บทที่ 250 โชว์กล้าม
บทที่ 250 โชว์กล้าม
“สุดยอด! นี่เขากระโดดจากจุดนั้นเลยเหรอเนี่ย?!”
“เรื่องแบบนี้แม้แต่ทีมมหาลัยก็ยังทำไม่ได้เลยนะ”
“เขาน่าจะไปเล่นลีกอาชีพได้แล้วด้วยซ้ำ”
ฝูงชนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ลู่หยางจึงหันไปยิ้มให้ลี่ฉวนอีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป
เสินเมิ่งเหยามองตามลู่หยางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อชายหนุ่มเดินกลับมาเธอก็เริ่มพูดออกไปว่า
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายแข็งแรงขนาดนี้”
“ไม่เท่าไหร่หรอก” ลู่หยางกล่าว
ร่างกายในปัจจุบันยังห่างจากช่วงที่เขาแข็งแกร่งที่สุดอยู่มาก และความเร็วในการตอบสนองของร่างกายก็ยังช้ากว่าในชาติก่อนถึง 0.2 วินาที
แม้ตัวเลข 0.2 วินาทีจะฟังดูเป็นเวลาเพียงแค่เล็กน้อย แต่ในป่าที่เต็มไปด้วยกระสุนปืนความแตกต่างเพียงแค่เล็กน้อยนี้กลับเป็นความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตาย
แปะ ๆ ๆ
หวังจิงเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงปรบมือ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวของลู่หยางด้วยตาของตัวเอง
“ถ้านายไม่ไปเป็นทหาร ฉันจะรู้สึกเสียดายมากจริง ๆ นะ”
“พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่าผมขอเวลาคิดหน่อย” ลู่หยางกล่าว
“ฉันก็แค่พูดไปงั้น ๆ เอง” หวังจิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายจะไปเป็นทหารเหรอ?” เสินเมิ่งเหยาถาม
“ฉันแนะนำให้เขาไปเรียนโรงเรียนทหาร 2 ปีหลังจากจบออกมาแล้วเขาจะได้เป็นหน่วยรบพิเศษ” หวังจิงพูดแทรกขึ้นมา
“แต่โควตาของกองทัพมีน้อยมากเลยนะคะ ปีที่แล้วน้องชายฉันยังสมัครเข้าโรงเรียนทหารไม่ได้เลย” เสินเมิ่งเหยากล่าว
“ก็ใช่น่ะสิ แต่ไอ้หนุ่มนี่ยังบอกว่าขอเวลาคิดดูก่อน” หวังจิงพูดอย่างหงุดหงิด
“ผมต้องถามความเห็นพ่อกับแม่ก่อนไม่ใช่เหรอครับ เมื่อคืนผมโทรไปหาพ่อกับแม่แล้วอีก 2 วันพวกเขาจะกลับมาแล้ว ตอนนั้นผมจะให้คำตอบกับคุณอย่างแน่นอน” ลู่หยางกล่าว
“ก็ได้”
ไม่นานเวลาก็เดินผ่านมาจนถึง 8:00 น. เหล่าบรรดานักเรียนที่กินอาหารเช้าจนเสร็จจึงมารวมตัวกันที่สนามฝึกและทำการฝึกฝนประจำวัน
การฝึกตอนเช้าไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เพราะอากาศในเดือนกันยายนค่อนข้างที่จะสดชื่นแต่ในช่วงบ่ายแสงแดดเริ่มแผดเผา เมื่อมันรวมกับร่างกายที่อ่อนล้ามันก็ทำให้ทุกคนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
แน่นอนว่าลู่หยางคือข้อยกเว้น เพราะการฝึกเพียงแค่นี้ทำให้ร่างกายของเขามีเหงื่อไหลออกมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เช่นเดียวกันกับหวังจิงที่แทบจะไม่มีเหงื่อไหลออกมาให้เห็นเลย
ในช่วงเวลาพักถึงแม้นักศึกษาหญิงจะอยู่ห่างไกลออกไป แต่โม่หลงก็ยังคงเลือกที่จะถอดเสื้อออกมาเพื่อบิดเหงื่อออกจากเสื้อของตัวเอง
“ลู่หยางร่างกายของนายมันทำมาจากอะไรเนี่ย ทำไมนายแทบไม่เป็นอะไรเลย?”
“ใช่ ทำไมนายถึงแทบไม่มีเหงื่อเลยล่ะ?” หลินตรงถามพร้อมกับถอดเสื้อออกมาบิดเหงื่อด้วยเช่นกัน
หวังจิงเห็นนักเรียนถอดเสื้อออกทีละคน เขาจึงพูดเตือนกลับไปว่า
“อะไรกันแค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ? ทุกคนใส่เสื้อกลับไปให้หมดเลย”
เสื้อที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อให้ความรู้สึกราวกับพวกเขากำลังสวมชุดเกราะน้ำแข็ง การใส่เสื้อแบบนี้จึงไม่สบายตัวมากและมันก็ไม่มีใครอยากจะใส่เสื้อกลับเข้าไป
“ครูฝึกพวกผมไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแรงขนาดนั้น แค่นี้พวกผมก็เหนื่อยกันจะแย่แล้ว”
“ใช่ครับ ตอนนี้เสื้อเปียกชุ่มไปหมด ถ้าใส่เสื้อกลับเข้าไปบางทีพวกเราอาจจะเป็นหวัดก็ได้นะ”
ระหว่างที่กลุ่มผู้ชายกำลังบ่น ครูฝึกหญิงที่อยู่ห่างออกไปก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“ทุกคนมานี่เร็วเข้าไหน ๆ พวกผู้ชายก็ถอดเสื้อโชว์กล้ามแล้วพวกเราก็มาดูกันใกล้ ๆ หน่อย”
เสียงครูฝึกเรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มสาว ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และถึงแม้ใบหน้าของพวกเธอจะแดงก่ำ แต่พวกเธอก็ยังคงเดินเข้ามาตามคำสั่งของครูฝึก
เมื่อระยะห่างระหว่างกลุ่มผู้ชายกับกลุ่มผู้หญิงลดเหลือ 2 เมตร ครูฝึกสาวก็สั่งให้ทุกคนหยุดและนั่งพักได้ตามสบาย
หลังได้เดินเข้ามาดูใกล้ ๆ สาว ๆ ก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เหล่าบรรดานักศึกษาชายปี 1 จึงเริ่มเกิดความเขินอายทำให้พวกเขาใส่เสื้อกลับไปในทันที
หวังจิงเห็นสีหน้าอันภาคภูมิใจของครูฝึกฝั่งตรงข้าม เขาจึงหันไปพูดกับเหล่าบรรดานักศึกษาหญิงว่า
“พวกเธออยากเห็นกล้ามกันใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ” เหล่าสาว ๆ ต่างก็ตะโกนขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“ได้ วันนี้ฉันจะให้พวกเธอได้เห็นเองว่ากล้ามเนื้อที่แท้จริงมันควรจะมีหน้าตาเป็นยังไง” หลังจากพูดจบหวังจิงก็ชี้ไปทางลู่หยางก่อนจะพูดว่า
“ออกมายืนตรงนี้แล้วถอดเสื้อซะ”
ตอนแรกลู่หยางคิดว่าตัวเองจะได้ดูเรื่องสนุก ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าแท้ที่จริงเรื่องสนุกนั้นกลับกลายเป็นเขาที่ถูกสั่งให้ถอดเสื้อ
“ครูฝึกอย่าทำแบบนี้สิครับ”
หวังจิงส่งเสียงหัวเราะแล้วพูดว่า
“นี่นายคิดจะขัดคำสั่งของครูฝึกเหรอ? รีบมาตรงนี้เร็วเข้า”
เมื่อได้ยินคำสั่งลู่หยางก็ทำได้เพียงแค่จำใจเดินไปอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 กองร้อย
หวังจิงเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้าง ๆ ลู่หยาง ก่อนที่เขาจะกระซิบขึ้นมาเบา ๆ ว่า
“ฉันเปิดโอกาสให้นายแล้วนะ นายควรใช้โอกาสนี้อวดกล้ามให้สาว ๆ ดู ฉันเชื่อว่าสาว ๆ หลาย ๆ คนจะต้องเข้ามารุมแย่งนายแน่ ในตอนนั้นเสินเมิ่งเหยาก็จะเริ่มรู้สึกกดดันจนต้องรีบเดินเกมรุกเข้าหานาย”
ตอนแรกลู่หยางกำลังยืนงงแต่หลังจากที่เขาได้ยินคำอธิบาย ชายหนุ่มก็รีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“นั่นสินะครับ”
หวังจิงพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปพูดกับทุกคนว่า
“ในสังคมปัจจุบันร่างกายของพวกเราอ่อนแอมากจนเกินไป แต่ถ้าหากพวกเราอยากจะมีชีวิตอยู่รอดในสังคมอันโหดร้ายแบบนี้ได้ อันดับแรกพวกเราก็ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเสียก่อน วันนี้ครูจะให้พวกเธอได้เห็นเองว่าทำไมการฝึกวันนี้ถึงทำให้ทุกคนเหงื่อท่วมตัวแต่ลู่หยางกลับแทบจะไม่เป็นอะไรเลย”
“เอาล่ะถอดเสื้อได้”
“ครับ” ลู่หยางตอบพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง
โดยปกติกล้ามเนื้อลักษณะนี้ทุกคนจะเคยเห็นเพียงแต่ในทีวีเท่านั้น เมื่อกล้ามเนื้อของลู่หยางได้ปรากฏตรงหน้าทุกคน มันก็อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลยเพราะแม้แต่ผู้ชายก็ยังตกตะลึง
“กล้ามโคตรสวย!”
ฉู่อวี้มองไปยังเพื่อนสาวที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะพูดว่า
“ปิดปากเร็วเข้า น้ำลายไหลมาหมดแล้ว”
“ช่วยไม่ได้ก็เขาน่ากินนี่”
เมื่อโม่หลงกับหลินตงได้เห็นกล้ามเนื้อของลู่หยาง พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออก แล้วถึงแม้ว่าภายในใจของทั้งคู่จะเต็มไปด้วยความนับถือ แต่พวกเขาก็อดจะคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าลู่หยางต้องผ่านการฝึกฝนที่ยากลำบากแค่ไหนถึงจะได้กล้ามเนื้อที่สวยงามแบบนี้
หลังเวลาผ่านไปสักพักลู่หยางก็ติดกระดุมเสื้อกลับมาแบบเดิม ระหว่างนั้นสายตาของเขาก็แอบมองไปทางเสินเมิ่งเหยาและได้พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาทางเขาด้วยแววตาอันเป็นประกาย อย่างไรก็ตามเมื่อดวงตาของทั้งคู่ได้สบเข้าหากัน เสินเมิ่งเหยาก็รีบก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
“เขาจะต้องตั้งใจโชว์กล้ามให้ฉันดูแน่ ๆ… แต่มันก็เท่ดีนะ” เสินเมิ่งเหยาคิดภายในใจ
“ลู่หยางกำลังมองเธออยู่นะ” ฉู่อวี้กระซิบข้างหูเสินเมิ่งเหยา
“ไม่ใช่สักหน่อย อย่าพูดไปเรื่อยสิ” เสินเมิ่งเหยาพูดด้วยความเขินอายโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง
ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น นักศึกษาหญิงตาไวคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า
“ลู่หยาง ทำไมที่เอวนายมีรอยช้ำล่ะ ไปถูกใครบิดเอาเหรอ?”
ลู่หยางก้มหน้ามองลงไปที่เอวก่อนที่จะได้พบกับรอยช้ำจริง ๆ เหตุการณ์นี้จึงทำให้เขาอดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้ ส่วนเสินเมิ่งเหยาก็หน้าแดงจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี
หวังจิงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ตอนนี้เห็นแล้วใช่ไหมว่าร่างกายที่แข็งแกร่งจริง ๆ มันเป็นยังไง ฉันไม่ได้คาดหวังให้ทุกคนฝึกฝนไปในระดับเดียวกันกับลู่หยางหรอกนะ แต่อย่างน้อยพวกผู้ชายก็ช่วยมีกล้ามเนื้อให้ฉันได้เห็นหน่อย”
“เข้าใจแล้วครับ!” กลุ่มนักศึกษาชายตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
ช่วงบ่ายการฝึกก็ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึงช่วงเย็นการฝึกถึงได้จบลง
เหล่าบรรดานักเรียนชายแทบไม่เหลือแรงที่จะพูดคุยกันแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงแต่บ่นออกมาเบา ๆ ระหว่างเดินกลับไปยังหอพักเท่านั้น ส่วนสาว ๆ ก็รู้สึกราวกับว่าพวกเธอได้รับการปลดปล่อย มีเพียงลู่หยางที่เดินกลับอย่างสบาย ๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ฉากโชว์กล้ามก็มา 555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 169
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น