บทที่ 62: ละทิ้งความเป็นมนุษย์

โม่จิ่วโหยวได้แสดงด้านที่โหดเหี้ยมออกมาอย่างเต็มที่ คราวนี้กลุ่มผู้ร่วมเดินทางต่างพากันเงียบสนิท แม้แต่การหายใจก็ยังไม่มีใครกล้าหายใจแรงเลยสักนิด

ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ หลินหยวนยืนเฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยสายตาเย็นชา

เขาไม่คาดคิดเลยว่าชายชุดดำที่เขาลอบสังเกตอยู่นั้นจะเป็นคนของลัทธิบูชาไททัน!

คราวนี้เขาไม่แปลกใจแล้วว่าในตอนที่เขานำแกนสมองไททันออกมาแลกเปลี่ยนเป็นค่าตั๋วเดินทาง ทำไมอีกฝ่ายถึงมองเขาด้วยสายตาเกลียดชังแบบนั้น

เป็นที่ทราบกันดีว่าพวกลัทธิบูชาไททันนั้นถึงขั้นมองว่าพวกไททันเป็นดั่งเทพเจ้าที่พวกมันเคารพบูชา

การกระทำของหลินหยวนที่นำแกนสมองของไททันระดับสูงมาจ่ายแทนค่าตั๋วมันเป็นการดูหมิ่นเทพเจ้าของโม่จิ่วโหยวอย่างไม่ต้องสงสัย

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้ยังเป็นอาชญากรระดับ S ที่ทางการต้องการตัวอีก

การที่กองทัพจัดให้เขาเป็นอาชญากรระดับ S ได้พิสูจน์ให้เห็นว่านอกจากเขาจะมีพลังมหาศาลแล้ว เขายังเป็นผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงอีกด้วย

อันที่จริงหลินหยวนจะช่วยบอดี้การ์ด 2 คนนั้นก็ได้ แต่เขากลับไม่เลือกที่จะลงมือ เพราะผู้มีพลังพิเศษแรงก์ A ทั้ง 2 คนที่ตายไปไม่ใช่คนดีอะไร

ถึงพวกเขาจะไม่ใช่ผู้ศรัทธาของลัทธิบูชาไททัน แต่พวกเขาก็ยังเป็นคนร้ายที่หลบหนีการจับกุม

เมื่อเทียบกับการช่วยชีวิตอาชญากร เด็กหนุ่มอยากรู้ว่าโม่จิ่วโหยวคิดจะทำอะไรมากกว่า

จากนั้นมัจจุราชหน้าหยกก็พูดขึ้นอีกว่า “ดูเหมือนว่าพวกแกยังอยากจะต่อต้านการเข้าร่วมลัทธิไททันอยู่มาก แต่น่าเสียดาย เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความยินยอมพร้อมใจของพวกแกอีกต่อไปแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ฉันได้ใส่ยาพิเศษลงไปในไวน์ที่ทุกคนดื่มไปเมื่อกี้ แถมยานั้นยังมีสรรพคุณที่สามารถเปลี่ยนร่างกายของพวกแกได้ด้วย”

“มันจะช่วยเปลี่ยนพวกแก… ให้เป็นไททัน!”

หลังจากโม่จิ่วโหยวพูดจบ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง “พวกแกควรจะขอบคุณฉันนะ ฉันนี่แหละจะช่วยให้พวกแกที่เป็นไอ้ขยะไร้ประโยชน์แปลงร่างได้สำเร็จ”

“ฉันคนนี้แหละ… ที่จะทำให้พวกแกได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่าเดิม!”

ทันทีที่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ยินคำพูดของโม่จิ่วโหยว สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวสุดขีด

“เวรเอ๊ย… ทำไมแกถึงทำแบบนี้!”

“ฉันไม่อยากเป็นไททัน ฉันไม่อยากเป็นไททัน!!”

“แกมันบ้า บ้าไปแล้ว!!”

แม้แต่หลินหยวนที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ยาที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นไททันงั้นเหรอ?

ในมือของลัทธิไททันมีของแบบนี้อยู่ด้วย? 

แล้วตอนนี้เขาก็มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าโม่จิ่วโหยวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจะต้องเป็นสาวกลัทธิบูชาไททันที่ศรัทธาไททันมากแน่นอน

เพราะความศรัทธาของคนเรานั้นไม่สามารถโกหกได้

ในยามที่ชายคนนั้นเอ่ยถึงไททัน แววตาของเขาจะเปลี่ยนไปด้วยความเคารพนับถือ เขาเคารพบูชาไททันสุดหัวใจอย่างแท้จริง! 

เมื่อโม่จิ่วโหยวมองผู้คนที่มีสีหน้าหวาดกลัว บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏร่องรอยของความไม่พอใจ

ถึงกระนั้นเขาก็ยังพูดอย่างใจเย็นว่า “พวกแกไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าพวกแกไม่เข้าร่วมลัทธิไททัน แกก็จะถูกมนุษย์ด้วยกันฆ่าอยู่ดี ไม่สิ พวกเขาอาจจะไม่ฆ่าแกก็ได้ แต่พวกเขาอาจจะผ่าร่างของแกเพื่อศึกษากระบวนการเปลี่ยนจากมนุษย์เป็นไททันแทน ถึงยังไงมนุษย์โง่เง่าก็ชอบทำเรื่องไร้สาระแบบนี้มาตลอด”

พอมัจจุราชหน้าหยกพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีเยาะเย้ย

สิ้นเสียงพูด สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ในไม่ช้าผู้ชายหัวล้านที่มีร่างกายกำยำก็ลงไปล้มกลิ้งอยู่กับพื้นเพราะความเจ็บปวด

ในระหว่างนั้นร่างกายของเขาเริ่มบิดเบี้ยวดูแปลกประหลาดและขยายตัวอย่างต่อเนื่องราวกับลูกโป่งที่กำลังถูกสูบลม

“ไม่คิดเลยว่า… แกจะเปลี่ยนร่างเร็วกว่าที่ฉันคิดไว้” โม่จิ่วโหยวยกยิ้มมุมปากในขณะที่พึมพำกับตัวเอง

และการเปลี่ยนแปลงของชายหัวล้านคนนั้นก็กินเวลาครึ่งนาทีเต็ม

เมื่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงสิ้นสุดลงแล้ว ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนจากมนุษย์เป็นไททันอย่างสมบูรณ์

ซึ่งชายหัวโล้นกลายเป็นไททันที่สูงถึง 30 เมตร!

นอกจากนี้ร่างกายของเขาก็ยังมีลวดลายเปลวเพลิงสีแดงแปลกประหลาดอยู่ทั่ว

โม่จิ่วโหยวจึงเงยหน้าถามด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นไง ตอนนี้แกรู้สึกยังไงบ้าง?”

ชายหัวล้านที่แปลงร่างเป็นไททันยืนนิ่งตะลึงงันอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่า “ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันมีพลังเต็มเปี่ยม แม้แต่พลังพิเศษก็ดูเหมือนจะมีมากขึ้น”

พอเขาพูดจบ เปลวไฟที่ร้อนแรงก็ลุกโชนขึ้นบนร่างใหญ่โตของเขา

ดูเหมือนว่าเดิมทีเขาจะเป็นผู้มีพลังพิเศษประเภทไฟ หลังจากแปลงร่างเป็นไททัน นอกจากพลังพิเศษของเขาจะไม่หายไปแล้ว มันยังทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก ตอนนี้เขาได้กลายเป็นไททันเพลิงไปแล้ว!

“ตอนนี้แกน่าจะรู้ถึงประโยชน์ของการเป็นไททันแล้วสินะ”

โม่จิ่วโหยวยังคงพูดเสียงตื่นเต้น “เมื่อเทียบกับมนุษย์อ่อนแอ ไททันต่างหากที่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง”

ขณะนี้ฤทธิ์ยาได้ออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว มนุษย์ทุกคนเริ่มเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนเป็นไททันทีละคน

รวมถึงหูว่านซานด้วย!

ทว่าสีหน้าของเจ้าตัวดูไม่ประหลาดใจเลยสักนิด คล้ายกับว่าเขากำลังสนุกสนานกับกระบวนการแปลงร่างเป็นไททันมาก

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังของตนค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เดิมทีเขาเป็นเพียงมนุษย์ที่มีพลังพิเศษแรงก์ B แต่หลังจากที่เขาเปลี่ยนร่างเป็นไททัน เขาก็มีพละกำลังเทียบเท่ากับไททันระดับ 5!

สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดอย่างไม่ต้องสงสัย

ซึ่งการกระทำของหูว่านซานบ่งบอกว่าเขารู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของโม่จิ่วโหยวอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ทุกคนเห็นว่าไวน์ที่มัจจุราชหน้าหยกเอามาให้ทุกคนนั้นเป็นหูว่านซานที่เป็นคนแบกลงมาจากรถ

“นับจากนี้ไป ฉัน หูว่านซานจะยอมละทิ้งความเป็นมนุษย์และเข้าร่วมลัทธิไททันอย่างเป็นทางการ!” ชายไว้หนวดหัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ๆๆ! ร่างกายมนุษย์นั้นมีขีดจำกัดมากมาย ฉันไม่อยากเป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้ว!!”

ในขณะนี้หูว่านซานรู้เพียงว่าตัวเขานั้นใหญ่โตขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายหรือจิตใจ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เป็นถึงไททันระดับ 5! ถึงแม้ผู้มีพลังพิเศษแรงก์ A จะมายืนอยู่ต่อหน้า คนพวกนั้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าวันหนึ่งตนจะได้ครอบครองพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้จริง ๆ

ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังทำให้เขาลุ่มหลงมัวเมา

ตอนนี้ทุกคนที่ดื่มไวน์เข้าไปต่างก็เปลี่ยนกลายเป็นไททัน บางคนที่ไม่อาจยอมรับความจริงได้ก็กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น

บางคนที่ยอมรับความจริงข้อนี้ได้แล้วก็รู้สึกประหลาดใจกับพลังที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมของตัวเอง

โม่จิ่วโหยวเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มพูดกับทุกคนว่า “สหายทั้งหลาย จงยอมรับความจริงซะเถอะ สุดท้ายแล้วโลกก็จะถูกเผ่าไททันยึดครอง ไม่นานมนุษย์อ่อนแอที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานจะสูญสิ้นไปในที่สุด”

“การที่ทุกคนเปลี่ยนเป็นไททันนั้นไม่ต่างจากการไขว่คว้าหาแสงสว่าง พวกแกจะกลายเป็นผู้บุกเบิกแห่งเผ่าไททัน และช่วยแบ่งปันความรุ่งโรจน์นี้กับพวกเรา”

คำพูดของมัจจุราชหน้าหยกทำให้ทุกคนคล้อยตามได้อย่างไม่ต้องสงสัย 

ไททันที่แปลงร่างมาจากมนุษย์เองก็ได้แสดงท่าทีบางอย่างออกมา บัดนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ

ทันใดนั้นโม่จิ่วโหยวก็หันหัวไปอีกทางก่อนจะชี้ไปยังหลินหยวนที่หลบอยู่ไม่ไกล ในขณะที่เอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า “เอาล่ะ เพื่อประกาศว่าพวกแกจงรักภักดีต่อเผ่าไททัน จงฆ่ามนุษย์คนนี้ซะ! ใครก็ตามที่ฆ่าเขาได้สำเร็จ ฉันยังมียาระดับสูงที่สามารถกระตุ้นพลังของแกให้พัฒนาไปมากยิ่งขึ้นอยู่ในมือ นี่จะเป็นของรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ชนะ”

หลังจากที่เขาพูดจบ เหล่าไททันก็กักเก็บความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ไม่ไหว

สำหรับอาชญากรอย่างพวกเขา การฆ่ามนุษย์สักคนนั้นไม่ใช่สิ่งที่อยากจะยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันพวกเขาก็กลายเป็นไททันไปแล้ว

ขณะนี้หูว่านซานได้เดินไปยืนอยู่ต่อหน้าหลินหยวน เขายิ้มกว้างพร้อมกับพูดว่า “น้องชาย ก่อนหน้านี้ฉันอุตส่าห์หวังดีหยิบยื่นโอกาสให้นาย ต้องโทษที่นายไม่รับความหวังดีนั้นเอง ถ้านายดื่มไวน์แก้วนั้นเข้าไป ทุกอย่างก็คงจะไม่เป็นแบบนี้ใช่ไหม?”

“ในเมื่อนายกับฉันอยู่คนละฝั่งกันแล้ว นายก็อย่ามาโทษถ้าฉันใช้หัวของนายไปรับรางวัลกับท่านโม่จิ่วโหยว” หูว่านซานพูดจบแล้วก็ส่งหมัดพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าทันที

ตูม!!

เดิมทีเขาก็เป็นมนุษย์ที่มีพลังพิเศษประเภทพลังกายภาพอยู่แล้ว

หลังจากกลายเป็นไททัน ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

หลังจากที่หมัดนี้กระแทกลงไป มันก็เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นทันที

แต่หลินหยวนได้หายไปจากจุดนั้นแล้ว

“คนโง่อย่างแก แค่ได้รับพลังมาเล็กน้อยก็ทำให้แกหลงระเริงได้แล้ว”

วินาทีต่อมา เสียงเยาะเย้ยของเด็กหนุ่มดังขึ้นที่ด้านหลังของคู่ต่อสู้

“เสร็จฉันล่ะ!!” หูว่านซานหันไปยังที่มาของเสียง แล้วเขาก็เห็นหลินหยวนยืนอยู่ข้างหลังตน เขาจึงปล่อยหมัดออกไปด้วยความตื่นเต้น

หมัดขนาดมหึมาที่พุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงมหาศาลทำให้เกิดเสียงระเบิดในอากาศ

ทว่าเมื่อหลินหยวนเผชิญกับหมัดที่ทรงพลังนี้ สีหน้าของเขากลับไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

ในชั่ววินาทีนั้น สายฟ้าค่อย ๆ แล่นออกมาจากแขนขวาของเขา เด็กหนุ่มกำหมัดแน่นในขณะที่เหวี่ยงออกไปเต็มแรงเพื่อปะทะกับหมัดของหูว่านซาน

แล้วหมัดสายฟ้ากับหมัดไททันก็ปะทะกันกลางอากาศ

ตูม!!