บทที่ 249 วันยุ่ง ๆ ของเสินเมิ่งเหยา

-A A +A

บทที่ 249 วันยุ่ง ๆ ของเสินเมิ่งเหยา

บทที่ 249 วันยุ่ง ๆ ของเสินเมิ่งเหยา

ยามเช้า

หอพักหญิงห้อง 301

“เหยาเหยาเร็วเข้า ไม่งั้นจะไม่ทันกินข้าวเช้าแล้วนะ” หลิวฉ่วงตะโกนดังลั่นจนได้ยินไปทั้งชั้นของหอพัก

เสินเมิ่งเหยากำลังรีบจัดกระเป๋า เพราะในช่วงหลายวันมานี้เธอต้องวางแผนเก็บเลเวลให้กับสมาชิกภายในทีม มันจึงทำให้เธอพักผ่อนไม่ค่อยพอ

เวลารวมพลสำหรับการฝึกทหารคือ 8 โมงเช้า ซึ่งมันก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่ใน 1 ชั่วโมงนี้เธอต้องกินข้าวและจัดการธุระส่วนตัว มันจึงทำให้เสินเมิ่งเหยาค่อนข้างวุ่นวายอยู่มากพอสมควร

“พวกเธอไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันรีบตามไป” เสินเมิ่งเหยาตะโกนพร้อมกับจัดเตียงให้เรียบร้อย

“ถ้างั้นพวกเราไม่รอแล้วนะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้กินข้าวการฝึกทั้งวันคงกลายเป็นนรกสำหรับฉันแน่” หลิวฉ่วงกล่าวพร้อมกับวิ่งลงไปชั้นล่าง

“ถ้าเธอหลงก็อย่าลืมโทรหาพวกเรานะ” 

ฉู่อวี้กับจางเหมิงรีบเดินตามไปด้วยเช่นกันและหลังจากการฝึกทหาร มันจึงทำให้สาว ๆ ล้มเลิกความตั้งใจที่จะอดข้าวลดน้ำหนักไปโดยสิ้นเชิง

“ได้ ๆ ๆ ฉันรู้แล้ว” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับพับผ้าห่มอย่างเร่งรีบ แล้วกว่าที่เธอจะลงมาด้านล่างเวลาก็ล่วงเลยผ่านมาถึง 7:20 น แล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากเดินออกมาจากหอพักได้ไม่นาน สาวสวยก็ทำได้แต่เพียงมองไปยังถนนในมหาลัยอย่างเหม่อลอย เมื่อนึกได้ว่าเธอลืมเส้นทางไปที่โรงอาหารอีกแล้ว

“ทำยังไงดีเนี่ย?!” เสินเมิ่งเหยาบ่นอย่างหงุดหงิดพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบศีรษะตัวเองเบา ๆ

“สวัสดีสาวสวย มีอะไรให้ช่วยไหม?” ลู่หยางเอ่ยทักทายขณะก้าวเท้าเดินเข้ามา

“ลู่หยาง! ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้” เสินเมิ่งเหยาอุทานอย่างตกใจ

“พวกโม่หลงชวนฉันไปเล่นบาสฉันเลยเดินผ่านมาแถวนี้พอดี ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” ลู่หยางถาม

“ฉันหลง ทางไปโรงอาหารไปทางไหนเหรอ?” เสินเมิ่งเหยากล่าวอย่างเขินอาย

ลู่หยางชี้นิ้วไปยังประตูขนาดใหญ่พร้อมกับพูดว่า

“เธอเดินผ่านประตูตรงนั้นไปแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายต่อมาก็ให้เลี้ยวขวาอ้อมสวนดอกไม้แล้วเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้ายอีกทีแค่นั้นก็ถึงโรงอาหารแล้ว”

“เอ่อ…ยากจัง” เสินเมิ่งเหยากล่าวด้วยแววตาที่ว่างเปล่า

“ยากตรงไหน ตามมาสิเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเอง” ลู่หยางกล่าว

เสินเมิ่งเหยารู้สึกแปลก ๆ อยู่นิดหน่อยแต่ก็บอกไม่ถูกว่าทำไม สุดท้ายเธอก็ยังคงพูดออกไปอย่างลังเล

“ก็ได้ ขอบคุณนะ”

“ในฐานะสุภาพบุรุษการนำทางสาวสวยเป็นหน้าที่ที่ฉันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบหน้าอกตัวเอง

ในชาติก่อนลู่หยางก็เคยมาเจอเสินเมิ่งเหยาในสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งในตอนนั้นชายหนุ่มเดินพาเสินเมิ่งเหยาไปยังโรงอาหารโดยตรง แต่คราวนี้ชายหนุ่มแกล้งพาหญิงสาวเดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบ ก่อนที่พวกเขาจะกลับมาอยู่หน้าหอพักหญิงอีกครั้ง

เมื่อเสินเมิ่งเหยาเห็นป้ายหอพัก เธอก็ตระหนักว่าตัวเองถูกหลอกอีกแล้ว

“นี่นายแกล้งฉันอีกแล้วเหรอ?!”

สิ่งที่ลู่หยางชอบมากที่สุดคือการแกล้งทำให้เสินเมิ่งเหยาโกรธ เขาจึงยักไหล่อย่างจนใจพร้อมกับพูดว่า

“สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง พูดตรง ๆ ว่าฉันก็หลงทางเหมือนกัน”

“จริงเหรอ?” เสินเมิ่งเหยาเดินมาหาลู่หยางก่อนจะยื่นมือออกไปบิดเนื้อชายหนุ่มตรงบริเวณชายโครง

“โอ๊ย ๆ ๆ พอแล้ว” ลู่หยางร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“คราวหน้ายังจะกล้าแกล้งฉันต่ออีกไหม?” เสินเมิ่งเหยากล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เธอหยิกคนอื่นแบบนี้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเธอได้รับอิทธิพลจากแม่จนกลายเป็นสุภาพสตรี แต่หลังจากที่เธอได้เจอกับคนอย่างลู่หยาง หญิงสาวก็ได้พบว่าการแกล้งคนอื่นบ้างเป็นบางคราวมันก็ทำให้ชีวิตมีสีสันดีเหมือนกัน

“ฉันผิดไปแล้ว ๆ เอานี่อาหารเช้าแต่ช่วยปล่อยมือก่อนได้ไหม?” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหยิบแซนด์วิชเค้กไข่นึ่งที่เตรียมไว้ออกมา

“นี่มันอะไร?” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับมองไปยังกล่องเก็บอาหารที่ลู่หยางหยิบขึ้นมาอย่างระแวง

ลู่หยางเปิดฝากล่องเก็บอาหารออกเผยถึงกลิ่นหอมของเค้กไข่นึ่งที่ยังอุ่น ๆ จนทำให้แววตาของเสินเมิ่งเหยาเปล่งประกายขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“นายไปซื้อมันมาจากไหน? นี่มันของโปรดของฉันเลย” เสินเมิ่งเหยากล่าว

ในชาติก่อนสิ่งที่เสินเมิ่งเหยาชอบกินมากที่สุดคือเค้กไข่นึ่งที่ขายอยู่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย แน่นอนว่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ลู่หยางย่อมจำได้อยู่แล้ว

“ถ้าชอบก็กินเข้าไปสิแล้วนี่ยังมีโยเกิร์ตกับน้ำแร่ด้วย” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหยิบอาหารออกมาจากกระเป๋าราวกับกำลังเล่นมายากล

“มีนายซื้อมาให้ฉันเหรอ?” เสินเมิ่งเหยาถามอย่างประหลาดใจ

“ฉันแค่ได้ยินว่าใครบางคนตื่นสาย รูมเมทของเธอบอกให้ฉันเอาอาหารเช้ามาให้” ลู่หยางกล่าว

ใบหน้าของเสินเมิ่งเหยาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เธอก็ยังคงก้มหน้าและพูดออกมาว่า

“ขอบคุณนะ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ในฐานะของสุภาพบุรุษการรับใช้สาวสวยเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว” ลู่หยางยังคงพูดจาหยอกล้ออยู่เช่นเดิม

“นายนี่มันรู้จักแต่พูดเรื่องไร้สาระจริง ๆ” เสินเมิ่งเหยาตบแขนลู่หยางเบา ๆ ด้วยความเขินอาย

สนามบาสหน้าหอพักหญิง

โม่หลง, ฮวงเชียงและผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นบาสกันอยู่แล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะกำลังเล่นบาส แต่ความจริงแล้วพวกเขากำลังอวดกล้ามให้สาว ๆ ดูต่างหาก

ในช่วงที่หนุ่ม ๆ เข้ามหาลัยภายในร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยฮอร์โมน นักศึกษาเหล่านี้จึงอยากจะลิ้มรสความรักอย่างเร่าร้อน โดยเฉพาะการได้คบกับสาวสวยอันดับ 1 ของมหาลัยอย่างเสินเมิ่งเหยาจึงกลายเป็นความฝันของชายหนุ่มทุกคน

ระหว่างที่หนุ่ม ๆ กำลังเล่นบาสกันอยู่นั้น ลู่หยางกับเสินเมิ่งเหยาก็เดินเข้ามาพร้อมกัน ชายหนุ่มทุก ๆ คนในสนามบาสจึงมองไปทางลู่หยางด้วยแววตาแห่งความเกลียดชัง

“ไอ้หมอนี่มันใครวะ?”

“มันกล้าดียังไงมาแย่งนางฟ้าของฉัน”

“ไอ้พวกไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คิดจะมาแย่งสาวของรุ่นพี่งั้นเหรอ?!”

ผู้ชายทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นปีไหน ๆ ต่างก็มองไปยังลู่หยางอย่างไม่พอใจ แต่โม่หลงกับหลินตงกำลังยกนิ้วโป้งให้กับลู่หยาง

“ไอ้หมอนี่มันเร็วจริง ๆ”

“ฉันพนันได้เลยว่าเสินเมิ่งเหยาจะต้องหนีไม่พ้นลู่หยางแน่ ๆ”

“ฉันเห็นด้วย”

ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังชื่นชมลู่หยางอยู่นั้น พวกเขาก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าสหายของตัวเองกำลังอึดอัด เพราะก่อนเดินทางมาที่นี่โม่หลงได้บอกกับเขาว่าจะมาเล่นบาสที่หน้าหอพักหญิง แต่ใครจะไปรู้ว่าที่นี่กลับมีผู้ชายรวมกันอยู่มากกว่า 10 คน

“พวกเราไปที่อื่นกันดีไหม?” เสินเมิ่งเหยากล่าวด้วยสีหน้าที่อึดอัด

“ไม่เป็นไรหรอก” ลู่หยางกล่าว แต่ในทันใดนั้นมันก็มีลูกบาสพุ่งเข้ามาใส่หัวลู่หยางด้วยความรวดเร็ว

“อุ้ยขอโทษที พลาดไปหน่อย”

“ไม่เป็นไร” ลู่หยางตอบขณะยกมือขึ้นมารับลูกบาสอย่างง่ายดาย

“น้องชายมาเล่นบาสด้วยกันไหม? ถือซะว่าออกกำลังกายก่อนฝึกทหาร” นักศึกษาชายหน้าตาดีคนหนึ่งพูดชวน

“อย่าไปเล่นกับเขาเลย เขาชื่อลี่ฉวนเป็นกัปตันทีมบาสของมหาลัย” โม่หลงเดินเข้ามากระซิบบอกลู่หยาง

ลู่หยางเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาลี่ฉวนด้วยตัวเอง

“รุ่นพี่นี่สบายจริง ๆ ไม่ต้องมาฝึกทหารเหมือนกับพวกเราด้วย ผมขอไม่เล่นดีกว่ากลัวว่าเดี๋ยวจะไม่มีแรงไปฝึกทหาร”

“อะไรกันนี่นายไม่กล้างั้นเหรอ?” ลี่ฉวนพูดด้วยน้ำเสียงอันเจ้าเล่ห์ แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดจบลงลู่หยางก็พุ่งตัวเข้ามาเด้งลูกบาสโดยมีจุดหมายคือการโยนลูกลงห่วง

ลี่ฉวนรีบเอาตัวเข้ามาสกัดลู่หยางในทันที แต่ชายหนุ่มกลับหมุนตัวหลบได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็กระโดดลอยตัวขึ้นไปในอากาศและทุ่มลูกบาสลงไปในห่วงอย่างรุนแรง

 

 


ทำไมผู้ชายเวลาชอบใครต้องคอยแกล้งคนนั้นด้วย ไหนใครเข้าใจอธิบายหน่อยยยย

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.