บทที่ 12...2/3

เพราะคุณคือรักแรก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 12...2/3

มีนาออกมานั่งเล่นที่ระเบียงห้องหลังจากหวีผมและทาครีมแล้ว เขมินท์เข้าห้องน้ำไปสัก 5 นาทีก่อน เสียงน้ำตกกระทบพื้นเบาๆ แต่เพราะเธอมานั่งเงียบๆ อยู่คนเดียวทำให้ยังไงก็ได้ยิน เป็นความรู้สึกที่ทำให้อมยิ้มกับตัวเอง ตอนเรียนมหา’ลัย เธอเคยไปเที่ยวและทำกิจกรรมอยู่บ่อยๆ ฉะนั้นการมีผู้ชายในกลุ่มจึงเป็นเรื่องธรรมดา นอนห้องเดียวกันก็เป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ เพราะมันก็แค่ต่างคนต่างนอน อีกทั้งยังนอนห่างกัน

แต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่ามันต่าง ทั้งที่อยู่คนละห้องกับเขมินท์ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและหวิวๆ ในอก แม้เธอจะบอกว่าให้เขาทำตัวตามสบาย แต่พอเห็นเขาออกมาจากห้องน้ำโดยที่ผมเปียกๆ เสื้อติดกระดุมไม่ครบทุกเม็ดเพราะเขาคงไม่ถนัดนัก นาทีนี้มีนาคิดว่าเธอควรจะเป็นแจกันที่ไม่มีตาไว้มองอะไรจริงๆ แล้วล่ะ

“ผ้าที่พันข้อมือไว้เปียกหรือเปล่าคะพี่เขม” แจกันขอพูดเพราะเห็นแล้วก็มองผ่านไม่ได้นี่นา

เขมินท์มองข้อมือตัวเองถึงได้รู้ว่าผ้าเปียกไปบางส่วน

“พี่ไม่ทันระวังน่ะ”

มีนานับตัวเลขอยู่ใน แต่ยังไม่ทันถึง 5 ด้วยซ้ำ เธอก็เดินไปจับข้อมือของเขมินท์ไว้

“ขออนุญาตนะคะ”

เขมินท์ยอมเดินตามร่างเล็กที่นำทางเขาไปนั่งที่เก้าอี้ตรงระเบียงด้านนอก ลมกำลังเย็นสบาย แต่มีนาพาเขามานั่งตรงนี้ทำไม หากเธอจะเดินเข้าห้องไป ทว่าเพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ออกมาจากห้องพร้อมถุงยาและผ้าพันข้อมือ

“มีนจะทายา แล้วก็พันผ้าให้พี่เขมใหม่นะคะ”

เขมินท์ยื่นข้อมือที่ยังเจ็บอยู่ให้มีนาทำอย่างที่เธอขอ ทั้งที่เขาต่างหากที่ควรพูดแบบนั้น เธอจะมองข้ามก็ได้ แต่เธอกลับค่อยๆ คลายผ้าพันข้อมือที่เปียกน้ำออก แล้วทายาให้เขาใหม่

มีนาลอบถอนใจที่ไม่ถูกเขมินท์ถามว่าเธอมีของพวกนี้ได้ยังไง เธอจะบอกไปได้ยังไงเล่าว่าเตรียมทั้งยาทากับผ้าพันข้อมือเผื่อไว้ว่าเขาจะมาค้าง จากที่เธอสังเกตเขาไม่ได้เอายาทาและผ้าพันข้อมือสำรองมาด้วย อาจลืมหรือคิดว่าอีกไม่กี่วันก็หาย ข้อมือของเขาไม่บวมแล้ว แต่ยังเห็นรอยช้ำรอบข้อมือ เธอทายาให้อย่างเบามือพลางเงยหน้ามองว่าแรงไปหรือเปล่า ทว่ากลับต้องก้มหน้ามองหลังมือของเขาแทน เธอไม่น่าลืมว่าเขมินท์ต้องมองอยู่แล้วว่าเธอทำอะไรกับข้อมือของเขาบ้าง

“เสร็จแล้วค่ะพี่เขม”

“ขอบใจนะ” เขมินท์ยิ้มให้เป็นรางวัลสำหรับคนใจดีพลางหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดไหล่มาเช็ดผม แต่ไม่ถนัดนัก “ถ้าไม่รบกวนมีนเกินไป มีนช่วยเช็ดผมให้พี่ได้ไหม”

มีนารับผ้าขนหนูมาไม่ทันคิดอะไร จนกระทั่งมือของเธอสัมผัสกับเส้นผมนุ่มของเขมินท์ เธอกับเขาสนิทกันมากพอที่จะทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ความรู้สึกเวลาที่เธอเช็ดผมให้เขาไม่เหมือนกับเวลาที่เธอเช็ดผมให้ภาคิน เธอรู้สึกสบายใจไม่ประหม่า อีกทั้งยิ้มชอบใจเมื่อได้กลิ่นหอมๆ จากแชมพูที่ผมของเขา

“สบายดีเหมือนกันนะ เวลาที่มีใครสักคนทำแบบนี้ให้” เขมินท์เอ่ย

มีนายิ้มมีความสุขอยู่ในใจ ถ้าบอกไปว่าเธอก็สบายใจที่ได้เช็ดผมให้เขาจะทำให้การเป็นแฟนหลอกๆ ยิ่งน่าลำบากใจสำหรับเขาหรือเปล่า อีกอย่างเธอกับเขาน่าจะจบการเป็นแฟนอีกไม่นานนี้กระมัง ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ไปถึงคนรอบตัวของเราสองคนแน่ๆ ซึ่งอย่าให้เป็นแบบนั้นจะดีกว่า

“ผมพี่เขมหมาดเกือบแห้งแล้วค่ะ” มีนาส่งผ้าเช็ดตัวคืนให้เขมินท์ “มีนไปทำงานต่อก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องคุยกับคุณการเสียด้วย”

เขมินท์พยักหน้าแล้วลุกขึ้นก่อนจะยืนรอให้มีนาเข้าไปในห้อง หลังจากนั้นเขาถึงเข้ามาในห้องของตัวเอง ทว่าเพียงครู่เดียวเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พอเขาเปิดประตู มีนาก็ส่งถาดเล็กๆ ที่มีน้ำอยู่เต็มแก้วกับคุกกี้ที่ใส่ถุงไว้หลายชิ้น ซึ่งเขาเดาว่าเมษาคงทำคุกี้ให้มีนาเอาไว้กินเวลาหิว

“เผื่อพี่เขมเอาไว้กินค่ะ” มีนาไม่ได้ตั้งใจจะมองเข้าไปในห้องของเขมินท์ แต่สายตามันดันมองจนห้ามไม่ทัน ห้องนอนของเขาดูอบอุ่นด้วยโทนสีขาวและครีม ดูเรียบร้อยกว่าห้องนอนของเธอลิบลับ

“รู้สึกว่ามีนทำให้พี่พูดคำนี้บ่อยจัง...ขอบใจนะ”

มีนาพยักหน้ายิ้มไม่ทันคาดหวังว่าจะได้รอยยิ้มจากเขมินท์ พอได้รับยิ้มจากใบหน้าที่มีผมปรกหน้าผากต่างจากทุกทีก็ทำให้หัวใจเต้นระรัว บ้าไปแล้วเธอจะมาหวั่นไหวซ้ำๆ เพราะรอยยิ้มหล่อๆ บาดใจจากเขาไม่ได้ หญิงสาวรีบหันหลังแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่ให้ตายเถอะ พอเธอจะปิดประตู สายตาของเขมินท์ยังคงมองอยู่อย่างนั้น เธอไม่มีทางเลือกนอกจากรีบปิดประตูแล้วมายืนใจสั่นจนต้องนั่งลง ไม่ดีแน่ ถ้าเขาใกล้กับเธอแบบนี้บ่อยๆ จากที่แอบชอบคงได้ตกหลุมรักเขาเข้าสักวัน การอกหักทั้งที่เขาไม่เคยรู้ตัว ซึ่งเธอคงไม่ใช่คนแรกที่รู้สึกแบบนั้น เขาคงถูกแอบชอบมามากมายจนไม่ต้องเสียเวลามาสนใจกระมัง 

 

ภาคินขยับตัวบิดแขนบิดตัวแก้เมื่อยเมื่องานที่คร่ำเคร่งทำมาหลายวันเสร็จเสียที สตอรี่บอร์ดโฆษณาของลูกค้าที่บริษัทของเขารับงานมาและบรีฟงานกันเมื่อ 3 วันก่อนสมบูรณ์แบบสำหรับการเสนองานให้ลูกค้าในบ่ายของวันพรุ่งนี้แล้ว การทำงานใช้ความคิดให้มากทำให้เขาไม่มีเวลามาคำนึงถึงเรื่องที่กัดกร่อนความสุขในแต่ละวันของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นพอวางมือจากงาน เรื่องของเบญญาก็ทำให้ภาคินเจ็บปวดซ้ำๆ ทว่าในความรู้สึกเหล่านั้นไม่มีวินาทีไหนเลยที่เขาอยากกลับไปหาผู้หญิงที่ไม่ซื่อสัตย์แบบนั้นอีก

ชายหนุ่มออกมาจากสำนักงานกำลังจะเดินทางกลับบ้าน เขาเปิดประตูรถแล้ววางกระเป๋าโน้ตบุ๊กไว้ที่เบาะหลัง ก่อนจะเปิดประตูฝั่งคนขับ

“คิน...” เบญญาเรียกภาคินอย่างไม่แน่ใจนัก ชายหนุ่มหันมามองแล้วหันหน้ากลับไปทันที “อย่าหันหลังให้เบญได้ไหม เบญหมดหนทางแล้วจริงๆ”

แม้จะตัดใจแล้ว แต่ความรู้สึกเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าของเบญญาเศร้าหมองก็ทำให้ภาคินถอนใจด้วยความโมโหตัวเอง ที่หันหน้ากลับไปมองเธออีกครั้ง

“เบญมีอะไร ผมให้เวลา 5 นาที ถ้าช่วยได้ผมจะช่วย”

เบญญาใจชื้นขึ้นทันทีที่เห็นอดีตคนรักยังพอที่จะมีเยื่อใย เธอไม่ได้หวังถึงขนาดกลับมาคืนดีกัน ภาคินไม่มีทางทำแบบนั้น เขาใจอ่อนก็จริง แต่หากบอกเลิกแล้วนั่นคือคำขาด ตอนนี้เธออยากแค่ให้เขาช่วยเหลือในเรื่องที่จะทำให้เธอเดือดร้อนในอนาคตก็เท่านั้น

“ก่อนอื่นเบญขอโทษคินจริงๆ นะสำหรับเรื่องราวของเราที่มันจบลงไปแบบนั้น เบญรู้ตัวแล้วว่าทำผิดไป แล้วเบญก็จะไม่ขอโอกาส เพียงแค่ถ้าเบญเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คินอย่าโกรธเบญได้ไหม”

“ผมไม่รับปาก แต่จะรับฟัง เบญมีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะ”

ภาคินไม่คิดว่าจะมีอะไรที่เบญญาทำให้เขาจมดิ่งได้มากเท่าที่นอกใจได้อีกแล้ว แต่ก็นั่นล่ะ ในเมื่อเธอกล้าบากหน้ามาขอให้ช่วย เขาจะไม่ดูดายสักครั้ง

          “เพราะความเสียใจทำให้เบญเมาแล้วทำบางอย่างที่ไม่ควรทำ เบญไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ” เบญญายื่นโทรศัพท์ให้ภาคินที่รับไปอย่างไม่เข้าใจนัก “ดูคลิปนี้แล้วคินจะเข้าใจ”

          ภาคินดูคลิปที่เบญญาไปอาละวาดใส่มีนาด้วยความมึนเมา คำพูดร้ายกาจที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบจากผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขายิ่งตาสว่าง เธอคิดว่าเขากับมีนาทำแบบนั้นไปได้อย่างไร ชายหนุ่มมองอดีตคนรักทั้งโกรธทั้งยับยั้งใจเมื่อรับปากไปแล้ว

ทว่าในความวุ่นวายยุ่งยากนั้น พี่ชายของเขาได้มาช่วยมีนาไว้ด้วยการทำในสิ่งที่เขาประหลาดใจ การบอกทุกคนในงานว่าเป็นแฟนกับมีนาไม่น่าจะใช่วิธีแรกที่เขมินท์คิด พี่ชายของเขามีวิธีมากมายและการมีคอนเนคชั่นในทุกวงการ การทำให้เบญญาหายไปจากงานหรือแม้กระทั่งการปิดข่าวไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ทำไมพี่ชายของเขาถึงเลือกวิธีนี้กันนะ

          “เบญคิดแบบนั้นกับมีนได้ยังไง” ภาคินข่มเสียงไม่ให้ดัง แต่มันช่วยไม่ได้เลยเมื่อเขาแทบตะคอกใส่เบญญาอยู่แล้ว มีนาไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้ ความรู้สึกระหว่างเขากับมีนาบริสุทธิ์ในความเป็นเพื่อนและพี่น้องเกินกว่าที่ใครจะมาคิดในแง่นั้นได้

          “เบญก็เพิ่งรู้ว่ามีนากับพี่ชายของคินเป็นแฟนกัน”

          ภาคินยังไม่แน่ใจในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีความรู้สึกนี้เกิดขึ้น มีนาจะไม่ปิดบังเขาแน่นอน ตอนนี้เขามั่นใจแค่ว่าพี่ชายต้องการช่วยมีนาถึงได้ทำแบบนั้น มันจำเป็นที่จะต้องแก้ความเข้าใจผิดของเบญญา

          “แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น”

เบญญาขอโทรศัพท์คืนมาเพื่อเปิดอีกคลิปให้ภาคินได้รู้ ต่อให้เธอปิดบัง หากภาคินถามเรื่องนี้กับมีนา มีนาก็ต้องบอกภาคินอยู่แล้ว เพียงแค่เธอแปลกใจว่าทำไมภาคินถึงไม่รู้ มีนาก็มีความลับกับเพื่อนสินะ

          ภาคินไม่คิดว่าจะโกรธได้อีก แต่สิ่งที่เบญญาทำกับมีนาทำให้เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าเคยรักผู้หญิงคนนี้มาก่อน เธอร้ายกาจขนาดนี้ แต่เขาไม่รู้มาก่อนได้ยังไง ถ้ามีนาไม่ไหวตัวทันและพี่เขมไม่มาช่วยอีกทาง ตอนนี้มีนาจะเป็นยังไง แล้วที่น่าน้อยใจก็คือทำไมทั้งเพื่อนสนิทและพี่ชายไม่มีใครบอกเขาสักคนว่าเบญญาทำอะไรลงไปบ้าง ทำไมทำให้เขารู้สึกผิดแบบนี้

          “คินช่วยขอร้องมีนาว่าอย่าเอาเรื่องเบญ แล้วก็ช่วยลบคลิปที่มีในวันนั้นทั้งหมดได้ไหม” เบญญากลัวว่าถ้าตัวเองติดคดีแล้วจะหมดอนาคตไม่มีงาน

          “ผมคงช่วยเบญไม่ได้หรอก คราวนี้เบญทำเกินไป ถ้าพี่เขมไม่มาช่วยมีน ป่านนี้มีนจะเป็นยังไง”

เท่าที่ภาคินยังพูดกับเบญญาได้ โดยที่ไม่เป็นคนที่ไปแจ้งตำรวจเสียเองก็ถือว่าเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองได้พอสมควรแล้ว แม้จะโมโหแค่ไหน เขาก็ไม่อยากทำร้ายร่างกายใคร พ่อสอนเขาหลังจากไปมีเรื่องชกต่อยว่าการพูดด้วยเหตุผลต้องมาก่อน แต่ถ้าไม่ได้ผลก็ใช้กฎหมาย แต่ไม่ควรใช้ความรุนแรง

เบญญาหน้าเสียไม่คิดว่าการที่เธอยอมรับสารภาพและยอมรับผิดแล้ว ภาคินยังไม่คิดจะช่วย ทั้งที่เธอกับเขาเคยรักกันมาก แต่มาถึงขนาดนี้แล้วเธอไม่ยอมกลับไปมือเปล่าเด็ดขาด ภาคินคือที่พึ่งสุดท้ายของเธอแล้ว

          “แต่เบญทำไปเพราะถูกใครบางคนหลอกนะ ถ้าไม่ถูกยั่วโมโห เบญคงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกคิน” เบญญาไม่บอกความจริงทั้งหมด แต่แรงจูงใจในวันนั้นก็เพราะมีคนยุแยง ถ้าเธอรู้ว่ามันเป็นใครคงไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่

          ภาคินถอนใจยาวด้วยความโกรธ แต่หากเบญญาไม่มาหาเขาในวันนี้ เขาคงไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมีนาต้องมีความลับกับเขาด้วย ถ้ากลัวเขาเสียใจ ทำแบบนี้ เขาไม่เสียใจกว่าหรือ

          “ผมจะบอกมีนให้ ผมช่วยได้เท่านี้”

          ภาคินเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งทันที พอเบญญาเข้ามาใกล้ก็ปิดประตูรถแล้วขับออกไป ตอนนี้เขาไม่แน่ใจแล้วว่ารู้สึกอะไรบ้าง เบญญาจะพอใจหรือไม่ เขาไม่สนใจ เพราะช่วยได้เท่านี้จริงๆ ชายหนุ่มขับรถไปกำลังตัดสินใจว่าควรไปหามีนาหรือกลับบ้าน เขารู้ว่าเพื่อนหวังดี แต่หากเจอกันตอนนี้อาจจะทะเลาะกับเปล่าๆ เมื่อคิดได้แล้วภาคินจึงตัดสินใจขับรถกลับบ้าน

 

เบญญาก็มีประโยชน์ตรงนี้แหละ คินจะได้รู้ความลับเสียที ตอนนี้ เพราะคุณคือรักแรก วางจำหน่ายใน MEB  แล้วนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ลงให้อ่าน 60% ของเนื้อหาทั้งหมดนะคะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.