บทที่ 222 รอ
บทที่ 222 รอ
บ่ายวันรุ่งขึ้น
เจียงเจ๋อกับถูเฟิงวิ่งวุ่นวายกันตั้งแต่เช้า และถ้าหากภายในเกมมีเหงื่อออกมาได้ทั้งสองก็คงจะมีเหงื่อท่วมตัวไปแล้ว
“ตายกันไปกี่คนแล้ว?” ถูเฟิงถาม
“ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้คนของเราตายไปแล้วมากกว่า 4,000 คน” เจียงเจ๋อตอบ
แม้จะได้เห็นสีหน้าตื่นตระหนกของทั้งสองคน แต่ลู่หยางก็ยังคงพูดออกไปด้วยความสงบนิ่ง
“ใจเย็น ๆ สิ่งแรกที่พวกเราควรจะต้องทำในตอนนี้คือการจัดการกับสายลับทั้งหมดที่แฝงตัวเข้ามาภายในกิลด์ของเราก่อน”
ถูเฟิงและเจียงเจ๋อพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับพยายามค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ของตัวเองลง
“นั่นสินะ มันจะต้องมีสายลับคอยให้ข่าวอยู่แน่ ๆ ฉันจะไปจัดการพวกมันเดี๋ยวนี้เลย” เจียงเจ๋อกล่าว
“ถึงจะหาสายลับเจอแต่มันก็ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหานะ อย่างน้อยพวกเราก็ต้องหาโอกาสโต้ตอบเพื่อยกระดับขวัญกำลังใจภายในกิลด์” ถูเฟิงกล่าว
ลู่หยางส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า
“ไม่มีประโยชน์หรอก สิ่งเดียวที่เราทำได้คือการรอจนกว่าพวกฉิงชางจะเตรียมอุปกรณ์จนพร้อม ในตอนนั้นต่างหากที่พวกเราจะเริ่มเปิดฉากกับพวกบลัดเติสตี้”
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ” ถูเฟิงกล่าวอย่างร้อนใจ
ปี๊บ ๆ ๆ ๆ
ระบบโฮโลแกรมของลู่หยางส่งเสียงเตือน โดยระบบนี้เป็นฟังก์ชันใหม่ของตัวเกมที่ผู้เล่นสามารถจ่ายเงินเพื่อเปิดพื้นที่เสมือนจริงในการฉายภาพเสมือนของผู้เล่นเข้าไปในพื้นที่แล้วทำการพูดคุยกันได้
ลู่หยางสังเกตคนในกลุ่มก่อนที่เขาจะได้พบว่าสมาชิกของกลุ่มโฮโลแกรมประกอบด้วย ฉือมู่, ฉงป้า, เหลยหลงและเฉียนเฉียน
ชายหนุ่มกดตอบรับก่อนที่ร่างของเขาจะปรากฏตัวในพื้นที่คล้ายห้องประชุมเสมือนจริง โดยมีคนอื่น ๆ นั่งรอบโต๊ะประชุมรออยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดี” ฉือมู่เริ่มทักทาย
“มีอะไรงั้นเหรอครับ?” ลู่หยางถาม
“ฉันได้ยินมาว่าบลัดเติสตี้เริ่มเปิดฉากโจมตีนายครั้งใหญ่ทำให้ในวันนี้นายสูญเสียกองกำลังไปมากกว่า 4,000 คนแล้ว ว่าแต่นายต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราไหม?” ฉือมู่ถามด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด
“พวกเราปรึกษากันแล้วว่าถ้าหากจำเป็นจริง ๆ พวกเราสามารถส่งกองกำลังไปดึงดูดความสนใจได้ แต่เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะได้ผลมากแค่ไหน” ฉงป้ากล่าว
“ขอบคุณทุกคนมากที่คอยช่วยเหลือผมในยามยากลำบากแบบนี้ แต่ปัจจุบันถึงแม้พวกคุณจะส่งกองกำลังออกไปแต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก มันมีแต่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราทั้งห้าออกไปก่อนเวลาอันควร ดังนั้นพวกคุณยังไม่ต้องทำอะไรหรอกแค่นี้กิลด์ของผมยังทนได้” ลู่หยางกล่าว
“ฉันไม่ค่อยรู้สถานการณ์ทางนั้นชัดเจนมากนัก แต่ถ้าหากจำเป็นจริง ๆ ฉันกับเฉียนเฉียนก็พร้อมที่จะสนับสนุนนายเต็มที่” เหลยหลงกล่าว
“สุดหล่อ พวกเราพร้อมที่จะทำตามคำสั่งของนายทุกอย่าง” เฉียนเฉียนกล่าว
“ขอบคุณมากครับ” ลู่หยางกล่าว
“นายจะเปิดฉากกับมันเลยไหม? เดี๋ยวฉันกับฉงป้าจะส่งกองกำลังไปช่วย 20,000 คน” ฉือมู่กล่าว
“ตอนนี้รอก่อนครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมพร้อมผมจะติดต่อหาพวกคุณแน่นอน” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่ายหน้า
คำตอบของชายหนุ่มทำให้ฉือมู่และฉงป้ามองไปยังลู่หยางอย่างประหลาดใจ เพราะพวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอดทนได้มากขนาดนี้
“เอาล่ะรอนายตัดสินใจแล้วค่อยติดต่อพวกเรามาก็แล้วกัน” ฉือมู่กล่าวก่อนที่จะตัดการเชื่อมต่อจากห้องประชุมเสมือนจริงไป
“โชคดีนะ” เหลยหลงกับเฉียนเฉียนกล่าวก่อนทุกคนจะออกไปกันหมด
เมื่อลู่หยางออกจากห้องประชุมเสมือนจริง ถูเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถามว่า
“ทำไมเมื่อกี้นายถึงนิ่งไปล่ะ?”
“เมื่อกี้ฉือมู่กับฉงป้าติดต่อมาว่าพวกเราต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาไหม” ลู่หยางถาม
“ดีจริง ๆ อย่างน้อยถ้ามีพวกเขาช่วยพวกเราก็น่าจะทนต่อไปได้อีกสักพัก” ถูเฟิงกล่าว
“ฉันยังไม่ได้ขอให้พวกเขาช่วย ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“พวกเขาอาสาให้ความช่วยเหลือมาแท้ ๆ ทำไมนายถึงปล่อยโอกาสแบบนี้ไปล่ะ ถ้าพวกบลัดเติสตี้ยังคงโจมตีต่อไป ในเวลานั้นกิลด์ของพวกเราได้แตกกันจริง ๆ แน่” ถูเฟิงตอบกลับด้วยความตกใจ
ลู่หยางตบไหล่สหายพร้อมกับพูดว่า
“ตราบใดก็ตามที่ฉันยังอยู่ฉันไม่ยอมปล่อยให้บลัดบราเธอร์แตกลงง่าย ๆ หรอก นายไปช่วยเจียงเจ๋อจัดการพวกสายลับเถอะ”
“เออ ก็ได้” ถูเฟิงกล่าวก่อนจะเดินจากไปอย่างสับสน
—
ลู่หยางเดินออกมานอกหมู่บ้านสปอร์ก่อนจะมองดูกลุ่มนักเวทไฟที่แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มแยกออกไปฝึกวิธีการย่อคาถาภายในกลุ่มของตัวเอง
“มีใครมีคำถามไหม?” ลู่หยางถาม
“ผมมีคำถามครับ” นักเวทหนุ่มคนหนึ่งยกมือถาม
ลู่หยางมองไปยังนักเวทคนนั้น ก่อนที่เขาจะเบิกตากว้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“นายชื่ออะไร?”
“ผมชื่อแบล็คเฟลมครับหัวหน้า” แบล็คเฟลมตอบ
ลู่หยางรู้สึกเหมือนกับตัวเองถูกฟ้าผ่า เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าในกองกำลังพิเศษนักเวทของเขาจะมีแบล็คเฟลมผู้ซึ่งเป็นจอมเวทไฟชั้นยอดในชาติก่อนอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
ชายหนุ่มรีบเปิดสัญญาขึ้นมาดูในทันที และเมื่อเขาได้เห็นว่าแบล็คเฟลมเซ็นสัญญากับกิลด์อย่างเป็นทางการ มันก็ทำให้ลู่หยางตะโกนภายในใจด้วยความตื่นเต้น
“มีคำถามอะไร?” ลู่หยางถามโดยพยายามระงับความตื่นเต้นเอาไว้
“ผมใช้สกิลเบลซซิงเบิร์สคล่องแล้วและพบว่าการย่อคาถาเบลซซิงเบิร์สกับเฟลมอิมแพคมีความคล้ายคลึงกัน ผมเลยลองใช้เฟลมอิมแพคดูแต่มันเหมือนจะยังขาดอะไรไปอีกนิดหน่อย และผมก็ยังหาจุดแตกต่างระหว่างเวทมนตร์ทั้งสองอย่างนี้ไม่เจอครับ” แบล็คเฟลมกล่าว
“เดี๋ยวฉันสอนให้ รอแป๊บหนึ่ง” ลู่หยางกล่าวก่อนจะหันไปถามคนอื่น ๆ ว่า
“มีใครใช้เบลซซิงเบิร์สได้คล่องแล้วอีกบ้าง?”
นักเวทไฟทั้ง 99 คนต่างก็รู้สึกละอายใจ เพราะถึงแม้พวกเขาจะฝึกมาวันหนึ่งแล้วแต่พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลาร่ายถึงหกวินาที ซึ่งมันช้ากว่าโหมดอัตโนมัติถึง 1 วินาที มีเพียงแบล็คเฟลมคนเดียวที่สามารถใช้เบลซซิงเบิร์สออกมาได้ภายใน 1 วินาทีเท่านั้น
“เอาล่ะต่อไปนี้ฉันจะแต่งตั้งให้แบล็คเฟลมเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษนักเวทไฟ ถ้าฉันไม่อยู่เขาจะมีหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่างแทนฉัน” ลู่หยางกล่าว
“หัวหน้า ผมกลัวว่าผมจะมีความสามารถไม่พอครับ” แบล็คเฟลมกล่าวอย่างถ่อมตัว
“ไม่เป็นไร ฉันเชื่อใจนาย” ลู่หยางกล่าว
แบล็คเฟลมเป็นถึงนักเวทไฟที่โด่งดังในชาติก่อน นอกจากนี้เขายังมีชื่อเสียงในด้านความซื่อสัตย์และความกล้าหาญ การเลือกอีกฝ่ายมาดูแลกองกำลังพิเศษจึงไม่ใช่เรื่องที่เขาตัดสินใจผิดพลาดอย่างแน่นอน
“ตามฉันมา เดี๋ยวฉันจะสอนเวทมนตร์อื่น ๆ ให้แล้วนายก็ต้องมาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับฉันด้วย” ลู่หยางทำการตัดสินใจในทันทีว่าในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ เขาจำเป็นจะต้องรักษายอดฝีมือจากชาติก่อนคนนี้เอาไว้ให้ได้ก่อน
—
ตกเย็น
เจียงเจ๋อโทรมาหาลู่หยางพร้อมกับพูดว่า
“เรากำจัดสายลับไปได้จนเกือบหมดแล้ว ไม่คิดเลยว่าบลัดไทแรนท์มันจะส่งสายลับเข้ามาภายในกิลด์เรามากกว่า 30 คน และมันก็มีบางคนโดดเด่นถึงขั้นถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมย่อยด้วย”
หัวหน้าทีมย่อย 1 คนจะคอยรับผิดชอบประสานงานดูแลลูกน้อง 150 คน การที่พวกเขาแต่งตั้งสายลับเป็นหัวหน้าแบบนี้มันก็เท่ากับการนำทีมทั้งทีมเข้าสู่หายนะชัด ๆ
“ตอนนี้สมาชิกในกิลด์เป็นยังไงบ้าง?” ลู่หยางถาม
“สภาพทุกคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในช่องแชทมีแต่คำที่ทำให้รู้สึกหดหู่ ตอนนี้คนออกจากกิลด์ไปก็เยอะ แค่วันนี้วันเดียวก็มีคนลาออกไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว” เจียงเจ๋อตอบ
“ไม่ต้องสนใจ เราต้องรอต่อไป” ลู่หยางกล่าว
—
ในดันเจียน
ปัจจุบันพวกฉิงชางต่างก็พยายามฟาร์มอุปกรณ์อย่างร้อนใจ และถึงแม้พวกเขาจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในกิลด์ดี แต่ในตอนนี้มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะแก้ปัญหาอะไรได้เลย
“โจมตีเต็มกำลังแล้วไปดันเจียนต่อไป ตอนนี้หัวหน้ากำลังรอพวกเราอยู่!” ฉิงชางตะโกน
ผู้เล่นภายในทีมกว่า 40 คนต่างก็ส่งเสียงตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยสีหน้าของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ตอนนี้กองกำลังทั้ง 2,000 คนจากรอบแรกและรอบที่ 2 ได้มีอุปกรณ์ระดับเงินเลเวล 20 สวมใส่กันจนครบแล้ว พวกเขาจึงกำลังช่วยกองกำลังรอบที่ 3 อีก 1,000 คนในการหาอุปกรณ์ ขณะที่กองกำลังรอบที่ 3 ทั้ง 1,000 คนก็ใกล้จะมีเลเวล 20 เต็มที
รอ!
สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้มันก็มีเพียงแค่การรอเวลา!
อีกนิดเดียว!


แสดงความคิดเห็น