บทที่ 346 ยุบกิลด์อย่างเป็นทางการ
บทที่ 346 ยุบกิลด์อย่างเป็นทางการ
การปรากฏตัวของกองทัพขนาดใหญ่ทำให้ผู้เล่นวิพากษ์วิจารณ์กันไปมาอย่างมากมาย ในเวลาเพียงแค่ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง และทำให้มีผู้เล่นเป็นจำนวนมากวิ่งออกมาดูสถานการณ์บริเวณประตูทิศตะวันตก
“บลัดบราเธอร์จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
“พวกเขากำลังจะทำอะไรน่ะ”
“ช่างภาพอยู่ไหน? รีบเก็บภาพนี้ไปรายงานเร็วเข้า”
สื่อต่าง ๆ เริ่มเก็บภาพนี้จากทุก ๆ มุมและในขณะที่ผู้เล่นได้มารวมตัวกันหลาย ๆ คนก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าบลัดบราเธอร์กำลังจะทำอะไรกันแน่
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตั้งข้อสงสัยกันอยู่นั้น ลู่หยางก็ส่งข้อความไปในช่องสื่อสารของกิลด์
“3”
“2”
“1”
“เริ่ม”
“พวกเราบลัดบราเธอร์อยู่ที่นี่แล้ว พวกเดธโซลยังจะกล้าออกมาสู้กับพวกเราอีกไหม?!” ผู้เล่นทั้ง 170,000 คนตะโกนออกไปพร้อม ๆ กันก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นจนได้ยินไปจนถึงกลางเมือง ซึ่งเหตุการณ์นี้มันก็ทำให้พวกสกายซอร์ทและคนอื่น ๆ ที่กำลังเรียกรวมกองกำลังของตัวเองอยู่สะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งตรงไปยังประตูทิศตะวันตกของเมือง ก่อนจะได้พบกับกองกำลังของบลัดบราเธอร์ทั้ง 170,000 คนเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบจนแทบจะปิดล้อมกำแพงเมืองเอาไว้ได้ด้านหนึ่ง
[ช่องแชทโลก] สกายซอร์ท: กิลด์ซอร์ดวอริเออร์สกายขอประกาศแยกออกจากเดธโซลแบล็คซอร์ทนับแต่นี้เป็นต้นไป
[ช่องแชทโลก] เฟียร์เลส: กิลด์โซลเทรมเมอร์ขอประกาศแยกออกจากเดธโซลแบล็คซอร์ทนับแต่นี้เป็นต้นไป
…
ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาทีหัวหน้ากิลด์ทั้ง 8 ต่างก็ประกาศแยกตัวออกจากเดธโซลพร้อม ๆ กันทำให้ในตอนนี้สมาชิกของเดธโซลจึงเหลือเพียงแค่สมาชิกของเอเวอร์ลาสติงเท่านั้นเอง
“เดธโซลยุบแล้วงั้นเหรอ?!”
“บลัดบราเธอร์จะแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว”
“โอ้พระเจ้า นี่พวกเขาถึงขนาดบีบให้เดธโซลยุบกิลด์เลยเหรอเนี่ย”
…
ผู้เล่นทั่วทั้งเมืองต่างก็พูดคุยในประเด็นนี้กันอย่างเผ็ดร้อน ฉือมู่ก็ยืนสังเกตการณ์อยู่บนกำแพงเมือง ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปหาลู่หยางว่า
“ประธานลู่หยางขอแสดงความยินดีด้วย ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลามาพูดคุยกับฉันสักหน่อยไหม?”
ลู่หยางกำลังปรึกษากับพวกเซี่ยหยู่เว่ยว่าจะจัดการกับเดธโซลยังไงดี เมื่อเขาได้รับการติดต่อมาจากฉือมู่ มันก็ทำให้เขาอดที่จะเผยรอยยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“มีข่าวดีอะไรงั้นเหรอครับหัวหน้า?” บิทเทอร์เลิฟถาม
“ข่าวดีมีเยอะเลย เดี๋ยวฉันจะค่อย ๆ บอกพวกนายทีละเรื่อง แต่ตอนนี้ลองเดาดูสิว่าใครเพิ่งส่งข้อความมาหาฉัน?” ลู่หยางกล่าว
“ฉือมู่งั้นเหรอครับ?” ฉิงชางพยายามคาดเดา
“ถูกต้อง เขาติดต่อมาเพื่อต้องการจะพูดคุยกับฉัน” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ตาแก่นี่เคลื่อนไหวได้เร็วจริง ๆ หลังจากรู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดเขาก็รีบแก้ไขสถานการณ์เป็นคนแรกเลย” ฉิงชางกล่าว
“เอาล่ะไหน ๆ เดธโซลก็แตกสลายลงไปแล้ว วันนี้ให้ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนก่อน ส่วนพวกนายก็สมควรไปพักด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับฉือมู่เอง” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับพร้อมกัน
“เอาล่ะทุกคนแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนได้” ลู่หยางตะโกนสั่งการลูกกิลด์ภายในกองทัพ ซึ่งคำสั่งก็ถูกส่งต่อ ๆ กันไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะแยกออกเป็นแถว ๆ ละ 20 คนเดินเข้าประตูทางทิศตะวันตกของเมืองกันอย่างเป็นระเบียบ
การเดินขบวนในครั้งนี้นำด้วยทีมผู้เล่นเลเวล 30 ที่สวมใส่ชุดอุปกรณ์ระดับทองทั้งตัว 13,000 คน ตามมาด้วยทีมผู้เล่นที่สวมชุดอุปกรณ์ระดับเงินทั้งหมด เมื่อพวกเขาเคลื่อนกำลังเข้าไปภายในเมือง มันก็สามารถสร้างความตื่นตระหนกให้กับฝูงชนได้อีกครั้งหนึ่ง
“บลัดบราเธอร์มีสมาชิกเลเวล 30 ที่สวมชุดระดับทองเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
“นั่นมันเป็นหมื่นคนเลยนะ”
“แบบนี้บลัดบราเธอร์ก็สมควรจะเป็นกิลด์อันดับ 1 ของเมืองเซนต์กอลล์แล้ว”
สำหรับกิลด์ขนาดเล็กการที่พวกเขาจะมีผู้เล่นเลเวล 30 ที่สวมใส่ชุดอุปกรณ์ระดับทองสักคนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับพวกเขาแล้ว แต่บลัดบราเธอร์กลับมีผู้เล่นระดับนี้รวมตัวกันอยู่เป็นกองทัพ กองกำลังของบลัดบราเธอร์จึงอยู่เหนือกว่ากองกำลังอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
ระหว่างทางผู้เล่นทั้งหมดต่างก็หลีกทางให้สมาชิกของบลัดบราเธอร์โดยไม่มีใครกล้าขวางทางเลยแม้แต่คนเดียว เมื่อลู่หยางเดินเข้าไปจนถึงจุดปลอดภัย เขาก็แยกตัวออกไปยังห้องรับรองชั้นที่ 2 ของหอเฟิ่งเซียน ซึ่งเขามักจะใช้เป็นสถานที่นัดพบกับฉือมู่เป็นประจำ
หลังจากเปิดประตูฉือมู่กับฉงป้าก็ลุกยืนขึ้นโค้งคำนับให้กับลู่หยางอย่างนอบน้อม
“ประธานลู่หยางขอแสดงความยินดีด้วย”
ลู่หยางยกมือขึ้นโค้งคำนับตอบ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“ยินดีด้วยเช่นกันครับ”
ฉือมู่หัวเราะขึ้นมาแห้ง ๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“น้องชาย เรื่องนี้ก่อนหน้านี้ก็อย่าถือสาหาความกันเลย พวกเราตัดสินใจแล้วว่าพวกเราจะยกรายได้ของสมาคมทหารรับจ้างในครึ่งปีหลังให้เป็นค่าสมทบทุนการทำสงครามของคุณในคราวนี้”
กำไรจากสมาคมทหารรับจ้างที่แบ่งหารออกมาแต่ละคนจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 3,000 เหรียญทอง การที่ฉือมู่กับฉงป้ายกกำไรครึ่งปีหลังให้กับเขา มันก็ตีเป็นมูลค่าได้ประมาณ 10 ล้านเครดิต
ลู่หยางมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“ในเมื่อพวกคุณทั้งสองคนต้องการจะช่วยเหลือ ผมก็ขอรับเงินจำนวนนี้เอาไว้อย่างเต็มใจ”
“เอาเลยตามสบาย” ฉือมู่กับฉงป้าพูดขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
ทั้งคู่รู้ดีว่าถ้าหากพวกเขาไม่ยอมเสียอะไรไปเลย เป้าหมายต่อไปของลู่หยางก็คงจะเป็นหนึ่งในพวกเขาอย่างแน่นอน และด้วยความแข็งแกร่งของทั้งสองพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะเผชิญหน้ากับลู่หยางตรง ๆ ได้ ดังนั้นการยอมเสียสละรายได้บางส่วนไปบ้างจึงถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในขณะนี้
“เรื่องที่เราเข้าใจผิดกันในก่อนหน้านี้ก็ขอให้มันแล้ว ๆ กันไปเถอะ ผมเชื่อว่าต่อไปพวกเราทั้ง 3 กิลด์จะยังคงเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป้าหมายต่อไปของคุณคือบลัดไทแรนท์ใช่ไหม?” ฉงป้าถาม
ลู่หยางส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า
“จุดประสงค์ที่ผมสร้างกิลด์ขึ้นมาไม่ใช่เพื่อทำลายกิลด์อื่น แต่สาเหตุที่พวกเราต้องทำกับเดธโซลแบบนี้นั่นก็เพราะพวกมันกดดันพวกเรามามากเกินไป เมื่อแรงกดดันพวกนั้นมันได้หายไปแล้วพวกผมก็อยากจะเล่นเกมแบบสนุก ๆ บ้างเหมือนกัน”
ฉงป้ากับฉือมู่ทำได้เพียงแต่สบตากันด้วยความประหลาดใจ เพราะในตอนแรกพวกเขาคิดว่าลู่หยางคงจะจัดการบลัดไทแรนท์เลยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีความคิดในลักษณะนี้
“หลังจากนี้พวกคุณทั้งคู่ก็พยายามกันหน่อยนะ ค่าประสบการณ์จากเลเวล 30 ไปถึงเลเวล 40 มันค่อนข้างเยอะมาก อีกไม่นานเขตแดนระหว่างทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ก็คงจะเปิดออกแล้ว ในเวลานั้นสงครามครั้งใหญ่จริง ๆ ก็จะอยู่ห่างจากพวกเราไม่ไกลมากนัก โดยเฉพาะเผ่าสัตว์อสูรที่อาจจะบุกโจมตีพวกเราได้ทั้งทางบกและทางทะเล” ลู่หยางกล่าว
“เผ่าสัตว์อสูรจะบุกโจมตีพวกเรางั้นเหรอ?” ฉงป้าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ใช่ครับ” ลู่หยางตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ในชาติก่อนช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ลิ่วเจียเริ่มเข้ามาลงทุนภายในเกม โดยในช่วงแรกเขาได้เขาซื้อกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดของเผ่าสัตว์อสูรก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ เข้าซื้อกิลด์ของเผ่ามนุษย์ไปเสริมความแข็งแกร่งทีละกิลด์ จนในที่สุดเขาก็สามารถครอบครองป้อมปราการส่วนใหญ่ของเซิร์ฟเวอร์จีนเอาไว้ได้
เพื่อไม่ให้ลิ่วเจียพัฒนาได้อย่างราบรื่น ลู่หยางจึงจำเป็นจะต้องยุติความบาดหมางเอาไว้เป็นการชั่วคราว ท้ายที่สุดถ้าหากพวกเขายังคงทำสงครามกันต่อ มันก็จะทำให้สมาชิกภายในกิลด์ต้องหยุดการพัฒนาไปด้วยเช่นกัน ในเวลานั้นหากอีกฝ่ายนำผู้เล่นเลเวล 40 บุกเข้ามา ขณะที่สมาชิกภายในกิลด์ของเขามีเลเวลเพียงแค่ 30 กว่า ๆ พวกเขาก็จะต้องเป็นฝ่ายที่ได้รับความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
อีกอย่างคือบลัดเติสตี้ไม่ได้ตั้งรกรากอยู่เพียงแค่ในเมืองเซนต์กอลล์เท่านั้น หากเขาบีบคั้นบลัดไทแรนท์มากจนเกินไป อีกฝ่ายก็สามารถเรียกระดมคนจากเมืองหลักอีก 2 เมืองมายังเมืองเซนต์กอลล์ได้ ในเวลานั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่มันก็ต้องแลกมากับซากศพอย่างมากมาย
เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของทั้งสองคนตรงหน้า ลู่หยางจึงพูดขึ้นมาว่า
“ผมได้พูดสิ่งที่สมควรพูดออกไปจนหมดแล้ว ส่วนพวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั่นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพวกคุณเอง ผมยังมีธุระที่จะต้องกลับไปจัดการ วันนี้ผมขออนุญาตขอตัวก่อน”
หลังจากยกมือขึ้นมาพร้อมคำนับ ลู่หยางก็หยิบคัมภีร์ย้อนกลับเพื่อเทเลพอร์ตไปยังลานกลางเมืองเซนต์กอลล์ และในขณะที่เขากำลังจะเดินทางกลับไปยังสำนักงานใหญ่ของกิลด์อยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็มีเสียงประกาศจากระบบดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ระบบ: ขอแสดงความยินดีกับกิลด์ดีวายโซลที่ครอบครองป้อมปราการสำเร็จเป็นกิลด์ที่ 2
ลู่หยางพ่นเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องประชุมและได้พบว่าพวกเซี่ยหยู่เว่ยกำลังแสดงสีหน้าขึ้นมอย่างไม่พอใจ
อะไรอ่ะ? อย่าบอกนะว่าป้อมปราการวินด์ธันเดอร์โดนโซลออฟอีเทอนิตี้ยึดไปแล้ว?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 150
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น