บทที่ 200 เฮลไฟร์

ครึ่งชั่วโมงต่อมาราชาซอมบี้ทั้งหมดในวิหารก็ถูกลู่หยางแผดเผาจนตาย ร่างกายของพวกมันจึงได้ดรอปหนังสือสกิลลงมามากกว่า 150 เล่ม

“ลูกพี่ พวกเราเรียนรู้สกิลกันครบทุกคนแล้วครับ” เสี่ยวเหลียงพูดอย่างตื่นเต้น

“หลังจากมีสกิลครบแล้วพวกเราก็มีความสามารถมากพอที่จะออกไป PK กับคนอื่นได้สักที” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับโบกมีดภายในมือก่อให้เกิดแสงสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเป็นผลจากการใช้สกิลรีเวิร์สเบลด

หากโจรมีพลังโจมตีสูงมากพอการใช้สกิลนี้ก็จะสามารถสังหารผู้เล่นนับ 10 คนในคราวเดียวทำให้ในช่วงเวลานี้มันถือว่าเป็นหนึ่งในสกิลโกงของโจรทุกคน

ลู่หยางก็ได้รับสกิลเลเวล 30 มาเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นสกิลช็อคเวฟ, มานาแอกกิทและเมจิกสตีล

“หนังสือสกิลส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้ก่อนเดี๋ยวฉันค่อยเอาพวกมันไปใช้ประโยชน์ทีหลัง ส่วนทุกคนอยู่เก็บเลเวลกับฉันที่นี่ไปก่อน หนังสือสกิลที่ทุกคนได้ไปมันยังไม่ครบ เพราะมันยังมีหนังสือสกิลอีกหลายเล่มที่พวกนายยังไม่เคยเห็นมาก่อน” ลู่หยางกล่าว

สกิลภายในเกมไม่ได้มีเพียงแค่สกิลประจำสายอาชีพเท่านั้น แต่มันยังมีสกิลพิเศษอีกอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น นักเวทจะสามารถเรียนรู้เวทมนตร์มังกรหรือเวทมนตร์แห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้

โดยปกติวิธีการเรียนรู้สกิลเหล่านี้คือการจำเป็นจะต้องมีอาชีพลับ หรือไม่พวกเขาก็ต้องหาหนังสือสกิลมาจากวิหารราชาซอมบี้แล้วทำการเรียนรู้สกิลพวกนั้นเข้าไป

สกิลพิเศษแต่ละชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังมหาศาล หากใครได้ครอบครองสกิลเหล่านี้แม้แต่สกิลเดียว พวกเขาก็มักจะมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ภายในสนามรบได้เลย

“นักรบมีสกิลพิเศษอะไรบ้างครับ?” เสี่ยวเหลียงถามหลังจากฟังลู่หยางอธิบายจนจบ

“นักรบมีสกิลพิเศษ 2 อย่าง อย่างแรกชื่อว่าไอร่อนวอล์ที่ช่วยลดความเสียหายที่ได้รับลง 80% แลกกับการลดพลังโจมตีกายภาพและเวทมนตร์ลง 60% อีกอย่างชื่อว่าเรจ มันจะลดพลังป้องกันกายภาพและความต้านทานเวทลง 50% แลกมากับการได้รับพลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น 50%” ลู่หยางตอบ

“ลูกพี่ ผมอยากได้ไอร่อนวอล์ครับ” เสี่ยวเหลียงกล่าว

“นายแน่ใจนะว่าอยากได้ไอร่อนวอล์?” ลู่หยางถาม

“พรสวรรค์ด้านการโจมตีผมสู้พวกฮั่นเฟยไม่ได้ ในเมื่อผมไม่เหมาะกับสายโจมตีผมก็อยากจะเอาดีทางด้านสายป้องกัน” เสี่ยวเหลียงกล่าวพร้อมกับเกาหัว

ในชาติก่อนเด็กหนุ่มก็เคยพูดในลักษณะเดียวกัน ลู่หยางจึงตบไหล่เสี่ยวเหลียงเบา ๆ พร้อมกับพูดว่า

“ถ้ามันมีหนังสือสกิลไอร่อนวอล์ดรอปลงมาฉันจะให้นายเรียนรู้มันแน่นอน แต่ฉันขอรับประกันว่าความสำเร็จของนายจะไม่ด้อยไปกว่าพวกฉิงชางหรอก”

ด้วยความทรงจำและประสบการณ์ที่เขาได้สั่งสมมาจากชาติก่อน ลู่หยางจึงตั้งใจว่าในชาตินี้เขาจะฝึกฝนเสี่ยวเหลียงจนกว่าอีกฝ่ายจะประสบผลสำเร็จ

—

3 วันต่อมา

ลู่หยางพาพวกเสี่ยวเหลียงสังหารมอนสเตอร์ภายในวิหารราชาซอมบี้ตลอด และแน่นอนว่าหนังสือสกิลไอร่อนวอล์ก็ได้ดรอปลงมาโดยไม่มีปัญหา ซึ่งหลังจากเสี่ยวเหลียงได้เรียนรู้สกิลนี้แล้วพลังป้องกันของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่พลังโจมตีกลับลดลงต่ำอยู่ในระดับที่เรียกว่าน่าอเนจอนาถเลยทีเดียว

“พลังโจมตีนี่มันจะต่ำเกินไปแล้ว” ฮั่นเฟยกล่าว

“นายก็ลองสู้กับเสี่ยวเหลียงดูสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะเอาชนะเขาได้ไหม?” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผมเอาชนะพี่เขาไม่ได้หรอกครับ” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับเกาหัว เพราะพลังป้องกันของเสี่ยวเหลียงมีสูงกว่าพลังโจมตีของเขามาก

เมื่อได้เห็นท่าทางของเด็กหนุ่ม ลู่หยางก็อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้โดยที่มีคนอื่น ๆ หัวเราะตามมาด้านหลัง

“ถึงผมจะไม่มีพลังโจมตีมันก็ไม่สำคัญ ขอแค่ผมช่วยเหลือลูกพี่ได้ก็พอ” เสี่ยวเหลียงกล่าว

“ขอบใจมาก” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับโอบไหล่เด็กหนุ่มเอาไว้ แต่ในทันใดนั่นเองเจียงเจ๋อก็ส่งข้อความเข้ามาหาเขา

“ตอนนี้การโจมตีของบลัดเติสตี้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ คนของเราที่ออกไปเก็บเลเวลข้างนอกตายไปแล้วมากกว่า 3,000 คน”

เจียงหัว: คนในกิลด์ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้แค้นถึงขั้นขู่ว่าถ้านายไม่ออกหน้าพวกเขาจะลาออกจากกิลด์

ลู่หยางขมวดคิ้วพร้อมกับตอบกลับไปว่า: จดชื่อคนพวกนี้เอาไว้ให้หมด พวกมันจะต้องเป็นสายลับจากกิลด์อื่นที่แทรกซึมเข้ามาภายในกิลด์เราแน่ ๆ

เจียงเจ๋อ: ฉันจดชื่อพวกมันเอาไว้หมดแล้ว เพราะฉันก็คิดแบบเดียวกันกับนายเหมือนกัน

ลู่หยาง: นายช่วยคัดเลือกผู้เล่นจากในกิลด์ 1,000 คนมาให้ฉันหน่อย เกณฑ์การคัดเลือกหนึ่งคือคนที่ถูกฆ่าตายบ่อย ๆ สองคือคนที่มีคะแนนกิลด์สูง ๆ และสามคือคนมีฝีมือดี

ถูเฟิง: นายจะพาพวกเขาไปเก็บเลเวลเหรอ?

ลู่หยาง: ใช่ คราวนี้พวกนายก็ต้องไปด้วยฉันมีที่เก็บเลเวลพิเศษ แต่ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ของทางฝั่งพวกฉิงชางก่อน

ฉิงชาง: หัวหน้าอย่างช้าอีกสองวันทุกคนก็จะได้รับอุปกรณ์ระดับเงินเลเวล 20 ครบทั้งชุดแล้วครับ ส่วนสมาชิกทุกคนภายในทีมก็มีเลเวล 20 กันหมดแล้ว

ลู่หยาง: ดีมาก ถ้างั้นตอนเที่ยงของวันมะรืน พวกเราจะออกไปเก็บเลเวลกัน เจียงเจ๋อพวกนายช่วยคัดคนมาให้ด้วย

เจียงเจ๋อ: ไม่มีปัญหา

เมื่อคิดถึงอนาคตอันใกล้ลู่หยางก็อดที่จะรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาไม่ได้ เพราะขอเพียงพวกฉิงชางมีอุปกรณ์ครบทั้ง 200 คน เขาก็จะทำการแจกหนังสือสกิลให้กับผู้เล่นเหล่านี้ เมื่อนั้นกองกำลังของพวกฉิงชางก็จะกลายเป็นกองกำลังพิเศษในทันทีและพวกเขาก็จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตอย่างมาก

หลังปิดหน้าต่างสนทนา ลู่หยางก็กลับไปสังหารราชาซอมบี้ต่อ

“ลองหาดูสิ มีหนังสือสกิลที่ชื่อเฮลไฟร์ไหม?” ลู่หยางถาม

พวกเขาฟาร์มอยู่ที่นี่มาสามวันแล้วทำให้ได้รับสกิลพิเศษของโจร, นักธนูและนักรบมาจนหมด แต่มันยังไม่มีสกิลพิเศษของวอลอคดรอปลงมาเลย แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาได้หนังสือสกิลเล่มนี้ แม้ลู่หยางจะจากไปแต่ฮั่นอิ่งก็ยังสามารถนำทีมฆ่ามอนสเตอร์ภายในวิหารแห่งนี้ต่อไปได้

“ลูกพี่ ผมเจอหนังสือสกิลเฮลไฟร์แล้ว” เสี่ยวเหลียงตะโกนอย่างตื่นเต้น

“เอามานี่เร็วเข้า” ลู่หยางกล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย

เฮลไฟร์

ประเภท เวทมนตร์อัญเชิญ

เอฟเฟกต์ อัญเชิญเฮลไฟร์มาจากต่างมิติเพื่อทำการต่อสู้ ระหว่างทำการอัญเชิญเฮลไฟร์จะพุ่งตกลงมาจากท้องฟ้าและทำให้ศัตรูทั้งหมดในรัศมี 30 เมตรติดสตั๊นเป็นเวลา 2 วินาที

ข้อกำหนดในการเรียนรู้ สติปัญญา 500 หน่วย

“นี่มันสกิลพิเศษของนักเวทเหรอครับ?” ฮั่นเฟยถาม

“ไม่ใช่ของนักเวทหรอกแต่มันเป็นของวอลอคต่างหาก” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งหนังสือสกิลให้ฮั่นอิ่ง

“ของหนูเหรอ?” ฮั่นอิ่งรับหนังสือสกิลมาอย่างสงสัย ก่อนที่เธอจะอุทานอย่างตกใจเมื่อได้เห็นข้อกำหนดในการเรียนรู้สกิล

“มันต้องใช้ค่าสติปัญญา 500 หน่วยเลยเหรอคะ!?”

ปัจจุบันค่าสติปัญญาของเธอเพิ่งจะเกิน 150 หน่วยมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ยังคงห่างไกลกว่าที่เธอจะเรียนรู้สกิลนี้ได้

ลู่หยางทำการถอดอุปกรณ์ทั้งหมดที่เขาได้สวมใส่รวมถึงหัวใจแห่งเทพอสูรก่อนจะส่งพวกมันไปให้กับฮั่นอิ่ง

“แค่นี้เธอก็เรียนรู้มันได้แล้ว”

“ค่ะ” ฮั่นอิ่งทำการสวมใส่อุปกรณ์ทั้งหมดของลู่หยางจนทำให้สติปัญญาของเธอเพิ่มขึ้นมาถึง 500 หน่วยพอดี

หนังสือสกิลเฮลไฟร์เปล่งประกายแสงสีทอง ก่อนที่มันจะหายไปจากมือของเด็กสาว ขณะเดียวกันภายในหน้าต่างสกิลของฮั่นอิ่งก็ปรากฏสกิลรูปโกเลมตัวใหญ่ที่มีเปลวไฟสีเขียวลุกท่วมขึ้นมา

“ลองใช้ดูสิ” ลู่หยางกล่าว

“เฮลไฟร์มันคงจะไม่ตายทันทีที่ออกมาใช่ไหมคะ?” ฮั่นอิ่งถาม

“ลองดูเดี๋ยวก็รู้” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ได้ค่ะ” ด้านหน้ายังมีราชาซอมบี้เหลืออยู่ประมาณ 20 ตัว ฮั่นอิ่งจึงเริ่มร่ายคาถาก่อนที่ในอีก 10 วินาทีต่อมามันจะปรากฏหลุมรูหนอนสีเขียวด้านบนของตัววิหาร

วินาทีต่อมาอุกกาบาตเพลิงสีเขียวก็พุ่งออกมาจากรูหนอน ก่อนที่มันจะตกกระแทกลงตรงกลางฝูงราชาซอมบี้กว่า 20 ตัว

ตูม!

การตกกระทบในครั้งนี้ทำให้เหล่าราชาซอมบี้ติดสตั๊น ขณะเดียวกันก้อนหินยักษ์ก็ขยายตัวกลายเป็นโกเลมร่างสูงกว่า 5 เมตรที่มีเปลวไฟสีเขียวลุกท่วมทั่วทั้งร่าง

เฮลไฟร์

พลังชีวิต 8,000/8,000

โฮก!

เฮลไฟร์ส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่มันจะต่อยซอมบี้ตัวข้าง ๆ และสร้างความเสียหายได้ 102 หน่วย ขณะเดียวกันเปลวไฟสีเขียวที่ลุกท่วมอยู่บนตัวของมันก็แผดเผาราชาซอมบี้จนสร้างความเสียหายขึ้นมา 302 หน่วย

ในทางกลับกันเมื่อราชาซอมบี้ฟื้นคืนจากการติดสตั๊น มันก็ได้ใช้โซ่ฟาดเข้าไปที่โกเลมตัวใหญ่สร้างความเสียหายขึ้นมาได้ประมาณ 300 หน่วย

 

 

---