รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ 6 : คนพิลึก

รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ (หนังสือชุดเจ้าจอมภพ/ ตย. 60%)

-A A +A

รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ 6 : คนพิลึก

       “คุณขวางผมทำไม” ประโยคแรกถามขึ้นหลังจากที่ร่างชวณัดฐ์ปิดประตูก้าวเข้ามายืนในคอนโดฯ และวิญญาณสาวที่ควบคุมร่างเขามาตลอดตั้งแต่ในผับจนถึงก่อนหน้านี้เลิกสิงร่างเขาแล้ว

 

       “คุณคิดอะไรของคุณคะคุณณัดฐ์ เพิ่งมีเรื่องกับผู้หญิงอีกคน ก็จะหาเรื่องใส่ตัวแล้ว” วิญญาณสาวบ่นอย่างหัวเสีย

 

       “เรื่องของผม” เขาบอกเสียงนิ่ง

 

       “คุณไม่กลัวคุณหมอเบสท์เสียใจหรือคะ ถ้าเธอรู้ว่าคุณทำแบบนี้” เธอพยายามเตือนสติเขา

 

       “ผมมันเลว เธอทิ้งผมไปแล้ว จะสนใจอะไร” เขาอารมณ์ขุ่นไม่แพ้กัน แต่ยังพยายามคงความสุภาพไว้

 

       “นี่คุณไม่คิดจะกลับไปง้อเธอหรือคะ” เธอตั้งคำถามพลางจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างหาคำตอบ ทว่าเขากลับเงียบไม่สบตา

 

       “คุณไม่รักเธอแล้วหรือคะ ถ้ายังรักเธออยู่ คุณต้องกลับไปง้อ และพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าคุณจริงใจและจริงจังกับเธอ ไม่ใช่มาสำมะเลเทเมาให้เธอยิ่งเสียใจขึ้นอีกอย่างนี้” พูดไปหญิงสาวก็อดเสียงดังไม่ได้ ชายหนุ่มไม่รู้จะตอบกลับยังไงก็เดินหนีเสียดื้อ ๆ

 

       “จะไปไหนคะคุณณัดฐ์!”

 

       เขาไม่ตอบ ทำเพียงเดินเข้าห้องนอนคว้าผ้าเช็ดตัวหายเข้าห้องน้ำไป

 

       “อย่าทำร้ายตัวเองนะคะ ไม่งั้นฉันจะไปอาบให้คุณเอง” วิญญาณสาวส่งกระแสจิตมาดักคอ

 

       แต่อีกฝ่ายไม่ได้เกรงสักนิด คิดสบประมาทด้วยซ้ำว่าอย่างเธอคงไม่กล้าหรอก แต่ที่สุดเขาก็ไม่ได้ทำอะไรตนเอง รีบอาบน้ำให้เสร็จ ๆ ไป จากนั้นก็รีบออกมาเปลี่ยนชุดใหม่ ตอนแรกหมายจะดันทุรังออกไปเที่ยวอีกรอบ แต่นึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีงานจึงต้องยั้งใจไว้ กลับเข้าห้องแล้วหลับแต่โดยดี

 

 

       ตลอดเวลางานยังดีที่ศัลยแพทย์หนุ่มมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง แยกแยะได้ว่าหน้าที่คือหน้าที่ที่ต้องทำ ส่วนเรื่องส่วนตัวเวลางานก็ต้องเก็บเอาไว้ก่อน แม้ว่าเวลาว่างสติเขาจะหลุดเหม่อลอยเป็นพัก ๆ แต่เมื่อคนไข้อยู่ในมือก็สามารถประคองสติดำเนินภารกิจได้อย่างยอดเยี่ยม

 

       ถึงหญิงสาวในโลกที่สามจะกลัวการผ่าตัด กลัวเลือดมากเพียงใด ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มก็ยังพยายามฝืนเข้าไปเฝ้าถึงในห้องผ่าตัด เพราะกลัวเขาจะเผลอสติรักษาผู้ป่วยผิดพลาด แต่เขาก็ทำให้เธอทึ่งจนอดชื่นชมในใจไม่ได้

 

       ทุกครั้งที่เขาหันมาเจอร่างโปร่งบางเข้าก็จะทำหน้าบึ้งตึงใส่ คงหงุดหงิดที่ถูกตามคุมพฤติกรรมไปทุกที่นั่นเอง แต่คนอย่างเธอรึ จะสนใจอากัปกิริยานั้น ยังคงลอยหน้าลอยตาตามเกือบตลอดเวลา ยกเว้นเวลาเข้าห้องน้ำเท่านั้น

 

       “คุณเก่งมากนะคะที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้” วิญญาณสาวชวนคุยระหว่างที่ศัลยแพทย์หนุ่มกำลังขับรถไปต่อที่คลินิก ทว่าเขาทำเป็นไม่เห็นเธอมีตัวตนอยู่ตรงนั้น เมื่อรู้แบบนี้จึงคิดเปลี่ยนเรื่องคุย สักเรื่องที่เขาอาจหลุดปากพูดด้วยบ้าง

 

       “เตรียมวิธีง้อคุณหมอเบสท์ไว้หรือยังคะ ถ้ายังคิดไม่ออกฉันเสนอวิธีให้เอาม้า” เธอพยายามทำตัวให้ร่าเริงเพื่อให้เขารู้สึกสนุกตามบ้าง แต่รายนั้นก็มิวายเมินใส่อีกอยู่ดี

 

       “เอางี้ไหมคุณณัดฐ์ ฉันคิดออกวิธีหนึ่ง ถ้าเธอไม่ยอมคุยกับคุณนะ ก็แก้ผ้าวิ่งรอบคลินิก แล้วประกาศรักเธอให้โลกรู้ไปเลย” เธอพูดประกายตาวิบวับอย่างสนุกสนานกับความคิดแผลง ๆ ของตนเอง แต่สีหน้าเขาก็ไม่สนุกด้วย หากแววตากลับเต้นระยับเหมือนซ่อนยิ้มไว้อย่างนั้น

 

       “ฮั่นแน่ ถึงหน้าไม่ยิ้มแต่ฉันรู้นะคะว่าหัวใจคุณยิ้มแล้วน่ะ อย่าทำไก๋น่า” เธอได้ทีก็รีบแหย่อีกฝ่ายเล่น

 

       “คุณเลิกกวนผมสักทีเถอะครับ” ชวณัดฐ์ยังทำหน้านิ่งซ่อนยิ้มดังเดิม

 

       “เย้! ในที่สุดคุณก็ยอมเอ่ยปากคุยกับฉันแล้ว” วิญญาณสาวดี๊ด๊าดีใจเกินจริง หากทำให้คนที่กำลังขับรถอดกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่จนได้

 

       “คุณนี่ก็...เฮ้อ!” ชายหนุ่มพูดด้วยความยอมใจ

 

       “เวลาคุณยิ้มหล่อสุด ๆ ไปเลยน้า รู้ตัวหรือเปล่าคะ” เธอชมตามตรง

 

       "นั่นสิ ไม่งั้นคุณไม่ตามติดผมอย่างนี้หรอกครับ" ชวณัดฐ์ว่าหน้าตาเฉย หางตาทันเห็นคนข้าง ๆ สะดุ้งเล็กน้อยพลางลอบยิ้มในใจ

 

หากเขามีหูทิพย์ ตอนนี้คงได้ยินหัวใจหญิงสาวเต้นโครมครามราวจะทะลุจากอกไปแล้ว นับว่าเป็นโชคดีของเธอจริง ๆ ร่างบางสมส่วนคิด พลางเหลือบมองคนหลังพวงมาลัยว่าแอบมองเธอบ้างหรือเปล่า เมื่อเห็นฝ่ายนั้นยังเฉย เธอก็กลั้นใจนั่งอยู่ที่เดิมต่อไปเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต หากหายไปตอนนี้เขาอาจคิดได้ว่าเธอหลบหน้าเพราะเขินเป็นแน่ ทั้งที่ในใจก็เขินจนแอบกรี๊ดอยู่เป็นพัก ๆ คนเดียว รอจนชายหนุ่มเดินเข้าคลินิก หญิงสาวในโลกที่สามจึงหลบเร้นไป แต่มิวายทิ้งคำพูดไว้ให้เขาอมยิ้มเล่น

 

       “ขอให้ง้อสำเร็จนะคะ แล้วอย่าลืมหาของอร่อยมาเซ่นฉันด้วยล่ะ”

 

       ชวณัดฐ์รู้สึกดีขึ้นที่ได้เย้าแหย่วิญญาณสาวที่ตนเองไม่รู้จัก พลางเดินยิ้มเข้ามาในคลินิกด้วยความสบายใจขึ้นบ้าง นั่นสิ! จะว่าไปยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย อยู่ด้วยกันมาก็หลายวัน

 

       สองขายาวเดินผ่านโซนนั่งรอของลูกค้าเข้ามาภายใน เลี้ยวมุมเล็กน้อย ด้านหนึ่งเป็นห้องทำงานเขา ตรงข้ามกันเป็นห้องใครคนนั้น คนที่กุมหัวใจเขาอยู่ตอนนี้

 

       ห้องทำงานของทั้งคู่เป็นห้องกระจกใส ทว่าบังทัศนียภาพด้วยผ้าม่านสีสวยที่อดีตแฟนสาวของเขาเป็นคนเลือกมาประดับเอง

 

       เห็นผ้าม่านแล้วร่องรอยความสุขก็แวบเข้ามาในสมอง รอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ การเอาใจใส่ น้ำใจ ความเอื้ออารีที่เขาไม่ค่อยเห็นจากผู้หญิงคนไหนเท่าที่เคยคบมา

 

       ชวณัดฐ์แอบหวัง ขอให้เธอเป็นคนสุดท้ายของชีวิต เพราะเขาเหนื่อยกับความไร้หลักไปวัน ๆ ของตนเอง และต้องเฝ้าตามหาใครสักคนมาดูแลหัวใจแล้ว  

 

ร่างสูงยืนรวบรวมกำลังใจอยู่เดี๋ยวหนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปเคาะประตูห้องศัลยแพทย์สาว

 

       “เชิญค่ะ” เสียงขานรับจากคนในห้องดังออกมา แต่น้ำเสียงนั้นไม่คล้ายเป็นเสียงคุ้นเคยของคนที่เขารักเท่าใดนัก แล้วเขาก็ผลักประตูเข้าไป

 

       “อ้าว ณัดฐ์เองหรือคะ”

 

       คนที่ชายหนุ่มเห็นในห้องทำงานของอดีตแฟนสาวไม่ใช่เธอ

 

       “มาหายัยเบสท์หรือเปล่าคะ รายนั้นบอกว่าติดธุระเลยขอให้องุ่นมาดูคนไข้แทนน่ะค่ะ” ศัลยแพทย์สาวที่เป็นเพื่อนคนหนึ่งของอัจฉริยาอธิบาย เมื่อเห็นสายตาสงสัยที่ส่งมาจากเขา

 

       “ครับ งั้นผมขอตัวก่อน”

 

เมื่อคนรักของเขาไม่อยู่ ก็ไม่เห็นความจำเป็นใดที่จะต้องอยู่ในห้องนี้สองต่อสองกับศัลยแพทย์สาวคนใหม่ต่อไป เขาจึงเลือกที่จะเดินออกมา อีกเหตุผลหนึ่ง ดวงตาที่ผ่านประสบการณ์มากมายดูออกว่าเธอคนนี้แอบชอบเขาอยู่ แต่คาดว่าเพราะเขาเลือกอัจฉริยา ด้วยความเป็นเพื่อนกันจึงต้องซ่อนความรู้สึกไว้ ถึงอย่างนั้นบางทีก็รู้สึกว่าเธอจะทำตัวเป็นเพื่อนแปลก ๆ ของคนรักเขาอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความไม่อยากใส่ใจมากนักจึงทำให้ไม่ได้เก็บรายละเอียดในตัวอีกฝ่ายเท่าใด

 

จะว่าไปเขาเจอศัลยแพทย์สาวคนนี้ก่อนคนรักของเขาเสียอีก และเขาได้พบศัลยแพทย์อัจฉริยาก็เพราะเธอคนนี้พามาทานข้าวในวันหนึ่งด้วย ตอนแรกชายหนุ่มเองก็คิดจะจีบเธอ แต่พอเจออดีตแฟนสาวเข้าก็เปลี่ยนใจ และเพื่อไม่ให้เสียเรื่องจึงจำเป็นต้องตัดเธอออกจากรายชื่อที่จะจีบเก็บไว้คลายเหงาเสีย

 

 

       หญิงสาวในโลกที่สามหายไปหลายชั่วโมง กลับมาหาชวณัดฐ์อีกครั้งเมื่อได้เวลาที่เขาน่าจะกำลังขับรถออกจากคลินิกกลับคอนโดฯ โผล่มาก็ทันเห็นฉากที่สาวสวยคนหนึ่งจับมือเขาไว้พอดี

 

       “ถ้ามีอะไรก็บอกองุ่นได้นะคะณัดฐ์ องุ่นยินดีเสมอ” หญิงสาวคนนั้นบอกเขาพลางส่งสายตาอาทรมาให้ ก่อนจะหันหลังเดินไปขึ้นรถของตนเอง

 

       ชวณัดฐ์มองตามเธอไปจนคล้อยสายตา ก่อนจะหันกลับมาทางรถเขาบ้าง ก็พบวิญญาณสาวยืนมองมาอยู่ก่อนด้วยแววตามีคำถาม เขาไม่ได้พูดอะไร ทำเป็นเฉยแล้วเดินขึ้นรถมาเสียอย่างนั้น

 

       “คุยกับคุณหมอเบสท์หรือยังคะ เป็นไงบ้าง” วิญญาณสาวเปิดประเด็นขึ้นก่อน พยายามเก็บความสงสัยเรื่องสาวสวยก่อนหน้านี้ไว้

 

       “เธอติดธุระครับ เลยไม่ได้เข้าคลินิก” เขาบอกแค่นั้น

 

       “อ้าว เสียดายจังค่ะ” แล้วเธอก็สังเกตว่าคนข้างๆจะนิ่งเงียบไป หันมาก็เห็นดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นฉายแววครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่เจือความเศร้าสร้อยอยู่ด้วย

 

       “เธออาจจะติดธุระจริง ๆ ก็ได้ค่ะ ยังไงลองโทร.ถามข่าวจากแม่เธอดูสิคะ ถ้าคุณโทร.ถามข่าวจากแม่เธอทุกวัน เธอรู้แล้วคงจะลดความงอนคุณลงบ้างนะ” เธอพยายามพูดให้กำลังใจ ทว่าสีหน้าศัลยแพทย์หนุ่มก็ยังไม่ดีขึ้น

 

       เห็นอย่างนั้นก็ไม่กล้าจะพูดอะไรต่ออีก กลัวว่าเขาจะรำคาญขึ้นมา ดังนั้นทั้งรถจึงตกอยู่ในความเงียบตลอดทาง แม้เสียงเพลงที่เขามักเปิดฟังก็ไม่มีให้ได้ยิน

 

 

       กลับมาถึงคอนโดฯ ชวณัดฐ์ก็เข้าอาบน้ำตามปกติ ก่อนจะออกมานั่งเช็กข้อความในโทรศัพท์หลังจากเขาหายจากการเช็กไปคืนหนึ่ง เปิดเฟส เปิดไลน์มา ข้อความจากหกสาวของเขาก็เด้งขึ้น พวกเธอล้วนแต่ต้องการคำตอบในสิ่งที่สงสัย เขาอ่านข้อความเหล่านั้นแล้วก็อดหัวเสียไม่ได้ มันช่างจู้จี้น่ารำคาญเสียจริง แต่ก็ต้องพยายามตั้งสติหาคำพูดที่สุภาพและเข้าท่าที่สุดเพื่ออธิบายให้พวกเธอฟัง

 

       ชายหนุ่มตัดสินใจบอกความจริงบางส่วนและรับผิดกับทุกคน ก่อนจะลงเอยด้วยการขอเลิกความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างกันทั้งหมด

 

       หญิงสาวในโลกที่สามซึ่งกำลังแอบส่องข้อความที่เขาตอบพวกสาว ๆ ทั้งหกอยู่ ทราบแล้วก็ได้แต่ยิ้มพึงพอใจ แบบนี้สิถึงจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง

 

       “คุณณัดฐ์คะ ขอโทษค่ะ คือฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณสักหน่อยค่ะ” แล้วหญิงสาวในโลกที่สามก็ขัดขึ้น พอดีกับที่เขาตอบข้อความหญิงสาวคนสุดท้ายเสร็จ

 

       “ครับ”เขารับคำโดยไม่หันมามอง นิ้วก็เขี่ยจอสมาร์ทโฟนต่อไป

 

       “เรื่องที่จะไปดูร่างฉัน คุณยังไม่ลืมใช่ไหมคะ เอ่อ…ฉันไม่ได้จะเร่งนะคะ” ท้ายประโยคเธอพูดเสียงอ่อยลงด้วยความเกรงใจ

 

       “ครับ ช้าสุดภายในวันไหนครับ” เขาถามเสียงปกติ เผื่อเธอมีเหตุผลสำคัญเร่งด่วน ขณะสายตาก็ยังไม่ละจากตัวหนังสือต่าง ๆ ในวัตถุสี่เหลี่ยมแบนบนมือ

 

       “อันที่จริงภายในเดือนนี้ก็ได้อยู่ค่ะ”

 

       “คุณมีเหตุผลอะไรสำคัญเร่งด่วนหรือเปล่าครับ ผมจะได้ประเมินเวลาว่าควรรีบแค่ไหน”

 

       “ทางท่านที่ส่งฉันมาอยู่กับคุณบอกว่า อย่างน้อยอยากให้คุณเชื่อใจว่าฉันไม่ใช่เรื่องปรุงแต่งไปเองของคุณน่ะค่ะ คุณจะได้มั่นใจที่จะช่วยฉัน”

 

       “ท่านได้บอกอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยคุณอีกไหมครับ” ถามเพราะยังไม่เห็นว่าตนเองจะช่วยวิญญาณสาวได้อย่างไรเลย

 

       “เมื่อถึงเวลานั้นคุณจะรู้เองค่ะ ท่านเคยบอกไว้อย่างนี้” สิ่งที่ชายหนุ่มอยากรู้เป็นสิ่งเดียวกันกับที่เธอเคยถามท่านผู้นั้นไปก่อนหน้านี้เช่นกัน

 

       “ครับ” เขาตอบสั้น ไม่ได้ข้องใจอะไรอีก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ก็ถามต่อ

 

       “ว่าแต่ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย คุณชื่ออะไรหรือครับ”

 

       “นึกว่าจะไม่ถามซะแล้วนะคะ” หญิงสาวเย้าอย่างนึกขำ

 

       “ฉันชื่อ ทิพาธรณ์ ก้าวหน้า ค่ะ ชื่อเล่น กะทิ” เธอเห็นเขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเพราะข้อความในโทรศัพท์ หรือเพราะชื่อของเธอกันแน่ แต่ก็ได้แจ้งใจกับประโยคต่อมาของอีกฝ่าย

 

       “ชื่อแปลกดีครับ” เขาว่า

 

       “คุณณัดฐ์ชื่อจริงอะไรคะ แล้วอายุเท่าไร” ได้โอกาสเธอก็ถามด้วยความอยากรู้ทันที

 

       “ผมชื่อ ชวณัดฐ์ ไพบูรณ์ธนวัฒน์ ครับ อายุยี่สิบเจ็ดปี” เขาตอบ

 

       “คุณล่ะครับอายุเท่าไร เรียนจบหรือยังครับ”

 

       หญิงสาวต่างมิติสัมผัสได้ ถึงแม้น้ำเสียงจะดูปกติขึ้นมาก แต่ก็ทราบดี ความทุกข์ในใจเขายังไม่หมดไป

 

       “ฉันอายุยี่สิบสี่ย่างยี่สิบห้าแล้วค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์ให้กับองค์กรต่างประเทศแห่งหนึ่งอยู่”

 

       จากนั้นทั้งคู่ก็หาเรื่องมาคุยกันต่ออีกสักพัก ก่อนชายหนุ่มจะขอตัวเข้านอน เพราะพรุ่งนี้มีเวรเช้าตามเคย รอจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับสนิทเป็นปกติดีแล้ว วิญญาณสาวจึงหายไป

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ เพียงเรียงรัก

รอติดตามครับ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.