4

ตัวร้าย.. ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นใคร ?

-A A +A
อ่านต่อ
4

4

ตอนที่ 4

 

ไม่นานหลังจากที่ เต๋าซุน จากไป จู่ๆ เสียงหัวเราะชราก็ดังมาจากมุมห้อง

 

 “เจ้าตัวเล็กนี่รู้ถึงตัวคนของข้าด้วยเรอะ? เป็นไปไม่ได้หน่า!”

 

เต๋าซุน เดินไปที่ชั้นหนึ่งของตำหนักคัมภีร์ และเลือกหยิบหนังสือวิชาระดับ 1 มาหนึ่งเล่ม  

 

วิชาต่อสู้และวิชาบ่มเพาะของทวีปAนั้นถูกออกเป็น 8 ระดับด้วยกัน 

 

 1-8 ตามลำดับ!

 

8 คือสูงสุด และ 1 คือต่ำสุด  

 

วิชาต่อสู้ที่เต๋าซุนเลือกมานั้นเรียกว่า  "วิชาวาดดาบ"

 

 นี่คือวิชาเรียบง่ายที่ออกกระบวนท่าในคราเดียว ซึ่งเรียกว่าการ วาดดาบ !

 

 วิชาต่อสู้นี้เรียบง่ายและเฉียบคม เพียงชักดาบก็สะบั้นศีรษะให้ขาดได้

 

ตราบใดที่เขามีพลังออกดาบได้เร็วและรุนแรงพอ แม้แต่จักรพรรดิก็ไม่อาจมองเห็นดาบของเขา!

 

   มัน………เป็นวิชาที่เรียบง่ายและน่าพรั่นพรึงยิ่ง!

 

ตราบใดที่เจ้าชักดาบได้เร็วพอ เจ้าก็สามารถสะบั้นหัวของจักรพรรดิได้เช่นกัน  

 

เต๋าซุนออกมาจากตำหนักคัมภีร์ และเริ่มเชื่อมต่อกับลูกปัดในร่างกายของเขา และเริ่มโคจรพลังไปตามพลังทั่วร่างของเขาด้วยพลังระดับ 8 ที่ถูกกักเก็บไว้  

 

 อวัยวะภายใน เส้นลมปราณพิเศษ และเส้นลมปราณในร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

เต๋าซุน ได้ยินเสียง "กึกกักๆ" ดังออกมาจากในร่างของเขาเป็นครั้งคราว

 

และขั้นการบ่มเพาะของเขาก็ก้าวกระโดดขึ้นทันที  

 

 ระดับ 1 ขั้นแรก

 

 ระดับ 1 ขั้นสอง

 

  …………

 

 ระดับ 1 ขั้นเก้า "

 

ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะได้ก้าวขึ้นขั้น 9 ของระดับ 1 แล้ว และมันก็หยุดลงเมื่อกำลังจะทะลวงผ่านระดับ 

 

เต๋าซุนไม่รีบร้อนที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับ 2 ทันที เขาต้องการที่ทำให้รากฐานในตอนนี้มั่นคงกว่าเดิมอีกสักเล็กน้อยเสียก่อน 

 

อาคารสูงที่มั่นคงย่อมมาจากรากฐานที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจปรับสภาพร่างกายในช่วงนี้ให้มั่นคงเสียก่อนจะก้าวเข้าสู่ระดับ 2  

 

ภายในนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ มีหอแรงโน้มถ่วงสำหรับเหล่าศิษย์ใช้ฝึกร่างกายโดยเฉพาะอยู่  

 

หอแรงโน้มถ่วงนั้นมีทั้งหมด 10 ชั้น และแรงโน้มถ่วงแต่ละชั้นก็จะเพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่า  

 

เต๋าซุนหยุดอย่างกะทันหันที่หน้าหอแรงโน้มถ่วง 

 

“พี่ซุน รอข้าด้วยยย   ” ไม่ไกลนัก ชายอ้วนตัวน้อยก็วิ่งหอบหายใจเข้ามา

 

ชายอ้วนตัวน้อยมีผมสั้น มีลูกอมอยู่ในปาก และมีน้ำมูกห้อยย้อยอยู่ที่มุมปาก

 

“พี่ซุน เหตุใดท่านถึงได้อยู่ที่นี่ ไม่แปลกเลยทำไมข้าถึงหาท่านไม่เจอสักที  ” ชายอ้วนตัวน้อยถามขณะปาดน้ำมูกอย่างชำนาญและเลียลูกกวาดด้วยความพึงพอใจ

 

“เจ้าปลาน้อย ไม่เจอกันนานเลยนะ” เต๋าซุน มองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าและทักทายเขาด้วยน้ำเสียงโหยหาเล็กน้อย

 

ชื่อเต็มของชายอ้วนตัวน้อยคือปางซู เขาเป็นหลานชายของผู้อาวุโสสามแห่งนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นสหายที่สร้างเรื่องให้เขาเก่งที่สุดตั้งแต่ยังเด็กอีกด้วย 

 

ตั้งแต่วัยเด็ก ปางซูนั้นเป็นผู้ติดตามของเขา และมักเชื่อฟังคำพูดของเขาอยู่เสมอ 

 

 ในชีวิตก่อน  เจ้าปลาน้อยมักจะทำหน้าที่เป็นกระเป๋าติดสอยห้อยตามเต๋าซุนไปทุกที่ อันที่จริงความสามารถของเจ้าปลาน้อยนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเต๋าซุนเลย ในบางแง่มุมยังเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ  

 

ในเวลานั้น เต๋าซุนที่หยิ่งทะนงในตัวเองมักจะเอาเปรียบและดุด่าเจ้าปลาน้อยอยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงกระนั้นเจ้าปลาน้อยก็ยังชื่นชมและเชื่อมั่นใจตัวเขาอย่างลึกซึ้งด้วยความซื่อสัตย์อย่างไร้ข้อกังขา

 

จนกระทั่งการต่อสู้ในภายหลัง ตอนนั้นเจ้าปลาน้อยได้ก้าวมาข้างหน้าและใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อรับดาบที่เกรี้ยวกราดของเย่เฉินและช่วยเขาไว้ในช่วงเวลาวิกฤต 

 

เขาอุ้มชายหนุ่มร่างเปื้อนเลือดผู้นี้ไว้ในอ้อมแขนและตะโกนออกมา "เหตุใด… ทำไม…"

 

ครั้งนั้นชายหนุ่มที่กำลังจะตายก็ได้บอกความจริงของเหตุผล

 

เมื่อทั้งสองอายุได้สิบปี ตอนที่พวกเขาแอบหนีออกไปเล่นนอกนิกาย ระหว่างทางที่พวกเขาได้พบเจอกับเสือขาวตัวหนึ่ง 

 

 ในเวลานั้น  เขาได้ปกป้องเจ้าปลาน้อยไว้และออกไปเผชิญหน้ากับเสือขาวเพียงลำพังเพื่อรั้งให้เจ้าปลาน้อยหนีไปก่อน

 

ตั้งแต่เหตุการณ์นั้น เจ้าปลาน้อยก็ถามตัวเองอยู่เสมอว่า  "เหตุใดเขาถึงปกป้องข้ากัน"

 

 แท้จริงเขาสามารถทิ้งข้าไว้และหนีไปลำพังก็ได้ไม่ใช่รึ  

 

 จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้คำตอบจากเต๋าซุนว่า  "ก็เพราะเราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่รึไง ข้าเป็นพี่ เจ้าเป็นน้อง  "

 

"ดังนั้นมันก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่พี่ชายอย่างข้าจะต้องอยู่ด้านหน้าและปกป้องน้อยชายที่อยู่ข้างหลัง เช่นนั้นมันใช่แปลกอะไรที่ข้าจะปกป้องเจ้า ! "

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เต๋าซุนก็หาได้รู้ไม่ว่าตัวตนของเขานั้นถูกสลักลึกลงไปในหัวใจของเจ้าเด็กอ้วนแล้ว 

 

“แต่ในฐานะผู้ติดตามของข้าแล้วเจ้าเองก็สมควรจะปกป้องตัวเองให้ได้ด้วยไม่ใช่รึ  แม้ว่าตะวันจะกลับหัวและจันทราเปลี่ยนทิศ เจ้าก็ต้องรักษาชีวิตของตัวเองไว้สิ ! ”

 

…..

 

เมื่อได้ยินคำพูดของ เต๋าซุน ปางซูก็สับสนเล็กน้อย "เหตุใดถึงบอกว่าเราไม่ได้เจอกันนานล่ะพี่ซุน? เราเพิ่งพบกันเมื่อวานไม่ใช่หรอ?"

 

“ช่างมันเถอะ ข้าก็พูดไปเรื่อย” เต๋าซุน ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ข้าจะเข้าไปในหอแรงโน้มถ่วงเพื่อฝึกฝน เจ้าจะไปกับข้าไหม  ”

 

เจ้าปลาน้อยนั้นมีอายุพอๆกับเต๋าซุน และเขาเองก็ถึงวัยที่จะฝึกฝนแล้ว  

 

 “ไปๆ ข้าไปด้วย”เจ้าปลาน้อยพยักหน้าอย่างไร้เดียงสา ราวกับว่าในสายตาของเขา เขาแทบไม่เคยปฏิเสธสิ่งใดที่เต๋าซุนเสนอเลย

 

  …………

 

ทั้งสองก็เดินมาถึงในหอแรงโน้มถ่วงและในขณะเดินเต๋าซุนจ้องไปยังรูปลักษณ์ของเจ้าปลาน้อย 

 

ด้วยเมือกน้ำมูกที่ห้อยอยู่มุมปากสะบัดไปมา พร้อมกับขนมที่ถูกส่งเข้าปากเป็นระยะๆ   

 

ในที่สุดเต๋าซุนก็คิดอยู่พักหนึ่ง และพูดเตือนว่า  "เจ้าปลาน้อย เจ้าช่วยกินขนมให้น้อยลง และเช็ดจมูกทำความสะอาดเล็กน้อยได้หรือไม่ ? คิดเสียว่าเพื่อภาพลักษณ์ของเจ้าเอง "

 

 “ ภาพลักษณ์ของข้ามีอะไรผิดปกติหรือพี่ซุน?” ปางซูถามอย่างสงสัย

 

ในฐานะที่เต๋าซุนค่อนข้างสนิทกับน้องชายผู้นี้ เขาจึงรู้เรื่องเกี่ยวกับความรักของเจ้าปลามาบ้าง และเขาก็เป็นกังวลว่าเด็กหญิงผู้นั้นจะคิดไม่ดีเกี่ยวกับเจ้าปลาน้อย  

 

ดังนั้นเขาจึงพยายามโน้มน้าวเจ้าปลาน้อยต่อ: “ไม่ใช่เจ้ามีหญิงที่ชอบงั้นรึ ? ถ้าเจ้ายังเป็นแบบนี้อยู่นางจะหันมาสนใจเจ้าได้ยังไง   ?”

 

“เชื่อฟังข้า และรักษาความสะอาดซะ บางทีเจ้าอาจเอาชนะใจหญิงสาวผู้นั้นได้ก็เป็นได้ "

 

“ทำไมข้าต้องเอาชนะใจนางด้วยล่ะ”เจ้าปลาน้อยก็ถามอีกครั้งอย่างสงสัย

 

“อารมณ์เป็นเรื่องระหว่างคนสองคน และมันเป็นเรื่องของการยอมรับอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายไม่ยอมรับเจ้า เจ้าก็คงไม่อาจสมหวังในความรักได้  ” เต๋าซุนกล่าว

 

“ไม่ ” เจ้าปลาน้อยก็ส่ายหัว และพูดตอบโดยไม่รู้ตัว  “ ถ้านางจะไม่ยอมรับข้า ข้าก็จะบังคับนาง ”

 

 “ผลไม้ที่ฝืนเด็ดมักจะไม่หอมหวาน” เต๋าซุนก็พูดเบาๆ “ และถ้าเจ้าทำเช่นนั้น ท่านปู่ได้จับเจ้าขังลืมแน่ ”

 

 “แม้ผลไม้ที่ฝืนเด็ดมักจะไม่หอมหวาน แต่มันก็พอดับกระหายให้ข้าได้” เจ้าปลาน้อยก็กล่าวตอบอย่างจริงจัง “ ถ้านางไม่ยินยอมข้า ถึงตอนข้าหลังจากที่ข้าลงมือ ข้าก็แค่ไปก้มหัวขอร้องให้ท่านปู่จัดการซะก็สิ้นเรื่อง ”

 

 …

 

“ว่านเฉา เจ้าต้องเป็นอัจฉริยะแน่ๆ” เต๋าซุนก็หยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงพูดที่วุ่นวาย 

 

“ อุฮิฮิฮิ เจ้าก็ชมข้าเกินไป แต่….มันก็สมเหตุผลอยู่ งั้นข้าจะไม่ปฏิเสธแล้วกัน  ”

 

  …………

 

 เมื่อทั้งสองมาถึงในหอแรงโน้มถ่วงที่มีอาคมรูปวงรีและอาคารคล้ายกับเจดีย์

 

 ทั้งสองก็เดินเข้าไปต่อ และ ศิษย์หลายคนที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ข้างในก็รู้สึกตัว

 

แน่นอนว่าการฝึกฝนในหอแรงโน้มถ่วงนั้นไม่ฟรี ศิษย์จำเป็นต้องทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อรับคะแนนช่วยเหลือเพื่อมาใช้แลกกับเวลาในการเข้าฝึกฝนที่นี่ 

 

แต่ด้วยตัวตนของเต๋าซุนกับเจ้าปลาน้อยแล้ว คะแนนช่วยเหลือของพวกเขาย่อมมีไม่หมดสิ้นแน่นอน  

 

 หอแรงโน้มถ่วงชั้นแรกนั้นจะเพิ่มแรงโน้มถ่วงเป็นสองเท่า นั้นก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกเกือบสิบเท่าเมื่อเข้าสู่ชั้นถัดไป  

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.