บทที่ 212 ทรยศ!!
ณ สถานที่รกร้างแห่งหนึ่ง
ซ่าาาา ~~
น้ำที่ถูกสาดมาบนใบหน้าของฉัน ทำให้ฉันค่อย ๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมา
“แค่กๆๆ ...แฮ่กๆๆ” ฉันที่เหมือนเพิ่งฟื้นจากการจมน้ำ เนื่องจากน้ำจำนวนมากที่ราดรดลงมาเมื่อครู่ดูจะเข้าไปขัดจังหวะการหายใจของฉันจนทำให้ฉันสำลัก
กลิ่นสนิมและกลิ่นเหม็นอับ ทำให้ฉันแทบอยากจะอาเจียนออกมาในทันทีที่รู้สึกตัว และเมื่อสายตาเริ่มจะปรับโฟกัสได้นิดหน่อย ภาพตรงหน้าก็เหมือนจะทำให้ฉันนึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา...
“ฉันถูกจับตัวมา และทะ...ที่นี่ที่ไหน” ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับพยายามมองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน และทันทีที่ฉันตั้งใจจะลุกขึ้นยืน ก็กลับพบว่าบัดนี้ตัวฉันได้ถูกมัดให้ติดอยู่กับเก้าอี้ไม้เก่า ๆ ที่ดูจะพังแหล่มิพังแหล่ตัวหนึ่ง
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันพร้อมกับหัวที่สะบัดไปมาเพื่อไล่อาการมึนหัวจากฤทธิ์ยาสลบที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และแม้ว่าร่างกายจะพยายามออกแรงดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากพันธนาการของเชือกมากแค่ไหน แต่ก็ดูจะเป็นไปได้ยากเหลือเกินในเวลานี้
เมื่อสถานการณ์ตรงหน้าชัดเจนแล้วว่าฉันไม่อาจจะหลีกหนีเคราะห์ร้ายในคราวนี้ไปได้ เพราะดูท่าว่าเชือกที่มัดอยู่ดูจะไม่ขยับเขยื้อนเลย นั่นก็ทำให้ฉันเลือกที่จะหยุดเพื่อตั้งสติอีกครั้ง
และเมื่อสติกลับคืนมามันก็นำพาความทรงจำสุดท้ายก่อนหน้านี้ให้หวนคืนกลับเข้ามาในโสตประสาทของฉันเช่นกัน และมันก็ทำให้ฉันนึกขึ้นมาได้ทันทีว่า ที่ฉันตกอยู่ในสภาพนี้มันเป็นเพราะ...ฉันถูกบอดี้การ์ดคนสนิท... ‘ทรยศ’ ...
“...ทด...เป็นคนจับฉันมา” ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น
อาการตื่นตระหนกและความหวาดกลัวถูกฉายขึ้นบนใบหน้าสวยทันที ใบหน้าหวานที่หันซ้ายหันขวาไปทั่ว เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ หลังจากที่การรับรู้ทุกอย่างได้ชัดเจนแล้ว
แต่แล้ว...สิ่งที่ทำให้ฉันต้องตกตะลึงดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น นั่นก็เพราะหลังจากที่ฉันกวาดสายตาไปทั่ว สิ่งที่ทำให้สายตาฉันต้องสะดุดหยุดจับจ้องนั่นก็คือ ณ เวลานี้ได้มีบุคคลอีกบุคคลหนึ่งที่ถูกมัดอยู่ข้าง ๆ ฉัน แถมคนคนนั้นยังมีใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคย และที่สำคัญฉันไม่คาดคิดว่าเธอจะมาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับฉันในตอนนี้อีกด้วย
และเธอคนนั้นก็คือ...??
“เรน่า...!!”
ฉันเรียกชื่อหญิงสาวผมสีแดงใบหน้าสวยเฉี่ยวที่คุ้นตา ที่ตอนนี้เธอกำลังนั่งไม่ได้สติอยู่ด้านข้างของฉัน
และในขณะที่ฉันกำลังสับสน มึนงงไปหมด ความจริงบางอย่างก็ถูกเฉลยขึ้นมา
“หึ...ฟื้นได้ซะทีนะมึง โดนโป๊ะยาสลบไปแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ทำเป็นสำออยไม่ได้สติ...ชิ...ดัดจริตจนกูอยากจะตบให้หายหมั่นไส้...!!” น้ำเสียงแสนคุ้นหู แต่คำพูดแสนร้ายกาจ เอ่ยพูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ และเสียงนั้นก็ทำให้ฉันถึงกับต้องรีบหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยิน
เนื้อนวลที่เพิ่งเดินเข้ามาหลังจากที่ใช้ให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันจำหน้าได้ว่าเป็นหนึ่งในสองคนที่ฉุดฉันขึ้นมาบนรถ เอาน้ำสาดใส่ฉันเพื่อปลุกให้ฉันตื่นจากยาสลบ
“เนื้อนวล...!!”
ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนไปด้วยความแปลกใจ ก่อนจะมองไปที่ร่างอรชรที่เดินนวยนาดมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน
“ใช่...กูเอง!!” เนื้อนวลตอบพร้อมกับมือที่เอื้อมมาบีบที่คางฉันอย่างแรง แล้วจับใบหน้าของฉันเชิดขึ้นเพื่อมองไปที่เธอ
ฉันที่ทั้งรู้สึกเจ็บตรงจุดที่โดนบีบ และทั้งรู้สึกงงงวยไปหมด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่แค่เพียงในใจ แต่ทว่า...ทุกอย่างกลับฉายออกมาทางสีหน้าจนหมดสิ้น
“ไม่ต้องมาทำหน้าตางงสงสัยแปลกใจอะไรขนาดน้านนน...เพราะเดี๋ยวกูจะบอกทุกอย่างให้มึงรู้เอาบุญ...ก่อนที่กูจะส่งมึงไปตายเอง...” เนื้อนวลที่เหมือนจะดูออกว่าตอนนี้ฉันสับสนมากแค่ไหน เอ่ยตอบคำถามที่อยู่ในใจของฉัน ก่อนที่ใบหน้าที่เคยน่ารักสมวัยจะแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเต็มไปด้วยความริษยาอาฆาตแสดงถึงความเกลียดอย่างปิดไม่มิด พร้อมทั้งยังส่งสายตามาดร้ายมองมาที่ฉัน จากนั้นเธอก็ได้สะบัดคางของฉันที่ถูกเธอจับอยู่ในมือออกไปด้านข้างอย่างแรง จนหน้าฉันหันสะบัดไปตามแรงเหวี่ยง
ฉันที่ยังคงงง พร้อมกับพยายามคิดทบทวนปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะสิ่งที่ฉันอยากจะรู้อย่างยิ่งเลยก็คือ คุณป้าเธซ่าท่านมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
“คะ...คุณป้าเธซ่า...” ฉันเอ่ยชื่อท่านออกมาเบา ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจเพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด
แต่ทว่า...ด้วยห้องที่ปิดทึบสนิทและด้วยเนื้อนวลที่ยืนอยู่ไม่ไกล จึงทำให้เสียงที่เอื้อนเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ กลับดังพอที่จะทำให้เนื้อนวลได้ยิน
“โอ๊ยยยย...อีแก่ไร้ประโยชน์นั่นนะหรอ...ชิ มึงคงคิดสินะว่าเป็นแผนของมันให้มากำจัดมึง โนวจ้าาา...มันไม่รู้เรื่องอะไรเลย แม้กระทั่งไอ้เรื่องที่อยากจะเจอมึงก่อน ก็ไม่ใช่ความคิดของมันเลยสักนิด รวมทั้งเรื่องที่กูโทรมึง มันก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...หึหึ...สมน้ำหน้า อีพวกหน้าโง่!! ใครใช่ให้มันมาหลอกให้ความหวังกูล่ะ มาบอกว่าจะรับกูเป็นลูกบุญธรรม จนป่านนี้แล้ว...กูยังเป็นได้แค่ที่รองมือรองตีนของมันอยู่เลย อีแก่ตอแหลหลอกให้กูมีความหวัง เพราะฉะนั้นคนอย่างมันต้องชดใช้ให้กู โดยการเป็นต้นเหตุทำให้มึงตายยังไงล่ะ...ฮ่าๆๆๆๆ” เนื้อนวลพรั่งพรูความคับแค้นใจก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนคนที่กำลังจะชนะ
ในขณะที่เนื้อนวลกำลังสะใจกับแผนการของตัวเองอยู่นั้น...ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรน่าเพิ่งได้ฟื้นคืนสติขึ้นมา
“อะ...เอลิซ” เสียงแผ่วเบาออกมาจากริมฝีปากสวย พร้อมกับใบหน้าเหยเกเนื่องจากอาการมึนศีรษะที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของยาสลบ
ฉันหันไปมองเรน่า ด้วยความรู้สึกทั้งสงสารและเป็นห่วง อีกทั้งยังสงสัยว่าเหตุใดเธอถึงโดนจับมาอยู่ที่นี่ด้วย
“เรน่า ไม่เป็นไรใช่ไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ฉันถามเรน่าออกไปด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ
เรน่าที่ดูจะยังมึนยาสลบอยู่จึงทำได้เพียงแค่ส่ายหัวเบา ๆ ส่งกลับมาให้ฉัน
“แล้วเรน่าล่ะ...เธอเกี่ยวอะไร แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย” ฉันจะหันไปถามเนื้อนวลอีกครั้ง หลังจากสำรวจดูแล้วว่าเรน่าไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน
“ก็ใครใช้ให้มันอยากแส่หาเรื่องเองล่ะ...ช่วยไม่ได้...ก็ดีถือซะว่าเป็นโชคดีของกู ที่จะได้กำจัดเสี้ยนหนามหัวใจให้แม่งตายไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียวทั้งสองคน...ฮ่าๆๆๆ” ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ที่บัดนี้กลับไม่มีความไร้เดียงสาอยู่บนนั้นเลย เธอกำลังระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ
ฉันมองไปที่เด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ พร้อมกับมองไปที่เรน่าด้วยความฉงนใจเช่นกัน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 25
แสดงความคิดเห็น