หวงเหยียนตอบเสียงเรียบ “หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ เขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน เพราะตอนที่กำลังเสริมของเราไปถึง พวกเขาหาศพของหมอนั่นไม่พบ ดังนั้นทางกองทัพจึงสรุปได้ว่าเขาอาจจะหลบหนีไป หรือไม่ก็เลือกเข้าร่วมกับฝ่ายไททัน”
“อีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ เขาต่อสู้ฝ่าวงล้อมของไททันออกไป แต่ไม่อยากต่อสู้เพื่อประเทศแล้ว เขาก็เลยหลบหนีเร้นกายจากกองทัพ”
“เขาไม่เหมือนเธอ เธอเพิ่งได้สืบทอดมรดกและยังไม่ได้มีพลังเต็มที่ แต่ผู้สืบทอดของไททันเซราฟนั้นเติบโตจนถึงขีดสุดแล้ว ตอนนั้นเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งให้กองทัพเห็น เขาเคยต่อสู้กับผู้มีพลังแรงก์ SSS พร้อมกันถึง 4 คน”
“ผลสุดท้ายพวกผู้มีพลังแรงก์ SSS ทั้ง 4 ที่กองทัพส่งมาก็พ่ายแพ้ย่อยยับ ส่วนเขาได้รับบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น อีกอย่างเขายังสามารถฆ่าไททัน 50 ตัวในคราวเดียวได้”
“เพราะเหตุนี้เอง หมอนั่นเลยเป็นหนามยอกอกของเผ่าไททันมาโดยตลอด ขอเพียงแค่เขาลงสนามรบนั้น ไททันทุกตัวก็พร้อมที่จะเข้ามาล้อมกำจัดเขา ต้องบอกว่าตอนนั้นพวกไททันอยากจะทำลายเขาให้สิ้นซาก”
“ถ้าหากเขาได้ลงในสนามรบแล้ว แม้แต่แม่ทัพมังกรอย่างหลินเทียนเชวี่ยก็ยังต้องหลบเลี่ยงคมดาบของเขา”
ฉู่อวี้เม้มปากและมองคนที่กำลังเล่าเรื่องนี้ด้วยสายตาเหลือเชื่อ
เธอไม่คาดคิดว่าในบรรดาผู้สืบทอดจะมีคนแบบนี้อยู่ด้วย เขามีพลังที่น่ากลัวมากทีเดียว
เด็กสาวถามขึ้นอีกครั้งว่า “ในเมื่อผู้สืบทอดคนนี้ทรงพลังมาก ทำไมเขาถึงถูกไททันฆ่าตายด้วยล่ะคะ?”
“ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเขาตายไปแล้ว” หลี่หวงเหยียนตอบยิ้ม ๆ “เป็นเพราะเขาแข็งแกร่งมากจนทุกคนคิดว่าเขาหายตัวไป เพราะถึงยังไงมันก็ไม่มีไททันตัวไหนที่สามารถกำจัดเขาจนไม่เหลือซากแบบนั้นได้”
“จริง ๆ แล้วฉันก็เคยเห็นการต่อสู้ในครั้งนั้นกับตาตัวเอง ตอนนั้นฉันเพิ่งเข้าร่วมกองทัพ เป็นทหารใหม่เอี่ยมเลย แต่บังเอิญได้เข้าร่วมการต่อสู้ ฉันเลยรู้รายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้”
*******************************************
SkySaffron: ถ้าผู้สืบทอดที่เทพขนาดนี้อยู่ฝั่งศัตรูนะ งานช้างแน่ ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 102
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น