บทที่ 1 พันธะโลหิต

-A A +A

บทที่ 1 พันธะโลหิต

 

‘จงมาเป็นของฉัน’

เสียงกระซิบอันเย็นยะเยือกดังแทรกเข้ามาในโสตประสาทของเอเรน ความหนาวเหน็บกัดกินร่างของเด็กหนุ่มราวกับน้ำแข็ง แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับยันกายลุกขึ้นช้าๆ เรากลับต้องมนต์สะกด  แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง... แปรเปลี่ยนเป็นประกายอันเหี้ยมเกรียม

‘ถ้าอยากได้พลัง... ก็จงมาหาฉัน’

เสียงของหญิงสาวดังก้องในหัว ราวกับเสียงกระซิบจากปีศาจ มันเต็มไปด้วยความอำมหิต ความลึกลับ และบางสิ่งที่ดำมืด

แต่สำหรับเอเรนแล้ว... เสียงนั้นกลับเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในความมืดมิด

‘ฉันต้องการ... พลัง พลังที่จะให้ฉันล้างแค้นพวกมัน’

เสียงฟ้าร้องคำรามสะท้อนทั่วฟากฟ้า สายฝนเริ่มตกลงมาไม่หยุด ราวกับธรรมชาติกำลังร่ำไห้ เด็กหนุ่มก้มลงมองสภาพตัวเอง — เสื้อผ้าขาดวิ่น เปียกชุ่มไปด้วยน้ำและเลือด บาดแผลทั่วร่างเจ็บปวดจนชา

...เขารู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน

เขาถูก ทรยศ ทรยศ... โดยผู้ที่อัญเชิญเขามายังโลกนี้

แม้ไม่มีคำพูดใด เขาก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไรต่อ

เอเรนค่อยๆ ตะเกียกตะกายขึ้นจากหลุมโคลน มือที่สั่นเทายันพื้นโคลนเปียก มองตรงไปยังทิศทางของเสียงนั้น

และเขาเริ่มเดิน… เสียงฝนกระทบพื้นดิน ซัดสาดผิวกาย แต่เด็กหนุ่มไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะสะทกสะท้าน

จนกระทั่ง... เขามาถึงที่หมาย

เอเรนเงื้อมมือขึ้น สูดลมหายใจลึก แล้วระดมพลังเวทเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ลงสู่พื้นดิน เขาขุด... ลงไปทีละชั้น ทีละชั้น
แล้วสายตาเขาก็เห็นมัน...โลงศพศิลาหินสีดำสนิทถูกสลักด้วยสัญลักษณ์ประหลาดที่ไม่มีใครอ่านออก ล้อมรอบด้วยวงเวทโบราณที่เรืองแสงสีดำวูบวาบ สัมผัสได้ถึงพลังที่เยือกเย็นและเต็มไปด้วยความตาย บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกราวกับหลุดเข้าไปอีกโลก

‘เปิดมันสิ’

เสียงสั่งผ่านกระแสจิตดังขึ้นมาอีกครั้ง หนักแน่น ทรงอำนาจ และไม่เปิดโอกาสให้ขัดขืน

มือของเอเรนสั่นเล็กน้อย แต่เขากลับยื่นมือไปแตะลงบนฝาโลงอย่างช้าๆ และในวินาทีนั้น เขาปลดปล่อยพลังเวททั้งหมดลงไป

เปิดผนึกแห่ง พันธะโลหิต ที่ไม่มีวันหวนกลับ…

ฝาโลงค่อยๆถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เสียงหินดังเย็นยะเยือกพร้อมกับ มืออันเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง ยื่นมาจับแขนของเด็กหนุ่ม

มันบีบแน่นราวกับจะฉุดดึงเขาไปสู่ขุมนรก ไม่มีทางปล่อยให้เอเรนหลบหนี แววตาสีดำนิลกาญจน์ทอดมองเขานิ่ง ราวกับแช่แข็งเวลา

หากเป็นเอเรนคนเก่า คงตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่น

แต่สำหรับเขาในตอนนี้—คนที่ถูกเผาผลาญด้วยเพลิงแค้น—แววตาคู่นั้นกลับสะท้อนดวงตาของเขาเอง ราวกับส่องกระจก

เสียงลมหายใจของทั้งสองสะท้อนในความเงียบ เสียงฟ้าคำรามเหนือศีรษะเสมือนกู่ร้องตามความปั่นป่วนภายในใจของเขา

หยาดฝนเริ่มโปรยปรายทีละหยด แต่ทว่ามือนั้นยังคงเย็นเยียบ… เย็นเสียยิ่งกว่าสายน้ำฤดูหนาว

“แค้นใช่ไหม...”

เสียงของมันแหบพร่า แผ่วเบาแต่กึกก้อง ราวกับเปล่งออกมาจากนรกที่ลึกที่สุด

เอเรนเม้มปากแน่น ไม่เอื้อนเอ่ยแม้แต่คำเดียว

เขารู้... คำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบ มันเป็นเพียงเสียงสะท้อนจากความเจ็บของตนเอง

“เจ็บใจมากสินะ...”

ถ้อยคำนั้นเสียดแทงหัวใจเหมือนมีดนับพัน มันรู้—รู้ถึงเสียงกรีดร้องของผู้คนที่เขารัก เสียงเลือดที่สาดกระเซ็นต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย

เอเรนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะสบตากับปีศาจตนนั้น ดวงตาเยียบเย็นเหมือนเหล็กกล้า ทว่า... ลึกลงไป มีบางอย่างสะท้อนกลับมา

ความเข้าใจ—เจ็บปวดพอ ๆ กับเขา

“ถ้าเช่นนั้น... จงมาเป็นของของฉัน”

มืออีกข้างยื่นออกมา ฝ่ามือแห้งกร้านมีรอยแผล ลายเวทโบราณเรืองแสงริบหรี่

“แล้วเนายจะได้พลัง... พลังที่จะล้างแค้น”

เสียงของมันดังก้องในหัวเขา ดั่งเสียงกระซิบของวิญญาณนับพัน สะกดวิญญาณของเขาให้ไหลลึกลงไปในห้วงเหว

เอเรนหลับตา—ใบหน้าของครอบครัว เพื่อนพ้อง และเปลวไฟแห่งการสูญเสียฉายชัดอยู่ในใจ

เขาเปิดตาอีกครั้ง ดวงตานั้น... ไม่ใช่ของเด็กหนุ่มผู้หวาดกลัวอีกต่อไป

แต่มันคือสายตาของผู้ที่ เลือกแล้ว

ไม่ใช่ผู้จะเผชิญหน้ากับปีศาจ—แต่จะ กลายเป็นปีศาจเสียเอง

เขายื่นมือออกไปสัมผัสมือของนาง—มือของปีศาจสาวผู้ลึกลับ ผู้ที่มีดวงตาเย็นชาและเปี่ยมด้วยความแค้น…ไม่ต่างจากเขาเลยแม้แต่น้อย

ปลายนิ้วสัมผัสกัน ลมรอบกายบิดเบี้ยว เส้นแห่งความจริงเริ่มแปรปรวน แสงทั้งหมดมืดมิด เหลือเพียงประกายม่วงเข้มลอยวนรอบทั้งสอง ลมหายใจของทั้งสองสอดประสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน 

ปีศาจสาวยิ้ม—ไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความเมตตา แต่เป็นรอยยิ้มของผู้ที่รอใครบางคนมาตลอดนับพันปี

“ดีมาก... เผู้ชยของฉัน...”

เสียงของหญิงสาวล่องลอยดั่งบทเพลงโบราณ อบอุ่นปนเย็นยะเยือก จับจิตจับวิญญาณเธอยกมือเขาแนบอก เสียงหัวใจเต้นดังกึกก้อง

ไม่ใช่จังหวะของมนุษย์ แต่คือเสียงชีพจรของมังกร... หรือสัตว์ร้ายที่ไม่มีวันตาย

“เราจะทำพันธะโลหิตกัน ณ ที่นี้ ที่ซึ่งเทพองค์ใดไม่อาจสอดแทรกได้”

เล็บของนางยาวขึ้น แหลมคมพอจะแทรกเนื้อเลือด โลหิตของทั้งสองหยดลงบนพื้นหินดำ—แล้วเรืองแสงแดงฉานราวลาวา

วงเวทโบราณผุดขึ้นจากพื้น เส้นสายล้อมรอบทั้งสองราวกับพันธนาการจากนรก

“นายชื่ออะไร” หญิงสาวผมแดงมองยังชายหนุ่มเบื้องหน้า

“ชื่อของฉันคือ เอเรน”

“เอเรน… นายจะยอมละทิ้งแสงสว่างไหม... แลกวิญญาณเพื่ออำนาจหรือไม่...?”

เสียงกระซิบของหญิงเบื้องหน้ากลายเป็นสายฟ้าฟาดในหัวใจ

“ฉัน... ยอม” เสียงเขาต่ำ แต่มั่นคงกว่าครั้งใดในชีวิต

“ดี... งั้นจงรับจุมพิตแห่งพันธะ” หญิงสาวโน้มตัวลง—ริมฝีปากแตะหน้าผากของเขา

เย็นเยียบดังความตาย แต่ในนั้นมีเพลิงแห่งความแค้นลุกโชนขึ้นจากขั้วหัวใจ

ทันใดนั้น วงเวทสว่างวาบ สายลมพัดกระหน่ำอัสนีบาตสีดำพระลงมาปะทะร่างของชั้นสอง พลังของเด็กหนุ่มที่เคยหายไปกับมีพลังบางอย่างเข้ามาในร่างกาย 

พันธะได้ถูกผนึกแล้ว

เอเรนทรุดตัวลง หอบหายใจถี่ พลังอันไม่คุ้นเคยหลั่งไหลเข้าร่าง ราวกับเสียงกรีดร้องของผู้ตายผุดขึ้นในอก

หญิงสาวประคองคางของเขาให้เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

“ตั้งแต่นี้ไป... นายเป็นของฉัน และฉันจะทำให้นายแข็งแกร่งพอจะล้างแค้นทุกสิ่ง… ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร”

เอเรนสบตาหญิงสาว สายตาของทั้งสองผสานกัน  ดวงตาของเขาในตอนนี้… เปล่งประกายสีเดียวกับของเธอ

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.