บทที่ 140: รางวัลลงชื่อเข้าใช้พิเศษ: วิชาจองจำช้างศักดิ์สิทธิ์
ฉู่เซียวเหยียดยิ้มชั่วร้าย
เขายังจำได้ดีว่าตอนที่เขาพบกับหลินหยวนครั้งแรก ตัวเขานั้นอ่อนแอจนถูกจัดการได้ง่าย ๆ แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งมากพอแล้ว
อีกทั้งเผ่าไททันยังหนุนหลังเขาอีก
ในสายตาของเขา หลินหยวนไม่ต่างจากมดปลวกที่กำลังวิ่งหนีออกจากกับดัก
เขาสามารถบดขยี้อีกฝ่ายให้ตายได้ทุกเมื่อตามที่ต้องการ!
ความรู้สึกถึงการมีพลังอำนาจนั้นช่างหอมหว่านเสียเหลือเกิน!
ดังนั้นฉู่เซียวจึงอยากได้ตัวหลินหยวนแบบเป็น ๆ มายืนอยู่ต่อหน้า เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นเขาคนใหม่คนนี้
เพียงแค่เขาคิดภาพเจ้าเด็กนั่นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันก็ทำให้เขาแทบทนรอไม่ไหวแล้ว!
ครั้งหนึ่งแกเคยทำให้ฉันต้องอับอาย วันนี้ถึงตาฉันบ้าง!
หลังจากที่ฉู่เซียวพูดจบ ไททันเพลิงสุริยันก็ตอบกลับทันทีว่า “แต่ท่านผู้พยากรณ์… เรายังไม่รู้ที่อยู่ของพวกมันแน่ชัด”
“ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม “ข้ารู้ว่าพวกมันกำลังจะไปที่ไหน”
จากนั้นเขาก็หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อแล้วชี้ไปยังจุดหนึ่งบนนั้น
“พวกมันหนีไปทางนี้ ซึ่งเมืองที่ติดกับเมืองจี้มู่มีเมืองหลักเพียงเมืองเดียวเท่านั้นก็คือ เมืองกุ่ยเซี่ยง”
ทันทีที่ไททันเพลิงสุริยันได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย มันก็ชะงักนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดว่า “หมายความว่าพวกมันอาจจะไปที่เมืองกุ่ยเซี่ยงงั้นเหรอขอรับ?”
“ถึงมันจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ ตามปกติแล้วพวกมันน่าจะรู้ว่าที่อยู่ของตัวเองถูกเปิดเผย แล้วทำไมพวกมันถึงเลือกที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลักไททันอีกล่ะ?”
“สภาพแวดล้อมของ 2 เมืองนี้ล้วนแต่เป็นป่าเขา แบบนี้พวกมันจะซ่อนตัวได้ง่ายขึ้น”
แต่ฉู่เซียวกลับส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “ไม่ เจ้ายังรู้จักหลินหยวนไม่ดีพอ เขาไม่เคยกลัวอันตรายใด ๆ ถ้าเทียบกับการหลบหนีแล้ว การแก้แค้นเผ่าไททันนั้นสำคัญสำหรับเขามากกว่า”
ไททันเพลิงสุริยันมองคนพูดด้วยสายตาประหลาดใจ “แม้แต่ในสถานการณ์เช่นนี้… มันยังคิดจะแก้แค้นพวกเราอยู่อีกเหรอขอรับ?”
ชายหนุ่มพยักหน้าในขณะที่เขาเหยียดยิ้มพูดว่า “รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงเข้าใจเขาดีนัก?”
ก่อนที่ไททันเพลิงสุริยันจะทันได้พูดอะไร เขาก็กล่าวต่อไปว่า “เพราะเขากับข้า… เป็นคนประเภทเดียวกันยังไงล่ะ!”
“พวกเรามันบ้าเลือดเหมือนกัน!”
สำหรับฉู่เซียว สิ่งที่เขาต้องการก็คือการมีชีวิตรอดและยืนอยู่เหนือกว่าคนอื่น เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้เขาไม่เคยหยุดยั้ง เขายอมถึงขั้นทรยศต่อประเทศชาติและเผ่าพันธุ์ตัวเอง
แต่หลินหยวนแตกต่างออกไป เขามีเป้าหมายที่บ้ายิ่งกว่า เขาอยากจะโค่นล้มเผ่าไททันด้วยกำลังของตัวเอง!
ถึงจะบอกว่าพวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกัน แต่หมอนั่นมันบ้ายิ่งกว่าเขาซะอีก
ผู้ชายคนนั้นกำลังเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง
ดังนั้นฉู่เซียวจึงมั่นใจได้ว่าหลินหยวนจะต้องมุ่งหน้าไปยังเมืองกุ่ยเซี่ยงกันแน่นอน
เพราะเป้าหมายต่อไปของเขาก็คือ การทำลายเมืองกุ่ยเซี่ยงเช่นเดียวกับการทำลายเมืองจี้มู่!
…
กลางทะเลทรายสีดำสนิท หลินหยวนกับฉู่อวี้กำลังบินต่ำอยู่เหนือพื้น เนื่องจากการเดินทางที่แสนยาวนานทำให้ความเร็วของพวกเขาลดลง
“เมืองกุ่ยเซี่ยงอยู่ข้างหน้าแล้ว” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา ที่สุดปลายสายตามีเงาของนครขนาดมหึมาปรากฏ
เมืองนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายสีดำ ทำให้มันดูโดดเดี่ยวและโดดเด่นในเวลาเดียวกัน
ที่เขารู้ชื่อเมืองหลักแห่งนี้เป็นเพราะเขาไปค้นหาแผนที่ในตำหนักของเมืองจี้มู่ก่อนที่จะออกมา
บนแผนที่บอกว่าเมืองหลักเบื้องหน้ามีชื่อว่า ‘เมืองกุ่ยเซี่ยง’!
เจ้าเมืองที่เฝ้าเมืองนี้คือไททันช้างอสูรที่เป็นไททันมหันตภัย
สำหรับหลินหยวน ในตอนนี้เขาไม่สนใจไททันมหันตภัยสักเท่าไหร่ แม้ว่าไททันเทพอาสัญจะไม่ได้ลงมือเอง เขาก็ยังสามารถฆ่าไททันตัวนี้ได้ด้วยกำลังของเขาเอง
เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นไททันมหันตภัยขั้นสูงสุด
เมื่อเมืองกุ่ยเซี่ยงปรากฏเบื้องหน้า ฉู่อวี้ก็กระซิบว่า “นายแน่ใจเหรอว่าจะโจมตีเมืองนี้?”
“ตอนนี้เราอยู่ใจกลางดินแดนไททัน ถ้าเราทำแบบนั้นจริง ๆ มันจะไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ?”
“ตอนนี้พวกไททันน่าจะส่งไททันโลกาวินาศออกมาตามล่าพวกเราแล้ว ถ้าเรายังทำอะไรที่เป็นการเปิดเผยที่อยู่ของเราอีก เราอาจจะตายได้เลยนะ!”
หลินหยวนพยักหน้าตอบกลับว่า “เธอพูดถูก แต่ถ้าไททันเทพอาสัญยินดีที่จะลงมือ ต่อให้มีไททันโลกาวินาศมาถึงที่นี่ เราก็อาจจะยังต่อสู้กับศัตรูได้”
หลังจากที่เด็กสาวได้ฟังคำตอบ เธอก็เม้มปากเบา ๆ เธอรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนที่รู้สถานการณ์เป็นอย่างดี
แต่การกระทำแบบไม่ยั้งคิดของเขาไม่ใช่เพื่อแค่ต้องการให้เผ่าไททันได้ชดใช้สิ่งที่พวกมันทำกับมนุษย์ หลินหยวน… ไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น
ฉู่อวี้เดาได้ว่าเจตนาที่แท้จริงของอีกฝ่ายก็คือการดึงความสนใจของไททันมาที่พวกเขาให้ได้มากที่สุด
หากไททันเลือกที่จะโจมตีพวกเขา พวกมันจะต้องระดมไททันระดับสูงมาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าพวกมันเลือกที่จะเพิกเฉย เขาก็จะทำให้แนวหลังของฝ่ายตรงข้ามต้องสั่นคลอน
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะบรรเทาแรงกดดันในแนวหน้าลงได้
หลินหยวนวางแผนที่จะรับแรงกดดันแทนเหล่าทหารในแนวหน้าทุกคน!
ในแง่หนึ่งอาจจะบอกว่าเขารนหาที่ตาย แต่… เขาเองก็กำลังสร้างหนทางให้ทหารได้มีโอกาสเอาชีวิตรอดเช่นกัน
ไม่นานทั้ง 2 คนก็มาถึงข้างเมืองกุ่ยเซี่ยง แต่หลินหยวนกลับไม่ทำอะไรเลย
ก่อนที่จะทำลายเมืองกุ่ยเซี่ยง เขามีภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือ…
ต่อมา เด็กหนุ่มเปลี่ยนร่างเป็นสายฟ้าทะลุกำแพงเมืองเบื้องหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในแล้วคิดในใจว่า
ระบบ ฉันต้องการลงชื่อเข้าใช้พิเศษ!
ในสายตาของเขา รางวัลสำหรับการลงชื่อเข้าใช้พิเศษในเมืองไททันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากพลาด เพราะการลงชื่อเข้าใช้พิเศษแต่ละครั้ง มันทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
ในไม่ช้าเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณลงชื่อเข้าใช้พิเศษในเมืองหลักของไททันสำเร็จ ได้รับรางวัลพิเศษ: คริสตัลอัปเกรดพลัง x200, วิชาในตำนาน: วิชาจองจำช้างศักดิ์สิทธิ์”
หลินหยวนที่ได้ยินรางวัลก็ยังตกใจ รางวัลสำหรับการลงชื่อเข้าใช้พิเศษในครั้งนี้ก็คือ… วิชา?
วินาทีต่อมา ม้วนคัมภีร์สีทองก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา โดยที่บนม้วนคัมภีร์สีทองขนาดใหญ่มีอักษรเขียนอยู่บนนั้นว่า ‘วิชาจองจำช้างศักดิ์สิทธิ์’!
ในเวลาเดียวกัน เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากม้วนคัมภีร์จนทำให้แม้แต่ฉู่อวี้ก็ยังสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา เธอจึงหันมาถามด้วยความประหลาดใจ “มันคืออะไรเหรอ…”
ก่อนที่หลินหยวนจะทันได้ตั้งตัว ม้วนคัมภีร์ทองคำก็เปลี่ยนรูปเป็นจุดแสงสีทองประสานเข้ากับร่างกายของเขา
เมื่อจุดแสงสีทองผสานเข้าไป ร่างกายของเด็กหนุ่มก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เขารู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับที่พลังปราณไหลเวียนไปทั่วร่างกาย
ขณะเดียวกัน ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาจองจำช้างศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลินหยวน
มันอธิบายว่าร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยอนุภาค 840 ล้านอนุภาค แต่ละอนุภาคสามารถสร้างพลังช้างสารได้
หากไปถึงจุดสูงสุดของพลังช้างสารก็จะกลายเป็นพลังช้างมังกร
เหนือกว่าพลังช้างมังกร ก็เป็นพลังช้างดึกดำบรรพ์!
แล้วเมื่อไปถึงพลังช้างดึกดำบรรพ์อย่างสมบูรณ์ก็จะสามารถยกระดับไปสู่พลังสูงสุดแห่งช้างศักดิ์สิทธิ์!
ช้างสาร, ช้างมังกร, ช้างดึกดำบรรพ์ และช้างศักดิ์สิทธิ์!
หลินหยวนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ก่อนจะอ่านสิ่งที่เขียนไว้ในคัมภีร์นี้
“คชลักษณ์มายมากคณานับ ดรุณสลับปรับวัยให้ผันผ่าน
ต่อมกร*คชายามถึงการณ์ คอยสืบสานวิชานับนานวัน
เมื่อฝึกฝนจนถึงสุดสายป่าน จักข้ามผ่านเข้าสู่ดึกดำบรรพ์
ก้าวขึ้นสู่ลิขิตสรวงสวรรค์ แล้วจักพลันเป็นช้างศักดิ์สิทธิ์เอย”
*มกร (มะ-กะ-ระ) ใช้เรียกมังกรจีน
หากทุกอนุภาคสามารถบ่มเพาะเป็นพลังช้างศักดิ์สิทธิ์ได้… การจะพลิกฟ้าถล่มสวรรค์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!
แม้หลินหยวนจะเพิ่งเรียนรู้วิชานี้ แต่หลังจากลองฝึกฝนจนสำเร็จขั้นแรก เขาก็มีพลังเทียบเท่ากับช้างสารแล้ว
ช้างตัวนี้ไม่ใช่ช้างธรรมดา แต่มันเป็นช้างในตำนาน!
หลังจากเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาล เขาก็เปิดหน้าสถานะของตัวเองขึ้นมาดูโดยอัตโนมัติ
แล้วค่าสถานะที่เขาเห็นก็ทำให้เขาต้องตกตะลึง
หลังจากที่เขาฝึกจนมีพลังเทียบเท่ากับช้างสาร ทำให้ในขณะนี้พลังปราณของเขา…
เพิ่มขึ้นมาเกือบ 100,000 แต้ม!
“นี่คือวิชาจองจำช้างศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?” ดวงตาของหลินหยวนเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อหลังจากที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในระดับพลังของตัวเอง
ปัจจุบันพลังปราณของเด็กหนุ่มพุ่งสูงถึง 450,000 แต้ม
นั่นหมายความว่า ถ้าเขาเพิ่มพลังปราณอีก 50,000 แต้ม เขาก็จะก้าวข้ามขีดจำกัดเข้าสู่แรงก์ SSS ได้สำเร็จ
ถ้าผ่านขีดจำกัดนี้ไป พลังทางกายภาพของเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไปแบบพลิกฝ่ามือ ด้วยเหตุนี้เองพลังปราณ 500,000 แต้มจึงเป็นขีดจำกัดสำหรับแรงก์ SS
ถึงหลินหยวนจะมีพลังอยู่ในแรงก์ SS อยู่แล้ว แต่ถ้าหากเขาก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ไปได้จริง ๆ พลังของเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!
รางวัลสำหรับการลงชื่อเข้าใช้พิเศษไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยจริง ๆ
บัดนี้หลินหยวนรู้สึกได้ถึงพลังงานที่พลุ่งพล่านอยู่ทั่วร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้ฝึกฝนวิชาจองจำช้างศักดิ์สิทธิ์จนถึงขั้นช้างสารเท่านั้น ซึ่งเหนือขั้นช้างสารยังมีช้างมังกร ช้างดึกดำบรรพ์ และสุดท้ายก็คือช้างศักดิ์สิทธิ์
ถ้าหากเขาฝึกฝนจนไปถึงขั้นช้างศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่อยากคิดเลยว่าพลังปราณของเขาจะพุ่งขึ้นไปถึงระดับไหน
บางทีเขาอาจจะมีพลังถึงขั้นพลิกสวรรค์ ทำลายแผ่นดิน!
พอไปถึงจุดนั้นก็คงไม่มีไททันตัวไหนมาขวางทางเขาได้อีก!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 90
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น