ตอนที่ 787 กฎแห่งความเร็วขั้นต้น
ตอนที่ 787 กฎแห่งความเร็วขั้นต้น
“หากว่าฉันเดาไม่ผิดเซี่ยเฟยน่าจะฝึกกฎแห่งความเร็วขั้นแรกได้สำเร็จในคืนนี้แหละ” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยแววตาอันเป็นประกาย
คำพูดของพ่อบ้านชราทำให้เซี่ยจงไห่ชะงักค้างไปด้วยความตกใจ เพราะเซี่ยเฟยเพิ่งเริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วมาได้เพียงแค่ 2 สัปดาห์ แต่ชายหนุ่มกลับกำลังจะสำเร็จกฎแห่งความเร็วขั้นแรกได้แล้วงั้นเหรอ
กฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิงเป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้ยากมาก ๆ เรียกได้ว่ามันคือกฎที่ฝึกฝนยากเป็นอันดับต้น ๆ ของดินแดนกฎได้เลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังเริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วด้วยพลังพิเศษระดับสูงสุด มันจึงยิ่งทวีความยากลำบากในการฝึกฝนเข้าไปกันใหญ่
เซี่ยจงไห่นึกไม่ออกเลยว่าใครภายในตระกูลที่สามารถฝึกฝนกฎแห่งความเร็วขั้นแรกได้ในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยสามารถทำได้จริง ๆ ชายหนุ่มคนนี้ก็จะเป็นผู้ทำลายสถิติผู้ฝึกกฎแห่งความเร็วภายในเวลาที่สั้นที่สุดของตระกูล
ภายในใจของเซี่ยจงไห่เต็มไปด้วยความสับสน แต่เขาก็ไม่คิดว่าพ่อบ้านชราจะโกหกเขาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเซี่ยเฟยย่อมมีโอกาสสูงมากที่จะบรรลุกฎแห่งความเร็วได้ภายในคืนนี้อย่างแน่นอน
ชายชราพยายามเรียกหน้าจอภายในสนามฝึกขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง ซึ่งเขาก็ได้พบว่าตอนนี้เซี่ยเฟยสามารถควบคุมพลังงานได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถที่จะเปลี่ยนคริสตัลต้นกำเนิดก้อนใหม่ขึ้นมาดูดซับพลังงานได้โดยไม่จำเป็นจะต้องผ่อนความเร็วลงด้วยซ้ำ
การผ่อนความเร็วในระหว่างการฝึกฝนถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในระหว่างการฝึกกฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิงด้วยเช่นกัน และการที่ชายหนุ่มคนนี้สามารถฝึกฝนได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นจะต้องผ่อนความเร็ว มันก็คือกุญแจสำคัญที่ทำให้เซี่ยเฟยสามารถฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
ทั่วทั้งดินแดนกฎต่างก็ล้วนแล้วแต่จำเป็นจะต้องพึ่งพาพลังงานจากคริสตัลต้นกำเนิด และความสามารถในการควบคุมพลังงานอย่างละเอียดอ่อนของเซี่ยเฟย มันก็เป็นสิ่งที่น่าทึ่งจนทำให้ใครหลาย ๆ คนพูดไม่ออก ซึ่งด้วยความสามารถในการควบคุมพลังงานในระดับที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้นี่เอง มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับผลลัพธ์จากการฝึกซ้อมถึง 2 เท่าโดยการใช้ความพยายามไปเพียงแค่ครึ่งเดียว
ทันใดนั่นเองมันก็มีแสงสีเขียวจาง ๆ ปรากฏขึ้นมาล้อมรอบตัวของชายหนุ่ม คล้ายกับว่าพวกมันเกิดจากการไหลเวียนของพลังงานอย่างรวดเร็ว
“ดูนั่น! ออร่าสายลมเริ่มปรากฏขึ้นแล้ว เซี่ยเฟยกำลังจะสำเร็จกฎแห่งความเร็วได้แล้วจริง ๆ” เซี่ยจงไห่ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
ออร่าสายลมคือปรากฏการณ์ที่จะปรากฏขึ้นมาเมื่อใครก็ตามกำลังจะทะลวงผ่านการเรียนรู้กฎแห่งความเร็ว
เซี่ยอู๋เย่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะเอานิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปากเป็นสัญญาณให้พวกเขาคอยเฝ้าดูพัฒนาการของเซี่ยเฟยอย่างเงียบ ๆ และไม่ส่งเสียงเพื่อรบกวนการฝึกฝนของชายหนุ่ม
—
ในระหว่างการฝึกฝนเซี่ยเฟยไม่รู้ตัวเลยว่าวันนี้เซี่ยจงไห่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อมาแอบดูเขาทำการฝึกฝน เพราะเขากำลังมุ่งเน้นความสนใจไปที่การฝึกเพียงอย่างเดียว จนตัดการรับรู้จากสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบไปจนหมดเลย
แม้ว่าร่างกายของเขาจะอ่อนล้าแต่จิตใจของเขายังคงแจ่มใส ชายหนุ่มสัมผัสพลังภายในร่างได้อย่างชัดเจนว่าเขาใกล้ที่จะบรรลุการใช้กฎแห่งความเร็วของสกายวิงได้แล้ว
“อีกนิดเดียว! นายใกล้จะทำลายกำแพงลงไปได้แล้ว” โอโร่ส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น คล้ายกับว่าเขาคือคนที่กำลังจะประสบความสำเร็จจากการฝึกฝนในครั้งนี้
แน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมไม่ได้ยินเสียงโอโร่ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเขากำลังฝึกฝนอยู่นั้นเขาก็ลืมไปแม้กระทั่งว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่
ร่างกายของชายหนุ่มยังคงเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว 120,000 เมตรต่อวินาทีอยู่เช่นเดิม ขณะที่อักขระกฎภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาใกล้ที่จะถักทอขึ้นมาอย่างสมบูรณ์เต็มที และมันก็ยังขาดรายละเอียดอยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ฟุบ!
เซี่ยเฟยยังคงวิ่งวนรอบสนามฝึกรอบแล้วรอบเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และถึงแม้ว่าการพยายามทำลายกำแพงอุปสรรคจะฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงมันก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ซึ่งนอกเหนือจากกฎแห่งความโกลาหลแล้วเขาก็ยังไม่เคยได้พบกับกฎอะไรที่ฝึกฝนได้อย่างยากลำบากเช่นนี้มาก่อน
เมื่อรุ่งเช้าใกล้เข้ามาเซี่ยเฟยก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายกับว่าเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงความสุขปริศนา เขาจึงกัดฟันและตัดสินใจออกแรงวิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
ฟุบ!
จู่ ๆ ความเร็วของชายหนุ่มก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างกะทันหัน โดยตอนแรกความเร็วของเขาลดลงไปเหลือเพียงแค่ 60,000 เมตรต่อวินาที แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานความเร็วของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน
80,000!
100,000!
120,000!
140,000!
160,000!
180,000!
“เซี่ยเฟยเรียนรู้กฎแห่งความเร็วขั้นแรกได้แล้ว!!” เซี่ยจงไห่ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เซี่ยอู๋เย่พยักหน้าช้า ๆ ด้วยความพึงพอใจ
200,000!
220,000!
240,000!
เมื่อเซี่ยเฟยเร่งความเร็วไปจนถึง 246,000 เมตรต่อวินาที ความเร็วอันบ้าคลั่งของเขาก็สิ้นสุดลง ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ลดลงมาวิ่งในอัตราคงที่ที่ประมาณ 242,000 เมตรต่อวินาที
“แค่ขั้นแรกก็มีความเร็ว 240,000 เมตรต่อวินาทีแล้วเหรอ? นี่ถ้าหากว่าเขายังคงพัฒนาต่อไป อนาคตของเขาย่อมไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน” เซี่ยจงไห่จ้องมองไปยังตัวเลขบนหน้าจอพร้อมกับถอนหายใจ
ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็เป็นคนเพียงแค่ไม่กี่คนที่สามารถฝึกฝนพลังพิเศษความเร็วไปได้จนถึงจุดสูงสุด นอกจากนี้เขายังสามารถฝึกฝนกฎแห่งความเร็วขั้นแรกได้ในเวลาเพียงแค่ 14 วันเท่านั้น ซึ่งมันเป็นการพัฒนาการที่โดดเด่นแม้กระทั่งภายในกลุ่มนักรบชั้นยอดของตระกูลสกายวิงก็ตาม
ชายหนุ่มค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะได้เห็นว่าว่าเซี่ยจงไห่ได้มายืนดูเขาอยู่ภายในสนามฝึก
“ยินดีด้วยที่นายสามารถฝึกกฎแห่งความเร็วได้สำเร็จ! ความเร็วในการฝึกของนายนี่มันเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ชัด ๆ” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับกอดไหล่เซี่ยเฟยอย่างตื่นเต้น
“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอัศจรรย์อะไรขนาดนั้นหรอกครับ ตอนแรกผมแค่ยังไม่คุ้นกับด่านฝึกฝนในลักษณะนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมก็ค่อย ๆ เข้าใจวิธีการฝึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมต้องบอกเลยว่าการฝึกในตอนออกวิ่งอย่างสุดกำลังมันช่วยเพิ่มสมาธิให้กับพวกเรามากกว่า 2 เท่า”
“ถ้าจะมีสักเรื่องที่เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ผมก็ขอยกเรื่องนี้ให้กับคนที่คิดวิธีการฝึกฝนของตระกูลขึ้นมาดีกว่า” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาเกาหัวอย่างเขินอาย
“เอาล่ะตอนนี้เราได้รับคำยืนยันแล้วว่านายน้อยเฟยมีความเชี่ยวชาญในการฝึกฝนโดยไม่ได้รับอันตรายแล้ว หลังจากนี้พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องจับตาดูในระหว่างที่เขาฝึกอีกต่อไป” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ
“นั่นสินะ เผลอ ๆ ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญการฝึกของตระกูลมากกว่าฉันซะอีก เราคงไม่จำเป็นจะต้องจับตาดูเขาแล้วล่ะ” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าด้วยเช่นกัน
“เหตุผลที่ตระกูลของเราลงทุนสร้างสนามขนาดใหญ่แบบนี้ขึ้นมา นั่นก็เพราะทางตระกูลต้องการให้สมาชิกภายในตระกูลมีสถานที่เอาไว้สำหรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดการฝึกฝนด้วยวิธีของเราก็แตกต่างจากวิธีของคนอื่นมาก ถ้าหากว่านายไปฝึกที่อื่นอย่างไม่ระมัดระวัง บางทีมันก็อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงในระหว่างการฝึกฝนได้”
“บรรพบุรุษของเราจึงคอยเน้นย้ำว่าให้ทุกคนเลือกสถานที่ฝึกฝนอันเงียบสงบ เมื่อไหร่ก็ตามที่นายจำเป็นจะต้องออกไปฝึกฝนด้านนอกตระกูลก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ฝึกเป็นอันดับแรก”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับคำแนะนำจากชายชราอย่างเชื่อฟัง เพราะแม้กระทั่งการฝึกภายในสนามฝึกอันเงียบสงบ เขาก็ยังจำเป็นจะต้องใช้สมาธิมากกว่าการฝึกฝนแบบปกติถึง 2 เท่า
ดังนั้นถ้าหากว่าเขาต้องออกไปฝึกฝนยังพื้นที่ด้านนอก บางทีเขาก็อาจจะต้องใช้สมาธิในระหว่างการฝึกฝนมากถึง 3 เท่า เพราะสภาพแวดล้อมในพื้นที่ภายนอกย่อมมีอุปสรรคมากกว่าสนามฝึกที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสมาชิกของตระกูล
“อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก คือในระหว่างการฝึกอย่าออกวิ่งด้วยความเร็วเต็มกำลังเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ความเร็วของนายเกินกว่า 300,000 เมตรต่อวินาที ในเวลานั้นนายจะสัมผัสได้ถึงสภาวะไร้ตัวตน และนายก็จำเป็นจะต้องปรับตัวเข้ากับสภาวะไร้ตัวตนอีกนานพอสมควร…”
หลังจากนั้นทั้งเซี่ยจงไห่และเซี่ยอู๋เย่ก็ยังคงคอยแนะนำประเด็นสำคัญในเรื่องต่าง ๆ ให้เซี่ยเฟยฟังอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ชายหนุ่มได้สำเร็จกฎแห่งความเร็วขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันก็หมายความว่าหลังจากนี้เซี่ยเฟยจะต้องคอยฝึกกฎแห่งความเร็วด้วยตัวเอง ทั้งคู่จึงจำเป็นจะต้องให้คำแนะนำในเรื่องทุกอย่างเอาไว้เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เซี่ยเฟยรับฟังคำแนะนำอย่างตั้งใจ และเมื่อเขามีประเด็นไหนที่ไม่เข้าใจเซี่ยอู๋เย่กับเซี่ยจงไห่ก็จะคอยอธิบายเรื่องนั้น ๆ อยู่ซ้ำ ๆ
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นหลางซุนเย่ก็เดินทางมาหาเซี่ยเฟยตั้งตั้งแต่เช้า และทันทีที่อีกฝ่ายได้เห็นเซี่ยจงไห่กับเซี่ยอู๋เย่ ชายหนุ่มร่างอ้วนก็รีบทักทายผู้อาวุโสทั้งสองคนด้วยความเคารพ
“สวัสดีครับผู้อาวุโสเซี่ยอู๋เย่ ผู้อาวุโสเซี่ยจงไห่” หลางซุนเย่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับโค้งคำนับลงไป 90 องศา
เซี่ยเฟยแอบคิดว่าปฏิกิริยาของหลางซุนเย่ค่อนข้างที่จะตลกอยู่เล็กน้อย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สหายของเขาคนนี้ได้พบกับผู้อาวุโสในตระกูลสกายวิง หลางซุนเย่ก็มักจะแสดงความหวาดกลัวออกมาราวกับว่าเขาเป็นหนูที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าแมว
“ว่าไง? มีธุระอะไรถึงมาหาเซี่ยเฟยตั้งแต่เช้า” เซี่ยจงไห่กล่าวถาม
“วันนี้เป็นวันแลกเปลี่ยนสินค้าของเผ่าซุนนี ผมกลัวว่าเซี่ยเฟยจะหลงทาง ผมเลยกะจะพาเขาไปส่งแล้วค่อยกลับไปทำงานที่สมาคมทีหลัง” หลางซุนเย่กล่าวตอบอย่างฉะฉาน
—
ต่อมาเซี่ยเฟยก็มุ่งหน้าตรงไปยังกลุ่มดาวห่านป่า ขณะที่เซี่ยจงไห่เดินทางไปทำงานที่สมาคมผู้คุ้มกฎ เหลือเซี่ยอู๋เย่เพียงคนเดียวที่ยังคอยอยู่เฝ้าสวนสายลม
อย่างไรก็ตามในวันนี้เซี่ยอู๋เย่ไม่ได้ออกไปทำความสะอาดสวนตามปกติ แต่เขาได้เดินเข้ามาอยู่ภายในห้องเพื่อทำการติดต่อไปหาบรรพบุรุษของตระกูลอย่างเงียบ ๆ
โดยปกติผู้ที่มีสิทธิ์ติดต่อไปยังบรรพบุรุษของตระกูลจะมีเพียงแต่ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันเท่านั้น มันจึงไม่มีใครรู้เลยว่าแม้แต่พ่อบ้านชราคนนี้ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะติดต่อไปหาบรรพบุรุษของสกายวิงโดยตรงได้อีกด้วย
“ท่านบรรพบุรุษ ผมขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย” เซี่ยอู๋เย่กล่าวด้วยความเคารพ
“มันมีข่าวดีอะไรงั้นเหรอ?” บรรพบุรุษกล่าวถามด้วยความสงสัย
“เซี่ยเฟยที่เป็นสมาชิกคนใหม่ของตระกูลสามารถฝึกฝนกฎแห่งความเร็วของพวกเราได้ในเวลาเพียงแค่ 14 วัน และความเร็วของเขาในตอนนี้ก็สูงถึง 240,000 เมตรต่อวินาทีแล้ว ความสำเร็จของเขาถือว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์ ผมเลยติดต่อมาเพื่อแสดงความยินดีกับคุณ” เซี่ยอู๋เย่กล่าว
“ไหนช่วยเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยสิ” บรรพบุรุษกล่าวหลังจากตบขาของตัวเองอย่างมีความสุข
“ได้ครับ”
หลังจากนั้นเซี่ยอู๋เย่ก็เริ่มรายงานการฝึกของเซี่ยเฟยโดยละเอียด ตั้งแต่เรื่องที่ชายหนุ่มคนนี้สามารถควบคุมพลังงานได้อย่างโดดเด่น ทำให้เซี่ยเฟยสามารถเติมเต็มพลังงานเข้าสู่ร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นจะต้องผ่อนความเร็วลงเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ยิ่งบรรพบุรุษได้ฟังเรื่องของเซี่ยเฟยมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเผยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมามากขึ้นเท่านั้น
“เขาช่างเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์โดดเด่นจริง ๆ บางทีเขาอาจจะกลายเป็นอีวิลวิงคนต่อไปของตระกูลก็ได้ แต่การที่เขาสามารถฝึกฝนกฎแห่งความเร็วได้ภายใน 14 วัน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาคือคนที่ฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วที่สุดในตระกูลหรอกนะ เพราะในอดีตมันก็เคยมีคนที่ฝึกฝนกฎแห่งความเร็วได้เร็วกว่า 14 วันด้วยเหมือนกัน” บรรพบุรุษกล่าว
“ผมคงรู้น้อยเกินไปจริง ๆ แต่เรื่องนั้นมันคงจะนานมากแล้วใช่ไหมครับ?” เซี่ยอู๋เย่กล่าวอย่างตกตะลึง
“ใช่ มันนานมากแล้ว และคนที่ฝึกได้เร็วที่สุดก็คือฉันเองที่ฝึกกฎแห่งความเร็วได้ในเวลาเพียงแค่ 13 วัน” บรรพบุรุษกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
อย่างไรก็ตามคำตอบของบรรพบุรุษก็ยิ่งทำให้พ่อบ้านชรารู้สึกตกตะลึงมากขึ้นไปอีก เพราะคำตอบของบรรพบุรุษเป็นการยอมรับว่าเซี่ยเฟยฝึกกฎแห่งความเร็วได้ช้ากว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น
***************


แสดงความคิดเห็น