บทที่ 134 ขอโทษเมียกูเดี๋ยวนี้!!
ฉันก้มหน้างุดเดินตามเขาไปด้วยความเขินอาย เพราะจากคำพูดเมื่อกี้ของเขา มันทำให้ฉันนึกย้อนไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น ที่ฉันถูกเขาปรนเปรอรสสวาทลงบนอกอวบด้วยปาก จนเกิดเป็นไฟราคะอุ่นๆ ที่วอมเชื้ออยู่ภายในร่างกาย
เมื่อมาถึงที่โต๊ะอาหาร ฉันที่ไม่ได้มองทางมาแต่ต้น จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าบัดนี้มีคนนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารกี่คน และมีใครบ้างที่อยู่ในห้องอาหารนี้
“ป้าเธซ่าครับ นี่เอลิซเมียผม ส่วนเอลิซค่ะ นี่ป้าเธซ่า ป้าแท้ ๆ ของเฮียเอง” เขาเอ่ยแนะนำฉันให้รู้จักกับผู้หญิงที่ดูสง่าใบหน้าสวยละม้ายคล้ายคุณเซฟ แต่แววตากลับเคร่งขรึมดูไม่เป็นมิตรกับฉันเลย ก่อนที่เขาจะแนะนำฉันให้ผู้หญิงคนนั้นได้รู้จักเช่นกัน
ฉันที่อึ้งกับคำว่าเมียที่เขาเรียกแทนตัวฉันเพื่อแนะนำให้ป้าของเขารู้จัก จนต้องรีบกระตุกมือเขาเพื่อเป็นการห้ามปรามไม่ให้บอกไปแบบนั้น แต่เหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่ตัวเองพูดแถมยังดูจะภาคภูมิใจด้วยซ้ำ อีกทั้งยังพยักพเยิดให้ฉันที่หลบอยู่ข้างหลังเขา ให้เบี่ยงตัวออกมาเพื่อกล่าวคำทักทายป้าของเขา
“สวัสดีค่ะ คะ...คุณป้า” ฉันที่ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมที่สุด เอ่ยทักทายท่านด้วยความประหม่าจนคำพูดดูตะกุกตะกัก แต่ก็ยังพยายามทำใจดีสู้เสือส่งยิ้มหวานที่คิดว่าจริงใจที่สุดไปให้ท่าน เพื่อสร้างความประทับใจแรกต่อกัน
“สวัสดี...นี่นะเหรอผู้หญิงคนนั้น...แล้วนี่พ่อแม่เธอรู้ไหมว่าเธอมาอยู่กับผู้ชาย” เปิดประโยคบทสนทนาแรกที่ออกมาจากปากญาติผู้ใหญ่คนแรกของเขาที่ฉันได้รู้จัก ก็ทำให้ฉันรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที
“ป้า...!!” เขาเรียกป้าของเขาเสียงดังลั่นด้วยความไม่พอหลังจากได้ยินคำทักทายที่ใครฟังก็มองออกว่าป้าเขากำลังดูถูกฉันอยู่
ฉันได้แต่ยืนนิ่งอึ้งกับคำพูดของป้าเขา โดยที่ตัวเองก็ไม่อาจจะโต้แย้งอะไรไปได้เลย จึงทำได้เพียงก้มหน้าเก็บก้อนจุกเอาไว้ในลำคอไม่ให้มันตีตื้นขึ้นมาเป็นหยาดน้ำตา
ในขณะที่สมองของฉันกำลังมึนงงอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงหัวเราะคล้ายอยากจะซ้ำเติมฉันดังขึ้นมาอีก
“ฮิฮิฮิ...” เสียงหัวเราะที่ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็รู้ว่าสายตาของเจ้าของเสียงน่าจะกำลังเหยียดหยามฉันอยู่ไม่น้อย
โดยเฉพาะทิศทางที่มาของเสียงนั้น ดังขึ้นมาจากด้านหลังป้าของเขา จนฉันอดไม่ได้ที่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองดูว่ามาจากใคร
ด้วยความอยากรู้ เมื่อฉันกวาดสายตาไปตามเสียงก็ได้พบเข้ากับผู้หญิงที่ดูท่าน่าจะอายุน้อยกว่าฉันไม่กี่ปี ใบหน้าของเธอจัดว่าสวยใช้ได้เลย ผิวพรรณที่ขาวผิดกับคนที่ทำงานบนเกาะ อีกทั้งรูปร่างสัดส่วนก็จัดว่าเซ็กซี่ดูดีไม่น้อย จนฉันสันนิษฐานเอาเองว่าเธออาจจะไม่ใช่ลูกน้องหรือพนักงานที่อยู่บนเกาะนี้
ฉันมองไปที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและปนไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยที่เธอมาหัวเราะเยาะใส่ฉัน เพราะฉันถือว่ามันเป็นการเสียมารยาทมากที่ทำแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จักกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอกล้าที่จะทำใส่ฉันทั้งทั้งที่คุณเซฟก็ยืนอยู่ข้างหน้าตรงนี้ นั่นยิ่งทำให้ฉันได้แต่สงสัยว่า...เธอเป็นใครกัน!!
ในระหว่างที่หัวคิ้วสวยของฉันกำลังขมวดขบคิดเรื่องราวของผู้หญิงที่ไร้มารยาท น้ำเสียงเข้มขรึมก็ดังกังวานออกมาจากร่างคนตัวโตที่ยืนกุมมือฉันอยู่ จนทำให้ฉันถึงกับหลุดออกจากภวังค์ความคิดทันที
“อีเนื้อนวลมึงหัวเราะอะไร...ห๊ะ!!” เสียงตวาดลั่นที่เขาแผดใส่ผู้หญิงคนนั้น จึงทำให้ฉันรู้ว่าผู้หญิงที่ไร้มารยาทคนนั้นเธอชื่อเนื้อนวล และนั่นก็ทำให้ฉันได้รู้อีกว่าเขาน่ะเป็นห่วงความรู้สึกของฉันมากแค่ไหน
ผู้หญิงที่ชื่อเนื้อนวลถึงกับหน้าซีด ก้มหน้าปิดปากเงียบ ยืนตัวสั่นงันงกทันที
“กูถามว่ามึงหัวเราะอะไร” เขาที่ยังไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเอ่ยถามซ้ำด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม จนฉันอดไม่ได้ต้องกระตุกมือเขาเพื่อเป็นสัญญาณให้เขาใจเย็นลง
แต่เหมือนว่าสิ่งที่ฉันทำมันจะไม่เป็นผล เพราะเขายังคงจ้องมองไปที่เนื้อนวลด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและไม่ยอม...
ป้าเธซ่าที่นั่งมองการกระทำอย่างเอาเรื่องของเขา คงมองเห็นถึงสถานการณ์ที่มาคุเต็มทีจึงรีบเอ่ยปากปรามเขาขึ้นมา
“ตาเซฟ ให้มันมีมารยาทหน่อย นี่ป้านั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้นะ จะอะไรกับเนื้อนวลมันนักหนา” ป้าเธซ่าเอ่ยตำหนิเขาขึ้นมาทันที นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาโวยวายหมายจะเอาเรื่องผู้หญิงที่ชื่อเนื้อนวลให้ได้
“ฮึ...งั้นป้าก็ช่วยอบรมเด็กตัวเองด้วยนะครับ มันไม่มีสิทธิ์ที่จะมาหัวเราะเยาะใส่เมียผม อ่อ...แล้วก็ถ้าผมไม่เห็นแก่หน้าป้า ป่านนี้ผมสั่งให้ลูกน้องลากมันไปเกาะสุดท้ายแล้วล่ะครับ” เขาที่เข่นเขี้ยวพูดประโยคที่เดือดดาลออกไป พร้อมกับจับจ้องไม่ยังร่างสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังป้าของเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
สิ้นประโยคบทสนทนาระหว่างเขากับป้าเธซ่า ก็ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่า ที่แท้ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเด็กรับใช้ข้างกายของป้าคุณเซฟ มิน่าล่ะถึงกล้าหัวเราะเยาะฉันหลังจากที่คุณป้าเหน็บแนมฉันเสร็จ ที่แท้ก็มีแบ็คดีนี้เอง
“ตาเซฟ...!! / นะ...เนื้อนวลขอโทษค่ะนายท่าน...อย่าพาเนื้อนวลไปเกาะสุดท้ายเลยนะคะ” ป้าเธซ่าตวาดลั่นใส่เขาด้วยความโมโห พร้อมกับผู้หญิงที่ชื่อเนื้อนวลเอ่ยคำขอโทษละล่ำละลักตัวสั่นงันงกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินว่าเขาจะให้ลูกน้องพาเธอไปยังเกาะสุดท้าย
ฉันมองการปะทะอารมณ์ระหว่างป้าของเขากับตัวเขาไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่อยากที่จะเป็นชนวนความขัดแย้งของใคร โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวเดียวกัน และในเมื่อผู้หญิงคนนั้นก็ได้เอ่ยคำขอโทษออกมาแล้ว แม้จะไม่ได้เอ่ยถึงฉันก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อยากจะไปถือสาหาความอะไรกับใครอีกแล้ว
ถึงแม้ว่าภายในใจของฉันจะเก็บงำความสงสัยหลายอย่างเอาไว้ ทั้งเรื่องทำไมป้าเธซ่าถึงเอ็นดูเนื้อนวลมากขนาดที่ยอมมีปัญหากับคุณเซฟแทนเนื้อนวล และทำไมเนื้อนวลถึงกลัวการไปเกาะสุดท้าย และที่เกาะสุดท้ายมีอะไร...
คำถามมากมายที่อยู่ในหัวตอนนี้ฉันจำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้ก่อน และเพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์อันอึดอัดตรงหน้านี้ ฉันเลือกที่จะกำมือเขาแน่นขึ้นเพื่อส่งสัญญาณว่าฉันไม่เป็นไร เพราะไม่อยากให้เขากับป้าเขาต้องทะเลาะกันให้มันบานปลายไปมากกว่านี้
“ขอโทษเมียกูเดียวนี้”
แต่เป็นเขาที่ยังคงไม่ยอม พร้อมกับหันไปสั่งเนื้อนวลอีกครั้ง...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 23
แสดงความคิดเห็น