บทที่ 288 วิกฤติครั้งใหญ่
บทที่ 288 วิกฤติครั้งใหญ่
ลู่หยางคิดภายในใจอย่างจนปัญญาว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังหาวิธีการเอาคืนเขาอย่างแน่นอน แต่ทันใดนั้นมันก็ได้มีความคิดเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาภายในใจ เขาจึงแกล้งแสดงท่าทีอันเจ็บปวดพร้อมกับร้องโอดโอยขึ้นมาว่า
“ช่วยมาพยุงพี่หน่อยสิ พี่เจ็บจนลุกยืนไม่ไหวแล้ว”
หลานอวี่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของลู่หยาง ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงมาพูดด้วยความภูมิใจ
“เจ้าคนกะล่อน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่”
หลังจากได้เห็นหลานอวี่วิ่งไปอย่างมีความสุข ลู่หยางก็คิดขึ้นมาภายในใจว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันเขาเกินไปแล้ว
“ได้เลย พรุ่งนี้เจอกัน” ชายหนุ่มคิดขึ้นมาภายในใจ
—
เช้าวันรุ่งขึ้น
ลู่หยางเดินมาถึงลานหน้าหอพักหญิงด้วยสีหน้าอันสดใส ก่อนที่เขาจะได้เห็นเสินเมิ่งเหยาและเพื่อนสาวอีก 3 คน
“สวัสดี” ลู่หยางทักทาย
“สวัสดี” เสินเมิ่งเหยาตอบกลับอย่างร่าเริง
“เมื่อคืนมีข่าวดีอะไรหรือเปล่า ทำไมเธอถึงมีความสุขขนาดนี้?” ลู่หยางถาม
“ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้วน่ะสิ” เสินเมิ่งเหยาตอบด้วยสีหน้าอันเขินอาย
ทันใดนั้นจางเหมิง, ฉู่อวี้และหลิวฉ่วงต่างก็มองไปยังลู่หยางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ แต่จู่ ๆ ลู่หยางกลับพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดีว่า
“จริงเหรอ?!”
“อือ” เสินเมิ่งเหยาตอบรับพร้อมกับพยักหน้า
“แฟนเธอคงจะหน้าตาดี, คิ้วเข้ม, ตาโต ดูเท่มากเลยใช่ไหม?” ลู่หยางถาม
เสินเมิ่งเหยาแสดงสีหน้าออกมาอย่างสับสน เพราะเธอไม่เคยคิดถึงรูปร่างหน้าตาของลู่หยางในโลกแห่งความเป็นจริงมาก่อน เธอจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับพูดว่า
“ก็น่าจะใช่ล่ะมั้ง”
แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ย่อมทำให้พวกฉู่อวี้ตกอยู่ในความสับสน
“ลู่หยางเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า?” หลิวฉ่วงถาม
“เป็นไปได้นะ ถ้าฉันเจอข่าวร้ายอย่างกะทันหันแบบนี้ บางทีสติฉันก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว” จางเหมิงกล่าว
“น่าสงสารเขาจริง ๆ” ฉู่อวี้กล่าว
ลู่หยางไม่ค่อยพอใจกับคำตอบของเสินเมิ่งเหยามากนัก เขาจึงพูดออกไปว่า
“สาวสวยอย่างเธอย่อมจะต้องหาแฟนหล่อได้แน่ ๆ เขาคนนั้นจะต้องหล่อมากเลยใช่ไหม?”
“เขาก็หล่อดีนะ แต่ฉันชอบท่าทางที่ดูเด็ดเดี่ยวและน่าเกรงขามของเขามากกว่า” เสินเมิ่งเหยากล่าว
“แล้วเธอเริ่มชอบเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ลู่หยางถามอย่างดีใจ
“ประมาณเดือนที่แล้วได้ล่ะมั้ง เขาคอยดูแลเอาใจใส่ฉันตลอดเลย” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต
“เหมือนที่ฉันคอยดูแลเธอแบบนี้ใช่ไหม?” ลู่หยางถาม
“ไอ้ขี้แย! นายเอาแต่แกล้งฉันอย่างเดียวต่างหาก” เสินเมิ่งเหยาบ่นก่อนที่เธอจะรีบวิ่งไปหาครูฝึก
ลู่หยางแอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และเขาก็อยากจะรู้ว่าหากความจริงถูกเปิดเผยออกไป เสินเมิ่งเหยาจะแสดงสีหน้าออกไปยังไงกันแน่
“ลู่หยาง นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” จางเหมิงพยายามเดินเข้ามาปลอบใจ
“ไม่เป็นไร พวกเราไปฝึกกันเถอะ” ลู่หยางตอบกลับด้วยรอยยิ้มเมื่อได้เห็นสายตาอันห่วงใยของสาว ๆ ทั้ง 3 คน
ทั้งสามสาวคิดว่าลู่หยางคงจะเสียใจกับเรื่องนี้มาก พวกเธอจึงไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก
—
กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตลอดทั้งวันลู่หยางมักจะหาโอกาสไปแกล้งเสินเมิ่งเหยาอยู่เสมอจนทำให้เธอแก้มป่องอย่างไม่พอใจ ขณะที่ลู่หยางก็คอยแอบขำอยู่เรื่อย ๆ
ยามเย็น
หลังจากการฝึกจบลงลู่หยางก็เดินไปหาเสินเมิ่งเหยาพร้อมกับเริ่มถามถึงเรื่องราวของแฟนเธอต่าง ๆ นานา
เมื่อพวกเขาเดินมาจนถึงประตูมหาลัย รถลัมโบร์กีนีคันใหม่ก็ขับเข้ามาอย่างรวดเร็วและเมื่อเสียงของเบรครถดังขึ้นอย่างกะทันหัน มันก็ทำให้ทุกคนหันมองมาทางรถสปอร์ตคันหรูด้วยความสนใจ
เมื่อลู่หยางเห็นเจียงเจ๋อลงมาจากรถ เขาจึงชูมือขึ้นพร้อมกับตะโกนออกไปว่า
“ฉันอยู่นี่”
“ทำไมนายยังดูสบายใจอยู่ได้ รีบกลับไปกับฉันเร็วเข้า ตอนนี้มันมีเรื่องใหญ่แล้ว!” เจียงเจ๋อวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ
“มีอะไรงั้นเหรอ?” ลู่หยางถามอย่างตกใจ
“ขึ้นรถก่อนค่อยคุยกันทีหลัง” เจียงเจ๋อลากลู่หยางขึ้นรถอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเหยียบคันเร่งออกไปจนมิด
“มีอะไร? บลัดเติสตี้กับเดธโซลนำกองกำลังบุกเข้ามางั้นเหรอ” ลู่หยางถาม
“ความจริงมันน่ากลัวกว่านั้นอีก วีดีโอของเซี่ยหยู่เว่ยมียอดเข้าชมมากกว่า 500 ล้านครั้งแล้วจุดรับสมัครของเรามันเลยแน่นไปหมด แค่วันนี้วันเดียวมีคนต้องการเข้าร่วมกิลด์ด์ของเรามากกว่า 50,000 คน แล้วพวกเขาต่างก็เรียกร้องว่าอยากจะไปอยู่ในกองกำลังของเซี่ยหยู่เว่ยกันทั้งหมดเลย” เจียงเจ๋อกล่าว
“เซี่ยหยู่เว่ยมีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ยังจะมาพูดติดตลกอีก นี่มันเรื่องใหญ่นะ! ถ้าเราจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีเซี่ยหยู่เว่ยอาจจะพาคนพวกนั้นแยกออกไปตั้งกิลด์ใหม่ขึ้นมาได้เลย ความจริงตอนนี้มันก็มีคนเรียกร้องให้เซี่ยหยู่เว่ยแยกตัวออกไปตั้งกิลด์ด์ใหม่แล้วและมันก็มีคนให้เสียงตอบรับกันเยอะมาก”
“นอกจากนี้ฉันยังได้ยินข่าวมาว่าฉือมู่พยายามทุ่มสุดตัวที่จะดึงฉิงชางไปเข้าร่วมกิลด์ ถึงขนาดที่เขายอมเสนอค่าตอบแทนให้ปีละ 300,000 เครดิตเชียวนะ”
“ทางฉงป้าก็แอบไปประลองกับสามพี่น้องตระกูลไป๋ที่สนามประลองด้วยเหมือนกัน ฉันคิดว่าเขาจะต้องไปชวนทั้ง 3 คนไปร่วมกิลด์ด้วยแน่ ๆ”
“หากเซี่ยหยู่เว่ยแยกตัวออกไปมันน่าจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างแน่นอน ในเวลานั้นแม้แต่ฉิงชางหรือสามพี่น้องตระกูลไป๋ก็อาจจะลาออกจากกิลด์ของเราด้วย” เจียงเจ๋อพูดอย่างร้อนรน
“ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เล่า มันยังมีเรื่องอะไรอื่นอีกไหม?” ลู่หยางพยายามปลอบใจสหาย
“ฉันได้ยินมาว่าบลัดเติสตี้อาจติดต่อไปหาพวกบิทเทอร์เลิฟแล้ว แม้แต่ผู้เล่นชั้นยอดภายในกิลด์ของเราอย่างเรดลีฟไฟอิ้งกับแบล็คโน้ตก็มีกิลด์อื่นติดต่อมาทาบทามด้วยเหมือนกัน โดยพวกเขาเสนอค่าตอบแทนที่สูงกว่ากิลด์ของเราซะอีก” เจียงเจ๋อกล่าว
ลู่หยางตบไหล่เจียงเจ๋อเบา ๆ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“เชื่อฉันเถอะว่าพวกเขาไม่ทิ้งเราไปไหนหรอก”
“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นล่ะ?” เจียงเจ๋อถาม
“ฉันเชื่อมั่นในตัวของทุกคนที่ฉันชักชวนพวกเขามากับมือ คนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนที่จะทอดทิ้งเพื่อนพี่น้องเพราะเรื่องเงิน และพวกเขาก็ไม่ใช่คนที่จะถูกซื้อตัวด้วยผลประโยชน์ด้วย” ลู่หยางกล่าว
คำตอบของอีกฝ่ายทำให้เจียงเจ๋อมองไปทางลู่หยางด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหนกันแน่
“นายอาจจะต้องเตรียมใจไว้บ้างนะ คนอื่น ๆ อาจจะไม่ไปแต่เซี่ยหยู่เว่ยอาจจะไปจริง ๆ ตอนนี้ฉันติดต่อเธอในเกมไม่ได้แล้ววันนี้เธอก็ยังไม่เข้าเกมอะไรด้วยซ้ำ” เจียงเจ๋อกล่าว
“เราเข้าเกมไปดูสถานการณ์กันก่อนเถอะแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” ลู่หยางกล่าว
—
ในเกม
จุดรับสมัครกิลด์บลัดบราเธอร์
“พวกเราต้องการสมัครเข้ากิลด์”
“ถ้าคุณไม่รับพวกเรา พวกเราก็จะแยกตัวออกไปตั้งกิลด์เองกับเซี่ยหยู่เว่ย”
“ใช่แล้ว พวกเราคือกองทัพผู้พิทักษ์ราชินี พวกเราจะก่อตั้งกิลด์เพื่อราชินีของพวกเรา”
ผู้เล่นกว่า 100,000 คนได้มาชุมนุมกันตรงบริเวณจุดรับสมัครคนเข้าร่วมกิลด์ ถูเฟิงกับผู้เล่นอีก 50 คนที่ทำหน้าที่เป็นคนคอยรับสมาชิกใหม่จึงทำได้เพียงมองไปยังฝูงชนอย่างจนปัญญา
ทันใดนั้นเจียงเจ๋อก็พาลู่หยางเข้ามามองดูสถานการณ์จากในระยะไกล
“เห็นไหม? ฉันบอกแล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้มันแย่มาก คนที่สมัครเข้ากิลด์มาเมื่อคืนก็ออกจากกิลด์ไปเยอะมากด้วยเหมือนกัน เพราะพวกเขาบอกว่ากฎเกณฑ์ที่เราตั้งขึ้นมามันทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับเซี่ยหยู่เว่ยยากเกินไป” เจียงเจ๋อกล่าว
ลู่หยางพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“เรื่องนี้ถึงฉันจะออกตัวไปแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ นายไปจัดการธุระของตัวเองเถอะ รอให้เซี่ยหยู่เว่ยเข้าเกมแล้วพวกเราค่อยมาจัดการเรื่องนี้กันทีหลัง”
เจียงเจ๋อพยักหน้ารับ
“ตอนนี้พวกฉิงชางอยู่ไหน?” ลู่หยางถาม
“พวกเขากำลังนำทีมบุกเบิกพื้นที่ใหม่อยู่” เจียงเจ๋อตอบ
“ถ้างั้นเราก็ไปดูพวกเขากันก่อนก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าว
อะไรจะขนาดนั้นนนนน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 224
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น