ตอนที่ 816 เปิดใช้งานตราอสูรคลั่งอีกครั้ง

-A A +A

ตอนที่ 816 เปิดใช้งานตราอสูรคลั่งอีกครั้ง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 816 เปิดใช้งานตราอสูรคลั่งอีกครั้ง

“ตราอสูรคลั่ง!!”

คนจากลัทธิเทพโบราณอุทานออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่พวกเขาจะรีบกระโดดถอยหลังกลับไปทีละคน

แม้ว่าการกระทำของเซี่ยเฟยจะยังไม่ได้แสดงเจตนาออกมาชัดเจน แต่มันก็ยังส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของทุกคนเป็นอย่างมาก ท้ายที่สุดทุกคนก็รู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตราอสูรคลั่งถูกทำลาย เมื่อนั้นมันก็จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นมาในดินแดนกฎอีกครั้ง

“ถึงขั้นต้องใช้ตราอสูรคลั่งเลยเหรอ? คนพวกนี้มันทำอะไรเราไม่ได้หรอก” เซี่ยหลิงกระซิบถามเซี่ยเฟยเบา ๆ

“เรื่องมันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น แผนการเรื่องนี้ถูกวางเอาไว้อย่างพิถีพิถันมาก ในเวลาเพียงแค่ไม่นานคนจากตระกูลถึงสามคนก็ได้ถูกหลอกล่อให้มารวมตัวกัน ผมคิดว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น และทุกอย่างมันก็คือแผนการที่ตระกูลมูนวอร์ดพยายามจะแก้แค้นตระกูลของเรา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เซี่ยหลิงชะงักค้างไปเล็กน้อยพร้อมกับแอบรู้สึกเสียใจที่ถูกล่อลวงให้มาตกหลุมพรางของศัตรูในครั้งนี้ 

หากสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นเพียงแค่เรื่องของเธอกับเซี่ยเฟย เรื่องมันย่อมไม่ร้ายแรงถึงขนาดจะต้องใช้ตราอสูรคลั่ง แต่เมื่อเซี่ยเฟยบอกว่าเรื่องนี้คือการแก้แค้นของตระกูลมูนวอร์ด มันก็จะทำให้สถานการณ์แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่ายังไงสกายวิงก็คือต้นตอที่ทำให้มูนวอร์ดถูกขับไล่ออกจากดินแดนกฎ ในเมื่อพวกเขาได้มาเห็นร่องรอยของการพยายามแก้แค้นของอีกฝ่าย พวกเขาก็ต้องรีบเตือนตระกูลให้รู้ถึงภัยที่กำลังลุกลามเข้ามาในครั้งนี้

สถานการณ์วันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีเพราะพวกเขาถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยราชากฎถึง 37 คน ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่ได้บังเอิญมาที่นี่เพราะเรื่องกฎแห่งเวลา เซี่ยหลิงก็จะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายทั้งหมดเพียงลำพัง

“แกคิดจะใช้ตราอสูรคลั่งงั้นเหรอ?” ผู้นำของชายหัวโล้นกล่าวถามอย่างหยิ่งผยอง

“ในเมื่อลัทธิเทพโบราณของพวกแกกล้าที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเรา ฉันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปล่อยพวกแกไป แต่ฉันขอเตือนพวกแกเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าพวกแกเป็นแค่ตัวหมากที่ถูกพวกมูนวอร์ดหลอกใช้ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับลัทธิของแกมันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเรา” เซี่ยเฟยกล่าว

“พี่น้องอย่าไปเชื่อพวกมัน! วันนี้เราได้เห็นด้วยตาของตัวเองแล้วว่าสกายวิงมีความเกี่ยวข้องกับปีศาจสีชมพูจริง ๆ หากวันนี้เราปล่อยพวกมันไป ท่านผู้นำกับสหายของพวกเราที่เสียชีวิตไปก็ไม่มีทางที่จะได้รับความยุติธรรม” หัวหน้าชายหัวโล้นร้องคำรามออกมาเสียงดัง

เฮ้!!

เหล่าบรรดาชายหัวโล้นต่างก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาดังลั่น ระหว่างนั้นพวกเขาก็ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้ามาใกล้เซี่ยเฟยกับเซี่ยหลิงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยก็ไม่อยากจะใช้ตราอสูรคลั่งด้วยเหมือนกัน เพราะมันคือคำสั่งระดมกองกำลังจากทั้งตระกูล เมื่อไหร่ก็ตามที่ตราอสูรคลั่งถูกเปิดใช้งาน เมื่อนั้นมันย่อมเกิดสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ว่าผลลัพธ์จะจบลงยังไงแต่ท้ายที่สุดทางฝั่งสกายวิงมันก็ย่อมจะต้องมีการสูญเสียด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามคนจากลัทธิเทพโบราณก็ไม่คิดจะฟังคำอธิบายจากพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นี้เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขกันด้วยการเจรจาแล้ว

แต่ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังจะทำลายตราอสูรคลั่งภายในมืออยู่นั่นเอง จู่ ๆ ตราอสูรคลั่งภายในมือของเขาก็ส่องแสงสว่างออกมาเสียก่อน

เซี่ยหลิงสะดุ้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะรีบหยิบตราอสูรครั่งของตัวเองออกมาจากแหวนมิติ

“พวกเราไม่จำเป็นจะต้องใช้ตราอสูรครั่งแล้ว ตอนนี้มันมีคนใช้ตราอสูรคลั่งก่อนพวกเรา”

เซี่ยเฟยตกตะลึงไปพักหนึ่ง เพราะเขาไม่คิดเลยว่าพวกมูนวอร์ดจะเริ่มลงมือเร็วขนาดนี้ เพราะไม่เพียงแต่เขากับเซี่ยหลิงจะถูกปิดล้อมด้วยพวกลัทธิเทพโบราณเท่านั้น สมาชิกคนอื่นในตระกูลก็กำลังตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นต้องใช้ตราอสูรคลั่งออกมาด้วย

“เมื่อตราอสูรคลั่งถูกทำลาย พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว ก่อนอื่นพวกเรารีบกลับไปที่สวนสายลมกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“อือ” เซี่ยหลิงพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

มันเป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตราอสูรครั่งถูกทำลาย สมาชิกทุกคนของสกายวิงจะต้องรีบกลับไปรวมตัวกันที่ตระกูล เซี่ยเฟยจึงไม่ต้องการจะเสียเวลากับคนพวกนี้มากนัก เพราะอันดับแรกเขาควรรีบกลับไปยังสวนสายลมเพื่อดูว่าตอนนี้สถานการณ์มันเลวร้ายถึงขั้นไหน

“ไป!” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนพร้อมกับรีบพุ่งตัวออกไปทางซ้ายมือด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

ขนอุยทำหน้าที่เป็นกองหน้าคอยเปิดเส้นทาง โดยมีหงส์ครามทำหน้าที่เป็นปีกทั้งสองข้างคอยป้องกันการจู่โจมของศัตรู เซี่ยเฟยเคลื่อนที่อยู่ตรงกลางโดยถือบลัดบิวเทียสเอาไว้ภายในมือ ขณะที่ทางด้านหลังของเขาคือเซี่ยหลิงที่กำลังวิ่งตามมาอยู่ไม่ห่าง

“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!”

“ฆ่าพวกมันให้หมด!!”

เหล่าบรรดาราชากฎของลัทธิเทพโบราณเริ่มเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน โดยแต่ละคนต่างก็ล้วนแล้วแต่ใช้ทักษะเฉพาะของตัวเองเพื่อเปิดการจู่โจมอย่างดุเดือด

เซี่ยเฟยกับเซี่ยหลิงไม่ได้คิดที่จะปะทะกับคนเหล่านี้ พวกเขาจึงอาศัยความเร็วเพื่อพยายามหลบหลีกออกไปจากวงล้อม

ตูม!

ขนอุยทำหน้าที่เป็นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่พุ่งเข้าใส่ชายที่ขวางทางตรงหน้า จนทำให้ร่างของพวกเขาถูกพุ่งทะลุผ่านกลายเป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่

ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็เคลื่อนที่ตามมาในระยะไม่ไกล และใช้บลัดบิวเทียสฟาดฟันออกไปเพื่อดูดกลืนพลังจากศัตรู

การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยทำให้เซี่ยหลิงชะงักค้างไปเล็กน้อย เพราะหลังจากที่เขาไม่ได้พบกับชายหนุ่มคนนี้เพียงแค่ไม่กี่เดือน มันก็ดูเหมือนกับว่าพลังของเซี่ยเฟยจะก้าวล้ำนำหน้าเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กฎแห่งความเร็วเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากจนทำให้นักรบสกายวิงสามารถเคลื่อนที่ไปที่ไหนก็ได้ตามแต่ใจที่พวกเขาต้องการ

ทั้งเซี่ยเฟยและเซี่ยหลิงต่างก็มีความเร็วมากกว่า 200,000 เมตรต่อวินาที พวกเขาจึงสามารถหนีออกมาจากวงล้อมได้ในเวลาเพียงแค่พริบตา แต่ถึงกระนั้นคนจากลัทธิเทพโบราณก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ พวกเขาจึงเริ่มใช้พลังมิติเพื่อเคลื่อนที่ไปดักทางพวกเซี่ยเฟยเอาไว้

แต่ในขณะที่มันได้มีชายหัวโล้น 2 คนเคลื่อนที่มาดักหน้าพวกเซี่ยเฟยอยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็มีร่างเงาสีดำที่มีความเร็วมากกว่าเซี่ยเฟยและเซี่ยหลิงพุ่งเข้าไปจู่โจมเข้าใส่ศัตรูที่ขวางทาง

ผัวะ ๆ

เซี่ยเฟยมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าคนคนนี้จู่โจมด้วยวิธีไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาเห็นคือร่างของศัตรูทั้งสองคนถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกไปอย่างรุนแรง

ผู้มาใหม่ใช้กำลังของตัวเองอย่างดุร้าย และใช้ประโยชน์จากความเร็วของตัวเองในการถีบราชากฎทั้งสองคนให้กระเด็นออกไปภายใต้การจู่โจมเพียงครั้งเดียว

“พวกนายมาที่นี่ได้ยังไง?” ผู้มาใหม่กล่าวถามเสียงดัง

เซี่ยเฟยกับเซี่ยหลิงอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เมื่อพวกเขาได้พบว่าผู้มาใหม่คนนี้คือผู้ที่มีพละกำลังมากที่สุดในตระกูล ที่มีชื่อว่าเซี่ยหมางราชากฎขั้นที่ 8 ของสกายวิงนั่นเอง

“คุณกำลังตามอะไรสักอย่างมาที่นี่ใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม

“นายรู้ได้ยังไง?! ฉันได้ยินข่าวจากตลาดว่ามีอสูรหายากปลาสเกลเลตัลเพอเพิลวินด์ปรากฏตัวออกมา ฉันเลยตามข่าวมาจนถึงที่นี่และถูกพวกหัวล้านบุกโจมตี พวกมันบอกว่าฉันไปปล้นอะไรสักอย่างมาจากลัทธิของพวกมัน ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าพวกลัทธิอะไรพวกนี้เท่าไหร่นัก แต่ฉันก็ไม่ได้คิดจะไปฆ่าใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ” เซี่ยหมางกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ตระหนักแล้วว่านักรบสกายวิงอีกคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นกลางค่ายของพวกปีศาจสีชมพูมันก็น่าจะเป็นเซี่ยหมางคนนี้นี่เอง

“ตราอสูรคลั่งถูกเปิดใช้งานแล้ว พวกเราค่อยกลับไปคุยกันที่ตระกูลกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

บรรยากาศภายในสวนสายลมค่อนข้างที่จะตึงเครียดเล็กน้อย เพราะตราอสูรคลั่งถูกเปิดใช้งานถึงสองครั้งภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน ซึ่งมันถือว่าเป็นสถานการณ์ที่หาได้ยากในประวัติศาสตร์ของสกายวิง

เซี่ยเฟย, เซี่ยหมางและเซี่ยหลิงเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติออกมาทีละคน ก่อนที่พวกเขาจะได้พบว่าเซี่ยอู๋เย่กำลังยืนรอต้อนรับทุกคนที่ประตูของสวนสายลมอยู่ก่อนแล้ว

“คุณตามันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ?” เซี่ยหมางถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองโดนหลอก

“ท่านผู้นำเป็นคนเปิดใช้งานตราอสูรคั่งด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาถูกล้อมด้วยจักรพรรดิกฎ 2 คนแม้ว่าท่านผู้นำจะหลบหนีออกมาได้แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บกลับมาบ้างเล็กน้อย” เซี่ยอู๋เย่กล่าวตอบอย่างสงบ

“พวกลัทธิเทพโบราณทรงพลังถึงขนาดมีจักรพรรดิกฎอยู่ในลัทธิของพวกเขาถึงสองคนเลยงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก

“ลัทธิเทพโบราณเป็นกองกำลังที่น่ากลัวมาก พวกเขามีจักรพรรดิกฎ 2 คนและราชากฎในลัทธิอีก 37 คน แต่ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลหลังจากที่ท่านผู้นำสังหารจักรพรรดิกฎคนหนึ่งของพวกมันทิ้งไปแล้ว เพราะย้อนกลับไปเพียงแค่ไม่นานพวกมันมีจักรพรรดิกฎอยู่ถึง 4 คน สิ่งที่น่าแปลกคือพวกมันได้แต่งตั้งจักรพรรดิกฎที่อ่อนแอที่สุดเป็นผู้นำของลัทธิ” เซี่ยอู๋เย่กล่าวอธิบาย

ทุกคนต่างก็สะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ โดยเฉพาะเซี่ยเฟยที่เคยเข้าไปในวิหารของพวกลัทธิเทพโบราณมาก่อน แต่ย้อนกลับไปในตอนนั้นเขาไม่ได้พบกับนักรบที่แข็งแกร่งเหล่านี้ในวิหารเทพโบราณเลย หากสิ่งที่เซี่ยอู๋เย่พูดคือความจริงกองกำลังของลัทธิเทพโบราณก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถประมาทได้

“ก่อนที่พวกเรามาที่นี่พวกเราได้สังหารราชากฎของลัทธิเทพโบราณไปอีก 3 คน ตอนนี้พวกมันเหลือราชากฎอยู่เพียงแค่ 34 คนเท่านั้น” เซี่ยเฟยให้ข้อมูลเพิ่มเติม

“พวกคุณก็ถูกลัทธิเทพโบราณปิดล้อมด้วยงั้นเหรอ?” เซี่ยอู๋เย่กล่าวถามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ

“พวกเราถูกพวกมูนวอร์ดหลอกให้ตกอยู่ในวงล้อมของพวกลัทธิเทพโบราณ ถ้าหากท่านผู้นำไม่ได้เปิดใช้ตราอสูรคลั่งขึ้นมาก่อน พวกเราก็กำลังจะใช้งานตราอสูรคลั่งด้วยเหมือนกัน” เซี่ยหลิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“พวกคุณแน่ใจนะว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือพวกมูนวอร์ด?” เซี่ยอู๋เย่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

เซี่ยหมางกับเซี่ยหลิงได้ฟังเรื่องนี้ผ่านทางการวิเคราะห์ของเซี่ยเฟยเท่านั้น พวกเขาจึงจ้องไปทางชายหนุ่มเพื่อให้เซี่ยเฟยเป็นคนอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมด

“เรื่องนี้เป็นฝีมือของพวกมูนวอร์ดไม่ผิดแน่ ๆ ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“เอาล่ะทุกคนไปพักที่สวนหลังบ้านกันก่อนเถอะ ท่านผู้นำกำลังคุยกับบรรพบุรุษอีกสักพักพวกเราก็น่าจะได้ข้อสรุปกันแล้ว” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

นักรบสกายวิงได้มารวมตัวกันภายในสวนสายลมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในเวลาเพียงแค่ 20 นาทีนักรบส่วนใหญ่ก็เดินทางกลับมาที่สวนสายลมแล้ว

เซี่ยเฟยเคยเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และจิตสังหารที่กำลังปะทุออกมามันก็ทำให้บรรยากาศภายในสวนสายลมเต็มไปด้วยความตึงเครียด

ระหว่างรอเซี่ยบูหยุนคุยกับบรรพบุรุษ เซี่ยเฟยก็นั่งนิ่ง ๆ อยู่ใต้ต้นไม้เพื่อพยายามเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดที่เขาได้รับข้อมูลมา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้ตกอยู่ภายใต้แผนการของพวกมูนวอร์ดอย่างแน่นอน ตั้งแต่ที่พวกมันเข้าไปควบคุมกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพู จากนั้นก็ใช้ชื่อของกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพูในการกวาดล้างวิหารของลัทธิเทพโบราณ แล้วทำการโยนความผิดทุกอย่างมาให้สกายวิง

คาเซะเคยให้ข้อมูลเขามาว่าผู้นำคนใหม่ของกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพูมีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎ แน่นอนว่าเซี่ยบูหยุนก็มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎด้วยเช่นกัน ตราบใดก็ตามที่ผู้นำสกายวิงคนนี้ถูกชักนำเข้าไปในสถานการณ์บางอย่าง พวกลัทธิเทพโบราณก็จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกันเองได้อย่างรวดเร็วว่าเซี่ยบูหยุนคือผู้นำคนใหม่ของกลุ่มทหารรับจ้างปีศาจสีชมพู

การวางแผนของพวกมูนวอร์ดมีความแยบยลมากจนเกินไป เพราะไม่ว่าจะเป็นมุมไหน ๆ พวกเขาก็พยายามเชื่อมโยงโศกนาฏกรรมภายในวิหารลัทธิเทพโบราณเข้ากับคนของสกายวิง

“คราวนี้ศัตรูของสกายวิงมีทั้งตระกูลมูนวอร์ดและคนของลัทธิเทพโบราณ เมื่อรวมกันแล้วพวกมันก็มีจักรพรรดิกฎอยู่ถึง 5 คน ฉันว่าคราวนี้สกายวิงคงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้วล่ะ” โอโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด

***************

นี่สินะความน่ากลัวของการแก้แค้นในมุมมืด

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.