ตอนที่ 975 อาวุธชิ้นนี้เป็นของฉัน
ตอนที่ 975 อาวุธชิ้นนี้เป็นของฉัน
ตูม!
หลังจากการปะทะร่างของเซี่ยเฟยกับฟูลมูนก็แยกออกจากกันอีกครั้ง โดยในปัจจุบันทั่วทั้งชุดเกราะของชายชราเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนอย่างมากมาย โดยบางส่วนได้รับความเสียหายจากหงส์คราม ขณะที่บางส่วนถูกจู่โจมโดยปีกปีศาจของเซี่ยเฟย
แฮก ๆ
ชายหนุ่มหอบหายใจออกมาอย่างหนัก เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่การต่อสู้ง่าย ๆ สำหรับเขาด้วยเหมือนกัน พื้นที่บริเวณไหล่ซ้ายของอาชูร่าถูกตัดออกจนเว้าแหว่งไป และมันก็มีเลือดไหลออกมาตามรอยแตกของตัวเกราะ
การต่อสู้ผ่านพ้นไปอย่างยากลำบากและทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่
เซี่ยเฟยกัดฟันเร่งความเร็วออกไปอีกครั้งเพื่อทำการเข้าจู่โจมศัตรูรอบใหม่
ชายชรามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างปวดหัว เพราะเขาไม่เคยเจอศัตรูที่บ้าคลั่งอย่างเซี่ยเฟยมาก่อน นับตั้งแต่ที่การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นชายหนุ่มคนนี้ก็ยังคงจู่โจมซ้ำ ๆ ไม่ให้มีเวลาพักหายใจเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะใกล้ถึงขีดจำกัดอย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังคงพุ่งจู่โจมศัตรูอย่างไม่ยอมแพ้ หงส์ครามที่ถูกลูกธนู 3 กฎทำลายลงไปซ้ำ ๆ ก็ฟื้นฟูใบหญ้ากลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะเข้าพัวพันกับศัตรูโดยไม่คิดที่จะล่าถอยไม่ต่างไปจากเจ้านายของมัน
ด้วยความดื้อรั้นจากเซี่ยเฟยและหงส์ครามที่ยังคงจู่โจมเข้ามาซ้ำ ๆ อยู่นั่นเอง ฟูลมูนจึงรู้สึกว่าเขาไม่ได้กำลังสู้กับมนุษย์ แต่รู้สึกราวกับว่าเขากำลังต่อสู้กับวิญญาณที่หลุดพ้นมาจากนรก
—
“นั่นมันฟูลมูน ผู้ทรยศจากตระกูลดาบลับพิฆาต!” ทันใดนั่นเองเซี่ยจิงที่อยู่ในระยะไกลก็อุทานขึ้นมาอย่างกะทันหัน
การต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยกับฟูลมูนสร้างผลกระทบออกไปในวงกว้าง จนทำให้กระเรียนขาวสามารถจับสัญญาณความผิดปกติได้ จอมเทพทั้งสามแห่งตระกูลสกายวิงจึงรีบมุ่งหน้ามายังจุดเกิดเหตุในทันที ก่อนที่พวกเขาจะได้พบกับทั้งคู่ที่ยังคงพัวพันกันไม่เลิกลา
“นี่เซี่ยเฟยสามารถต้านทานฟูลมูนเอาไว้ได้จริง ๆ เหรอเนี่ย?! แม้แต่พวกเราคนใดคนหนึ่งก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับฟูลมูนได้นานขนาดนี้ พลังการต่อสู้ของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเราเลย เผลอ ๆ เขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าพวกเราด้วยซ้ำ” เซี่ยหงกล่าวด้วยความประหลาดใจ
แต่เดิมเซี่ยกู่เฉิงส่งจอมเทพทั้งสามมาเพื่อคอยคุ้มกันเซี่ยเฟยอย่างลับ ท้ายที่สุดพวกเขาก็มีพลังอยู่ในระดับจอมเทพ ซึ่งผู้ที่มีพลังในระดับนี้ของตระกูลก็มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่คน
แต่ถึงกระนั้นเซี่ยเฟยก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถต่อต้านจอมเทพขั้นที่ 8 ได้โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาผู้คุ้มกันเลย ความสามารถในการต่อสู้ข้ามระดับของชายหนุ่มจัดอยู่ในระดับที่ท้าทายสวรรค์มากเกินไป
“ฟูลมูนถือได้ว่าเป็นมือสังหารที่ดีที่สุดในดินแดนกฎแล้ว หากเซี่ยเฟยสามารถจัดการกับฟูลมูนได้ มันก็หมายความว่าหลังจากนี้ผู้บงการจะต้องลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองแน่นอน เซี่ยเฟยช่วยสร้างโอกาสให้ตระกูลเราแล้ว เราจะปล่อยโอกาสในครั้งนี้ไปไม่ได้เป็นอันขาด!” เซี่ยเหอหลินกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย
เมื่อพูดถึงการล้างแค้นจอมเทพทั้งสามต่างก็กำหมัดด้วยสีหน้าอันจริงจัง
จนถึงตอนนี้เซี่ยเฟยยังคงต่อสู้เพียงลำพัง จอมเทพทั้งสามแห่งสกายวิงจึงยังไม่จำเป็นจะต้องเปิดเผยตัว ศัตรูจึงยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังของชายหนุ่มคนนี้ยังมีจอมเทพคอยสนับสนุนอยู่อย่างลับ ๆ
หากว่าเซี่ยเฟยเพลี่ยงพล้ำไม่สามารถรับมือสถานการณ์ได้ จอมเทพทั้งสามย่อมเคลื่อนไหวเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่การทำแบบนี้มันก็เป็นการเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกไป และแผนการทุกอย่างที่วางเอาไว้มันก็อาจจะมีการคลาดเคลื่อนไปจากเดิม
แต่ปัจจุบันหมาป่าเดียวดายแห่งตระกูลสกายวิงยังคงสามารถเผชิญหน้ากับฟูลมูนได้โดยลำพัง จอมเทพทั้งสามจึงยังไม่จำเป็นจะต้องเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกไป
“เดี๋ยวก่อนนะ! ขนอุยหายไปไหน?! เจ้าตัวน้อยนั่นไม่เคยออกห่างจากเซี่ยเฟยไม่ใช่เหรอหรือว่า…” ทันใดนั่นเองเซี่ยจิงก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
ใบหน้าของจอมเทพทั้งสามเริ่มซีดเซียวขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นความโกรธแค้นก็ปะทุขึ้นมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด
พวกเขาคิดว่าเซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ในครั้งนี้เท่านั้น แต่ชายหนุ่มยังได้สูญเสียอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาของตัวเองไปแล้วอีกด้วย
จอมเทพทั้งสามรู้สึกว่าเซี่ยเฟยเสียสละเพื่อตระกูลมากเกินไป พวกเขาจึงยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นกว่าเดิม
—
เซี่ยเฟยมีพลังงานภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 คอยสนับสนุนอย่างมหาศาล แต่ฟูลมูนไม่มีพลังงานให้ฟื้นฟูในระหว่างการต่อสู้เลย แม้ว่าชายชราจะแข็งแกร่งกว่าเซี่ยเฟยในทางทฤษฎี แต่กฎแห่งความโกลาหลก็เป็นพลังที่ลึกลับมาก ไม่ว่าฟูลมูนจะพยายามจู่โจมด้วยวิธีไหนแต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็จะจบลงด้วยการที่พลังถูกหักล้างอยู่เสมอ
เมื่อเวลาผ่านไปความอึดของเซี่ยเฟยก็เริ่มแสดงผล เพราะเมื่อเทียบในการต่อสู้ระยะยาวมันไม่มีใครสามารถแข่งขันกับเซี่ยเฟยได้ เม็ดพลังงานภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้จริง ๆ มันจึงถือได้ว่าเป็นเม็ดพลังงานที่เขาได้ครอบครองเพียงคนเดียวในจักรวาล
“จำเอาไว้ฉันชื่อฟูลมูน มือสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนกฎ! วันนี้ฉันจะทำให้แกได้รู้ซึ้งถึงพลังธนูผนึกสวรรค์!!” ฟูลมูนร้องคำรามด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
ชายชราไม่อยากจะยืดเยื้อการต่อสู้ให้นานกว่านี้อีกต่อไป เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมามันจึงทำให้เขาสัมผัสได้เลยว่าเขาไม่สามารถต่อสู้อย่างยาวนานมากกว่านี้ได้
ฟูลมูนเริ่มชูแขนอีกครั้งเพื่อเปิดใช้งานธนูผนึกสวรรค์
อย่างไรก็ตามการใช้พลังในครั้งนี้แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันมีแสงสีขาวพุ่งออกมาจากร่างของชายชราเสริมพลังการโจมตีให้บ้าคลั่งมากกว่าเดิม
“เขากำลังใช้พลังชีวิตตัวเองเพื่อเสริมพลังโจมตี!” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
การใช้พลังชีวิตในการโจมตีเป็นวิธีการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของนักรบอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่ฟูลมูนกำลังทำลงไปคือการเสียสละพลังของตัวเอง เพื่อลากศัตรูให้ตายไปภายใต้การโจมตีครั้งนี้เพียงแค่ครั้งเดียว
นี่คือพลังของจอมเทพขั้นที่ 8 การโจมตีในครั้งนี้จึงเป็นการโจมตีที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล
ชายหนุ่มกัดฟันมองศัตรูตรงหน้าอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะใช้การโจมตีโต้กลับที่แข็งแกร่งพอ ๆ กันเพื่อตัดสินการต่อสู้ในครั้งนี้สักที
เมื่อเวลาผ่านพ้นไปเซี่ยเฟยก็รู้สึกเป็นห่วงขนอุยมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน เขาจึงไม่อยากจะยืดเยื้อการต่อสู้อีกต่อไปแล้วเพื่อที่เขาจะได้รีบไปช่วยเหลือเจ้าตัวน้อยโดยเร็วที่สุด
ฝ่ามือทั้งสองข้างถูกนำมาประสานกันยังด้านหน้า จากนั้นพลังของกฎแห่งความโกลาหลก็ได้ถูกถ่ายเทออกไปเพื่อสร้างดาบวงพระจันทร์สีดำสนิทออกมา
ลูกศร 3 กฎถูกรวมพลังอย่างรุนแรง ขณะที่ดาบวงพระจันทร์ของเซี่ยเฟยก็กำลังถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน จอมเทพทั้งสามที่แอบดูอยู่ต่างกับอ้าปากค้างขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และพวกเขาก็ไม่สามารถทำนายได้เลยว่าใครจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะในการปะทะครั้งสุดท้ายนี้
แต่ในทันใดนั้นเองมันก็ได้มีเสียงร้องคำรามดังขึ้นมาจากฟากฟ้า ก่อนที่อสูรน้อยตัวสีขาวจะรีบพุ่งเข้ามาหาเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว
“ขนอุย!!!” ทั้งเซี่ยเฟยและลินนิจต่างก็อุทานขึ้นมาอย่างประหลาดใจ เพราะขนอุยไม่เพียงแต่จะกลับมาหาพวกเขาเท่านั้น แต่รูปลักษณ์ภายนอกของเจ้าตัวน้อยยังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอีกด้วย ทั่วทั้งร่างของมันถูกปกคลุมไปด้วยขนแข็ง ๆ ราวกับว่ามันเป็นปลาปักเป้า ที่สำคัญคือในปากของมันมีกิเลนที่บาดเจ็บสาหัสถูกคาบมาด้วย
“ขนอุยจะน่าทึ่งมากจนเกินไปแล้ว! ไม่เพียงแต่มันจะได้รับการวิวัฒนาการเท่านั้น แต่มันยังสามารถจัดการกับซูย่าได้อีกด้วย” ลินนิจอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
เจ้าตัวน้อยตัวนี้มีความเฉลียวฉลาดมาก มันรู้ดีว่าเซี่ยเฟยกำลังตามหาอาวุธมายาธาตุพืชอยู่ มันจึงไม่ได้ทำการสังหารซูย่าโดยตรง แต่ทำการทรมานให้อีกฝ่ายใกล้ตายและคาบตัวอสูรร้ายมา เพื่อให้เจ้านายของมันจัดการกับดอกบัวห้วงสมุทรที่อยู่ภายในร่างของอสูรตัวนี้
“ขอยืมพลังหน่อย!” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดัง ก่อนที่เขาจะสร้างลูกบอลแสงและปล่อยลูกบอลนั้นเข้าไปภายในร่างของขนอุย
ทันใดนั้นเจ้าตัวน้อยก็แปลงร่างกลายเป็นมนุษย์พร้อม ๆ กับพลังงานอันไร้ที่สิ้นสุดที่ถูกถ่ายโอนเข้าสู่ร่างของเซี่ยเฟย
“พลังงานสูงมาก! ก่อนหน้านี้นายแอบไปกินอะไรดี ๆ มาใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยความประหลาดใจ
หลังจากสังหารโมฮาและทรมานซูย่าอย่างรุนแรง ขนอุยก็ทำการกลืนกินพลังงานจากเขตอาคมสวรรค์กลืนอสูรทั้งหมด ก่อนที่มันจะกลับมาหาเซี่ยเฟยในช่วงที่พลังงานภายในร่างของมันอยู่ในจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
พลังงานอันอุดมสมบูรณ์จากขนอุยประกอบกับเม็ดพลังงานภายในสมองของเซี่ยเฟย มันจึงช่วยทำให้ชายหนุ่มที่เกือบจะหมดแรงกลับมากลายเป็นนักรบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานอีกครั้ง
ใบหน้าของฟูลมูนซีดเซียวลงไปเรื่อย ๆ เพราะด้วยการสนับสนุนของขนอุย พลังงานภายในดาบวงพระจันทร์จึงเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดด ชายชราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องใส่พลังชีวิตเข้าไปมากกว่าเดิม เพื่อให้ลูกศร 3 กฎของเขามีพลังไม่ด้อยไปกว่าดาบวงพระจันทร์ของศัตรู
ร่างของชายชราซูบผอมลงไปอย่างรวดเร็ว แต่พลังงานที่เขารวบรวมไว้ก็ยังไม่สามารถนำไปทัดเทียมกับพลังภายในมือของเซี่ยเฟยได้ เหตุการณ์นี้จึงทำให้ฟูลมูนเต็มไปด้วยความกังวล เพราะมันเป็นครั้งแรกในการต่อสู้ที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ในระหว่างที่ชายหนุ่มรวบรวมพลังของกฎแห่งความโกลาหลได้ถึงขีดสุด เขาก็ยังไม่รีบร้อนที่จะปลดปล่อยการโจมตี แต่เลือกที่จะวิ่งเข้าไปหาชายชราด้วยความรวดเร็ว
เมื่อชายหนุ่มเข้ามาใกล้ฟูลมูนก็รู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงทำการปลดปล่อยการโจมตีของตัวเองออกไปและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีระลอกที่ 2 อย่างต่อเนื่อง
“ดาบจันทร์ทมิฬ!” เซี่ยเฟยร้องคำรามพร้อมกับปลดปล่อยการโจมตีของตัวเองด้วยเช่นกัน จนทำให้ดาบวงพระจันทร์ถูกปลดปล่อยออกไปปะทะเข้ากับลูกศร 3 กฎของฟูลมูน
กฎแห่งความโกลาหลที่ถูกเสริมพลังงานอย่างบ้าคลั่งตัดลูกศร 3 กฎของฟูลมูนออกจากกันโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก และนี่ก็คือผลพวงจากการที่เขาได้รับพลังงานมาจากขนอุย
จิ้ว! จิ้ว!
ฟูลมูนทำการยิงลูกศร 3 กฎออกมาอีกสองลูกต่อเนื่องกันจนเขาไม่เหลือพลังงานอีกต่อไป ซึ่งในที่สุดการโจมตีทั้งสองครั้งนี้ก็สามารถหยุดดาบวงพระจันทร์เอาไว้ได้ แต่ตอนนี้เซี่ยเฟยกับขนอุยก็ได้เข้าประชิดชายชราแล้ว
ปัจจุบันเซี่ยเฟยกับขนอุยมีรูปร่างที่เหมือนกันทุกประการจนยากจะแยกได้ว่าร่างไหนคือร่างจริงและร่างไหนคือร่างปลอม
พลังงานสนับสนุนจากขนอุยทำให้เซี่ยเฟยฟื้นฟูพละกำลังกลับมาอีกครั้ง ขณะที่ฟูลมูนไม่สามารถที่จะใช้คริสตัลต้นกำเนิดเพื่อฟื้นฟูพลังงานของตัวเองได้เลย การจู่โจมจากชายหนุ่มและอสูรคู่ใจจึงจู่โจมเข้าไปราวกับลมพายุ และในที่สุดเนอร์วาน่าก็สามารถฟาดฟันเข้าใส่หน้าอกของฟูลมูนได้สำเร็จ
ดาบกลืนวิญญาณเริ่มทำหน้าที่ดูดพลังงานเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็ยื่นมือออกไปคว้าธนูผนึกสวรรค์เอามาไว้ในมือ และยกอุปกรณ์ชั้นยอดขึ้นไปบนฟ้าเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาคือผู้ที่ได้รับชัยชนะ
อาวุธชิ้นนี้เป็นของฉัน!!
***************
พี่เฟยสุดยอด เป็นการต่อสู้ที่ทรหดมากจริง ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 290
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น