บทที่ 173 พ่อคนคลั่งเมีย
แววตาของหญิงสูงวัยที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเอ็นดู เธอที่รู้สึกถูกชะตาหญิงสาวตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่คนที่ผ่านโลกมามากแล้วย่อมดูออกว่า ใครเป็นยังไง จริงใจหรือไม่จริงใจ...
“แล้วไปเที่ยวมาสนุกไหมคะนายหญิงเอลิซ” ป้าเสริมยิ้มถามด้วยท่าทีเรียบร้อย
“สนุกมากเลยค่ะ...ครั้งหน้าป้าเสริมไปด้วยกันนะคะ เอลิซชอบบรรยากาศและทุกอย่างที่เกาะมากเลยค่ะ มันสวยมากจริง ๆ มากจนเอลิซอยากไปอยู่ที่นั่นเลยค่ะ แต่ว่าเฮียน่ะซิ...รีบกลับ” ฉันเล่าด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นสุด ๆ ก่อนจะทำทีเป็นกระซิบกระซาบในประโยคหลัง พร้อมกับปากที่ยู่ลงเล็กน้อยจากความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้อยู่ต่อ
ป้าเสริมหัวเราะน้อย ๆ ให้กับท่าทางเหมือนเด็กของฉัน ด้วยความเอ็นดู
“แล้วนี่นายหญิง กับนายท่านกินอะไรมาหรือยังค่ะ ให้ป้าตั้งโต๊ะให้เอาไหมคะ” ป้าเสริมถามด้วยความห่วงใย
“ไม่เป็นไรค่ะ เอลิซกับเฮียแวะทานมาก่อนจะมาถึงที่นี่แล้วค่ะ แล้วนี่ป้าเสริมมารอตั้งแต่เมื่อไรค่ะเนี้ย” ฉันเอ่ยบอกพร้อมยิ้มหวานไปให้ อีกทั้งยังถามกลับ เพราะดูท่าทางป้าเสริมแกน่าจะมารออยู่นานแล้ว
“ป้ามารอตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” ป้าเสริมตอบ
“อ้าว...ถ้าอย่างนั้นป้าเสริมรีบกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ เอลิซอยู่ได้ (o_<) ” ฉันแสดงสีหน้าด้วยความเป็นห่วง ด้วยอายุของป้าเสริมที่มากแล้วเวลานี้ก็ควรจะไปพักผ่อนได้แล้ว
ป้าเสริมยิ้มน้อย ๆ ให้ฉันเพื่อเป็นการขอบคุณกลาย ๆ ที่ฉันมีน้ำใจห่วงใย
“เอ่อ...แล้วนายท่านไม่ได้กลับมาพร้อมกับนายหญิงหรอกเหรอคะ” ป้าเสริมถามด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่เธอเห็นผู้เป็นนายกลับมา ก็เห็นเพียงแต่นายหญิงเท่านั้นที่เข้ามาในห้องแค่คนเดียว
“อ๋อ...เฮียสั่งงานลูกน้องอยู่น่ะค่ะ อีกสักพักคงจะตามเข้ามา” ฉันคลายข้อสงสัยของป้าเสริม หลังจากที่ดูท่าทางแล้วแกคงจะเป็นห่วงนายน้อยของตัวเองอยู่มากเหมือนกัน
“อ๋อค่ะ...ถ้าอย่างนั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ...แต่ถ้ามีอะไร หรือหิว หรืออยากจะกินอะไรเป็นพิเศษ นายหญิงเรียกป้าได้ตลอดเลยนะคะ” ป้าเสริมเอ่ยย้ำอีกครั้งด้วยความจริงใจ พร้อมกับส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นมาให้
“ได้ค่ะ...ขอบคุณมาก ๆ นะคะ...” ^-^ ฉันยิ้มหวานส่งกลับให้ป้าเสริมอีกครั้งก่อนที่แกจะเดินออกไปจากห้อง
หลังจากป้าเสริมออกจากห้องไปได้ไม่นาน ผู้ชายที่ฉันกำลังคิดถึงก็เปิดประตูเดินเข้ามาพอดี
เขาที่ตรงดิ่งมาหาฉันด้วยท่าทางเหมือนคนที่ต้องการหาที่พักพิง
ฟอด ~~
เมื่อประชิดตัวฉันได้เขาก็บรรจงหอมแก้มพร้อมกับโอบกอดฉันเอาไว้แน่นทันที
“อ้าาา ~~ ชื่นใจจัง” เขาพูดหลังจากขโมยหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน...คิดถึ๊งงงงคิดถึง...เมีย...ฟอด ฟอด ฟอด ~~” คำพูดหวานถูกกระซิบที่ข้างหูจนฉันอดหมั่นไส้ไม่ได้
เพี้ยะ!!
ฉันตีไปที่แขนเขาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ ที่เขาพูดจาโอเวอร์
“อะไรกันค่ะ เพิ่งจะไม่เห็นหน้ากันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะคะ เฮียอ่ะ...พูดโอเวอร์เกินไปและ” ฉันแค่นยิ้มน้อย ๆ
และถึงแม้ว่าฉันจะเอ่ยปากแซวเขาไปแบบนั้น แต่ลึก ๆ แล้วตัวฉันเองกลับรู้สึกดีอีกทั้งยังอิ่มเอมไปกับคำหวานที่เขาหว่านมาชโลมหัวใจน้อย ๆ ของฉันให้ชุ่มชื่น
“เอลิซไม่รู้อะไรซะแล้ว...สำหรับเฮียนะแค่วินาทีเดียวที่ไม่เห็นหน้าเอลิซ เฮียก็เหมือนกับว่าได้จากเอลิซไปนานนับเดือนแล้วรู้ไหมคะ...หื้มมมม” ฟอด ฟอด ฟอด ~~ เขาที่เชยคางมนของฉันขึ้นเพื่อที่จะให้สบกับดวงตาสีเทาเข้มทรงเสน่ห์ที่ตอนนี้ดูสุกใสเปล่งประกายเต็มไปด้วยคำว่ารัก เหมือนอยากจะให้ฉันเห็นว่าเขาน่ะพูดจริงแค่ไหน ก่อนที่เขาจะระดมเข้าหอมแก้มของฉันอีกระลอกใหญ่อย่างคนที่คิดถึงสุดหัวใจจริง ๆ
“แหวะ ~~” ฉันทำท่าทางอ้วก
แววตาคมเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันที ที่เห็นฉันทำท่างทางแบบนั้น
“เอลิซ...เป็นอะไรคะ เวียนหัวอีกแล้วหรอ จะอ้วกหรือเปล่า เดี๋ยวเฮียพาไปห้องน้ำ...ป่ะ เห้ย...ใครอยู่ข้างนอก ไปตามไอ้หมอมาดูเมียกูหน่อยเร็ว...” เขาที่รีบประคองใบหน้าฉันเพื่อดูว่าฉันมีอาการผิดปกติตรงไหน ก่อนจะรีบโวยวายเรียกลูกน้องที่อยู่แถวนั้นให้ไปตามหมอมา
“เดี๋ยวค่ะเฮีย เดี๋ยวก่อน ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ เอลิซไม่ได้เป็นอะไร” ฉันกุลีกุจอรีบเอ่ยปากห้ามเขาทันที เมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของเขา
“อ้าว...ก็เฮียเห็นเอลิซทำท่าเหมือนจะอ้วกนี่น่า” เขาทำหน้างงหลังจากฉันพูดจบ
“เอลิซจะอ้วกก็เพราะคำพูดของเฮียต่างหากค่ะ...ชิ” ฉันทำปากเบใส่เพราะหมั่นไส้ในความแบ้วของเขา
“ออออ....” เขาที่ออเหมือนเพิ่งเข้าใจ ^-^
ฉันส่ายหัวน้อย ๆ ให้กับเขา ด้วยความเหนื่อยใจกับอาการเป็นห่วงของเขาที่ดูโอเวอร์เกินเหตุ
“แต่เฮียว่าให้ไอ้หมอมันมาดูหน่อยดีไหม เพราะตอนที่อยู่บนเกาะเฮียเห็นเอลิซอ้วกจนหน้าตาซีดเชียว” เขาที่ยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพของฉันอยู่
“เอลิซไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ค่ะ ถึงตอนนี้จะรู้สึกมึนนิดหน่อย แต่ว่าถ้าได้นอนพักอีกสักหน่อยก็คงโอเคแล้วค่ะ เอาไว้ถ้าไม่ไหวแล้วจริง ๆ เอลิซจะบอกเฮียทันทีเลยนะคะ” ฉันยิ้มหวานให้เขาพร้อมกับเอาคางเกยไปที่หน้าอกของเขาแล้วทำท่าทางออดอ้อน
และเหตุผลที่ฉันบอกกับเขาไปแบบนั้น นั่นก็เพราะว่าฉันอยากจะขอให้ตัวเองมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองสงสัยเสียก่อน อีกทั้งฉันยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ ถ้าหากสิ่งที่ฉันสงสัยมันดันเกิดขึ้นมาจริง ๆ
เขาที่เห็นท่าทางของฉันก็อดที่จะอมยิ้มให้ไม่ได้ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วจรดริมฝีปากลงมาบนกลางหน้าผากมนของฉันด้วยความรัก จากนั้นเขาก็โอบกอดฉันแน่นจนฉันเองรับรู้ได้ถึงสัมผัสนั้นว่าเขาห่วงหาอาทรฉันมากขนาดไหน
แม้ว่าเขาจะยังคงไม่สบายใจเพราะอยากรู้ว่าฉันเป็นอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า แต่เพราะว่าทั้งเขาและฉันเองก็เหนื่อยเพลียจากการเดินทางมา แถมเขายังต้องกลับมาเคลียร์งานกับลูกน้องอีก ทำให้เขาเองก็ไม่อาจที่จะขัดใจฉันเรียกหมอให้มาดูอาการของฉันได้ในตอนนี้
"ถ้างั้นเฮียตามใจเอลิซแล้วกัน...แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีจริง ๆ ให้รีบบอกเฮียเลย รู้ไหมคะ" เขาเอ่ยย้ำกับฉันอีกครั้ง
"รับทราบครับผม..." (^ - <) ฉันทำท่าตะเบ๊ะตอบกลับเขาไป พร้อมกับยิ้มกว้างเพื่อให้เขาสบายใจ
และถึงแม้ใบหน้าสวยของฉันจะยิ้มแย้มไปให้เขา แต่ทว่า...มันก็ไม่สามารถปกปิดความเหนื่อยล้าที่ฉายออกมาได้เลย เขาที่เห็นดังนั้นก็เลือกที่จะปล่อยผ่านอาการป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉันไป แล้วเราสองคนก็พากันเข้านอนแทน...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 71
แสดงความคิดเห็น