2. เตียงวิเศษ

Serendipity ตาหา (เจ้าชาย) เมืองอกแตก

-A A +A
อ่านต่อ

2. เตียงวิเศษ

 

ความพิเศษของมัน...แสกนความบกพร่องถึงระดับ DNA

--------------------------------

 

ชายหนุ่มฉบับร่างหนาสวมแว่นตากันแดดมองมาที่เธออย่างฉงนกับคำถาม เขายิ้มให้สาวน้อยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเข้าใจสำหรับเขา...นั่นคือประเด็นที่ทำให้เขายังอยากสนทนากับเธอต่ออีก

“ไม่รู้ว่า...เข้าใจที่คุยกันแค่ไหน misunderstand something?!” เขาพูดทำนองว่าเธอต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ

“ผมมีเตียงอย่างที่ว่า...นะ! I do have what you’re telling to me” เขาแย้งเธอ

“งั้นจะไปดูกันที่ไหนล่ะ...where เข้าใจฉันไหม” เธอเริ่มพูดภาษาอังกฤษปนไทย

“โอเค...my home!” เขาตอบชัดเจนเน้นคำลงท้ายว่า คือบ้านของเขา

“เราไปกันเลยไหม...ผมไม่ค่อยว่าง” เขารีบตอบท่าทางคงจะไม่ว่างจริง

 

เขาดึงมือเธอเดินออกไปจากร้านกาแฟทันที แต่อลิสายังรีรอเพราะเธอทิ้งกระเป๋าเดินทางใบโตไว้ที่ลอบบี้ของตึกที่เพิ่งเดินออกมา ซึ่งได้ขอฝากกระเป๋ากับเคาน์เตอร์รีเซฟชั่นไว้แค่หนึ่งชั่วโมงเพื่อคลำทางไปหาร้านที่มีชื่อตามใบสั่งงาน

“ขอไปเอากระเป๋าก่อนนะ...” เธออิดออด

“อยู่ไหน...ไปเอามา” เขาสั่งเธอทันที ขณะเขายืนรอกดมือถืออยู่ตลอดเวลา

“ไปช่วยหน่อยนะ หนักมาก” เธอเหนื่อยมากที่ลากมันมาจากสนามบินนั่งรถไฟมาโผล่ที่นี่

 

หนุ่มร่างหนาคงรำคาญเดินก้าวยาวไปที่ตึกฝั่งตรงข้ามตามที่เธอชี้ไป เขาเดินไปถึง

ที่นั่นก่อนแล้วยืนรอตรงเคาน์เตอร์

“ใบไหน...เขาถาม”

“สีน้ำเงินใบโต” เธอพูดและทำท่าบอกขนาดของกระเป๋า

 

ในที่สุดเธอได้กระเป๋ามาอยู่ในมือและเขาช่วยลากมันออกมาจากตัวตึก เธอมองดูว่าเขากำลังทำอะไรขณะให้เธอยืนรออยู่ตรงฟุตบาท

“อยู่ตรงนี้...will be right back เดี๋ยวมา” เขาเดินออกไปจากตรงที่เธอยืนไม่ไกล เห็นเขาโทรมือถือ

สักพักรถคันยาวสีดำกระจกมืดทึบค่อยคลานมาจอดสงบนิ่งหน้าเธอ และเขาก้าวกลับมาที่เธอยืนอยู่ ดึงกระเป๋าลากมาที่ชายคนหนึ่งซึ่งเปิดประตูออกมาจากที่นั่งข้างคนขับ ชายคนนี้คำนับเขาและลากกระเป๋าของเธอไปไว้ยังกระโปรงท้ายรถซึ่งมันเด้งเปิดอัตโนมัติ ชายคนดังกล่าวกลับมายืนต่อหน้าเขา ทำท่าโค้งและเปิดประตูด้านหลังให้

“เอ้า...เข้าไป” เขาสั่งเธอ

“Yes, sir…” อลิสาตอบภาษาอังกฤษอย่างสุภาพที่เห็นเขาราวหนุ่มผู้ดี๊ผู้ดีอะไรเช่นนี้

“OK…Ma’am โอเค แมม...” เขาเอ่ยรับลูกหยอกล้อเธอ

“เราจะไปไหนกันเหรอ” เธอถามมองหน้าด้านข้างของเขา

“My home…บ้านฉันไง”

“แล้วให้ฉันพักด้วยไหม” เธอถามอีกครั้ง

“Yes, ma’am ใช่แล้ว...คุณ”

“เอ่อ...ขอบคุณมากนะ...Mr. Gentleman! คุณชาย” เธอไม่รู้จะเรียกเขายังไงไม่รู้จักชื่อกันเลย ขึ้นรถตามไปต้อยๆ

“My name…Prince Delaware ฉันชื่อ ปรินส์ เดอลาแวร์” เขาบอกชื่อเธอ ทันใดอลิสาทำตาโตอย่างตกใจ

“ฮะ...ยูชื่อ ปรินส์ เหรอ ทำไมโชคดีอย่างนี้วะ” เธอเผลอพูดภาษาไทย เอามือจับหัวตัวเองอย่างดีใจสุดแสน

 

หนุ่มร่างบึ้กเงียบนิ่ง คงไม่เข้าใจที่เธอเผลอพูดอะไรออกมา เขาดูไม่สนใจอะไรเลยนอกจากกดดูข้อความต่างๆ บนมือถือ เธอได้ยินเขาสนทนากับหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างคนขับเป็นภาษาซึ่งแน่นอนไม่ใช่ภาษาอังกฤษ อลิสาฟังไม่รู้เรื่องจึงไม่สนใจ เธอยกมือถือขึ้นมากดหาข้อมูลต่างๆ ที่เธอต้องทำงานตาม job description รายละเอียดของใบสั่งงาน

 

เธออยู่ในรถของชายหนุ่มนามว่าปรินส์ประมาณเกือบชั่วโมง รถคันสีดำสนิทคันที่นั่งมาก็เลี้ยวเข้ามาจอดตรงตัวตึกขนาดย่อมเลยจากประตูรั้วไปไม่ไกล บ้านดูหรูหราโอ่โถงมีสวนอยู่หน้าบ้าน ซึ่งขณะนี้เต็มไปด้วยหิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่เป็นสายตามแรงลมพลิ้วไหว

“ยูชื่ออะไร...ไม่บอกกันเลย” เขาเอ่ยขึ้นทำเธอสะดุ้งนึกขึ้นได้ว่าเสียมารยาทมาก ตอนที่เขาบอกชื่อ แต่เธอพลันดีใจเผลอพูดอะไรออกมาโดยไม่ได้บอกชื่อของเธอกลับไป

“อลิสา...Lisa...sorry ลืมบอกยูไปน่ะ” เธอตอบขอโทษทำหน้าสำนึกผิด

“โอเค...ลิซ่า ยู...ตามคนนี้ไปที่ห้อง นอนพักก่อน...มาถึงได้นอนมั่งหรือยัง have a nap yet?!” เขาถามและมองสีหน้าอิดโรยของเธอ

“ยังเลย ขอบใจมากนะ นายปรินส์” เธอตอบเขาอย่างยินดี ในใจนึกว่าโคตรโชคดีอะไรขนาดนี้ได้ที่พักฟรีอีก งานที่ถูกสั่งให้มาทำ ยังไงก็ต้องทำ...มั่วๆ ไป ขอได้เที่ยวและได้อยู่บ้านฟรี คนมันจะเฮงได้ขนาดนี้เลยรึ...นังลิซ่า!

ตอนเย็นหนุ่มคนที่คอยทำหน้าที่ตั้งแต่ขึ้นรถมาถึงบ้าน เขาเป็นเหมือนคนสนิทของนายปรินส์ ถ้าจะเรียกเป็นอังกฤษน่าจะเป็น butler ไหม เธอคิดคำนี้ได้เพราะค้นหาคำในกูเกิ้ล เขาคงยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง เพราะในบ้านนี้ไม่มีใครตอนเธอเดินตามเขาเข้ามา

“Good evening สวัสดี...ลิซ่า” สาวน้อยแดนไกลสะดุ้งเล็กน้อย ทำไมเขารู้ชื่อเธอ

“เอ่อ...มีอะไรเหรอ” เธอตอบกลับไป

“Prince Delaware เชิญทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร ผมจะรออยู่ตรงนี้” เขายืนอยู่หน้าห้องเพื่อให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อลิสาก้มมองเสื้อผ้าก็ใช้ได้อยู่แล้วจึงขอลงไปเลย

“เชิญครับ...” เขาเดินนำทางเธอจากมุมห้องที่เธอพักอยู่ปีกด้านหนึ่งของตัวบ้าน และลงบันไดตามเขาไป เพื่อไปยังห้องอาหาร

 

นายปรินส์นั่งอยู่หัวโต๊ะรอเธออยู่แล้ว ทำท่าเชิญให้เธอนั่งเก้าอี้ข้างเขา เขาแต่งกายเหมือนผู้ดีอังกฤษ สวม vest jacket ทับเสื้อ sweater ตัวในที่เป็นคอเต่า สีเสื้อตัดกันด้วยสีน้ำเงินเข้มตัวในกับเสื้อกั๊ก vest ตัวนอกสีขาวนวล หน้าตาทรงผมเรียบร้อยราวกับผู้ดีอังกฤษสมัยวิกตอเรียน สาวน้อยเคยดูหนังเรื่องหนึ่งกับแม่ตอนเธอรุ่นสาว เขาเหมือนพระเอกในเรื่อง gone with the wind แต่ดูทันสมัยกว่าประมาณกลุ่ม metrosexual หนุ่มเฟี้ยวรุ่น Gen Y แต่เนี้ยบแบบพรีเมียม โหนกแก้มของเขานูนเป็นสันรับกับจมูกโด่งดวงตาสีเขียวหม่น เวลายิ้มสีตาของเขาจะเข้มมองแล้วโดนใจเธอแบบละลายไปพร้อมแสงแดดยามหิมะกำลังตก ความหนาวเย็นยะเยือกมลายหายไปจนหมดสิ้นได้ทันที เมื่อเขาเผยยิ้มที่มุมปากขยับเป็นริ้วหยักเล็กน้อย ยิ่งทำเธอเก็บไปฝันได้ทั้งคืน

“เอ้า...ลงมือเลย หิวก็กินเร็วๆ ได้ ไม่ว่ากัน” เขาพูดขณะมองหน้าเธอที่กำลังหยั่งเชิงเกรงใจ

“ยูเข้าใจผิด...” เธอตอบกลับเบาๆ ไม่อยากเล่าความในใจ

“เหรอ...งั้นกินเลย ผมหิวแล้ว” เขาลงมือหยิบส้อมกับมีดทันที ในจานของเขาเป็นสเต็กแบบ rare meat เห็นเนื้อแดงสุกเพียงแค่เล็กน้อย เขายกแก้วไวน์มองหน้าเธอ และทำท่าเชิญหญิงสาวซึ่งมีแก้วไวน์แดงตั้งวางอยู่แล้ว

“เอ่อ...ยูดื่มเถอะ ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” อลิสากลายเป็นคนเหนียมอายไปเฉยเลย ทั้งที่เธอชอบดื่มไวน์มาก

“ไม่ต้องเกรงใจ Don’t feel bad อยู่ที่บ้านนี้ตามสบาย แต่มีข้อห้าม” เขาพูดย้ำคำนี้

“ทำไมเหรอ...” เธอทำหน้าสงสัย

“Don’t be in my private zone…ห้ามเข้าไปพื้นที่ส่วนตัว” เขาสั่งเสียงเข้ม

 

หญิงสาวพยักหน้าและทำมือเป็นสัญญาณโอเค...เธอกินอาหารมื้อค่ำที่เป็นเนื้อปลาเหมือนปลาร้าเมืองไทย รสเปรี้ยวกินกับผักดองและมีซุปมะเขือเทศ น่าจะเป็นเมนูนำเสนอของเขา เขาเลิกคิ้วมองเธอที่เอาแต่ซดซุป ตักเนื้อปลาพอชิมรสชาติ แล้วถามอย่างสงสัย

“ไม่อร่อยรึ...!!! ผมสั่งเมนูพิเศษ...อเล็กซ์แนะนำ เห็นว่าคุณเป็นคนเอเชีย” เขายังไม่ได้ถามเธอด้วยซ้ำว่ามาจากซีกไหนของเอเชีย

“รู้ด้วยเหรอว่า ฉันเป็น Asian girl” เธอทำหน้างง

“หน้าตาแบบนี้เหมือนลูกครึ่ง half race...แต่ตาโตกว่า” เขาจ้องหน้าเธอตรงๆ ยิ้มบางๆ ที่มุมปากทำหญิงสาวใจลอยอีกตามเคย

“มาจากที่ไหน...where exactly? ประเทศไหน” เขาถามเจาะจง

“Thailand…” เธอตอบชัดเจนเน้นอีกต่างหาก

“โอ...พระเจ้า My Lord…beautiful land สวยมากที่นั่น” เขามองเธออย่างชื่นชม

“เคยไปเหรอ...”

“กำลังจะไปปีหน้า...”

“social circle กลุ่มเพื่อนผมอยู่ที่นั่น” เขาตอบและทำท่ากำลังจะอิ่ม

 

ชายหนุ่มที่เขาพูดถึงนามว่า อเล็กซ์ กำลังเดินเข้ามากระซิบถามว่า เขาคงจะต้องการอะไรอีกไหม เขาส่ายหน้าและมองมาที่เธอ หนุ่ม butler จึงเข้ามาถามเธอเบาๆ

“ลิซ่า ต้องการอะไรเพิ่มไหม...ขนมหวาน มีชีสเค้ก รับไหม” เขาทำท่าว่ามันอร่อยมาก เธอเลยขอมาชิมหนึ่งชิ้นก่อน และตามด้วยชาซึ่งเขามีให้เลือก เธอเลือกชาคาโมมายล์ คืนนี้อยากนอนหลับเป็นตาย เวลาตอนนี้ที่เมืองไทยน่าจะประมาณตีสามแล้ว

“ลิซ่า...พรุ่งนี้ตื่นสายๆ เลย อากาศจะหนาวมาก” เขาบอกเธออย่างใจดี

“ผมจะพามาดู Med Bed ที่ยูกำลังตามหา” เขาบอกเธอ แล้วหันไปพยักหน้าให้หนุ่มอเล็กซ์เดินมาใกล้ เขากระซิบเป็นภาษาที่อลิสาไม่เข้าใจ

 

เขาลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นลิซ่ากินขนมดื่มชาเรียบร้อย ชายหนุ่มบอกเธอว่าพรุ่งนี้ประมาณสิบเอ็ดโมงเช้าจะให้เธอไปดูของชิ้นสำคัญที่เธอถูกสั่งให้มาตามหา

“ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอ bye...Good night ฝันดี...” เขายืนบายเธอหน้าห้องอาหารแล้วก้าวยาวขึ้นบันไดไปทันที

 

อลิสามองด้านหลังของชายหนุ่มอย่างปรีดา เธอรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนใจดี แต่ไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ เธอไม่มีความรู้หรือศาสตร์ลึกลับอ่านใจคนได้ ถ้ามีทักษะพวกนี้คงดีสินะ เธอคิดขณะกำลังเดินตามหนุ่มอเล็กซ์ที่เดินมาส่งเธอถึงหน้าห้อง

“Good night, Lisa ฝันดีนะ” เขากล่าวลาเรียบๆ ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มเลย ท่าทางเหมือนเป็นพ่อบ้านหรือคนสนิทที่ทำงานเหมือนหุ่นยนต์

 

อลิสาปิดประตูเข้าห้องนอน กระโดดตัวโยนไปบนเตียงนอนทันที เธอลุกไปเข้าห้องน้ำที่ตกแต่งราวกับเธอเป็นเจ้าหญิง ห้องนอนนี้อีกตกแต่งอย่างหรูหราแม้คฤหาสน์เศรษฐียังไม่อาจเทียบได้ บุญนับอนันต์ที่เธอได้มาพักอาศัยชายคาเดียวกับหนุ่มนามว่า ‘ปรินส์’ อย่างไม่คาดคิด

 

เช้าวันต่อมาหลังจากตื่นนอน เธอมีอาหารเช้าที่เตียงนอนถูกนำมาเสิร์ฟให้ถึงในห้อง โดยหนุ่มหน้าเฉย ‘อเล็กซ์’ ก่อนออกจากห้องไปเขาแจ้งว่าสิบโมงครึ่งเขาจะมาเคาะหน้าประตูเพื่อพาเธอไปส่งยังห้องนอนของ ปรินส์ เดอลาแวร์

 

อลิสาตื่นเต้นมากเตรียมตัวอย่างปลาบปลื้มตั้งแต่หลังกินข้าวมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย ขาตั้งกล้องและกล้องอัดวิดีโอเพิ่งถอยมาใหม่เอี่ยม เธอเอามาลองทดสอบดูหลายครั้งก่อนเดินทางเพื่อป้องกันความผิดพลาด เมื่อได้เวลาสิบโมงครึ่งหนุ่ม butler มาเคาะหน้าประตูห้อง สาวน้อยกระโดดลงจากเตียงมาเปิดประตูด้วยความลิงโลด หนุ่มอเล็กซ์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยที่เห็นเธอทำท่ากระโดดโลดเต้น

“ขอโทษนะ sorry ที่ทำให้ตกใจ ฉันดีใจมาก very happy” เธอพูดไปฮัมเพลงไป

 

เธอเดินตามหนุ่มหน้าเฉยไปอีกฟากของตัวบ้านซึ่งมีระเบียงยื่นออกไปใต้กันสาดโปร่งแสง เธอมองเห็นชายหนุ่มนามว่า ปรินส์ กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ทรงเรโทรตรงกลางระเบียง เขาคงนั่งมองชมวิวด้านล่างอยู่ สาวน้อยมองผ่านกระจกใสที่ทำเป็นผนังของตัวตึกออกไปเห็นวิวได้ไกลสุดตา ที่แท้บริเวณบ้านหลังนี้มีเนื้อที่กว้างอยู่พอสมควร เธอมองเห็นหิมะโปรยลงเป็นสายพลิ้วไปตามแรงลม เบื้องหน้ามีแต่หิมะกองอยู่เต็มลานของบริเวณรอบตัวบ้าน เป็นภาพน่าประทับใจที่สุดสำหรับคนที่มาจากเมืองซึ่งมีแต่แสงอาทิตย์อันแสนร้อนผ่าว

 

อลิสายืนรออยู่ด้านในตามที่อเล็กซ์บอกเธอ เขาเดินทะลุบานกระจกที่เปิดอัตโนมัติออกไปโค้งกระซิบข้างหูของเจ้านาย นายปรินส์เอี้ยวตัวหันหลังมามองเธอ และพยักหน้าให้อเล็กซ์นำเธอไปยืนรออยู่หน้าประตูห้องนอนของเขา เขาก้าวยาวเดินมาเพียงไม่กี่ก้าวก็มาหยุดตรงหน้าเธอซึ่งในมือทั้งสองข้างถือทั้งขาตั้งกล้องและกล้องอัดวิดีโอ เขาช่วยเอาขาตั้งกล้องยกเข้าไป ประตูห้องเปิดจากการแสกนลายนิ้วมือของเขาโดยเลื่อนเปิดอย่างอัตโนมัติ เธอจึงเห็นว่าภายในห้องนอนมีบริเวณรับแขกดูโอ่อ่ากว้างพอสมควร ด้านซ้ายเธอมองชะโงกหน้าผ่านกระจกทึบแสง เห็นเพียงเงาๆ ว่า ภายในห้องนอนน่าจะมีเตียงที่ว่าอยู่หลืบด้านในเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

“Come on...มา จะพาเข้าไปดู” เขาพูดขณะยกขาตั้งอยู่ในมือ

 

หน้าประตูห้องนอนต้องแสกนลายนิ้วมือเข้าไป ทันทีที่ประตูเปิดออกเขาพยักหน้าให้เธอเดินตาม จากนั้นสาวน้อยก็ค่อยย่องตามเข้าไป สายตาของเธอเบิกโตแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าด้วยความดีใจปนตกตะลึง

“โห...พระเจ้า นี่มันเตียงของจริงเลยนะ” เมื่อคืนก่อนเข้านอนเธอยังเปิดเอกสารเพื่อดูภาพ Med Bed ที่บริษัทส่งมาให้เธอไว้ เธอต้องการเก็บมันอยู่ในความทรงจำ จะได้ไม่ต้องเปิดดูภาพในเอกสารต่อหน้าเขา

“Oh…oh…โอ๊ะ โอ ไม่ใช่ของจริงได้รึ” เขามองหน้าเธอยิ้มเล็กๆ ทำเธอเขิน

“งั้นเราเริ่ม operation ถ่ายทำกันเลย” สาวน้อยพูดผิดๆ ถูกๆ แต่เขาเริ่มเข้าใจเธอแล้ว เขาเอาขาตั้งกล้องหามุมให้ได้แสง และกดรีโมทเปิดไฟดาวน์ไลท์ให้แสงได้รับมุมสวย สุดยอดของห้องนอนในตัวคฤหาสน์นี้จริงๆ

 

จากนั้นสาวอลิสาก็เอาไมค์ลอยไปติดที่ตัวของชายหนุ่ม และเธอก็มีไมค์ติดไว้ที่ตรง

ปกเสื้อ เขามาช่วยหามุมกล้องส่องเข้าไปดูเหมือนช่วยจัดฉากให้ perfect สมบูรณ์

“Ladies and gentlemen I’m Prince Delaware สวัสดีทุกท่าน ผม ปรินส์ เดอลาแวร์ วันนี้มีสาวจากไทยแลนด์มาขอรีวิวเตียงของผม Med Bed ตัวนี้ช่วยทำให้ผมสุขภาพดี สมาธิการทำงานเป็นระบบเพราะการนอนที่มีกระแสควอนตัมไหลเวียนเข้าไปกระตุ้นการทำงานในร่างกายให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น และยังช่วยแสกนหาความบกพร่องในร่างกายลึกถึงระดับ DNA ผมภูมิใจมากที่ได้นำเสนอให้ทุกคนได้รู้ว่า เตียงของผมมันเยี่ยมยอดขนาดไหน”

“ค่ะ...คุณปรินส์ เล่าทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ แต่มีคำบรรยายอยู่ข้างล่างนี้ กดติดตามที่เว็บไซด์ของการรีวิวนี้ไว้นะคะ จะมีเรื่องราวดีๆ ตามมาอีกใน ep. ต่อๆ ไป วันนี้ขอจบเท่านี้นะคะ จะมีวิดีโอภาพคฤหาสน์ของชายหนุ่มคนนี้ที่ได้สั่ง Med bed มาไว้ครอบครอง ชมกันให้จุใจ และอย่าอิจฉาดิฉันนะคะ ที่ได้มีโอกาสมาทำรีวิวและเข้ามาพักที่นี่ในฐานะแขกของเจ้าของบ้าน”

“จบแล้วรึ...ลิซ่า ผมกำลังจะเล่าว่า มันมีดีอีกนะ”

“อะไรอีกรึ...What else?” เธอทำหน้าตื่นเต้น

“มันสุดยอดเวลา...ที่เรามีกิจกรรมอย่างหนึ่งด้วย”

“อะไรล่ะ...”

“Sweet Love…” เขาพูดเสียงเรียบๆ

“ฮ่ะ...อะไรนะ”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.