บทที่ 48 พิสูจน์เรื่องอย่างว่า
ลมร้อนจากริมฝีปากร้ายยังคงเลื่อนรดลงมาตามแผ่นหลังเนียน มือหนาผละจากการกอดเอว สอดเข้ามาทางด้านหลังขยำเข้ากับสองเต้าอวบ นิ้วเรียวค่อยๆ แทรกเข้ามาที่แผ่นซิลิโคนที่ใช้ปกปิดปลายยอดเม็ดมุก จนกระทั่งแผ่นซิลิโคนถูกเขี่ยออกให้พ้นทาง
“อ๊ะ...อืออออ..” เสียงคราวหวานลอยออกจากปากอวบอิ่ม
ริมฝีปากร้อนยังไม่หยุดรุกเร้าแผ่นหลังสาว มันเข้าระรัวจู่โจมขบกัดเบาๆ พอกระตุ้นความกระสัน สองมือที่กำลังขยำสองเต้าอวบออกแรงบีบเคล้นช่วยเร่งกระตุ้นอีกแรง
ความรุนแรงจากการบีบสองเต้าจนเนื้อปริ ทำร่างบางกระเพื่อมไปตามแรงมือ การขยับขึ้นลงส่งผลให้กระโปรงหนังร่นขึ้นไปกองที่เอว จนเหลือแค่จีสตริงลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่กันระหว่างเนื้ออวบอูมกับจุดกึ่งกลางที่ตอนนี้ท่อนเอ็นลำใหญ่กำลังแข็งปั๋ง
เมื่อการเสียดสีระหว่างจุดกึ่งกลางของคนทั้งสองทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ร่างกายก็ทำการส่งสัญญาณตอบสนองกลับมา
“อืออออออ” เสียงครางเปล่งออกมาบ่งบอกถึงความเสียว ส่วนน้ำหวานที่ไหลซึมออกมาจากร่องสาวก็บ่งบอกถึงความต้องการของร่างกายเช่นกัน
ความเปียกที่ชื้นเจิ่งนองทะลุออกมาจากจีสตริงลายลูกไม้สีดำ จนคนใต้ร่างรู้สึกได้ เขายกยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูว่า
“ให้เฮียช่วยอะไรไหมคะ” เสียงทุ้มนุ่มที่ยิ่งมีเสน่ห์เมื่ออยู่ในเวลาแบบนี้ ถูกปล่อยผ่านออกมา จนทำคนฟังจิตใจยิ่งกระเจิดกระเจิง
ฉันหลับตาส่ายหน้าพยายามข่มเสียงเรียกร้องจากหัวใจปฏิเสธความปรารถนาดีที่เขาหยิบยื่นมาให้ พร้อมกับกัดฟันข่มความเสียวซ่าน และความอยากของร่างกายเอาไว้
“ถ้างั้นก็ทำเหมือนตอนที่เอลิซอยู่ในห้องน้ำคนเดียวสิคะ” รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคมเข้ม
ฉันเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที นี่เขารู้ได้ยังไงว่าฉันทำอะไรตอนที่อยู่ในห้องน้ำคนเดียวเมื่อเช้านี้ หรือว่า...เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันรีบดึงสติที่ล่องลอยกลับมาทันที
ฉันหยัดตัวขึ้นมาจากตักเขาอย่างรวดเร็ว จัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่ เสร็จแล้วก็วาดมือลงไปที่ต้นแขนเขาอย่างแรงด้วยความโมโห
เพี๊ยะ!!
“เฮียรู้ได้ยังไงว่าเอลิซทำอะไรในห้องน้ำ...บอกมานะ” ฉันถามเขาเสียงเครียด ในใจเต้นตึกตัก ใจหนึ่งอยากรู้ความนัยที่เขาเอ่ยออกมา ส่วนอีกใจหนึ่งก็แอบกลัวคำตอบที่จะได้ยิน
เขาหน้าเสียทันทีที่เห็นอากัปกิริยาที่ไม่พอใจของฉัน
ฉันยืนกอดอกเพื่อปกปิดยอดปลายปทุมที่ชูชันดันออกมาจนเสื้อนูน และเพื่อฟังคำอธิบายจากเขา
“เอลิซฟังเฮียก่อน มานี่มา” เขาพยายามทำใจเย็น เอ่ยเรียกฉันให้เข้าไปนั่งตักเขา
“ไม่ค่ะ ถ้าเอลิซไม่ได้ฟังคำอธิบายดีๆ วันนี้เราจบกัน” ฉันขู่เขาออกไป
“ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้สิคะ เฮียบอกแล้ว จะบอกหมดทุกอย่างเลย” เขาออกอาการลุกลี้ลุกลนทันทีเมื่อฉันเอ่ยขอจบความสัมพันธ์ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขาก็ยื่นออกมาจับที่เอวของฉันเพื่อให้ไปนั่งบนตักของเขาให้ได้
ฉันทำหน้านิ่ง จนเขาเดาความรู้สึกของฉันไม่ออก สีหน้าเขาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเริ่มอธิบายถึงสาเหตุที่เขาทำลงไป
“ที่เฮียทำลงไปเพราะเฮียอยากพิสูจน์” เขาเริ่มอธิบาย
“พิสูจน์อะไรคะ” ฉันแว๊ดใส่เขาทันที ด้วยความไม่พอใจ
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ก็นี่ไงเฮียกำลังจะอธิบาย” เขาเอ่ยใจเย็นเพื่อดับความใจร้อนของฉันให้ลดลง
“คือตอนที่หมอมาตัดไหมที่แผลให้เฮีย เฮียได้ลองปรึกษาหมอเกี่ยวกับอาการที่เอลิซเป็น ตอนแรกหมออยากให้เฮียพาเอลิซไปหาเพื่อให้เขาประเมินอาการก่อน แต่เฮียกลัวว่าเอลิซจะอายหรือไม่สบายใจเพิ่มมากขึ้นถ้าต้องไปนั่งเล่าเรื่องพวกนี้ให้คนที่ไม่รู้จักฟัง “
ฉันยังคงนิ่งฟังคำอธิบายจากเขาต่อ
“เฮียเลยขอคำแนะนำเพิ่มว่าถ้าหากเฮียอยากจะดูแล อยากจะรักษาอาการที่เอลิซเป็นก่อนเบื้องต้น เฮียต้องทำยังไง หมอก็ได้ให้คำแนะนำมา โดยให้เฮียรักษาสภาพจิตใจของเอลิซให้ดีขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้ เฮียก็กำลังทำอยู่”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่เฮียมารู้ว่าเอลิซทำอะไรในห้องน้ำค่ะ” ความโมโหที่มีเริ่มเบาบางเพราะรับรู้ได้ว่าเขาเป็นห่วงฉันจริงๆ แต่ฉันก็ยังอยากได้คำอธิบายจากเรื่องนี้อยู่ดี
“จริงอยู่ว่าสิ่งที่หมอแนะนำมามันก็ดี แต่มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีอีกส่วนหนึ่งก็คือร่างกายของเอลิซที่หมอบอกว่าต้องรอให้เอลิซพร้อมเอง พอมาถึงตรงนี้เฮียก็มาสังเกตว่าเอาจริงๆ แล้วที่ผ่านมาเราสองคนก็ถูกเนื้อต้องตัวมาโดยตลอดเลยใช่ไหม” เขาพูดด้วยท่าทีที่จริงจังยิ่งขึ้น
“อย่ามาใช้คำว่าเราสองนะคะ มีแต่เฮียนั่นแหละ ที่มาฉวยโอกาสกับเอลิซตลอด” ฉันเอ่ยท้วง จะมาให้ฉันยอมรับเรื่องแบบนี้ฉันไม่ยอมหรอกนะ
“อ่ะจ๊ะ เป็นเฮียคนเดียวนั่นแหละ แล้วทีนี้เฮียก็มาจับสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เหมือนเราจะเกินเลยกัน ร่างกายเอลิซก็ไม่ได้ต่อต้านเฮียเลยนะ มันออกจะ...เอ่อ...ตอบสนองด้วยซ้ำ” เขาพูดหน้าตาเฉย จนกลายเป็นฉันเองที่หน้าร้อนผ่าว
“เฮียยย...” ตุบ!ตุบ! ฉันทุบเข้าไปที่แขนของเขาหลายที เพราะสิ่งที่เขาพูดมันทำให้ฉันอับอาย
เขาจับที่ข้อมือของฉันที่กำลังออกแรงทุบเขา แล้วถือโอกาสดึงจนร่างฉันเข้าไปนั่งบนตักแกร่งเขาอีกครั้ง
เมื่อร่างนุ่มนิ่มเข้าสู่อ้อมแขนเขาอีกครั้ง เขาก็เริ่มอธิบายส่วนที่เหลืออย่างใจเย็น
“เนี้ย พอทีนี้เฮียเห็นร่างกายเอลิซไม่ได้ต่อต้านเรื่องนั้น เฮียก็เลยอยากพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วร่างกายเอลิซอาจจะไม่ได้ต่อต้านเรื่องอย่างว่าก็ได้ เพราะเฮียเชื่อว่าถ้าเราปลดล็อกเรื่องนี้ได้เรื่องบาดแผลในใจของเอลิซ เฮียคิดว่าเฮียรักษาเอลิซได้แน่นอน” เขาอธิบายทุกอย่างภายในใจจนหมดสิ้น ก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มนวลอีกครั้ง
ฉันนั่งคิดตามคำบอกเล่าของเขา และรับรู้ได้ว่าทุกถ้อยคำคือความจริง ทำให้ความโมโหที่มีค่อยๆ คลายหายไป แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจของฉันก็คือเขารู้ได้ยังไงว่าฉันทำอะไร นี่ฉันยังไม่ได้คำตอบเลยนะ
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 113
แสดงความคิดเห็น