บทที่ 110 ขอแต่งงาน

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 110 ขอแต่งงาน

หมวดหนังสือ: 

ณ เกาะส่วนตัวของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาล

 

ฉันที่ไม่คาดคิดว่าการมาเที่ยวทะเลครั้งนี้ จะเป็นการนั่งเครื่องบินส่วนตัวมา ฉันนึกว่าจะแค่ขับรถกันมาสองคนแล้วแวะตามจุดต่างๆ พร้อมกับหาของกินให้เต็มท้อง เพราะในระหว่างที่นั่งรอเขาเคลียร์งาน ฉันก็อุตส่าห์หาร้านอาหารเก๋ๆ คาเฟ่สวยๆ เอาไว้ แต่กลับผิดแผนไปหมดเลย

 

ถึงจะเสียดายเมื่อยามที่คิดถึงรูปอาหารน่ากินเหล่านั้นแล้วมันทำให้อดฉันน้ำลายสอไม่ได้ ไม่รู้ทำไมหมู่นี้ฉันถึงรู้สึกหิวบ่อยเหลือเกิน ทั้งที่ถ้าเป็นเมื่อก่อน รูปอาหารแบบนั้นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอะไรเลยสักนิด

 

จากที่ตอนแรกรู้สึกเสียดายนิดๆ ไปกับการเดินทางที่ผิดแผน แต่พอได้มองวิวจากที่สูงๆ เหนือน้ำทะเลสีครามใส มันกลับทำให้ฉันรู้สึกเพลิดเพลินและตื่นตาตื่นใจอย่างบอกไม่ถูก จนแทบจะนั่งไม่อยู่สุข ได้แต่ชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่างเพราะอยากจะเก็บความงามที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้ในความทรงจำให้มากที่สุด

 

ความตื่นเต้นที่ได้เห็นภาพสวยน้ำใส กลับหมองลงไปในทันทีเมื่อฉันได้รู้ว่า เกาะที่เรากำลังมุ่งหน้าไปนั้นเป็นถึงเกาะส่วนตัวของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาล ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว นั่นก็แปลว่าฉันจะไม่เจอใครอื่นเลยนอกจาก...เขา

 

เขาอธิบายว่าการที่จะมาที่เกาะนี้ต้องเป็นคนของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลเท่านั้น การเดินทางมาได้แค่สองทางคือ ทางเรือ และทางอากาศ ซื่งทางเรือเมื่อเข้าระยะเขตก่อนถึงเกาะระยะนึงจะมีทั้งหน่วยลาดตระเวน ของทั้งเอกชนและของเขาคอยรักษาความปลอดภัยและตรวจตราคนที่จะเข้ามา

 

ส่วนทางอากาศที่เรากำลังเดินทางกันอยู่ในตอนนี้ ในรัศมีน่านฟ้าเหนือเกาะ จะไม่อนุญาตให้เครื่องบินลำไหนบินผ่านได้เลย เพราะเครื่องบินที่จะเข้ามาในรัศมีนี้ได้ก็มีแค่เครื่องบินของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลที่ฝังชิปเฉพาะเท่านั้น และถ้าเกิดมีเครื่องบินลำไหนเล็ดลอดหลุดเข้ามาในรัศมีของเกาะนี้ ทางเราก็ได้รับอนุมัติให้โจมตีทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาตหรือตรวจสอบจากรัฐบาลก่อน เพราะถือว่่าเป็นหลักสากลที่ทั่วโลกรู้กัน

 

*o* ฉันถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาอธิบายมา

 

"และนั่นก็แปลว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นอยู่บนเกาะนี้เลยงั้นหรือค่ะ" ฉันลองโยนหินถามทางให้ตัวเองแน่ใจ

 

"ใช่ค่ะ" เขาตอบฉันด้วยท่าทีภูมิใจ

 

คำตอบของเขาทำให้ฉันแอบนอยเล็กน้อย เนื่องจากจะไม่มีโอกาสเห็นความครึกครื้นของผู้คนที่มาท่องเที่ยว ฉันเองก็อยากจะเจอผู้คนอื่นบ้างที่ไม่ใช่ลูกน้องของเขา เพราะตั้งแต่ที่ฉันอยู่กับเขามา ผู้คนที่ฉันเจอก็แทบจะนับหัวได้เลย

 

ถึงฉันจะรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่ฉันก็พยามคิดหาข้อดีของการพักผ่อนในเกาะส่วนตัว เอาว่ะ!! ถึงยังไงก็ได้มาเที่ยวได้ออกมาข้างนอกบ้าง แค่นี้ก็ควรพอใจแล้วนะยัยเอลิซ!!

 

ฉันที่กำลังจินตนาการว่าการใช้ชีวิตบนเกาะส่วนตัวจะเป็นอย่างไรอยู่นั้น ก็เป็นขณะเดียวกันกับที่เครื่องบินเตรียมตัวที่จะร่อนลงจอด

 

“นั่งนิ่งๆ ซิคะ มาเดี๋ยวเฮียรัดเข็มขัดให้ เครื่องบินกำลังจะลงจอดแล้ว” คุณเซฟหันมาบอกฉันด้วยเสียงทุ้มนุ่มเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น ทำให้ฉันหลุดออกมาจากภวังค์ความคิด ก่อนที่เขาจะเอี้ยวตัวหันมารัดเข็มขัดให้ฉัน

 

“ขอบคุณค่ะ” ^-^ ฉันยิ้มหวานส่งไปเพื่อเป็นการขอบคุณ

 

เมื่อเครื่องบินลงจอดเรียบร้อยแล้ว คุณเซฟก็จูงมือฉันพาเดินลงมาจากเครื่องบิน ลมเย็นสบายที่พักมาปะทะหน้าของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที หลังจากที่รู้สึกมึนบ้างหัวนิดหน่อยตอนที่นั่งเครื่องบินมา

 

การมาเที่ยวครั้งนี้ในตอนแรกฉันนึกว่ามีแค่ฉัน คุณเซฟ พี่กิต และลูกน้องฝีมือดีอีกสองสามคนที่มาพร้อมกันตอนอยู่บนเครื่องบิน แต่เมื่อมาถึงเกาะกลับพบว่ายังมีลูกน้องที่คอยเฝ้าอยู่บนเกาะอีกมากมายหลายชีวิต ทำให้ฉันอดตื่นเต้นไม่ได้

 

ฉันที่ตอนแรกกะว่าจะไปเดินเล่นรับลมก่อนสักหน่อยแล้วค่อยเข้าที่พัก แต่พอลงมาจากเครื่องฯ ได้สักพัก กลับรู้สึกมึนหัวหน่อยๆ สงสัยตอนอยู่บนเครื่องบินฉันคงอยู่ไม่นิ่งจนน้ำในหูไม่เท่ากัน

 

“เวียนหัวหรอค่ะ เข้าบ้านไปพักผ่อนก่อนไหม” เขาเอ่ยถามฉันขึ้นมาทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่าฉันมีสีหน้าซีดลงเล็กน้อยตั้งแต่ลงจากเครื่องฯ มา

 

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ เอลิซขอพักหน่อยแล้วกัน รู้สึกมึนๆ สงสัยจะเมาเครื่องบิน” ฉันพูดตอบเขากลับไปพร้อมกระชับมือที่กอบกุมมือของฉันแน่น แล้วเดินตามเขาไป

 

เมื่อมาถึงบ้านหน้าบ้านพักของเขา ฉันถึงกับอ้าปากค้างเพราะความใหญ่โตและสวยงาม บ้านที่ถูกสร้างให้เสมือนอยู่บนหน้าผาขนาดจำลอง ดูคล้ายกับปราสาทในเทพนิยาย ตัวบ้านที่ดูโปร่งเพราะมีกระจกใสบานใหญ่ที่ทำเป็นเหมือนหน้าต่างเต็มบานรอบด้าน เปิดรับลมที่มาจากทุกทิศ ผ้าม่านมุ้งสีขาวดูสะอาดตาและพลิ้วไหวยามเมื่อสายลมพัดผ่านให้ความรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้มอง เฟอร์นิเจอร์ที่เน้นเป็นงานไม้ที่จัดตกแต่งแบบไม่มากไปไม่น้อยไป ยิ่งทำให้บ้านดูโล่งกว้างมากยิ่งขึ้น ตัวห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนถูกจัดไว้เป็นสัดส่วน สวยงามไร้ที่ติ

 

“สวยจังเลยค่ะ” ฉันมองตื่นตะลึงด้วยความชื่นชม ก่อนจะหันไปบอกกับเขาถึงสิ่งที่ฉันคิด

 

“ถ้าเอลิซชอบ เฮียยกทั้งเกาะนี้ให้เอลิซเลย เอาไหมคะ” เขากุมมือฉันขึ้นมาจูบเบาๆ พร้อมกับบอกในสิ่งที่ฉันเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน

 

“พูดแล้วห้ามคืนคำนะคะ...คริคริ” ฉันที่คิดว่าเขาล้อเล่น ตอบกลับเขาไปเล่นๆ เช่นกัน

 

“เฮียพูดจริงๆ นะ เรามาแต่งงานที่นี่ มาสร้างครอบครัวอยู่ที่นี่ดีไหม” เขาพูดในขณะที่จ้องมองมาในดวงตากลมโตของฉันอย่างจะสื่อความหมายให้ฉันได้รับรู้ถึงความจริงใจของเขา

 

“ตะ...แต่งงานหรอค่ะ” ฉันเบิกตากว้างอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินทันที เพราะไม่คิดว่ามันจะปุบปับออกมาจากปากของคนตรงหน้า นี่เขากำลังจะขอฉันแต่งงานงั้นหรอ

 

“ใช่ เฮียรักเอลิซจริงๆ และเฮียก็อยากจะทำให้มันถูกต้องแล้ว” เขาที่อยากจะรวบรัดให้สาวเจ้ามาเป็นของเขาทั้งในพฤตินัยและนิตินัยเสียที จนแทบจะรอไม่ไหวอยู่แล้ว แล้วยิ่งเมื่อคิดไปถึงเรื่องที่เรน่าใช้เขาไปแอบอ้างเรื่องการหมั้นด้วยแล้ว เขายิ่งรู้สึกสังหรณ์ใจว่าในภายภาคหน้าที่จะมาถึง มันจะต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างในความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอแน่นอน ดังนั้นเขาควรที่จะจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด

 

เขาที่จากตอนแรก เตรียมที่จะเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงาน แต่ตอนนี้เขาไม่อาจจะรอได้อีกแล้ว

 

ในขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือไปถอดแหวนประจำตระกูลที่อยู่บนนิ้วเรียวยาวของเขา เพื่อที่จะคุกเข่าขอเธอแต่งงาน แต่อยู่ดีๆ ตัวเธอก็เริ่มโงนเงนแล้วก็จะทรุดตัวเป็นลมล้มไปทันที

 

“เอลิซ เอลิซ ได้ยินเฮียไหม” เขาใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที เมื่อเห็นเธอทรุดลงต่อหน้าเขา พร้อมกับขานเรียกคนในอ้อมแขนด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่จะรีบอุ้มพาเธอไปนอนยังห้องนอนประจำของเขา

 

"ใครอยู่แถวนี้ มาช่วยกูหน่อยเร็ว หายหัวไปไหนกันหมดว่ะ" เขาที่ดูร้อนรนกระสับกระส่ายมาก เอ่ยปากตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่แถวนั้นให้ออกมาช่วย

 

เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าคมทันที เมื่อมองไปที่ใบหน้าหวาน ที่บัดนี้ซีดเซียวคล้ายไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจแกร่งของเขาถึงกับปวดร้าวเจียนจะขาดใจ...เธออย่าเป็นอะไรไปเลยนะ...สุดที่รัก...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.