บทที่ 14 ผมจะนอนด้วย'ทุกคืน'
ณ เพนท์เฮ้าส์
ติ๊ด ~~~~ แกร๊ก
เพราะสินค้ามีปัญหานิดหน่อยเลยทำให้ผมต้องกลับดึก ทั้งที่ใจผมมันร่ำร้องที่จะกลับทุกวินาที ขณะที่เดินเข้ามาผมสงสัยว่า ทำไมบรรยากาศถึงได้เงียบเชียบอย่างนี้ เอ๊ะ หรือเธอจะหนีไปแล้ว พอคิดได้แบบนั้นแล้วใจผมก็เริ่มร้อนรน และก่อนที่ผมจะได้แหกปากตะโกนเรียกลูกน้องหน้าห้องมาคิดบัญชีที่ปล่อยให้เธอหนีไป ผมก็ฉุกคิดได้ว่า เธอไม่ได้หนีไป ไม่ใช่แน่นอน เพราะลูกน้องที่อยู่หน้าห้องก็ไม่ได้รายงานอะไรเลย นี่ผมเป็นหนักขนาดนี้เลยหรือ ผมได้แต่หัวเราะให้กับตัวเองกับความบ้าคลั่งที่มีต่อเธอ
ผมเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณห้องโถง ไฟที่ไม่ได้เปิดทำให้ไม่เห็นว่ามีร่างบางนุ่มนิ่มนอนตะแคงขดตัวหายใจสม่ำเสมออยู่บนโซฟา เธอยังอยู่ผมลอบดีใจ เธอไม่ได้หนีผมไปไหน ใบหน้าคมระบายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
แสงจันทร์ที่ส่องผ่านกระจกเข้ามากระทบใบหน้านวลเนียนใสไร้สิ่งแต่งเติม มันยิ่งทำให้เธอน่าหลงใหลเข้าไปอีก เธอสวยเหลือเกิน.....
เธอยังคงไม่รู้สึกตัว ผมนั่งมองเธอสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ช้อนร่างบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ตัวเธอนุ่มนิ่ม หอมกรุ่น แค่ได้ใกล้ได้สัมผัส ผมก็แทบไม่เป็นตัวของตัวเอง อยากจะจับเธอกินทั้งวันทั้งคืน ศีรษะทุยเล็กน่ารักเอนซบมาที่อกของผม กลิ่นกายของเธอมันทำให้เจ้าเอ็นยักษ์ของผมเริ่มขยับ ผมต้องหาทางกินเธอให้ได้
ผมอุ้มเธอขึ้นไปนอนที่ห้องของเรา ยังดีที่คืนนี้แสงจากดวงจันทร์สว่างพอที่จะทำให้ผมมองเห็นทางเดิน ไม่ต้องเปิดไฟให้รบกวนการนอนของเธอ
ผมค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงคิงไซซ์ เธอขยับตัวโดยไม่ได้ระมัดระวังขณะที่หลับจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เผยให้เห็นสองเต้าใต้บราเซียสีดำ อะร้าอร่าม อวดโชว์ผมเต็มสองตา ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ ใจนี่อยากจะก้มไปฟัดให้หนำใจ แต่ผมไม่อยากลักหลับเธอ ผมจัดแจงห่มผ้าให้เธอทั้งที่ใจก็นึกเสียดายภาพที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะไปอาบน้ำชำระร่างกาย พร้อมกับจัดการเจ้าเอ็นยักษ์ของผมให้มันสงบลง
เมื่อออกมาจากห้องน้ำผมจัดแจงแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หย่อนกายล้มตัวลงนอนที่ข้างๆ เธอ ก่อนจะกระชับร่างบางที่นอนหายใจสม่ำเสมอเข้ามาประชิดตัวเพื่อกอดก่าย ทำไมเธอถึงหลับลึกอย่างนี้นะ ขนาดผมแนบชิดขนาดนี้แล้วเธอยังไม่รู้สึกตัวเลย ถ้าเป็นแบบนี้จะปล่อยให้ไปนอนที่อื่นโดยไม่มีผมไม่ได้เด็ดขาด ผมได้แต่นึกตำหนิอย่างเอ็นดู จากนั้นก็สูดดมกลิ่นหอมจากตัวสาวให้หายคิดถึง เมื่อมีเธออยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ ยังไงคืนนี้ผมนอนหลับฝันดีแน่นอน ผมจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมน แล้วบอกราตรีสวัสดิ์ด้วยเสียงที่แผ่วเบา ด้วยกลัวว่าเธอจะตื่นขึ้นมาโวยวายเสียก่อน แล้วกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมรอยยิ้ม....
---เอลิซ Talk---
ฉันตื่นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกว่านอนหลับสนิทขนาดนี้ ตอนนี้กี่โมงแล้วนะ..ฮ้าววว... เห้ย...ฉันต้องไปทำงาน เออ...ฉันไม่ต้องไปทำงานแล้วนี่น่า เพราะว่ามีมหาเศรษฐีอาสาเลี้ยงดู ดีจริงงงง ชีวิตยัยเอลิซ (กลอกตามองบน)
แต่เอ๊ะ..ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆ พาดมาที่เอวเนี้ย ไหนจะลมร้อนที่เป่ารดต้นคออยู่ตอนนี้ ฉันค่อยๆ หันกลับไปดู
“กรี๊ดดดดดด” ฉันร้องด้วยความตกใจ แล้วขยับตัว ก่อนที่ฉันจะได้ดิ้นหนีออกจากวงแขนแกร่ง ร่างหนาก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมบนร่างของฉัน
“เป็นอะไร ตกใจอะไรขนาดนั้น” เขาเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบามีเสน่ห์ พร้อมใช้สายตาจับจ้องมาที่ใบหน้าหวาน
“ก็เอลิซตกใจนี่ค่ะ ไม่คุ้นกับการมีคนนอนอยู่ข้างๆ แบบนี้” ฉันบอกเขาขณะสายตาก้มต่ำเพื่อหลีกหนีสายตาคมที่อาจจะทำให้ฉันหวั่นไหวได้
“คุณต้องทำตัวให้คุ้นไว้นะเพราะว่า...ผม จะ นอน ด้วย ทุก คืน” เขาเน้นทุกคำโดยเฉพาะประโยคหลัง
ฉันอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน นี่ฉันคงหนีเวรกรรมที่สร้างเองมากับมือไม่พ้น เป็นไงเป็นกัน ลองอยู่สักอาทิตย์คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะดูๆ แล้วเขาก็มีงานที่ต้องทำ จะเจอกันอีกทีก็ตอนค่ำ ถึงเวลานั้นแล้วชิ่งหลับเหมือนเมื่อคืนก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เห้ออออ แล้วแต่เลยค่ะ แต่ก่อนอื่นรบกวนลุกออกไปก่อนได้ไหมคะ เอลิซอยากไปอาบน้ำแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยไปอย่างหมดอาลัย
“ผมไปด้วย” เขาพูดขณะที่อยู่บนตัวฉัน
“ไปไหนคะ” ฉันถามกลับด้วยความสงสัย
“ก็ไปอาบน้ำไง” เขาส่งยิ้มยียวนกลับมา ^-^
“จะบ้าหรือไง เชิญคุณไปอาบก่อนได้เลยค่ะ” ฉันกระวีกระวาดตอบอย่างรวดเร็ว
เหมือนเสียงที่ฉันพูดออกไปจะไม่มีความหมาย เขาพลิกตัวลงจากเตียงไปยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้มลงมาช้อนตัวฉันในท่าเจ้าสาวแล้วเดินละลิ่วไปที่ห้องน้ำ
“ปล่อยเอลิซนะ ปล่อยนะตาบ้า” ฉันดิ้นภายใต้อ้อมแขนอันแข็งแกร่งของเขา แต่นี่มันมือคนหรือกาว ยิ่งดิ้นยิ่งแน่น
เขาวางฉันไว้ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ก่อนจะแทรกกายมาอยู่หว่างกลางขาของฉัน แล้วยื่นหน้ามาใกล้หน้าของฉันในระยะไม่ถึงคืบ
“คะ..คุณเซฟค่ะ ออกไปให้ห่างเอลิซหน่อยได้ไหมคะ คือว่าเอลิซยังไม่ได้แปรงฟันเลย” ฉันรีบบอกก่อนที่เขาจะเข้ามาใกล้มากกว่านี้
“แล้วไง ผมไม่เห็นจะได้กลิ่นเหม็นอะไรเลย ออกจะหอมซะด้วยซ้ำ” ...ฟอดดด... เขาไม่พูดเปล่า กลับก้มหน้าลงมาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
“เอ๊ะ....คุณเซฟ” ฉันตกตะลึงเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวที่โดนขโมยหอมแก้มตั้งแต่เช้า พร้อมลูบแก้มด้วยความตกใจ
“คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ ถึงฉันจะตกลงอยู่กับคุณ แต่เราคุยกันแล้วว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น” ฉันบอกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะไม่อยากให้มันเกินเลยไปกว่านี้อีกแล้ว
เขายังคงทำเป็นหูทวนลมไม่ฟังในสิ่งที่ฉันพูด โดยการใช้มือหนารวบแขนบางทั้งสองข้างไพล่ไปด้านหลังของฉัน แล้วใช้มืออีกข้างค่อยๆ ไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ฉันใส่ ก่อนจะก้มหน้ามาไซ้ซอกคอเนียนเพื่อสูดดมกลิ่นสาว เขาเลื่อนหน้าลงมายันหน้าอกอวบ เริ่มขบ เม้ม ดูดซ้ำไปที่รอยเดิมที่สีเริ่มจางลง และพยายามใช้ริมฝีปากคาบบราเซียลูกไม้สีดำให้เลิ่กขึ้นเพื่อจะได้ดูดกินยอดปทุมถันเม็ดมุกคู่งามได้ถนัด
เมื่อเขาเริ่มจู่โจมสัมผัสฉัน สิ่งที่เขาทำมันทำให้ฉันตกใจ ฉันทำตัวไม่ถูก ความรู้สึกปนเปหลากหลายประเดประดังเข้ามาในหัวสมองที่เริ่มขาวโพลน ฉันเริ่มมีความรู้สึกกลัว กลัวว่าถ้าปล่อยเลยตามเลยแล้วจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ กลัวใจตัวเองที่จะถลำลึกไปกับรสสัมผัสของเขาจนไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้ กลัวถ้าวันหนึ่งฉันรักเขาขึ้นมาแล้วเขาหักหลังฉันเหมือนไอ้เคน ฉันจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ฉันกลัวไปหมด ฉันไม่ได้เตรียมใจที่จะสานสัมพันธ์ต่อ
สมองของฉันเริ่มต่อต้านสิ่งที่เขากระทำต่อร่างกายของฉัน ส่งผลให้ร่างกายตอบสนองด้วยการร้องไห้ ~~
“ฮืออออ...ฮึก ฮึก” เขาหยุดชะงัก เพราะน้ำตาของฉันที่ไหลหยดลงไปโดนที่แก้มสากของเขา
เขาละใบหน้าจากอกอวบขึ้นมามองหน้าฉัน สีหน้าเขาระคนตกใจที่เห็นฉันร้องไห้ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
“โธ่โว๊ยยย...ทำไมว่ะ” เขาชกไปที่กระจกจนแตกละเอียด มือเขามีเลือดไหลออกมา หยดเต็มอ่างล้างหน้า มันยิ่งทำให้ฉันตกใจกลัว น้ำตาก็ยิ่งไหลออกมา เขากำหมัดเดินออกไป โดยที่เลือดไหลหยดเป็นทาง
“ฮือออออ” ฉันนั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้อยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าด้วยความตกใจ และทำอะไรไม่ถูก
สักพักป้าเสริมเดินเข้ามา เมื่อเห็นสภาพห้องน้ำ ป้าเสริมถึงกับร้องเสียงหลง
“ว๊ายยย เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณเอลิซ เจ็บตรงไหนไหมคะ ทำไมเลือดเต็มไปหมดแบบนี้ อย่าเพิ่งขยับนะคะเดี๋ยวป้าทำความสะอาดให้ก่อน อย่าเพิ่งลงมานะคะ เผื่อมีเศษกระจกหลงเหลืออยู่” ป้าเสริมกำชับไม่ให้ฉันลงมาจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ซึ่งฉันยังคงนั่งปิดหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น
“เสร็จแล้วค่ะ คุณเอลิซเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ เดี๋ยวป้าเอายามาใส่ให้” ป้าเสริมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะป้า..ฮึก..หนูรบกวนป้าออกไปก่อนนะคะ...ฮึก..ฮึก” ฉันส่ายหัวแล้วเอ่ยบอกโดยที่สองมือยังคงปิดหน้าซ่อนน้ำตาจากป้าเสริมอยู่
---เซฟ Talk---
ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้เห็นน้ำตาของเธอ ทั้งสับสนและตกใจ เธอก็ดูไม่ได้ขัดขืนอะไร แต่ทำไมเธอถึงต้องร้องไห้ ผมได้แต่คิดแล้วโกรธตัวเอง จนคลั่งต่อยกระจกไป ก่อนจะเดินออกมาทั้งที่เลือดเต็มมือ ลูกน้องมองหน้ากันแต่ไม่กล้าสบตาผมเมื่อเห็นเลือดที่มือ แผลตรงนั้นมันไม่รู้สึกเจ็บเลย มันเจ็บที่ใจมากกว่า ผมได้สั่งให้ลูกน้องไปบอกป้าเสริมให้ไปทำความสะอาดห้องน้ำ ก่อนจะใช้แค่ผ้าขนหนูกดเลือดที่มือไว้แค่นั้น แล้วมุ่งหน้าไปบริษัท เพื่อระบายความโกรธที่มีกับงาน ในหัวยังคงคิดวนๆ ซ้ำๆ ว่าทำไมเธอต้องร้องไห้ เพราะอะไร เธอกลัวผมหรอ เธอรังเกียจผมหรอ เธอไม่ชอบที่ผมสัมผัสหรอ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งทำให้ผมโมโห...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 40
แสดงความคิดเห็น