ตอนที่ 798 มังกรหยกขาว

“ที่แท้พวกเขาก็ตายเพราะยาพิษนี่เอง” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“ทันทีที่ผมจับพวกมัน พิษที่ซ่อนอยู่ในฟันของพวกมันก็ออกฤทธิ์ไปแล้ว พวกมันไม่คิดจะปล่อยใครเอาไว้เลยจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

หลังจากพูดจบเซี่ยเฟยก็ใช้มือคลำไปรอบ ๆ ตัวศพ ก่อนที่เขาจะได้พบกับป้ายไม้ที่มีเศษไม้แตกบริเวณมุมป้าย และเศษไม้ที่หลุดออกไปนั่นก็คือเศษไม้ที่เซี่ยเฟยเก็บได้นั่นเอง โดยบนตัวป้ายมีตัวอักษรเขียนเอาไว้ว่า

กองโจรเอนเชียนวินด์!

“กองโจรเอนเชียนวินด์?! นั่นมันกลุ่มโจรปล้นสุสานที่มีชื่อเสียงที่สุดในดินแดนกฎ สมาชิกภายในกองกำลังของพวกมันมีทั้งคนจากเผ่าเทพและเผ่ามาร พวกมันมีความเชี่ยวชาญในการขุดสุสานของตระกูลต่าง ๆ มาก พวกมันจึงถือว่าเป็นกลุ่มโจรที่น่ารังเกียจของทุกคน ฉันไม่คิดเลยว่าโศกนาฏกรรมในลัทธิเทพโบราณจะเป็นฝีมือของพวกมันแบบนี้” โอโร่กล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยกลับโยนป้ายไม้ทิ้งไปอย่างไม่ใยดีราวกับว่าของชิ้นนี้ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับเขาเลย

“ทำไมจู่ ๆ ถึงโยนหลักฐานสำคัญทิ้งไปแบบนั้นล่ะ?” โอโร่ถามด้วยความสับสน

“ของพวกนี้มันก็เป็นเพียงแค่หลักฐานปลอมเอาไว้หลอกเด็กได้เท่านั้นแหละ”

“คุณลองคิดดูสิว่าทันทีที่ผมจับตัวพวกมันได้ พวกมันก็กินยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายทันที แสดงว่าองค์กรที่พวกมันสังกัดอยู่เป็นองค์กรที่มีกฎระเบียบเคร่งครัดมาก แล้วองค์กรแบบนั้นจะทิ้งหลักฐานง่าย ๆ แบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เว้นแต่ว่าพวกมันจงใจจะโยนความผิดไปให้กับใครสักคน”

“นอกจากนี้พวกเอนเชียนวินด์ยังเป็นกลุ่มโจรปล้นสุสานที่ต้องการเพียงแค่สิ่งของ ไม่ใช่กลุ่มโจรที่ต้องการสังหารชีวิตของผู้คน แล้วทำไมกลุ่มโจรปล้นสุสานแบบนั้นถึงต้องสังหารสาวกของลัทธิเทพโบราณไปมากกว่า 10,000 คนด้วย” เซี่ยเฟยอธิบายอย่างเฉยเมย

โอโร่พูดไม่ออกไปพักหนึ่ง เพราะกลอุบายแบบนี้ถือได้ว่าเป็นกลอุบายที่เรียบง่ายมาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังถูกอีกฝ่ายหลอกลวงไปจริง ๆ

หลังจากเก็บศพทั้งสองแล้วเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่กลุ่มดาวม้าขาวอีกครั้ง

—

เซี่ยอู๋เย่จ้องไปยังศพทั้งสองที่เซี่ยเฟยนำออกมาอย่างสับสน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังทำอะไรอยู่ เพราะหลังจากที่ชายหนุ่มกลับมาเขาก็นำกล่องเก็บศพออกมาคล้ายกับว่าเขากำลังจะถามอะไรบางอย่าง

“คุณตาพอจะช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ?” เซี่ยเฟยถาม

“นายน้อยต้องการให้ฉันสืบข้อมูลจากศพพวกนี้งั้นเหรอ?” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ใช่ครับ ผมอยากรู้ว่าใครเป็นคนสร้างชุดเกราะที่พวกมันใส่, เสื้อผ้าของพวกมันผลิตจากที่ไหน นอกจากนี้ผมยังต้องการเปิดกระเพาะของพวกมันดู เพื่อค้นดูว่าอาหารที่พวกมันกินมาจากพื้นที่บริเวณไหน โดยสรุปก็คือผมต้องการข้อมูลที่จะระบุว่าพวกมันเป็นใครและพวกมันมีถิ่นฐานอยู่ที่ไหนกันแน่?” เซี่ยเฟยกล่าว

“ไม่ต้องห่วง สกายวิงมีผู้เชี่ยวชาญจัดการเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จฉันจะส่งข้อมูลให้กับคุณทันที” เซี่ยอู๋เย่กล่าวตอบ

“รบกวนด้วยนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับแสดงความเคารพ

เมื่อกลับมาจนถึงห้องชายหนุ่มก็หยิบกล่องโลหะสีน้ำตาลใบเล็กออกมา พร้อมกับชุดเครื่องมือเพื่อตรวจสอบว่ากล่องใบที่เขาได้รับมามีกลไกอะไรซ่อนอยู่ในตัวกล่องหรือไม่

โดยปกติกล่องที่เก็บความลับอะไรไว้สักอย่างมักจะมีการติดตั้งกลไกเอาไว้ป้องกันเป็นชั้นสุดท้ายอยู่เสมอ มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซี่ยเฟยจึงยังไม่เปิดกล่องโลหะตั้งแต่แรกที่เขาได้รับมันมา เพราะการเปิดกล่องอย่างฉับพลันอาจจะทำให้สิ่งที่เก็บอยู่ภายในได้รับความเสียหายได้

ในที่สุดชายหนุ่มก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี เมื่อเขาได้พบกลไกป้องกัน 2 ชนิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่อง โดยกลไกอย่างแรกทำหน้าที่จุดชนวนระเบิดเพื่อสร้างความเสียหายให้กับผู้เปิดกล่องอย่างระมัดระวัง ขณะที่กลไกอีกอันทำหน้าที่ทำลายวัตถุที่เก็บซ่อนอยู่ในตัวกล่องโดยตรง

นิ้วของชายหนุ่มเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเนื่องมาจากเขาศึกษาเรื่องกลไกมาเป็นอย่างดี การถอดกลไกเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา

หลังจากจัดการไปครู่หนึ่งในที่สุดเซี่ยเฟยก็สามารถเปิดกล่องออกมาได้สำเร็จ

“ลูกพีช?” เซี่ยเฟยเอื้อมมือไปหยิบลูกพีชที่ทำขึ้นมาจากหยกขาวออกมาด้วยความสงสัย

“ทำไมมันถึงดูคุ้น ๆ?” โอโร่อุทานขึ้นมาพร้อมกับพยายามนึก

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ชะงักค้างไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะค้นหาสิ่งของในแหวนมิติของตัวเองอย่างรวดเร็ว และได้หยิบลิงหยกขาวซึ่งเป็นอุปกรณ์กลั่นพลังงานชั้นยอดออกมา

เมื่อเปรียบเทียบลูกพีชหยกขาวกับลิงหยกขาวเข้าด้วยกัน เซี่ยเฟยก็ได้พบว่าวัสดุที่สร้างพวกมันขึ้นมามีรายละเอียดที่เหมือนกันทุกประการ

ลิงหยกขาวมีบทบาทสำคัญในระหว่างการฝึกฝนโดยใช้คริสตัลต้นกำเนิดมาก เพราะมันจะช่วยกลั่นพลังงานในคริสตัลต้นกำเนิดให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถใช้ได้ในกรณีที่เขานั่งฝึกอยู่เฉย ๆ เท่านั้น แต่ในกรณีของกฎแห่งความเร็วประจำตระกูลสกายวิงที่ต้องฝึกในระหว่างการวิ่งด้วยความเร็วสูง ลิงหยกขาวก็ไม่สามารถที่จะให้ความช่วยเหลือเซี่ยเฟยได้

ตอนแรกชายหนุ่มได้พบเพียงแค่ตัวของลิงหยกขาวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก่อนที่เขาจะได้ฐานของมันมาโดยบังเอิญ ซึ่งการติดตั้งลิงหยกขาวเข้ากับฐานก็ช่วยเพิ่มผลลัพธ์ของการกลั่นพลังงานขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก 

ที่สำคัญในตอนนี้เขายังยังได้ลูกพีชหยกขาวที่ดูจะเป็นอุปกรณ์เช่นเดียวกัน เขาจึงไม่รู้ว่าลูกพีชชิ้นนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับลิงหยกขาวมากแค่ไหน

โดยปกติเซี่ยเฟยมักจะวางคริสตัลต้นกำเนิดเอาไว้ภายในมือของลิงตัวนี้ แล้วถ้าหากว่าเขานำลูกพีชไปวางไว้ในตำแหน่งนั้นเขาจะต้องนำคริสตัลต้นกำเนิดไปวางไว้ตรงตำแหน่งไหน

ชายหนุ่มทำได้เพียงแต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายในใจ ก่อนที่เขาจะวางลูกพีชหยกขาวเอาไว้ภายในมือของลิงหยกขาวอย่างพอดิบพอดี

“พวกมันเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวกันจริง ๆ ด้วย แล้วแบบนี้เราจะต้องวางคริสตัลต้นกำเนิดเอาไว้ตรงไหน หรือว่าลูกพีชนั่นเป็นเพียงแค่อุปกรณ์เอาไว้ประดับตกแต่งแค่นั้นเหรอ?” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่อารมณ์ของเขาจะเปลี่ยนไปกลายเป็นสับสนอีกครั้ง

เซี่ยเฟยก็กำลังรู้สึกสับสนเช่นเดียวกัน เขาจึงพยายามเพ่งพิจารณาทุกอย่างด้วยความระมัดระวังอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้พบกับเส้นสีแดงแนวตั้งเล็ก ๆ บนนิ้วกลางของลิง และมันก็มีเส้นสีแดงเล็ก ๆ นี้บนลูกพีชด้วยเช่นกัน

ชายหนุ่มค่อย ๆ หมุนลูกพีชให้เส้นสีแดงทั้งสองเส้นเคลื่อนที่เข้ามาตรงตำแหน่งกันและกัน ทันใดนั้นลิงหยกขาวทั้งตัวก็แตกออกจากกันแยกออกเป็นสองซีกตามแนวเส้นสีแดงบนลูกพีช เผยให้เห็นแหวนหยกสีขาวที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้อยู่ด้านใน

“ที่แท้ลิงหยกขาวมันก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่มีเอาไว้สำหรับซ่อนแหวนหยกขาวไว้ด้านในงั้นเหรอ!!”

“หวังว่าแหวนวงนี้จะคุ้มค่ากับลิงหยกขาวที่หักลงไปนะ” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับถอนหายใจ จากนั้นเขาก็หยิบแหวนหยกขาวขึ้นมาเพื่อพิจารณาอย่างระมัดระวัง

“แหวนวงนี้ย่อมไม่ใช่ของธรรมดา ไม่อย่างนั้นคนที่สร้างลิงหยกขาวขึ้นมาคงจะไม่ซ่อนมันเอาไว้อย่างมิดชิดแบบนี้” โอโร่กล่าว

เมื่อพิจารณาดูวัสดุแหวนวงนี้มันก็สร้างขึ้นมาจากหยกขาวไม่ต่างไปจากลิงหยกขาวมากนัก เพียงแต่ว่าตัวแหวนดูมีความชุ่มชื่นมากยิ่งกว่า และพื้นผิวของแหวนก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่าเย็นเยียบเหมือนกับพื้นผิวของหยกโดยทั่วไป

ทันใดนั้นทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ต่างก็ชะงักค้างขึ้นมาพร้อม ๆ กัน เมื่อพวกเขาได้เห็นว่ามันดูเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างกำลังแหวกว่ายอยู่ภายในแหวนอย่างรวดเร็ว

“นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? มันมีตัวอะไรกำลังแหวกว่ายอยู่ในแหวนงั้นเหรอ?” โอโร่ถามอย่างสงสัย

“ผมก็เห็นเหมือนกัน คุณไม่ได้ตาฝาดไปหรอก” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ

หลังจากนั้นทั้งสองก็จ้องมองไปที่แหวนอย่างสงสัยเพื่อหวังว่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ตัวนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง

…

“ฉันจำได้แล้ว! มันคือมังกรหยกขาว!!” หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่นานในที่สุดโอโร่ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง

“มังกรหยกขาว?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความสงสัย

“ใช่ ตอนแรกฉันค่อนข้างสับสนมาก ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเจอแหวนที่มีชื่อเสียงแบบนี้” โอโร่กล่าวตอบ

“ตอนแรกนายคิดว่าการกลั่นพลังงานเกิดขึ้นมาจากลิงหยกขาวใช่ไหม? ความจริงแล้วกระบวนการกลั่นพลังงานเกิดขึ้นมาจากแหวนวงนี้ต่างหาก ลิงหยกขาวซึ่งเป็นเปลือกที่ครอบมันไว้ทำหน้าที่ให้คุณภาพในการกลั่นพลังงานด้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น”

“พลังงานคือพื้นฐานทุกอย่างของดินแดนกฎ แหวนมังกรหยกขาวจึงเป็นสมบัติที่นักรบทุกคนต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครอง เมื่อมีแหวนมังกรหยกขาวคอยให้การช่วยเหลือ นายก็จะสามารถดูดซับพลังงานต้นกำเนิดได้ด้วยความบริสุทธิ์ระดับสูงสุด และมันก็จะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับพลังงานให้กับนายมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า” โอโร่อธิบายอย่างตื่นเต้น

“คุณไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน? มันมีมังกรอยู่ในแหวนจริง ๆ เหรอ?” เซี่ยเฟยหยิบแหวนขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง

“ฉันคือราชาแห่งเผ่าพันธุ์ไลอ้อนฮาร์ท จอมมารเกราะดำผู้แข็งแกร่งจากเผ่ามารเชียวนะ! นายดูถูกความรู้ของฉันมากเกินไปแล้ว นายรู้ไหมว่าชั่วชีวิตของฉันนี้ฉันเคยเห็นข้อมูลของสมบัติมาแล้วกี่ชิ้น สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับมังกรในแหวนมันไม่ใช่มังกรจริง ๆ หรอก แต่มันเป็นตำหนิของตัวแหวนหยกขาวต่างหาก” โอโร่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“ตำหนิงั้นเหรอ? แล้วทำไมมันถึงดูเหมือนมีชีวิตขนาดนั้น” เซี่ยเฟยถามด้วยความสับสน

“นี่นายยังไม่เข้าใจอีกงั้นเหรอ? วัสดุด้านในของตัวแหวนมันมีการไหลเวียนอยู่จริง ๆ ตำหนิของวัสดุที่ไหลเวียนไปตามกระแสพลังจึงให้ความรู้สึกคล้ายกับมังกรที่เคลื่อนไหวอย่างมีชีวิต และยิ่งนายได้ใช้คริสตัลต้นกำเนิดระดับสูงเท่าไหร่ อัตราการเคลื่อนไหวของวัสดุก็จะยิ่งไหลเวียนเร็วมากขึ้นเท่านั้น” โอโร่อธิบายด้วยรอยยิ้ม

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าแหวนมังกรหยกขาวทำขึ้นมาจากวัสดุชนิดพิเศษ ที่สสารภายในสามารถไหลเวียนตามกระแสของพลังงานได้ ตำหนิสีดำภายในแหวนที่เคลื่อนไหวไปตามกระแสพลังจึงดูคล้ายกับมังกรที่กำลังแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางเมฆขาว

“หลังจากที่นายได้แหวนวงนี้ไป มันก็จะช่วยให้นายดูดซับพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแม้ว่านายจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงก็ตาม” 

“เมื่อมันรวมกับพลังงานที่นายดูดซับผ่านทางบลัดบิวเทียส ประกอบกับความสามารถในการควบคุมพลังงานของนาย ฉันก็คิดว่าทั่วทั้งดินแดนกฎคงจะไม่มีใครสามารถจัดการกับพลังงานได้ดีเหมือนกับนายแล้ว” โอโร่กล่าวขึ้นมาด้วยความอิจฉา เพราะถึงแม้เขาจะเกิดขึ้นมาในตระกูลที่ร่ำรวย แต่เขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้ครอบครองสมบัติชั้นยอดหลาย ๆ ชิ้นเช่นเดียวกันกับเซี่ยเฟยเลย

เมื่อได้รู้จักคุณสมบัติเซี่ยเฟยก็พยายามดูดซับพลังงานจากคริสตัลต้นกำเนิดผ่านทางแหวนมังกรหยกขาว ก่อนที่เขาจะได้พบว่าพลังงานที่ดูดซับผ่านตัวแหวนมีความบริสุทธิ์มาก และไม่มีพลังงานสูญเสียไปในระหว่างกระบวนการดูดซับเลยแม้แต่นิดเดียว 

ที่สำคัญคือแหวนวงนี้สามารถพกพาไปได้อย่างสะดวกสบาย และมันก็ช่วยให้เขาสามารถดูดซับพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพได้แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงก็ตาม

ทันใดนั้นมันก็มีสัญญาณการติดต่อดังขึ้นมาจากเข็มทิศมิติ เมื่อเซี่ยเฟยก้มศีรษะลงเขาก็ได้พบว่าเซี่ยอู๋เย่ติดต่อมาเพื่อรายงานรายละเอียดของศพทั้งสองให้กับเขา

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างยินดี ก่อนที่เขาจะอ่านข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน

***************

โอโร่ยิ่งอยู่กับพี่เฟยยิ่งอยากตาย จะได้ไปไล่ล่าหาสมบัติของตัวเองบ้างเพราะทนความอิจฉาไม่ไหว 555