บทที่ 64 คนนี้เมียกู!!
น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นและจริงใจถูกส่งออกมาจากคนตรงหน้า สีหน้า ท่าทาง แววตาที่เขาส่งมา บ่งบอกว่าเขาคิดอย่างที่เขาพูดมาจริงๆ ไม่ได้มีอะไรที่แอบแฝงเคลือบแคลงอยู่ในนั้น และฉันเองก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นที่เขาส่งมาว่ามันคือความจริง
หลังจากที่เขาพูดจบ ฉันก็พยายามรวบรวมสติที่ถดถอยลงไปเพราะฤทธิ์ดีกรีในแอลกอฮอล์ เพื่อนึกย้อนไปถึงวันนั้น แล้วมันก็จริงอย่างที่เขาพูด ในวันนั้นฉันรู้สึกไม่โอเคเลยจริงๆ เพราะหลายเรื่องหลายราวที่เกิดขึ้นมันทำให้ฉันรู้สึกแย่มาก โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฉันไปซื้อยาจากร้านขายยาของเขามากิน คราวนั้นมันแย่ซะจนถึงขนาดที่ฉันเคยคิดหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองหายไปจากโลกใบนี้ วิธีที่จะทำให้ฉันไม่ต้องมาอยู่ในชะตากรรมที่เล่นตลกพลิกผันเพราะฝีมือของตัวเองในครั้งนี้ แต่ฉันกลับทำอะไรไม่ได้และในท้ายที่สุดแล้วฉันก็ยังยืนอยู่ที่จุดเดิม ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ และถึงแม้บาดแผลทางจิตใจฉันจะได้รับการเยียวยาจากคนที่กระทำกับฉันแล้ว แต่มันก็ยังคงหลงเหลือสะเก็ดเล็กน้อยเอาไว้คอยเตือนใจตัวเอง เพราะเหตุนั้นฉันจึงไม่อยากที่จะรื้อฟื้นความทรงจำเลวร้ายนั้นให้กลับขึ้นมาอีก
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะซดน้ำสีหวานสวยในแก้วที่เหลือลงคอจนหมดภายในรวดเดียว ฉันวางแก้วลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหันไปมองหน้าเขา แล้วตอบเขากลับไปด้วยความจริงใจเฉกเช่นเดียวกันกับที่ฉันรู้สึกได้จากเขา
“ขอบคุณมากนะคะที่วันนั้นคุณเป็นห่วงเอลิซ แถมยังเก็บความรู้สึกเป็นห่วงนั้นเอาไว้กับตัวจนได้มีโอกาสมาบอกกับเอลิซในวันนี้ เอลิซอยากจะบอกคุณมาร์คว่า ตอนนี้เอลิซโอเคแล้วค่ะ หวังว่าจะเอลิซจะไม่ทำให้คุณมาร์คต้องรู้สึกติดค้างอะไรในใจแล้วนะคะ” ฉันเอ่ยบอกเขาไปตามความรู้สึกของฉัน พร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับเขา
ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเรียกสติ เตรียมที่จะเอ่ยคำลากับเขา เพราะตอนนี้ฉันเองก็แทบจะประคองสติตัวเองไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“แล้วก็ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่มที่เลี้ยงในวันนี้ด้วยนะคะ” ฉันยิ้มที่คิดว่าสวยที่สุดของฉันให้เขาอีกครั้งแล้วกล่าวขอบคุณเขาสำหรับเครื่องดื่มที่เขาเลี้ยงฉันในค่ำคืนนี้ ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้น เพื่อที่จะเดินกลับขึ้นไปยังชั้นสอง แต่เพราะความมึนที่ได้รับมาจากดีกรีในแอลกอฮอล์ ทำให้เมื่อฉันเริ่มก้าวเดินก็เซแทบจะล้มลงทันที ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าร่างตัวเองต้องหล่นลงไปกองกับพื้นแน่ๆ ก็ได้มีมือหนาเข้ามาโอบกอดประคองฉันเอาไว้ได้ทัน นั่นก็เป็นเพราะว่าฉันโชคดีที่คุณมาร์คเห็นอาการผิดปกติของฉันได้ทันและช่วยประคองฉันไว้ ภาพตรงหน้าก็เลยกลายเป็นเหมือนว่าฉันกำลังชุกกายอยู่ในอ้อมกอดของคุณมาร์คเขา
กลิ่นหอมสะอาดที่เจือปนด้วยกลิ่นยานิดๆ ที่มาจากตัวเขา ทำฉันอดไม่ได้ที่จะเผลอสูดดม กลิ่นเหล่านั้นมันทำให้ฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกสบายใจและไม่มีพิษมีภัยมาจากตัวเขา เมื่อบวกกับอาการมึนเมามันก็เลยไม่ได้ทำให้ฉันผละออกจากวงแขนที่กำลังโอบกอดฉันอยู่
“ไม่เป็นไรนะครับ คุณเอลิซ” ใบหน้าเนียนขาวใสที่ฉันเห็นตอนที่เงยหน้าขึ้นมามอง ประจวบกับเขาที่ก้มหน้าลงมาถามฉันด้วยความเป็นห่วง ทำให้ความหล่อที่เขามีมันเพิ่มขึ้นจนฉันเองก็เผลอมองอยู่นาน แม้ว่าเขาจะหล่อสู้เฮียของฉันไม่ได้ แต่ก็นับว่าหล่อมากอยู่ดี
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ...ขะ...ขอบ...คุ...ว๊ายยย” ขณะที่ฉันกำลังเอ่ยปากขอบคุณ คุณมาร์คที่ช่วยฉันไว้ ก็มีมือหนามากระชากแขนฉันให้ออกไปวงแขนของคุณมาร์คที่กำลังประคองร่างฉันอยู่ จนฉันเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ
ร่างบางถูกดึงให้เข้าไปอยู่อ้อมกอดแกร่ง กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย อ้อมแขนที่อบอุ่น ที่ทำให้ฉันรู้สึกถึงความปลอดภัย ฉันรับรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของร่างใหญ่โตที่ดึงฉันเข้าไปกอดนี้เป็นใคร
“ฮะ..เฮีย” ฉันเงยหน้ามองใบหน้าคมเข้มที่ฉันกำลังคิดถึง แล้วเอ่ยเรียกเขาด้วยเสียงที่แผ่วเบา ก่อนจะหลับตาซุกหน้าเข้าหาความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเขาเพราะความมึนเมา
“มึงจะทำอะไรเมียกู!!!” เสียงเข้มดุดันทรงพลังถูกส่งออกไปกระแทกยังคนที่เพิ่งมายุ่งกับคนของเขา
คนโดนถามถึงกับชะงักความคิดภายในใจแล่นขึ้นมาว่า ‘ถึงกับยอมเรียกเมียได้เต็มปากขนาดนี้เลยหรอ...หึ...ดี’ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วโต้ตอบกลับไป
“พอดีคุณเอลิซจะล้มผมก็ช่วยประคองก็แค่นั้น” เขายักไหล่ตอบกลับตามความจริงว่าเขาเพียงช่วยประคองเธอเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของเขาจะไปจี้ถูกจุดคนขี้หึงเข้าซะแล้ว
“แต่ที่กูเห็นคือมึงกำลังกอดเมียกูอยู่” เขากัดฟันกรอด คำรามออกไปด้วยอารมณ์ที่ปะทุเตรียมพร้อมที่จะระเบิด
“ก็ถ้าคุณจะคิดแบบนั้น ผมก็ไม่ติดนะ ใครใช้ให้เอลิซสวยน่ารักตรงสเปกผมทุกอย่างขนาดนี้” เขาเอ่ยตอบยียวนยั่วอารมณ์คนร่างโตตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“มึง!!!” คุณเซฟตะวาดลั่นด้วยความโมโห ส่วนคุณมาร์คก็ยืนสบายๆ ทำตัวไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ฉันที่ตอนนี้อยู่ภายในอ้อมกอดของคุณเซฟ ก็รับรู้ได้ถึงแรงกระเพื่อมที่หน้าอกของเขาจากความโมโหที่โดยยั่วยุ ฉันที่ได้ยินได้ฟังถึงการปะทะคารมของชายทั้งสองคนมาสักพัก ถึงกับต้องเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมา แล้วขยับปากอธิบายความจริงให้คุณเซฟรู้ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปกันใหญ่
“เฮีย ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ คุณมาร์คเขาช่วยเอลิซไว้จริงๆ ค่ะ เพราะว่าเอลิซกำลังจะล้ม” ฉันยกหัวที่หนักอึ้งเพราะอาการเมาขึ้นมาจากอกเขาเล็กน้อย ก่อนจะใช้สองมือจับประคองไปที่ใบหน้าถมึงทึงของเขาให้มองหน้าฉัน แล้วบอกความจริงออกไป
เขามองฉันด้วยใบหน้านิ่งอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก มีเพียงความรู้สึกจากดวงตาสีเทาเข้มคู่นั้นที่ออกอาการสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จะหันกลับไปมองชายหนุ่มที่กำลังทำท่าทางกวนเบื้องล่างเขาอยู่ตรงหน้า ด้วยสายตาที่ดุดันเช่นเดิม
“งั้นมึงก็จำไว้คนนี้เมียกู กูดูแลเองได้ ทีหลังมึงไม่ต้องเสือก!!” คนตัวโตยังคงไม่ยอมลดละ เอ่ยตะคอกเสียงดังจนคนบริเวณใกล้เคียงเริ่มจับตามอง
“อ๋อ...แล้วกูหวังว่าจะไม่เจอมึงมาป้วนเปี้ยนใกล้เมียกูอีกเป็นครั้งที่สามนะ ไม่งั้นตระกูลมึงสิ้นชื่อแน่” เขาเอ่ยคำขู่ทิ้งท้ายให้คนตรงหน้า ก่อนจะอุ้มคนร่างบางในท่าเจ้าสาว แล้วก้าวเท้าเดินกลับขึ้นไปยังชั้นสอง
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 34
แสดงความคิดเห็น