บทที่ 376 คลังสมบัติของยอดปรมาจารย์
บทที่ 376 คลังสมบัติของยอดปรมาจารย์
ทันทีที่ศัตรูปรากฏตัวขึ้นมา ลู่หยางก็โยนลูกแก้วสีแดงขึ้นไปในท้องฟ้าพร้อมกับท่องคาถาขึ้นมาในทันที
เฟลมสตอร์ม!
คลื่นสีดำปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ก่อนที่มันจะมีลำแสงสีแดงสดพุ่งขึ้นมาจากพื้นโดยมีราชาดาร์คไนท์ดีม่อนเป็นจุดศูนย์กลาง
ราชาดาร์คไนท์ดีม่อนกำลังจะโยนโอบัคและพวกก็อบลินเข้าไปภายในปาก แต่พายุเพลิงก็ได้ทำให้ร่างของมันหยุดชะงักไปเสียก่อน น่าเสียดายที่การโจมตีในครั้งนี้ยังไม่ได้ทำให้ราชาดาร์คไนท์ดีม่อนปล่อยพวกก็อบลินออกมาเป็นอิสระ
-150
ขณะเดียวกันโอบัคก็ได้รับความเสียหายเข้าไป 150 หน่วย ซึ่งเขาก็มีพลังชีวิตสูงสุดเพียงแค่ 3,500 หน่วยเท่านั้น การจู่โจมในครั้งนี้จึงทำให้เขาเสียพลังชีวิตไปเกือบ 1 ใน 20
ลู่หยางรู้ดีว่าในเวลานี้เป็นเวลาทดสอบฝีมือของเขาแล้ว เพราะถ้าหากเขาต้องการจะสังหารดาร์คไนท์ดีม่อนก่อนที่มันจะฆ่าโอบัคจนตาย เขาก็จำเป็นจะต้องใช้สกิลควบคุมออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในสถานการณ์ที่เขาไม่ได้มีหัวใจแห่งเทพอสูรอยู่ในครอบครอง เฟลมสตอร์มก็จะติดคูลดาวน์อยู่ที่ 6 วินาทีทำให้เขาไม่สามารถใช้งานมันออกมาได้ตามใจชอบ
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงจำเป็นจะต้องสลับกันใช้สกิลควบคุมอย่างเฟลมอิมแพค, ไฟร์สเน็คไบดิ้งและเบลซซิงเบิร์สคอยควบคุมเพื่อไม่ให้ราชาดาร์คไนท์ดีม่อนกลืนกินร่างของโอบัคเข้าไปเท่านั้น ซึ่งในระหว่างนี้นกฟีนิกซ์ก็จะทำการโจมตีบอสไปด้วย
เบลซซิงเบิร์ส!
ลู่หยางทำการปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่ปากของราชาดาร์คไนท์ดีม่อนอย่างแม่นยำ
ตูม!
โฮ่ว!
ราชาดาร์คไนท์ดีม่อนร้องคำรามขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งในระหว่างนั้นหนวดที่จับร่างของโอบัคก็อยู่ห่างจากปากของมันออกไปเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร
หลังจากฟื้นคืนสติราชาดาร์คไนท์ดีม่อนก็พยายามจับร่างโอบัคใส่เข้าไปภายในปากอีกครั้ง ลู่หยางจึงทำการยิงลูกไฟออกไปอีกครั้งหนึ่ง
เฟลมอิมแพค!
ลูกไฟที่เต็มไปด้วยพลังอันพร้อมปะทุระเบิดขึ้นมาภายในปากของราชาดาร์คไนท์ดีม่อน และทำให้มันติดสถานะสตั๊นอยู่กับที่ไปเป็นเวลา 1 วินาที
จากนั้นชายหนุ่มก็ได้ใช้เบลซซิงเบิร์สเพื่อทำให้บอสติดสถานะสตั๊น 0.5 วินาที เมื่อบอสได้สติเขาก็เริ่มร่ายคาถาขึ้นมาอีกครั้ง
ไฟร์สเน็คไบดิ้ง!
อสรพิษเพลิง 3 ตัวพุ่งตัวออกไปพันธนาการร่างของราชาดาร์คไนท์ดีม่อนเอาไว้แน่น และทำให้มันถูกควบคุมเป็นเวลา 4 วินาทีโดยไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย
ลู่หยางฉวยโอกาสนี้ยิงเบลซซิงเบิร์สออกไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นกฟีนิกซ์ก็ยังคงพ่นลูกไฟโจมตีออกมาไม่หยุด
…
กระบวนการเหล่านี้วนซ้ำ ๆ กันเป็นเวลา 5 นาที ซึ่งในตอนที่ลู่หยางเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ราชาดาร์คไนท์ดีม่อนก็ส่งเสียงครวญครางพร้อมกับล้มลงไปกองกับพื้น
ระบบ: คุณได้สังหารราชาดาร์คไนท์ดีม่อนสำเร็จ
ระบบ: คุณทำภารกิจคุ้มกันสำเร็จ
ระบบ: คุณทำภารกิจย่อยช่วยชีวิตโอบัคสำเร็จ
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะในที่สุดระบบก็ประกาศว่าภารกิจสิ้นสุดลงเสียที
“ว่าแต่ภารกิจย่อยช่วยชีวิตโอบัคมันคืออะไร?”
โอบัคเดินเข้ามาหาลู่หยาง ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ
“น้องชายต่อไปนี้นายถือว่าเป็นพี่น้องของฉันแล้ว ขอบคุณจริง ๆ ที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ นี่คือของขวัญที่ฉันพอจะตอบแทนให้ได้ น้องชายโปรดรับเอาไว้ด้วย”
หุ่นก็อบลิน (ปราณีต)
รายละเอียด สามารถเก็บไว้ในกระเป๋าและนำออกมาวางบนพื้นได้ตลอดเวลา
“มันคืออะไรงั้นเหรอครับ?” ลู่หยางถามอย่างสงสัย
“นี่คือหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของฉัน ซึ่งมันก็จะช่วยนายในการสร้างหอคอยเฝ้าระวังขึ้นมาได้ ตอนนี้ฉันเติมพลังงานของมันเอาไว้จนเต็ม ซึ่งมันก็หมายความว่ามันสามารถช่วยนายสร้างหอคอยขึ้นมาได้ 20 หอ” โอบัคกล่าวอย่างภูมิใจ
“แล้วถ้าผมอยากจะเติมพลังงานให้กับมันล่ะครับ?” ลู่หยางถาม
“ถ้านายอยากจะเติมพลังงานก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อหรือไม่ก็ไปหาโรเบิร์ต ลูกศิษย์ของฉันที่อยู่ค่ายก็อบลินของเมืองเซนต์กอลล์ก็ได้” โอบัคตอบ
ในที่สุดลู่หยางก็เข้าใจว่าการลงมือของเขาได้มีการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไปบ้างแล้ว เพราะในชาติก่อนทางผู้พัฒนาเคยออกมาพูดว่าเผ่าก็อบลินได้สูญเสียปรมาจารย์ยอดฝีมือไปคนหนึ่ง ทำให้พวกเขาก่อสร้างอาณาจักรล่าช้าไป 1 ปี โรเบิร์ตผู้ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์คนนี้ได้วิจัยหุ่นก็อบลินอาจารย์ของตัวเองจนสำเร็จ เผ่าก็อบลินจึงจะเริ่มสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาได้
เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่โอบัคได้พูดเอาไว้แล้ว มันก็เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ก็อบลินที่ทางผู้พัฒนาเคยออกมาพูดถึงนั้นนั่นก็คือโอบัคนั่นเอง
หลังจากพูดคุยกับลู่หยางจนจบ โอบัคก็นำทีมก็อบลินเข้าไปในหุบเขาวินเทอร์วินด์ จากนั้นเขาก็นำหุ่นยนต์ก็อบลิน 20 ตัวออกมาสร้างหอคอยอย่างรวดเร็ว
30 นาทีต่อมาค่ายแห่งใหม่ของก็อบลินก็ถูกสร้างขึ้นมาจนเสร็จ โอบัคจึงเดินไปยืนอยู่หน้าห้องโถงและได้กลายเป็นเพียงแค่ NPC ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
“สหาย นายสนใจอะไรบ้างไหม? วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันจะยอมขายพวกมันให้กับนายถูก ๆ” โอบัคพูดกับลู่หยาง
ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าโอบัค ก่อนที่เขาจะเปิดหน้าต่างแลกเปลี่ยนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
บลูปริ้นแว่นตาป้องกันก็อบลิน
เอฟเฟกต์ ทำให้คุณมองเห็นทุกสิ่งในระยะ 200 เมตร
บลูปริ้นเออีดี
เอฟเฟกต์ ชุบชีวิตผู้เล่นที่ตายได้ 1 คน
บลูปริ้นโล่คลื่นเสียง
เอฟเฟกต์ สามารถสร้างโล่คลื่นเสียงดูดซับความเสียหายได้ 5,000 หน่วย ระยะเวลาแสดงผล 1 นาที คูลดาวน์ 5 นาที
บลูปริ้นร่มชูชีพ
เอฟเฟกต์ เมื่อร่างกายตกลงมาจากที่สูงสามารถใช้ร่มชูชีพเพื่อร่อนลงไปสู่พื้นอย่างปลอดภัยได้
…
อุปกรณ์วิศวกรรมระดับสูงมากมายทำให้ลู่หยางตาลายไปหมด โดยเฉพาะโล่คลื่นเสียงที่สามารถใช้ดูดซับการโจมตีในช่วงเวลาสำคัญได้ ซึ่งมันก็สามารถใช้รับการโจมตีจากนักเวทที่สวมอุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30 ได้ถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว
หลังจากคิดพิจารณาลู่หยางก็ตัดสินใจซื้อบลูปริ้นทั้งหมดอย่างละ 20 ชิ้น จากนั้นเขาก็นำหุ่นก็อบลินออกมาแล้วสั่งให้มันสร้างหอคอยขึ้นมาในค่ายก็อบลินภายในหุบเขาวินเทอร์วินด์
เมื่อมีสิ่งก่อสร้างของเขาถูกวางเอาไว้ในสถานที่แห่งนี้แล้ว ต่อไปหากเขาต้องการจะเดินทางมาที่นี่เขาก็สามารถใช้คทาวาร์ปเพื่อเทเลพอร์ตตรงมายังที่นี่ได้เลย
ตอนแรกหุ่นยนต์ก็อบลินมีรูปร่างคล้ายกับกล่องเหล็ก แต่หลังจากที่เขานำมันออกมามันก็เริ่มปรับเปลี่ยนรูปร่างจนกลายเป็นหุ่นยนต์อย่างรวดเร็ว
“นายท่าน บริเวณนี้ไม่มีวัสดุสำหรับการสร้างหอคอย ไม่ทราบว่าท่านต้องการให้ข้าค้นหาเองหรือไม่?” หุ่นก็อบลินถามด้วยเสียงเหมือนกับเครื่องจักร
ลู่หยางยกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเอง เพราะเขาลืมเรื่องวัสดุสำหรับการก่อสร้างไปเลย ชายหนุ่มจึงเปิดร้านค้าของโอบัคขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ทำการซื้อวัตถุดิบสำหรับการสร้างหอคอยเอาไว้ 100 หอ
นอกจากนี้เขายังซื้อหินพลังงานสำหรับการชาร์จหุ่นก็อบลินอีก 4 ครั้ง ซึ่งรวมแล้วเขาก็ได้จ่ายเงินไปทั้งสิ้น 20 เหรียญทอง
กว่าที่หุ่นก็อบลินจะสร้างหอคอยขึ้นมาจนเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนดึกมากแล้ว ชายหนุ่มจึงใช้ม้วนคัมภีร์เพื่อเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์
—
หลังกลับเข้ามาภายในเมือง ลู่หยางก็เดินทางไปหาฮั่นจงและทำการมอบบลูปริ้นทั้งหมดที่เขาซื้อมาให้กับอาจารย์
“ลู่หยางบลูปริ้นพวกนี้เป็นของมีค่ามากเลยนะ นายไปเอาพวกมันมาจากไหน?” ฮั่นจงถามอย่างตื่นเต้น
“ผมพึ่งทำภารกิจของพวกก็อบลินเสร็จ ผมเลยซื้อพวกมันมาจากค่ายก็อบลินครับ” ลู่หยางตอบ
“คราวนี้พวกเราคงจะทำเงินกันได้ก้อนใหญ่อีกแล้วสินะ” ฮั่นจงกล่าวอย่างยินดี
ไม่ว่ามองยังไงโล่คลื่นเสียงก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะแม้แต่ตัวของฮั่นจงเองก็อยากจะมีของชิ้นนี้เอาไว้ใช้งาน
ในบรรดาร้านค้าทั้ง 4 ที่ฮั่นจงได้ดูแลอยู่ในปัจจุบัน ร้านที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับวิศวกรรมก็อบลินเป็นสิ่งที่ทำกำไรได้น้อยที่สุด แต่หลังจากที่ลู่หยางนำบลูปริ้นของพวกนี้เข้ามาให้ เขาก็คาดว่าร้านอุปกรณ์ของก็อบลินคงจะสร้างกำไรได้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างดูตลาดเท่าไหร่ ผมฝากอาจารย์ตั้งราคาพวกมันด้วยก็แล้วกันนะครับ” ลู่หยางกล่าว
“หากฉันประเมินไม่ผิดโล่คลื่นเสียงน่าจะขายได้ไม่น้อยกว่า 3 เหรียญทอง” ฮั่นจงกล่าว
“ผมฝากอาจารย์ช่วยทำพวกมันออกมา 5 ชุดก่อนได้ไหมครับ? ผมจะเอาไปให้พวกฮั่นเฟยใช้งานก่อนโดยเฉพาะฮั่นอวี่ ถ้าเขามีแว่นตาก็อบลินช่วยเสริมการมองเห็นต่อไปการโจมตีในระยะ 100 เมตร มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิม” ลู่หยางกล่าว
ฮั่นจงพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะนำบลูปริ้นไปกระจายให้ลูกน้อง
ของลูก ๆ พ่อบอกได้เสมอ 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 129
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น