บทที่ 338 ลู่หยางมาถึงแล้ว
บทที่ 338 ลู่หยางมาถึงแล้ว
เสี่ยวเหลียงคอยระวังกองกำลังนักเวทของฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด เพราะจุดอ่อนเดียวของนักรบหมอกโลหิตคือพวกเขาไม่มีความสามารถในการต้านทานเวทมนตร์
ดังนั้นถ้าหากตัวเขาโดนเวทมนตร์โจมตี พวกเขาก็จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ยิ่งถ้าหากว่าเขาถูกลดความเร็วในการเคลื่อนที่จากการโจมตีของนักเวทน้ำแข็งท่ามกลางสนามรบที่มีผู้คนอยู่มากมายขนาดนี้ ผลลัพธ์มันก็มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่กำลังรอคอยเขาอยู่
“อะไรกัน นี่พวกมันตายก่อนจะได้โจมตีอีกงั้นเหรอ?” แบล็คบลัดอุทานอย่างไม่พอใจ
“ใจเย็น ๆ มันจะต้องมีจุดอ่อนอะไรแน่ ๆ เกมไม่มีทางออกแบบตัวละครที่ไม่มีจุดอ่อนขึ้นมาหรอก” บลัดไทแรนท์กล่าว
“เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แต่คุณก็ยังใจเย็นอยู่อีกงั้นเหรอ?! ตั้งแต่มันปรากฏตัวขึ้นมาพวกเราก็เสียเปรียบมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ ยิ่งถ้าเราปล่อยมันเอาไว้อีกเดี๋ยวพวกเราก็คงจะชิบหายด้วยกันหมด” แบล็คบลัดกล่าวอย่างร้อนรน
—
ที่แนวหน้าของสนามรบ
เสี่ยวเหลียงได้สังหารผู้เล่นของเดธโซลและบลัดเติสตี้ไปเป็นจำนวนมาก และทำให้ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นักรบตัวแดงคนนี้อีกต่อไปแล้ว
เหล่าบรรดานักธนูพยายามโจมตีเสี่ยวเหลียงจากในระยะไกล แต่น่าเสียดายที่การโจมตีของพวกเขาสร้างความเสียหายได้เพียงครั้งละ 1 หน่วยเท่านั้น
บลัดไทแรนท์มองสถานะการณ์ตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร ซึ่งหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปอีกประมาณ 5 นาที เขาก็เริ่มตระหนักถึงอะไรบางอย่าง
“นายสังเกตเห็นไหมว่าผู้เล่นคนนี้จะเรียกใช้สกิลหมุนปั่นก็ต่อเมื่อมันถูกโจมตีเท่านั้น ถ้าหากว่ามันไม่มีใครโจมตีเข้าใส่ มันก็เป็นเพียงแค่ตัวแทงค์ธรรมดาคนหนึ่ง” บลัดไทแรนท์กล่าวกับแบล็คบลัด
แบล็คบลัดกำลังมองดูสนามรบอย่างกระวนกระวาย แต่เมื่อเขาได้ยินคำอธิบายของบลัดไทแรนท์มันก็ทำให้เขาเริ่มนึกถึงเรื่องในก่อนหน้านี้ทันที
“จริงด้วย! เมื่อกี้ตอนที่มันกระโดดเข้าไปในฝูงชนแต่ไม่มีใครโจมตี ตัวของมันก็ไม่ได้หมุนปั่นโจมตีด้วยเหมือนกัน”
“อีกอย่างคือมันกลัวเวทมนตร์ด้วย เพราะพวกเราสั่งให้ทีมนักเวทโจมตีเข้าไปหลายครั้ง แต่มันมักจะกระโดดเข้ามาใช้สกิลบังคับให้นักเวทโจมตีธรรมดาเข้าใส่มันตลอด” บลัดไทแรนท์อธิบายต่อ
แบล็คบลัดมองไปยังเสี่ยวเหลียงพร้อมกับพยักหน้า จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปยังทีมนักเวทเพื่อสั่งการว่า
“ใช้บลิซซาร์ดกับไอซ์รอร์พยายามควบคุมมันให้อยู่กับที่”
ทีมนักเวท 3 ทีมเริ่มเคลื่อนที่จากด้านหลังไปแนวหน้าตามคำสั่ง จากนั้นหัวหน้าทีมนักเวทก็ตะโกนสั่งการขึ้นมาว่า
“ใช้บลิซซาร์ดคลุมพื้นที่ 50 เมตรทางด้านหน้าเอาไว้!”
เสี่ยวเหลียงมองทีมนักเวททั้ง 3 ทีมด้วยแววตาอันเป็นประกาย และตระหนักได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายค้นพบจุดอ่อนของตัวเองแล้ว เขาจึงรีบกระโดดกลับไปทางปากทางออกของหุบเขาเพื่อหลบหลีกผลของสกิลบลิซซาร์ดที่กำลังถูกปล่อยออกมา
“มันกลัวเวทมนตร์จริง ๆ ด้วย ทีมนักเวทบุกเข้าไปอย่าปล่อยให้มันหนีได้เป็นอันขาด” แบล็คบลัดตะโกนสั่งเสียงดัง
นักเวททั้ง 300 คนพร้อมใจกันใช้สกิลแฟลชเพื่อไล่ตามเสี่ยวเหลียงไป
“ถึงจะรู้ตอนนี้แต่มันก็สายเกินไปแล้ว” เสี่ยวเหลียงที่กลับไปยืนตรงบริเวณปากทางออกหุบเขาโบกมือออกคำสั่งให้นักธนูทั้ง 3,000 คนที่เตรียมตัวรอเอาไว้อยู่แล้วพร้อมใจกันยิงลูกธนูออกไป
กองกำลังพิทักษ์ราชินีที่เพิ่งเสียชีวิตไปในการต่อสู้ครั้งก่อนหน้านี้ก็ถูกชุบชีวิตกลับมาเข้าร่วมการต่อสู้ได้อีกครั้งด้วยเช่นกัน
การยิงธนูขึ้นไปบนฟ้าสามารถโจมตีได้ไกลที่สุดถึง 60 เมตร เมื่อทีมนักเวทของเดธโซลและบลัดเติสตี้ใช้สกิลแฟลชกระโดดเข้ามา พวกเขาก็ถูกห่าธนูถล่มเข้าใส่อย่างหนักและทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีเกือบ 100 คน
“ทีมนักเวทรีบหนีกลับมาเร็วเข้า!” แมทช์แซดตะโกนสั่งการอย่างตื่นตระหนก
“อย่าเพิ่งหนี! ทีมนักเวทถอยกลับมาแค่ 10 เมตร ส่วนทีมนักรบชุดทองเตรียมเข้าประจำการ ทุกกองกำลังเตรียมตัวบุกโจมตีเข้าไปพร้อม ๆ กัน พวกมันไม่เหลืออะไรจะต่อต้านพวกเราได้อีกแล้ว” บลัดไทแรนท์ตะโกนสั่ง
“เราจะโจมตีเข้าไปเต็มกำลังเลยงั้นเหรอ?” แบล็คบลัดถามอย่างลังเล
“ใช่ พวกเราจะสั่งให้กองกำลังทั้งหมดบุกเข้าไปในคราวเดียว” บลัดไทแรนท์กล่าวอย่างเย็นชา
“ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบสั่งการลงไปเดี๋ยวนี้เลย” แบล็คบลัดกล่าวอย่างตื่นเต้น ซึ่งหลังจากที่เขาพูดจบไปเพียงแค่ไม่นาน เฟียร์เลสก็ส่งข้อความมาหาว่า
“ตอนนี้ผมนำกำลังพล 70,000 คนตามมาสนับสนุนแล้ว”
“ดีมาก สั่งให้ทุกคนเตรียมรบในทันที พวกเรากำลังจะบุกทะลวงศัตรูอย่างสุดกำลังแล้ว” แบล็คบลัดตอบก่อนจะหันไปพูดกับบลัดไทแรนท์ที่อยู่ใกล้ ๆ ว่า
“กำลังสนับสนุนทั้ง 70,000 คนของฉันเดินทางมาถึงแล้ว ถ้าพวกเขาได้รวมกับกำลังพลที่มีอยู่ในตอนนี้ พวกเราก็มีกองกำลังทั้งหมด 180,000 คน”
คำพูดนี้สามารถสร้างความฮึกเหิมขึ้นมาได้ในทันที เพราะในเวลาปัจจุบันกองกำลัง 180,000 คนมันก็เป็นจำนวนที่มากพอที่จะกวาดล้างศัตรูได้ทั้งหมด
“ดีมาก พวกเราจะบุกเข้าไปยึดป้อมปราการมาในคราวเดียวและเราก็จะจัดการกับลู่หยางไปด้วยเลย” บลัดไทแรนท์กล่าว
“คราวนี้พวกเรามาจัดการกับลู่หยางให้มันสิ้นซากไปด้วยกันเถอะ” แบล็คบลัดกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะลั่น
ทั้งคู่ต่างก็พอใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันมาก จากนั้นพวกเขาก็ยืนมองกองทัพที่เดินตามทีมนักรบโล่ชุดทองไปอย่างช้า ๆ เพราะหลังจากนักรบโล่ใช้สกิลชิลด์วอล์ขึ้นมาแล้วความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขาก็จะลดลงเหลือเพียงแค่ 50%
ไม่นานนักรบโล่ทั้ง 100 คนก็เคลื่อนที่เข้ามาห่างจากปากหุบเขาเพียงแค่ 30 เมตร แมทช์แซดจึงตะโกนสั่งการขึ้นมาว่า
“ทุกคนห้ามถอยมาเป็นอันขาด ทางด้านหลังมีทีมนักบวชคอยรักษาให้อยู่”
“ครับ/ค่ะ” นักรบโล่ชุดทองทั้ง 100 คนต่างก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนคิดว่าพวกเขาคงจะถูกโจมตีจากศัตรูอย่างหนัก แต่หลังจากเวลาผ่านพ้นไป 10 วินาทีมันกลับไม่มีใครถูกโจมตีเลยแม้แต่คนเดียว
“แปลกมาก ทำไมพวกมันไม่โจมตีเข้ามา?” แมทช์แซดอุทานอย่างสงสัยและเมื่อเขาชะโงกหน้ามองไปทางปากหุบเขา เขาก็ได้พบว่าพื้นที่บริเวณนั้นไม่มีใครอยู่เลย
“หรือว่าพวกมันกำลังวางแผนอะไรอยู่? ถ้ามีใครพุ่งออกมาทุกคนเตรียมการรักษาไว้เลยนะ” แมทช์แซดสั่งการอย่างระแวง
“ครับ/ค่ะ!” ทุกคนตะโกนรับ
การโจมตีของเสี่ยวเหลียงเมื่อสักครู่ทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน นักรบโล่ทั้ง 100 คนจึงเดินหน้าต่อไปอย่างหวาดระแวง แต่ถึงแม้พวกเขาจะเดินมาจนถึงปากหุบเขา แต่พวกเขาก็ไม่พบศัตรูเลยแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตามเมื่อแมทช์แซดมองออกไปทางด้านนอกของหุบเขา มันก็ทำให้เขาอ้าปากค้างจนพูดอะไรไม่ออก
“ข้างหน้ามีอะไร? รีบรายงานมาเร็วเข้า” แบล็คบลัดถามพร้อมกับขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นว่านักรบโล่ของตัวเองสามารถเดินไปจนถึงปากหุบเขาได้อย่างง่ายดาย
“คราวนี้พวกเราแพ้แล้วครับ” แมทช์แซดพูดอย่างสิ้นหวัง
“แกพูดบ้าอะไรของแก?! รีบบอกมาข้างหน้ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” แบล็คบลัดพูดอย่างไม่พอใจ
“คุณลองมาดูเองเถอะ” แมทช์แซดกล่าว
“เกิดอะไรขึ้น? เขาบอกว่าอะไร?” บลัดไทแรนท์ถามอย่างงุนงง
“มันบอกให้เราไปดูข้างหน้าด้วยตัวเอง ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาพูดเรื่องอะไร” แบล็คบลัดตอบกลับ
“แบบนี้แสดงว่ามันจะต้องมีปัญหาแน่ ๆ พวกเราไปดูด้วยกันเถอะ” บลัดไทแรนท์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
แบล็คบลัดพยักหน้ารับก่อนจะนำทีมองครักษ์เดินไปยังยอดเนินบริเวณปากหุบเขา และหลังจากที่พวกเขามองออกไปทางลานกว้างด้านนอก มันก็ทำให้ทั้งคู่อ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
บริเวณทุ่งราบนอกปากหุบเขาเต็มไปด้วยกองทัพบลัดบราเธอร์ที่กำลังยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งจากการวัดจำนวนคร่าว ๆ ทางสายตากองกำลังนี้ก็น่าจะมีจำนวนอยู่มากกว่า 100,000 คน
“ทำไมพวกมันถึงมีคนมากมายขนาดนี้?” แบล็คบลัดกล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก
ช่วงแรกบลัดไทแรนท์ก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจออกมาด้วยเช่นกัน ก่อนที่ใบหน้านั้นมันจะเปลี่ยนไปอย่างดุร้าย
“ลู่หยางมันเป็นคนนำทัพมาด้วยตัวเอง!”
ห่างจากปากทางเข้าหุบเขาไปประมาณ 150 เมตร ลู่หยางกำลังยืนมองบลัดไทแรนท์และแบล็คบลัดด้วยรอยยิ้ม โดยบริเวณด้านหลังคือกองกำลัง 80,000 คนที่เขานำมาจากหุบเขาฟีนิกซ์ เมื่อมันได้รวมกับกองกำลังที่รักษาการณ์อยู่ที่นี่อีก 70,000 คน มันก็หมายความว่าพวกเขามีกองกำลังอยู่ทั้งสิ้น 150,000 คน
“บลัดไทแรนท์! แบล็คบลัด! วันนี้ฉันจะให้โอกาสพวกแกสู้กับฉันอย่างยุติธรรม จัดกองทัพของพวกแกออกมาจากหุบเขาซะ ฉันสัญญาว่าเราจะไม่โจมตีพวกแกระหว่างทาง วันนี้พวกเราจะเผชิญหน้ากันซึ่ง ๆ หน้าเพื่อตัดสินว่าใครคู่ควรจะได้เป็นเจ้าของป้อมปราการวินด์ธันเดอร์กันแน่” ลู่หยางตะโกนเสียงดัง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 164
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น