บทที่ 77 ห่วงความรู้สึก
ฉันจับใบหน้าคมให้หันกลับมามองสบตาของฉัน ที่พยายามส่งออกไปให้อ่อนหวานและอ่อนโยนที่สุดเพราะอยากจะสื่อให้เขารู้ว่า ในหัวใจฉันตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากหยักได้รูปสวยที่ฉันชอบเวลามันยิ้มกว้างมากกว่าคว่ำลง
ลิ้นเล็กอุ่นแทรกเข้าไปกวาดหาสิ่งที่เหมือนกันที่อยู่ในโพรงปากร้อน ก่อนจะตวัดรัดเกี่ยวหยอกล้อเพื่อง้อขอคืนดี ลิ้นร้อนของเขาไม่รอช้าตอบรับกลับมาเป็นสัญญาณว่าพร้อมให้อภัย
สองลิ้นนัวเนียพัวพันโรมรันกันพัลวันอย่างไม่มีใครยอมใคร เพราะต่างฝ่ายต่างอยากให้อีกคนมั่นใจว่าความรู้สึกของเราสองคนนั้นตรงกัน
“จ๊วบ...อืมมม / อือออ” สองเสียงผสานกันในลำคอบ่งบอกว่าความสัมพันธ์กลับมากลมเกลียวดังเดิม ก่อนจะค่อยๆ ถอนริมฝีปากของกันและกันออก แล้วสบตาหวานซึ้งกันเหมือนเช่นเคย
“เฮียอย่าคิดมากไปเลยนะคะ เอลิซเชื่อว่าคุณมาร์คเขาหวังดีกับเอลิซจากใจจริง อีกอย่างเฮียไม่ต้องกลัวว่าเอลิซจะเปลี่ยนใจไปหาใคร เพราะตอนนี้ข้างในมันมีแต่พื้นที่ของเซบาสเธียเต็มไปหมด” ฉันบอกเขาพร้อมใบหน้าที่เห่อร้อนด้วยความกระดากใจที่พูดอะไรเลี่ยนๆ แบบนั้นออกไป ถ้าไม่เป็นเพราะความมึนเมาฉันคงไม่กล้าที่จะพูดคำพูดเหล่านั้นหรอก แต่อย่างน้อยข้อดีของการเมาก็คือทำให้เรากล้าทำ กล้าพูดในสิ่งที่เวลาปกติเราไม่กล้า!!
เขามองฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยน ในแววตาบ่งบอกถึงความสุขใจที่ฉันพูดอะไรแบบนี้ให้เขาฟัง รอยยิ้มทรงเสน่ห์แบบที่ฉันชอบปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคมเข้มทันที รอยยิ้มที่ดูเจิดจ้าเสียจนทำฉันตาพร่ามัว
ฉันยิ้มหวานหยาดเยิ้มตอบกลับไปให้เขาอีกครั้ง เพื่อเป็นการย้ำว่าฉันคิดอย่างที่พูดจริงๆ ไม่ใช่แค่เมาแล้วพูดพร่ำเพรื่อออกไป ก่อนที่เราจะประกบปากแลกลิ้นบรรเลงบทจุมพิตที่เร่าร้อนให้แก่กันอีกครั้ง
รอยคิสมาร์กปรากฏไปทั่วลำคอและสองเต้าอวบ ความเมามันที่เขาละเลงลิ้นไปทั่ว จนร่างบางสั่นสะท้าน ความสยิวที่ก่อตัววิ่งพล่านไปทั่วร่าง บอกถึงความพร้อมที่อยากจะจุดไฟสวาทให้ลุกโชน
ร่างบางถูกอุ้มขึ้นในท่าอุ้มแตง สองขาเรียวตวัดเกี่ยวเข้ากับเอวแกร่งเพื่อพยุงร่างให้แนบชิดไม่ให้ห่างหายไปไหน
คนตัวโตอุ้มร่างบางหันไปตรงโต๊ะทำงาน ก่อนจะกวาดเอกสารและสิ่งของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะทิ้งโดยไม่สนใจว่ามันจะมีมูลค่ามากมายมหาศาลแค่ไหน เพราะสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวนั่นก็คือเธอตรงหน้าที่มีค่าสำหรับเขามากที่สุด
เขาค่อยๆ วางร่างนุ่มนิ่มที่เขาชื่นชอบลงบนโต๊ะทำงานอย่างแผ่วเบา เมื่อหลังเนียนนาบกับพื้นโต๊ะก็สะดุ้งเล็กน้อยเพราะความเย็นที่พาดผ่านแผ่นหลังเนียน แต่กลับทำให้คนร่างโตชะงักทันทีด้วยคิดว่าเธออาจจะกลัวหรือไม่พร้อมที่จะเริ่มเกมสวาทกับเขาอีกครั้ง
“กลัวหรอค่ะ ถ้ากลัวเราหยุดก่อนก็ได้นะ” เขาเอ่ยถามเสียงนุ่ม จนคนฟังรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงที่มาจากใจจริง
ฉันส่ายหัวเบาๆ เป็นคำตอบ
“ถ้าไม่โอเคบอกเฮียได้เลยนะคะ เฮียบอกแล้วว่าเฮียจะไม่ฝืนใจเอลิซ เฮียรอได้ และยินดีจะรอตลอดชีวิต” เขาถามย้ำอีกครั้ง พร้อมกับส่งยิ้มละมุนเพื่อให้ฉันอบอุ่นใจ
คำพูดของเขาทุกคำมันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และไว้ใจที่จะเริ่มเกมรักกับเขาอีกครั้ง
ฉันพยักหน้าให้เขาอีกครั้งเพื่อเป็นคำตอบ
เขายิ้มรับ มันเป็นยิ้มที่ทำให้ฉันหลงใหลได้ทุกครั้งสินะ ฉันมักจะรู้สึกโชคดีที่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของเขาคนเดียว ฉันขอให้รอยยิ้มนี้เป็นของฉันคนเดียวจริงๆ เถอะนะ...
ฉันนอนมองหน้าเขา ด้วยหัวใจที่ถูกเติมเต็ม มันพองฟูจนฉันกลัวว่าความรู้สึกแบบนี้จะถูกพรากไปสักวัน เหมือนกับความรู้สึกที่ฉันเคยมีความสุขตอนอยู่กับไอ้เคน แต่แล้วก็ถูกอีชมพู่พรากมันไป ฉันได้แต่หวังอยู่ในใจว่าขอให้รักครั้งนี้ของฉันราบรื่นผ่านได้ด้วยดีด้วยเถอะ...
สิ่งที่ฉันนอนคิด ส่งผลทำให้น้ำตารินไหลลงข้างหางตาอย่างไม่รู้ตัว หยดน้ำตานั้นไม่สามารถหลุดรอดไปจากสายตาคมเข้มของเขาได้เลย เพราะเมื่อเขาเห็นเขาก็ก้มลงมาจูบซับที่ปลายหางตาของฉันเพื่อปลอบใจอย่างแผ่วเบา
“ร้องไห้ทำไมค่ะ กลัวหรือเปล่า เฮียไม่ทำต่อแล้ว อย่าร้องนะคนดี” เขายังคงเป็นห่วงความรู้สึกของฉัน ทั้งที่ร่างกายของเขาก็แทบจะรอไม่ไหวอยากที่จะได้รับการปลดปล่อย
“เปล่าค่ะ เอลิซไม่เป็นไรจริงๆ เอลิซแค่มีความสุขมากๆ น้ำตามันเลยไหลออกมาไม่รู้ตัว” ฉันบอกเขาไปให้เขาสบายใจ แม้จะไม่ได้บอกในสิ่งที่ฉันกังวลอยู่ในใจลึกๆ กับเขา เพราะไม่อยากให้เขามานั่งเป็นกังวลไปด้วยกันกับฉันแล้วจะพาลทำให้ความสวยงามที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ของเรามันจบลง
เพราะฉันเองก็ได้บอกกับตัวเองไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าถ้าความสัมพันธ์ในครั้งนี้มันผิดพลาดอีก ฉันก็คงต้องก้มหน้ารับชะตากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อเอง
ฉันพยักหน้าให้เขาอีกครั้งเพื่อเป็นสัญญาณว่าฉันพร้อมที่จะร่วมเดินทางรักไปกับเขาแล้ว และฉันเชื่อว่าครั้งนี้มันจะต้องงดงามและตราตรึงเข้าไปในหัวใจของฉันแน่นอน เพราะว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะว่าเราสองคน ‘รักกัน’
เขามองฉันเชิงเป็นคำถามอีกทีว่าฉันโอเคแน่จริงหรือเปล่า ฉันก็ได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้ากลับไป ฉันพร้อมแล้ว พร้อมแล้วจริงๆ ถึงตอนแรกในวันนี้ฉันจะเป็นคนเล่นเกมปั่นหัวยั่วยวนเพื่อแกล้งเขา แต่นับตั้งแต่วินาทีที่เขาบอกความในใจที่เขาไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฉันฟังทั้งหมด
มันทำให้ฉันต้องยุติเกมยั่วปั่นประสาทลง แล้วเริ่มบทเพลงสวาทของจริง เพื่อตอบแทนความจริงใจที่เขามีให้
ฉันมองหน้าที่ยังดูเป็นกังวลของเขาอยู่ ก่อนจะตัดสินใจบอกเขาไปว่า...
“ถ้าเฮียยังกังวลไม่เข้าท่าแบบนี้อยู่ล่ะก็ งั้นก็ลุกออกไปจากตัวเอลิซเลยนะคะ เอลิซจะไปหาเสื้อมาใส่ไว้ตามเดิม” ฉันที่เริ่มเหลืออดกับท่าทางของเขาที่ดูไม่มั่นใจในตัวฉันเลย แต่ก็เข้าใจได้ว่าเขาเป็นห่วงความรู้สึกของฉันจริงๆ เขาถึงพะว้าพะวังอยู่แบบนี้
“ก็เฮียกลัวว่าเอลิซจะเป็น...เอ่อ...เหมือนวันนั้นอีก” เขาพูดออกมาแม้ปลายประโยคจะแผ่วเบา แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่ฉันจะได้ยิน
ฉันเอาสองมือประคองใบหน้าเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจที่สุดว่า...
“เฮียค่ะ ถ้าเอลิซไม่โอเคเอลิซจะบอกเฮียนะ แต่ถ้าเฮียไม่เริ่ม เอลิซก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าเอลิซหายกลัวแล้วหรือยัง ถ้าเฮียคิดว่าวิธีที่เฮียทำมาทั้งหมดมันมีโอกาสทำให้เอลิซหายได้ เราก็ควรลองไม่ใช่หรอค่ะ” ฉันบอกเขาอีกครั้งให้เขามั่นใจในตัวฉันสักที เพราะตัวฉัน ฉันย่อยรู้ตัวเองดีว่าฉันพร้อมแล้วหรือยังไม่พร้อมที่จะเริ่มบทสวาทกับเขา
เขาจับมือข้างหนึ่งของฉันมาจูบเบาๆ ที่ฝ่ามือ แล้วเอาไปแนบแก้มสากอย่างทะนุถนอม ก่อนจะเอ่ยตอบกลับมาว่า
“ถ้าอย่างนั้น เฮียไม่ปรานีเลยนะ” เขายิ้มกริ่มส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ฉันในทันที
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 30
แสดงความคิดเห็น