บทที่ 68: ค่าหัว 100 ล้าน

จากนั้นหลินหยวนก็เงยหน้าขึ้นมองตรงไปข้างหน้า ในไม่ช้าจิตใจของเขาก็วูบไหว

ชั่วพริบตาตัวเขาได้หายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่และไปปรากฏตัวขึ้นอีกฝั่งหนึ่งของถนน

เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เขาก็ได้ข้ามผ่านระยะทางหลายร้อยเมตรไปเป็นที่เรียบร้อย

นี่คือ… การเทเลพอร์ต!!

ดวงตาของหลินหยวนเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

เพียงเท่านี้ไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหน พลังเทเลพอร์ตก็สามารถทำให้เขามีข้อได้เปรียบ

หลังจากเด็กหนุ่มทดสอบประสิทธิภาพของพลังเทเลพอร์ตแล้ว เขาก็รีบก้าวเท้าออกไปยังถนนที่มีฝูงชนหนาแน่น

เขาเพิ่งมาถึงที่นี่จึงยังไม่คุ้นเคยกับป้อมปราการแห่งนี้ เพราะฉะนั้นเขาจะต้องซื้อแผนที่ก่อนเพื่อทำความเข้าใจผังเมืองโดยรวมแล้วค่อยลงมือขั้นต่อไป

…

 30 นาทีต่อมา

สมาคมนักล่าสาขาป้อมปราการสงคราม

หลินหยวนอาศัยแผนที่ที่เขาซื้อมาในราคา 10 หยวนก็สามารถหาที่นี่พบได้อย่างรวดเร็ว

ถึงแม้จะบอกว่าที่นี่เป็นป้อมปราการสงคราม แต่ก็มีคนเกือบล้านคนอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้

การจะค้นหาคนสมรู้ร่วมคิดกับโม่จิ่วโหยวนั้นไม่ง่ายเลยสักนิด ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังพอมีหนทาง

“สมแล้วที่เป็นป้อมปราการสงคราม แม้แต่สมาคมนักล่าของที่นี่ก็ยังดูอลังการ”

 หลินหยวนเงยหน้าขึ้นมองอาคารสมาคมนักล่าที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้า หากวัดความสูงคร่าว ๆ แล้ว ที่นี่มีความสูงประมาณ 100 ชั้น

เมื่อเทียบกับอาคารสมาคมนักล่าสาขาเมืองหนานเจียง ที่นั่นมีสภาพเหมือนกับกระท่อมมุงจากเลยทีเดียว

การที่สามารถสร้างอาคารเช่นนี้ในป้อมปราการสงครามได้นั้นก็พอจะบ่งบอกได้ถึงรากฐานที่แข็งแกร่งของสมาคมนักล่า

หลังจากนั้นหลินหยวนก็ก้าวเข้าไปในอาคาร

อาคารสูงหลายชั้นแบบนี้แน่นอนว่าต้องมีลิฟต์ แต่ในสมาคมนักล่าแห่งนี้ สิทธิ์ในการใช้ลิฟต์ขึ้นอยู่กับแรงก์ของนักล่า

นักล่าที่อยู่ต่ำกว่าแรงก์ B มีสิทธิ์ขึ้นไปได้สูงสุดที่ชั้น 30 เท่านั้น

ส่วนนักล่าแรงก์ B มีสิทธิ์ขึ้นไปได้สูงสุดที่ชั้น 50 

จากที่หลินหยวนได้ลองทดสอบด้วยตัวเอง เขาที่เป็นนักล่าแรงก์ A ชั้นสูงสุดที่เขาขึ้นไปได้ก็คือชั้น 70

 กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ชั้นที่เหนือกว่าชั้น 70 ขึ้นไปนั้นมีไว้สำหรับนักล่าตั้งแต่แรงก์ S ขึ้นไปเท่านั้น! 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลินหยวน ขอเพียงเขาทำภารกิจเพิ่มอีกสักเล็กน้อย ในไม่ช้าแรงก์นักล่าของเขาก็จะเลื่อนขั้นไปถึงแรงก์ S

อย่างไรก็ตาม การที่จะไปถึงแรงก์ SS ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ส่วนนักล่าแรงก์ SSS นั้น แต่ละคนล้วนเป็นบุคคลในตำนาน!

ความแข็งแกร่งของนักล่าแรงก์ SSS เทียบได้กับระดับนายพลในกองทัพเลยทีเดียว

นักล่าแรงก์สูงพวกนี้ก็กำลังต่อสู้กับเผ่าไททันเช่นกัน

แต่พวกเขาเพียงแค่รักอิสระ ไม่ชอบถูกจำกัดในกรอบของกฎระเบียบ พวกเขาจึงไม่ได้เลือกที่จะเข้าร่วมกองทัพ

ขณะนี้หลินหยวนกดไปที่ปุ่มชั้น 70 โดยไม่ลังเล หลังจากประตูปิดลง ลิฟต์ก็พาเขาพุ่งทะยานไปยังชั้นที่เขาต้องการ

เมื่อลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง สาวสวยในชุดสีอ่อนก็ยืนรอต้อนรับเขาอยู่ที่หน้าลิฟต์แล้ว

นักล่าแรงก์ A ขึ้นไปนั้นล้วนถูกมองว่าเป็นแขกพิเศษของสมาคม ยิ่งไปกว่านั้น คนที่รับผิดชอบในการต้อนรับพวกเขาล้วนแต่เป็นหญิงงามที่ถูกฝึกอบรมมาอย่างดีเช่นกัน

“ยินดีต้อนรับค่ะคุณนักล่า วันนี้คุณมีอะไรให้ทางเราช่วยเหลือคะ?” หญิงสาวในชุดสูทสีอ่อนโค้งคำนับให้หลินหยวน ท่าทางของเธอแสดงถึงความนอบน้อมมาก

เด็กหนุ่มเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วถามว่า “ผมสามารถโพสต์ภารกิจตรงนี้ได้ไหมครับ?”

“ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบรับอย่างสุภาพ “ไม่ว่าคุณจะรับภารกิจหรือโพสต์ภารกิจ ดิฉันก็จัดการให้ได้ทั้งนั้นค่ะ”

หลินหยวนพยักหน้าก่อนจะถามว่า “ถ้างั้นผมขอถามหน่อย ผมจะสามารถโพสต์ภารกิจสูงสุดได้ในระดับไหนครับ?”

“เอาแบบนี้ดีไหมคะ ทางสมาคมจองห้องรับรองเอาไว้ให้คุณเป็นห้อง A7053 ในระหว่างที่เดินไปที่นั่นเราก็คุยกันไปพลาง ๆ ดีไหมคะ และในอนาคตหากคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถเรียกดิฉันได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ดิฉันพร้อมจะบริการคุณเต็มที่” จากนั้นสาวสวยก็เดินนำแขกตรงไปยังห้องที่เธอเอ่ยถึง

ขณะเดียวกัน เธอก็อธิบายให้อีกฝ่ายฟังว่า “ด้วยแรงก์ปัจจุบันของคุณนักล่า คุณสามารถโพสต์ภารกิจได้ถึงระดับ A และรางวัลสูงสุดของภารกิจก็คือ 50 ล้านหยวนค่ะ”

“นอกจากนี้สมาคมนักล่าจะทำการประเมินความยากของภารกิจที่คุณโพสต์ด้วย ถ้าหากระดับความยากถึงมาตรฐานของภารกิจระดับ A  เราจึงจะเผยแพร่ภารกิจของคุณนักล่า แต่ถ้าคุณต้องการจะโพสต์ภารกิจที่สูงกว่านี้ ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะคะ ตามกฎระเบียบของสมาคมนักล่า หากคุณต้องการโพสต์ภารกิจที่สูงกว่าแรงก์นักล่าในปัจจุบัน คุณเพียงแค่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพิ่มอีก 20% ค่ะ”

หลังจากหลินหยวนฟังคำอธิบายของพนักงานสาว เขาก็พยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนที่เขาจะถามว่า “หมายความว่าถ้าผมต้องการโพสต์ภารกิจที่มีเงินรางวัลมากกว่า 50 ล้าน ภารกิจนั้นจะต้องเป็นภารกิจระดับ S ใช่ไหมครับ?”

“ถูกต้องค่ะ” สาวงามยิ้มตอบ

“ตกลงครับ” เด็กหนุ่มกล่าวเบา ๆ “ถ้างั้นผมขอโพสต์ภารกิจระดับ S ครับ เงินรางวัลภารกิจ… ตั้งไว้ที่ร้อยล้านหยวน”

พอพนักงานสาวได้ยินตัวเลขนี้ เธอก็ตกตะลึงไม่น้อยจนเกือบจะสะดุดล้ม

โชคดีที่เธอตั้งสติได้ทันเวลา จึงไม่เผลอทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าแขก

ถึงแม้ว่าเธอจะคอยรับใช้นักล่าแรงก์ A มาโดยตลอด แต่หลังจากที่ผู้ชายคนนี้เอ่ยปากถึงรางวัล 100 ล้านหยวน มันกลับให้เธอตกใจจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ 

ต้องบอกว่าแม้แต่นักล่าแรงก์ A การจัดการเงิน 20-30 ล้านเพื่อมอบหมายภารกิจนั้นถือว่าหาได้ยากมากแล้ว

แต่ชายตรงหน้าเธอที่สวมหน้ากากน่ากลัวกลับพูดคำว่าร้อยล้านหยวนออกมาได้แบบไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับภารกิจที่เขามอบหมายยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าแรงก์นักล่าของตนเอง ซึ่งทางสมาคมจะคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่มอีก 20%

นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 120 ล้านในการมอบหมายภารกิจนี้

นักล่าที่เธอกำลังดูแลคนนี้เป็นใครกันแน่?

แล้วภารกิจที่เขาต้องการโพสต์นั้นคืออะไร?

อีกอย่าง… เขาดูไม่ลังเลเลยที่จะมอบหมายภารกิจระดับสูงกว่าแรงก์นักล่าตัวเองโดยจ่ายเงิน 120 ล้านหยวนเป็นเงินรางวัล

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้พนักงานสาวก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “คุณนักล่า คุณพูดจริงเหรอคะ?”

หลินหยวนเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วถามกลับไปว่า “คุณคิดว่าผมกำลังล้อเล่นอยู่หรือไง?”

หญิงสาวที่ได้ยินคำตอบของแขกก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ดิฉันขออนุญาตถามหน่อยนะคะ คุณต้องการมอบหมายภารกิจอะไรเหรอคะ?”

เมื่อมีการโพสต์มอบหมายภารกิจแล้ว ภารกิจนี้จะถูกสมาคมนักล่าประกาศไปทั่วป้อมปราการสงคราม

ทางด้านหลินหยวนเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร เขาจึงตอบกลับไปว่า “ภารกิจนั้นง่ายมาก เพียงแค่ฆ่าคนคนหนึ่งที่เป็นคนของลัทธิไททันที่มีชื่อว่า ‘มัจจุราชหน้าหยก’ นอกจากนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอาชญากรระดับ S ที่ทางการต้องการตัว ถ้าใครสามารถฆ่าเขาได้ รางวัลร้อยล้านก็จะเป็นของคนนั้น”

พนักงานสาวยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิมในขณะที่เธอแอบกระซิบเสียงเบาว่า “ที่จริงแล้วภารกิจที่มีความยากระดับนี้ เพียงแค่ตั้งเงินรางวัลภารกิจไว้ที่ 30 หรือ 40 ล้านก็มีนักล่ายินดีที่จะทำภารกิจนี้แล้วนะคะ”

“เงินรางวัลสำหรับภารกิจร้อยล้านนั้นดูเหมือนว่า… จะสูงเกินไปหน่อยค่ะ”

ทว่าหลินหยวนกลับพูดแทรกขึ้นมาว่า “ไม่จำเป็นครับ ผมเอ่ยปากแล้วว่าร้อยล้าน คุณก็ใส่ไปร้อยล้านนั่นแหละ ขอเพียงแค่มีคนเอาหัวของมัจจุราชหน้าหยกมาได้ ผมก็ยินดีจ่ายไม่ให้ขาดแม้สตางค์เดียว”

เมื่อหญิงสาวเห็นแขกยืนกรานเช่นนี้ เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีความแค้นอะไรกับนักโทษที่ทางการต้องการตัวที่ชื่อ ‘มัจจุราชหน้าหยก’ เขาถึงได้เสนอค่าหัว 100 ล้านหยวนแบบนี้

แต่การที่อีกฝ่ายยอมควักเงิน 120 ล้านหยวนออกมาเพื่อการนี้ มันก็พิสูจน์ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดาเลย

อันที่จริงสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ เหตุผลที่หลินหยวนต้องใจกว้างขนาดนี้เป็นเพราะเขารู้ว่าไม่มีใครสามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้

เพราะโม่จิ่วโหยวเพิ่งตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง แล้วจะมีโม่จิ่วโหยวคนที่ 2 บนโลกได้อย่างไรกัน?

ถ้าจะให้พูดตามตรง เงินรางวัลสำหรับภารกิจ 100 ล้านหยวนนี้เป็นเพียงแค่ฉากบังหน้าเท่านั้น เหตุผลที่เขาเสนอเงินรางวัลสูงลิ่วให้กับคนตายนั่นก็เพราะเขาจำเป็นจะต้องอาศัยโอกาสนี้ในการตามหาผู้สมรู้ร่วมคิดกับโม่จิ่วโหยว!

ในป้อมปราการที่มีคนอย่างน้อยหลายล้านคน ตัวเขาที่รู้เพียงนามแฝงของอีกฝ่าย การตามหาตัวสาวกลัทธิไททันมันก็ไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทรเลยสักนิด

ดังนั้นสิ่งที่หลินหยวนต้องทำก็คือ ดึงดูดนักล่าจำนวนมากให้มาร่วมมือด้วยเงินรางวัลภารกิจสูง ๆ พร้อมกับโปรโมตภารกิจนี้ให้เต็มที่

แล้วเขาก็ทำเพียงแค่รอจนกว่าปลาจะงับเหยื่อ

แน่นอนว่าการทำแบบนี้จะต้องมีปลาตัวใหญ่มาติดเบ็ดเขาด้วย

เด็กหนุ่มทำได้เพียงอดทนรอจนกว่าข่าวภารกิจล่าเงินรางวัลนี้จะไปถึงหูของชาวลัทธิไททันพวกนั้น

หลังจากคนพวกนั้นได้ยินข่าวว่า ‘มัจจุราชหน้าหยก’ ถูกตั้งค่าหัว 100 ล้านหยวน พวกมันจะรีบติดต่อเขามาทันที!

 

*******************************************

SkySaffron: เป็นแผนที่ดีมาก รอเหยื่อมาติดเบ็ดเลย