ยาปรับฮอร์โมน...กินอย่างไรไม่ให้มีผลข้างเคียง

-A A +A
ยาปรับฮอร์โมน...กินอย่างไรไม่ให้มีผลข้างเคียง

ยาปรับฮอร์โมน...กินอย่างไรไม่ให้มีผลข้างเคียง

ยาปรับฮอร์โมน...กินอย่างไรไม่ให้มีผลข้างเคียง

                 อาการของผู้หญิงในระหว่างการมีประจำเดือน หรือบางคนอาจจะก่อนหรือหลังก็ได้  อาจจะทำให้หลายคนเปลี่ยนจากหญิงสาวผู้น่ารัก อ่อนหวาน แสนดี กลายเป็นคนขี้เหวี่ยงขี้วีนเป็นมนุษย์เม็นส์ผู้น่ารำคาญ จนทำให้ไม่มีใครอยากเฉียดเข้าใกล้ 

               อาการที่ทำให้นางฟ้าแปลงร่างกลายเป็นแม่มดนี้  เกิดจากฮอร์โมนเพศในตัวสาว ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงนั่นเอง   ฮอร์โมนที่ว่า ก็คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงและฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่มีอยู่ในตัวผู้หญิง   ฮอร์โมนเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงใกล้การมีประจำเดือน ส่งผลทำให้ร่างกาย จิตใจและอารมณ์เปลี่ยนแปลง ทางการแพทย์เรียกอาการนี้ว่า อาการ PMS (Premenstrual Syndrome)  ซึ่งจะปรากฏอาการให้เห็นในลักษณะของการรู้สึกไม่สบายตัว  เป็นสิว ปวดหัว นอนไม่หลับ เหงื่อออกมาก ปวดเมื่อยตามร่างกาย น้ำหนักขึ้น บวม ผมร่วง  ปวดท้อง หิวบ่อย ขี้ลืม เจ็บคัดเต้านม หงุดหงิด ฉุนเฉียว อารมณ์เสียง่าย เป็นต้น

               ปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางการแพทย์ได้พัฒนายาคุมกำเนิดที่นอกจากจะมีฤทธิ์หรือมีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 99 % แล้ว  ยังเป็นยาที่ช่วยในการปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปรกติ  สามารถรักษาอาการข้างต้นของผู้หญิงซึ่งเกิดจากฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ นอกจากรักษาอาการ PMS แล้วเป็นยาคุมช่วยหน้าใสที่กินแล้วไม่มีผลข้างเคียงหรือถ้ามีก็มีน้อยมาก            

               อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่กิน ยาปรับฮอร์โมน  แล้ว เกิดอาการข้างเคียงมากบ้างน้อย เช่น  ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน  ประจำเดือนกะปริดกะปรอย  เม็นส์มาไม่ตรงเวลา มีเลือดออกผิดปรกติ อารมณ์แปรปรวน  และมีหลอดเลือดอุดตัน หากสาว ๆ คนใดที่กินยาปรับฮอร์โมนไปแล้วเกิดอาการข้างเคียงดังกล่าว ก็ลองสังเกตตัวเองดูนะคะว่า  มีพฤติกรรมการกินยาแบบนี้หรือไม่

 ซื้อยาคุมกำเนิดมากินโดยไม่ได้ปรึกษาหมอหรือเภสัชกร   เพราะยาคุมกำเนิดแต่ละตัวแต่ละยี่ห้อจะมีตัวยาหรือฮอร์โมนที่ไม่เท่ากัน เช่นบางชนิดเป็น   ee20d บางชนิดก็เป็น ee30d หรือ ee35c เป็นต้น ซึ่งยาคุมกำเนิดเหล่านี้จะต้องเลือกกินให้เหมาะสมกับสภาพฮอร์โมนของแต่ละคน

               ปัจจุบันได้มีการพัฒนายาปรับฮอร์โมนเจนเนอเรชันใหม่ให้มีผลข้างเคียงลดลงและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์มากขึ้น  ดังนั้นคำแนะนำสำหรับผู้ที่กินยาปรับฮอร์โมนแล้วมีอาการข้างเคียง ก็คือ ต้องกินยาปรับฮอร์โมนที่เหมาะกับตัวเอง  เช่น คนที่กินยาแล้วคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ก็ต้องหายาคุมกำเนิดที่มีตัวฮอร์โมนอยู่ในปริมาณต่ำ อย่าง ee20หรือ ee30ทั้งนี้เพราะยาปรับฮอร์โมนบางชนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนอยู่มาก แม้จะมีฤทธิ์ในการป้องกันการคุมกำเนิดได้สูง แต่ในขณะเดียวกันก็มีผลข้างเคียงสูงเช่นกัน   หรือคนที่เป็นสิวเยอะ ๆ ก็ให้เลือก ee35c เพราะตัวนี้จะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนบางตัว ที่มีฤทธิ์ต่อต้านแอนโดรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ตัวนี้ก็จะช่วยให้สาว ๆมีผิวสวยขึ้น เป็น ยาคุมช่วยลดสิว ได้ และลดอาการขนดกได้ด้วย

บางคนอาจจะมีคำถามว่า แล้วจะกิน  ยาคุมยี่ห้อไหนดี จริง ๆแล้วยาคุมกำเนิดทุกยี่ห้อจะมี

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้เหมือน ๆ กัน จะแตกต่างกันแค่ชนิดของฮอร์โมน เจเนอเรชั่น และปริมาณของฮอร์โมนเท่านั้นเอง ดังนั้นการเลือกยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง แนะนำว่าน่าจะเลือกหรือดูปริมาณของฮอร์โมนที่เหมาะกับตัวเองก่อนจะดูว่าจะเลือกยี่ห้อไหนดีหรือถ้าจะให้ดีและปลอดภัยที่สุด ก็ควรปรึกษาหมอหรือเภสัชกรประจำร้านยาก่อนใช้ยาคุมกำเนิดค่ะ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.